ตอนที่ 523 ผู้ครองบังลังก์ก็คืออ๋องเยียน
นายผู้เฒ่าฉีกล่าวไม่ทันจบ ลู่เจียวก็แย่งเอ่ยก่อนว่า “ท่านลุงฉี ให้ลู่ผิงตรวจดูอาการให้คุณหนูใหญ่ก่อน”
ลู่เจียวยืมชื่อลู่ผิงพี่ชายตนเองมาใช้
นายผู้เฒ่าฉีฟังนางกล่าวก็เข้าใจความหมาย รีบเอ่ยว่า “ใช่ ให้ผิงผิงตรวจดูก่อน”
มุมปากลู่เจียวกระตุกอย่างแรง นายผู้เฒ่าช่างสรรหาชื่อเล่นให้ผู้อื่นเสียจริง
ลู่เจียวไม่ได้สนใจเขา เดินไปนั่งลงหน้าเตียงหลินหรูเยว่
นางแสดงท่าทางให้หลินหรูเยว่ยื่นมืออกมาให้นางจับชีพจร
หลินหรูเยว่จำหญิงตรงหน้าผู้นี้ไม่ได้ว่าเป็นภรรยาเซี่ยอวิ๋นจิ่นที่ได้พบก่อนหน้านี้
นางยื่นมือออกไปให้ลู่เจียวจับชีพจรด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างที่สุด เพื่อที่จะไม่ต้องแต่งกับเซียวถิงซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน นางเองก็ขอสู้ด้วยชีวิตแล้ว
หลินหรูเยว่คิดถึงเซียวถิงซื่อจื่อจวนอ๋องฉินขึ้นมา ก็คิดถึงความทุกข์ทรมานต่างๆ ในภพก่อนได้ เซียวถิงเจ้าชู้มาก นางยังไม่ทันแต่ง ในจวนอ๋องก็มีอนุหลายคนแล้ว ตอนนั้นนางคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของบุคคล สถานะนี้ แต่พอนางแต่งเข้าจวนอ๋อง จึงได้รู้ว่านางเจ็บปวดเพียงใดที่ต้องต่อสู่กับบรรดาอนุพวกนั้นทุกวัน นางเหนื่อยมากจริงๆ และเซียวถิงเองก็ไม่ไว้หน้านางผู้เป็นพระชายาซื่อจื่อ
อนุเหล่านั้นเห็นเขาไม่ปกป้องนางผู้เป็นพระชายาซื่อจื่อก็ยิ่งปีนขึ้นขี่คอนาง สุดท้ายทำให้นางแท้งไปถึงสองครั้ง และเซียวถิงนอกจากจะเจ้าชู้แล้ว ยังมีนิสัยที่ไม่ดีอย่างมาก เขาชอบใช้วิธีการทรมานผู้หญิงบนเตียงหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้หญิงเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว เรื่องนี้เดิมก็ทำให้นางเจ็บปวดทรมานมากแล้ว ปรากฏจวนอ๋องฉินยังเลือกผิดข้าง สุดท้ายอ๋องเยียนได้ขึ้น และปลดบรรดาคนที่เลือกข้างผิดให้เป็นชาวบ้านสามัญ บ้างก็ส่งไปใช้แรงงานที่ชายแดนตะวันตกเฉียงใต้
นางทนแบกรับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่ไหว ตอนเดินทางไปได้ครึ่งทางก็ป่วยตาย ผู้ใดจะรู้ว่าพอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง นางกลับได้ย้อนเวลากลับมาในช่วงยังไม่แต่งงาน ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะไม่ยอมแต่งกับซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน นางได้เลือกเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่าที่โส่วฝู่แห่งแคว้นต้าโจวด้วยตัวนางเองใหม่
เซี่ยโส่วฝู่ผู้นี้ชาติกำเนิดต่ำต้อยยากจน แต่ได้รับความไว้วางใจจากอ๋องเยียนมาก ต่อมาตำแหน่งสูงถึงโส่วฝู่ และเซี่ยโส่วฝู่ผู้นี้ยังหวงตัวมาก เพราะมีบุตรชายสี่คน กลัวแต่งภรรยาใหม่แล้วจะไม่ดีต่อบุตรชาย ดังนั้นเขาจึงไม่แต่งภรรยาใหม่ตลอดชีวิต
ผู้ชายที่ดีเช่นนี้ นางจะต้องแต่งกับเขาให้ได้ ดังนั้นนางจึงวางแผนออกหน้าช่วยเหลือครั้งนั้น ผู้ใดจะรู้ว่าภรรยาเซี่ยโส่วฝู่จะยังมีชีวิตอยู่
หลินหรูเยว่ไม่รู้ว่าเกิดความผิดพลาดที่ใด คิ้วนางพลันขมวดแน่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ลู่เจียวข้างเตียงตรวจชีพจรให้นางแล้วก็ถามนางติดกันสองสามรอบ หลินหรูเยว่ล้วนไม่ยอมตอบ
นายผู้เฒ่าฉีทนไม่ไหว โมโหตวาดใส่นางเสียงดังว่า “คุณหนูใหญ่ ผิงผิงถามเจ้าอยู่นะ”
หลินหรูเยว่จึงได้สติคืนมา นางหันหน้าไปมองลู่เจียวถามว่า “ถามอันใด”
“วันนี้สัมผัสใกล้ชิดผู้ใดบ้าง”
ลู่เจียวมองเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าหลินหรูเยว่แล้วก็เลื่อมใสหญิงผู้นี้มาก นางช่างใจร้ายกับตนเองได้ลงคอ เพื่อจะไม่ต้องแต่งกับซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน ถึงกับทำกับตนเองเช่นนี้ ใจเด็ดมากจริงๆ แต่เพราะนางจ้องจับเซี่ยอวิ๋นจิ่น จึงทำให้ลู่เจียวไม่พอใจมาก
หลินหรูเยว่ไม่รู้ว่าลู่เจียวถามวาจานี้หมายความว่าอย่างไร จึงตอบตามจริงไปว่า “มีเพียงสาวใช้ประจำตัว ไม่ได้พบปะผู้อื่น”
ในห้องเฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินเฉิงเต๋อโหว รีบถามทันทีว่า “เจ้าถามเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”
ลู่เจียวหันไปมองสองคน ตอบว่า “นางถูกพิษ”
ลู่เจียวกล่าวจบ เฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินเฉิงเต๋อโหวไม่ทันได้พูดอะไร หลินหรูเยว่บนเตียงกลับตกใจร้องเสียงดังขึ้น “ถูกพิษ เป็นไปไม่ได้ ข้าจะถูกพิษได้อย่างไร ผู้ใดอยู่ดีๆ วางยาพิษข้า”
หลินหรูเยว่คิดไม่ถึงว่าหมอหนุ่มผู้นี้ถึงกับตรวจพบว่านางกินยาพิษลงไป ไม่ผิด ที่นางกินลงไปก็คือยาพิษทำลายโฉมหน้า เป็นยาลึกลับ นางไปบ้านท่านตาครั้งนี้ก็เพื่อยาลึกลับตัวนี้ ยาลึกลับนี้นางได้ยินมาจากคนในภพก่อนของนาง ได้ยินว่าหลังจากทำลายร่างกายแล้ว ยังทำให้คนตรวจไม่พบร่องรอยการโดนพิษ ดังนั้นนางจึงได้กินยาพิษนี้ลงไป ยาพิษนี้จะไม่มีอันตรายถึงชีวิตในระยะเวลาอันสั้น เพียงแค่ทำลายใบหน้าให้เกิดตุ่มหนองเน่า
ด้วยนิสัยชื่นชมสาวงามของซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน นางเป็นเช่นนี้เขาย่อมไม่แต่งกับนาง ดังนั้นนางก็จะยกเลิกการแต่งงานได้อย่างปลอดภัย
แต่นางคิดไม่ถึงว่าจะมีคนตรวจพบว่านางกินยาพิษ แน่นอนว่าหลินหรูเยว่ย่อมไม่พูดว่าตนเองกินยาพิษลงไปเอง เพราะนางไม่อยากยอมรับว่าตนเองถูกพิษ
“ข้าป่วยหนักอย่างเห็นได้ชัด เหตุใดจึงว่าข้าถูกพิษ ข้าไม่ได้พบปะคนนอก อยู่ดีๆ จะถูกพิษได้อย่างไร”
ลู่เจียวคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เอ่ยว่า “ใช่ ไม่ได้พบปะคนนอก แต่กลับถูกพิษ เรื่องนี้ก็ต้องสืบค้นให้ละเอียดแล้ว”
หลินหรูเยว่สะดุ้งในใจขึ้นทันที พลันเงยหน้าจ้องมองลู่เจียว พอมองก็รู้สึกว่าลู่เจียวแลดูคุ้นตาอยู่บ้าง แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเคยพบเขาที่ใด
ในห้องเฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินไม่รู้ว่าหลินหรูเยว่ถูกพิษเพราะกินเอง ดังนั้นจึงตื่นตระหนกอย่างยิ่ง ทั้งสองคนรีบถามลู่เจียวทันที
“เจ้าถอนพิษให้บุตรสาวข้าได้ไหม”
ลู่เจียวยิ้มมองทั้งสองคนกล่าวว่า “ย่อมถอนพิษได้ เพียงแต่คุณหนูใหญ่เหมือนไม่อยากให้ข้าถอนพิษให้”
เฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินสีหน้าตกใจ หันไปมองหลินหรูเยว่
ใบหน้าหลินหรูเยว่เดิมก็ไม่น่าดู ยามนี้สีหน้ายิ่งบิดเบี้ยวจนน่าตกใจ
ลู่เจียวลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ข้ากลับละ ส่วนยาถอนพิษ อีกสักครู่ท่านโหวกับฮูหยินค่อยไปรับยาถอนพิษที่บ้านข้า”
นางกล่าวจบก็ไม่รอให้คนตระกูลหลินกล่าวอันใด เดินหันหลังออกไปทันที นายผู้เฒ่าฉีรีบเดินตามไปถามว่า
“นางถูกพิษอันใด บอกข้าหน่อยๆ”
ลู่เจียวอธิบายว่า “ความจริงพิษชนิดนี้ไม่ใช่พิษที่ทำให้ถึงแก่ชีวิต ในระยะเวลาอันสั้นนี้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่จะทำลายโฉมหน้า…”
ในห้องคนตระกูลหลินย่อมได้ยินคำพูดลู่เจียว หลินหรูเยว่รู้สึกหนักอึ้งในใจขึ้นมา หันหน้าไปไปมองเฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินเฉิงเต๋อโหวด้วยสัญชาตญาณทันที ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เฉิงเต๋อโหวเริ่มพบสาเหตุแล้ว
เขาโบกมือให้คนในห้องออกไป รอให้ทุกคนออกไปกันแล้ว เฉิงเต๋อโหวจึงไม่อ้อมค้อม กล่าวออกไปตามตรงทันทีว่า “เจ้าไม่อยากแต่งกับซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน?”
ฮูหยินเฉิงเต๋อโหวอึ้งไปทันที มองเฉิงเต๋อโหวแล้วก็หันไปมองหลินหรูเยว่ “เยว่เอ๋อร์ เรื่องนี้ตอนนั้นเจ้าเห็นด้วยเองไม่ใช่หรือ”
หลินหรูเยว่มองบิดามารดาที่ร้อนใจเพราะตนเอง ในที่สุดก็อดร่ำไห้ออกมาไม่ได้ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าฝัน”
นางไม่ได้เล่าเรื่องที่ตนเองย้อนเวลากลับมาใหม่ เล่าไปพวกเขาก็ไม่เชื่อ นางได้แต่อธิบายว่าเป็นความฝัน
เฉิงเต๋อโหวกับฮูหยินได้ฟังคำพูดนางก็รู้สึกเพียงแค่ว่าเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี เพียงเพราะความฝัน ถึงกับทำลายการแต่งงาน ยังกินยาพิษอย่างไม่ลังเล
“เจ้าช่างเหลวไหลจริง”
หลินหรูเยว่ยืนกรานมองเฉิงเต๋อโหวกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านเชื่อข้า ฝันนี้คือเรื่องราวที่จะเกิดในวันหน้า ข้ายังฝันเห็นจุดจบสุดท้ายตระกูลหลินเราน่าอนาถมาก ท่านพ่อ ผู้ที่จะขึ้นครองราชย์ในวันหน้าไม่ใช่องค์ชายสี่ แต่เป็นองค์ชายห้า อ๋องเยียน”
เฉิงเต๋อโหวร้อนใจตวาดว่า “หุบปาก เรื่องนี้ล้วนเป็นวาจาเหลวไหลของเจ้าเอง”