ตอนที่ 515 ภรรยาชะตากำหนด
ขึ้นเหนือครั้งนี้ นอกจากครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่น ยังมีตระกูลหลิวทั้งครอบครัว ครอบครัวเจิ้งจื้อซิ่ง ฉีเหล่ยกับหันถงก็นั่งเรือตระกูลเซี่ยขึ้นเหนือมาด้วยกัน
ด้านหลังพวกเขายังมีขบวนเรือสำนักคุ้มภัยตระกูลเถียนตามมาด้วย ครั้งนี้ตระกูลเถียนตามหลังพวกเขามาเพื่ออารักขาพวกเขา
กล่าวได้ว่าหากมองไปก็จะเห็นขบวนยิ่งใหญ่
เพราะคนมาก ดังนั้นนั่งเรือจึงไม่เงียบเหงาสักเท่าไร
เดิมลู่เจียวเป็นห่วงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่นั่งเรือนานจะทนไม่ไหว ปรากฏเพราะมีท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวพวกหลิวจื่อเหยียน ฉีเหล่ยและหันถงเล่นกับพวกลูกทั้งสี่จนเบิกบานใจ ไม่ต้องให้ลู่เจียวเป็นห่วงสักแม้นิด
ลู่เจียวไม่เป็นห่วงพวกลูกทั้งสี่ ยามนิ่งสงบก็อดคิดมากไม่ได้ เห็นได้ชัดว่านางกำลังเหม่อลอย เพราะนางไม่รู้ว่าที่รอตนเองอยู่นั้นคือเรื่องราวอันใด ดังนั้นก็ทำให้นางรู้สึกกังวลว่าไม่อาจต้านทานเรื่องราวความเป็นไปของนิยายได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมมองออกว่านางเหม่อลอย จึงเรียกนางอย่างเป็นห่วง “เจียวเจียว เจ้าเป็นอะไรหรือ ไม่สบายหรือไม่”
ลู่เจียวมองสายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเซี่ยอวิ๋นจิ่น พลันคิดตก ของของนางย่อมหนีไม่พ้น ไม่ใช่ของนางก็ย่อมไม่อาจเรียกร้องได้มา การไปเมืองหลวงครั้งนี้ก็จะได้รู้ว่าเขาและนางจะได้อยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิตหรือไม่ เช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องดีมาก
พอลู่เจียวคิดตก ก็ยิ้มมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ในใจข้ารู้สึกตื่นเต้น ไปสู่เมืองหลวงที่ประทับฮ่องเต้ ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นบ้าง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มโอบกอดนางไว้ “เจ้าเป็นห่วงอันใด เจ้ามีคนคอยปกป้อง”
ลู่เจียวยิ้มออก ทั้งสองคนคุยกันไปแล้วก็ขึ้นเตียงพักผ่อน
ตลอดทางมา ทั้งสองคนอยู่ห้องเดียวกันในเรือ ความสัมพันธ์เพิ่มพูนไม่น้อย
หลายครั้งที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นแทบอดกลั้นตนเองไม่ไหว สุดท้ายได้แต่ไปอาบน้ำเย็นจึงสงบลงได้
ความจริงเดิมลู่เจียวก็ไม่ได้ต่อต้านอันใดแล้ว ยามเกิดความผูกพัน บางเรื่องก็ย่อมไปตามน้ำ แต่ทุกครั้ง เซี่ยอวิ๋นจิ่นล้วนอดกลั้นเอาไว้ได้ นางเองจะกล่าวอันใดได้
ทั้งสองคนโอบกอดกันเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว
ผืนแม่น้ำมืดสนิท เรือลำใหญ่จอดเรียงชิดกัน ทุกคนบนเรือต่างกำลังหลับสนิท
จนกระทั่งมีคนบุกขึ้นมาทำให้คนที่รับหน้าที่เฝ้ายามตกใจ ส่งเสียงตะโกนดังขึ้นทันที
“ไม่ได้การแล้ว มีโจรบุกปล้นแล้ว”
“มีโจรบุกปล้นแล้ว”
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นพากันตกใจพลิกตัวลุกขึ้นรวดเร็ว ตะโกนถามออกไปด้านนอกว่า “เกิดเรื่องอันใดขึ้น”
เสียงหร่วนจู๋ด้านนอกดังเข้ามาทันที “คุณชาย เหนียงจื่อ มีโจรบุกปล้น คุณชายกับเหนียงจื่ออย่าได้ตกใจ พวกเรายังไม่เป็นอันใดกันในตอนนี้”
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นมองหน้ากันแล้วก็ลุกขึ้นไปห้องเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ครอบครัวพวกเขาอยู่ในห้องชั้นสองบนเรือ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่อยู่ห้องติดกับพวกเขา ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นห่วงพวกเขาจะตกใจ ดังนั้นจึงรีบไปปลอบใจเจ้าหนูน้อยทั้งสี่
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กลับไม่ได้มีอาการแตกตื่นตกใจ หนึ่งปีมานี้ได้ติดตามท่านพ่อกับท่านแม่ผ่านเรื่องราวมามากมาย เจ้าหนูน้อยทั้งสี่นิ่งสุขุมขึ้นมาก
พวกเขากำลังสวมเสื้อผ้า พอเห็นท่านพ่อกับท่านแม่เข้ามา ทั้งสี่ก็รีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ มีคนเลวคิดทำร้ายพวกเราหรือ”
เอ้อร์เป่าชูกำปั้นกล่าวดุดันว่า “ข้าไม่กลัวพวกเขา”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เรียนวิชายุทธ์จากหลี่หนานเทียน มาถึงตอนนี้ล้วนไม่เลวแล้ว
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นปลอบใจพวกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่เป็นไร อย่าได้เป็นห่วง พวกเราจะไม่เป็นอันใด”
นางเพิ่งกล่าวจบ นอกห้องเรือก็ได้ยินเสียงสังหารดังมา พร้อมกับเปลวไฟเจิดจ้า พวกโจรถึงกับเริ่มยิงธนูเพลิงมาบนเรือ เรือเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว ถึงกับมีโจรขึ้นจากน้ำมารุมสังหาร
ยามนี้ชุลมุนกันไปหมด หร่วนจู๋วิ่งมารวดเร็ว กล่าวว่า “คุณชาย เหนียงจื่อ พวกเรารีบขึ้นฝั่งกันเถอะ”
เรือพวกเขาจอดอยู่ริมฝั่ง ตอนนี้พวกโจรยิงธนูเพลิงใส่ เรือสองสามลำเริ่มไฟลุกไหม้แล้ว แม้เรือพวกเขา ตอนนี้ยังไม่ลุกไหม้ แต่แรงลมอาจทำให้ลุกไหม้มาถึงได้ ดังนั้นพวกหร่วนจู๋จึงเสนอให้ทุกคนรีบขึ้นฝั่ง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นด้วยทันที กล่าวรับน้ำเสียงเคร่งเครียด “ได้ พวกเราขึ้นฝั่ง ไปแจ้งทุกคนให้ขึ้นฝั่ง อีกอย่าง เจ้าส่งคนไปอารักขาคนตระกูลหลิวกับตระกูลเจิ้งหน่อย อย่าให้พวกเขาถูกโจรลอบสังหาร”
“เจ้าค่ะ คุณชาย เหนียงจื่อ”
หร่วนจู๋หันหลังไปบอกให้เฝิงจือจัดการ ส่วนตนเองรับหน้าที่อารักขาพวกคุณชายกับเหนียงจื่อขึ้นฝั่ง
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกจากห้อง กลางคืนผืนน้ำมืดดำสนิท ยามนี้เต็มไปด้วยแสงเพลิง โจรไม่น้อยโผล่ขึ้นมาบนผืนน้ำออกมารุมสังหารคนบนเรือ
แต่ครั้งนี้พวกโจรนับว่าต้องเผชิญกับของแข็งแล้ว ข้างกายลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นมียอดฝีมือร้ายกาจติดตามมาด้วย กอปรกับยังมีขบวนคุ้มกันภัยตระกูลเถียน ดังนั้นพวกโจรจึงไม่ได้เปรียบแม้สักนิด
ขณะที่ทุกคนกำลังลงมือกันอยู่นั้น คนที่พักริมฝั่งก็พากันตกใจ มีคนออกคำสั่งให้รีบเข้าช่วยเหลือ
สุดท้ายก็มีกลุ่มผู้คุ้มกันราวกับฟ้าประทานปรากฏตัวเข้าช่วยพวกลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นสังหารโจร
พวกโจรเห็นว่าสู้ไม่ไหว คนที่เหลือก็รีบหนี
การต่อสู้ท่ามกลางม่านรัตติกาลก็ยุติลงในที่สุด
ทุกคนพากันโล่งอก
แต่ทุกคนยังตกใจกันอยู่ไม่น้อย มีผู้คุ้มกันจากตระกูลเจิ้งตายไปสองคน คนตระกูลหลิวตายไปหนึ่งคน และคนตระกูลเถียนบาดเจ็บอีกสามคน ทางลู่เจียวเองก็มีบาดเจ็บสองคน เรือถูกเผาเสียหายไปสองลำ
ดีที่บาดเจ็บล้มตายไม่มาก อย่างมากก็แค่ตกใจ
แต่เรื่องนี้ยังต้องขอบคุณผู้คุ้มกันชุดนั้น หากไม่ใช่พวกเขาออกหน้าช่วยเหลือ โจรก็คงไม่สลายตัวหนีไปเร็วเช่นนี้ ความเสียหายพวกเขาก็คงยิ่งมาก การบาดเจ็บล้มตายก็ย่อมยิ่งมาก
ดังนั้นพวกเซี่ยอวิ๋นจิ่นจึงต่างซาบซึ้งใจอีกฝ่ายอย่างมาก ประสานมือขอบคุณผู้คุ้มกันชุดดำ “วันนี้ขอขอบคุณอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้ความช่วยเหลือ หากไม่ได้ทุกท่านช่วยเหลือ ความสูญเสียพวกเราก็คงหนักหนาสาหัสยิ่งกว่านี้”
หัวหน้ากลุ่มชายชุดดำตรงหน้าประสานมือตอบด้วยน้ำเสียงสุขุมนิ่งว่า “คุณชายเกรงใจไปแล้ว คุณหนูใหญ่เราเป็นคนสั่งให้พวกเราเข้าช่วยเหลือ”
เขากล่าวจบมองไปด้านหลัง กลุ่มลูกน้องเขาพากันเปิดทาง
ด้านหลังกลุ่มคนมีหญิงสาวงดงามในชุดกระโปรงแพรงามค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามา
รูปร่างอรชรราวกิ่งหลิ่ว โครงหน้างดงามประณีต รอบกายเปล่งรัศมีสง่างามตามแบบฉบับสตรีมีตระกูล
นางยิ้มมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “คุณชายไม่ต้องเกรงใจ ให้ความช่วยเหลือเล็กน้อยเท่านั้น”
นางกล่าวจบ เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ประสานมืออย่างสุภาพ ถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณหนูชื่อเสียงเรียงนามอันใด วันหน้าหากมีโอกาสย่อมต้องตอบแทนบุญคุณในวันนี้”
หญิงสาวไม่ได้กล่าวอันใด แต่ลูกน้องข้างกายนายตอบแทนว่า “คุณหนูเราเป็นคุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้รู้สึกอันใด แต่สีหน้าลู่เจียวด้านหลังเขากลับแปรเปลี่ยนเล็กน้อย คุณหนูใหญ่หลินหรูเยว่จวนเฉิงเต๋อโหวหรือ นางก็คือภรรยาชะตากำหนดในนิยายของเซี่ยอวิ๋นจิ่น เหตุใดนางมาปรากฏตัวที่นี่ในตอนนี้ได้
ลู่เจียวครุ่นคิดรวดเร็ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นประสานมือขอบคุณ “ขอบคุณคุณหนูใหญ่ วันหน้าหากมีโอกาส ข้าจะต้องตอบแทนบุญคุณในวันนี้”
หลินหรูเยว่มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นลึกลงไปในแววตา พลันพบว่าใต้เท้าโส่วฝู่ผู้นี้ดูดีกว่าภพก่อนมาก เขาในภพก่อนยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยียบชั่วร้าย แต่เขาในตอนนี้กิริยามารยาทกลับดูสง่างาม แววตาวงหน้าอ่อนโยนทำให้คนมองแล้วก็ย่อมถูกดึงดูดให้ไหลหลง
เขาเช่นนี้ยิ่งทำให้นางตัดสินใจว่าจะแต่งกับเขาให้ได้