Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 530


ตอนที่ 530 องค์หญิงใหญ่

ลู่เจียวเห็นท่าทางท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก็รู้สึกปวดใจอย่างมาก ใต้หล้านี้มีความรักยิ่งใหญ่ของมารดาที่แท้จริง และความรักของมารดาที่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด น่าเสียดายที่นางได้รับก็คือประการหลัง

สาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่นำวิธีการรักษามาแล้ว ลู่เจียวยื่นมือไปรับมาตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่ายาที่หมอให้ไว้ก่อนหน้านี้ล้วนถูกโรค ในนั้นยังมียาของนายผู้เฒ่าฉีให้ไว้ด้วย ในเมื่อเป็นวิธีการที่ถูกโรค ของท่านหญิง และช่วยท่านหญิงปรับสภาพร่างกาย แต่ทำไมอาการท่านหญิงกลับกำเริบไปมา

ในห้องนายผู้เฒ่าฉีเดินเข้ามาถามว่า “เจียวเจียว เป็นอย่างไรบ้าง”

ลู่เจียวมองนายผู้เฒ่าฉี กล่าวเบาๆ ว่า “เรื่องหลิงตังทำให้ท่านหญิงสูญเสียสติสัมปชัญญะ ความคิดสับสน สภาพจิตใจไม่ดี เทียบยาที่นายผู้เฒ่าให้ไว้ก็ดีมากแล้ว หากกินยานี้ค่อยๆ ปรับไป ไม่เกินสามเดือน นางน่าจะหายดีถึงจะถูก แต่ทำไมตอนนี้อาการป่วยนางไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้น กลับยังยิ่งแย่ลง”

ในห้ององค์หญิงใหญ่พอได้ฟังลู่เจียวก็มีสีหน้าผิดหวัง นางอดเสียงดังขึ้นไม่ได้ว่า “กล่าวเช่นนี้ เจ้าเองก็รักษาอาการเหวินอันไม่ได้สินะ”

พอองค์หญิงใหญ่เสียงดัง ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่บนเตียงก็ตกใจ นางตื่นตกใจเงยหน้ามองไปยังองค์หญิงใหญ่ สีหน้าเริ่มออกอาการบ้าคลั่งขึ้นมา

ลู่เจียวหันไปจ้องมองนาง นางก่อนหน้านี้ใช้เข็มเงินสกัดชีพจรท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ไว้หลายจุด ช่วยควบคุมอาการคลุ้มคลั่งของนางไว้ได้

ตามหลักการแล้วท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กินยาแล้ว ไม่ควรจะคลุ้มคลั่ง เพราะยาที่ให้นี้มีตัวยาทำให้จิตใจสงบไม่น้อย อารมณ์ท่านหญิงควรจะสงบนิ่งมากถึงจะถูกต้อง แต่ตอนนี้นางไม่เพียงแต่ไม่สงบนิ่ง แต่กลับยิ่งคลุ้มคลั่ง

ลู่เจียวไม่สนใจองค์หญิงใหญ่ หันหน้าไปถามสาวใช้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ว่า “ระยะนี้ท่านหญิงได้กินยาตามเวลาหรือไม่”

สาวใช้นามชิวเยว่รีบพยักหน้าตอบว่า “กินตามเวลา ไม่เคยขาด”

ในเมื่อกินยาตามเวลา ตามหลักการแล้วก็ควรจะไม่คลุ้มคลั่งอีกถึงจะถูก แต่ตอนนี้ท่านหญิงกำลังคลุ้มคลั่งเช่นนี้ เห็นชัดว่ามีปัญหาตรงไหนสักแห่งแล้ว

นายผู้เฒ่าฉีด้านหลังลู่เจียวเห็นนางขมวดคิ้วก็อดถามไม่ได้ว่า “เป็นอะไรหรือ”

“ท่านหญิงกินยาแล้วก็น่าจะสงบจิตใจลงได้ถึงจะถูก แต่นางคลุ้มคลั่งมาก เห็นได้ชัดว่าเกิดปัญหา”

ลู่เจียวกล่าวจบ พลันคิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง มีคนลงมือในอาหารของท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ หากใช้อาหารข่มยา ก็อาจทำให้เกิดอาการรุ่มร้อนใจ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ไม่อาจระงับอารมณ์รุ่มร้อนใจได้ง่าย ดังนั้นไม่ควรให้ทานอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการรุ่มร้อนใจ หมอก็น่าจะเคยกำชับเรื่องนี้ไว้ในวิธีการรักษา

ลู่เจียวเงยหน้ามองไปยังชิวเยว่เอ่ยว่า “บอกชื่อรายการอาหารท่านหญิงในสองสามวันนี้ให้ข้าฟังสักหน่อย”

วาจานี้ทำเอาบรรยากาศในห้องพลันเงียบกริบ

วาจานี้มีความหมายลึกซึ้งมาก

ในห้อง ฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงโดดออกมาคนแรกกล่าวว่า “วาจาเจ้านี้หมายความเช่นไร เป็นพวกเราวางยาในอาหารท่านหญิงหรือ”

ลู่เจียวหันไปมองฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกง กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าคิดมากไปแล้ว ข้าแค่คิดว่า จะมีคนไม่รู้ว่าอาหารนี้ขัดกับยาไหม ดังนั้นจึงขอตรวจสอบสักหน่อย”

สีหน้าองค์หญิงใหญ่ยิ่งดูย่ำแย่ จ้องมองฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงอย่างไม่เป็นมิตร กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “เจ้าหุบปาก หากขัดขวางการรักษาของบุตรสาวข้าอีก ดูว่าข้าจะฉีกปากเจ้าทิ้งอย่างไร”

แม้อู่กั๋วกงเป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้ แต่องค์หญิงใหญ่เป็นพี่สาวแท้ๆ ของฮ่องเต้ แต่เล็กผูกพันกับฮ่องเต้มาก ดังนั้นหากนางตบปากฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกง ก็ตบได้โดยไม่มีความผิด

ดังนั้นแม้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงจะโมโห แต่ก็ไม่กล้าพูดมากต่อ

ชิวเยว่เป็นบ่าวที่องค์หญิงใหญ่ส่งมารับใช้ข้างกายท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ มีความสามารถอย่างมากพอได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็รีบเล่าถึงอาหารที่ท่านหญิงกินออกมา นางบอกเล่าถึงอาหารในหนึ่งสัปดาห์อย่างละเอียด อย่าว่าแต่หนึ่งสัปดาห์ แม้หนึ่งเดือนนางก็จดจำได้

ลู่เจียวยิ่งฟังนางบอกเล่าก็ยิ่งสีหน้าไม่ดี สุดท้ายนางแน่ใจแล้ว “สาเหตุที่อาการป่วยท่านหญิงไม่ดีขึ้น เพราะอาหารการกิน อาหารที่นางกินหลายอย่างแยกกันแล้วไม่มีปัญหาอันใด แต่หากรวมกันก็จะก่อให้เกิดอาการรุ่มร้อนใจ เช่นกินเนื้อแพะแล้วยังกินพุทธาดำ ดูแล้วไม่เป็นอันใด แต่ความจริงทำให้เกิดอาการรุ่มร้อนใจได้ง่าย ในนี้มีหลายอย่างเป็นเช่นนี้”

ลู่เจียวกล่าวจบ องค์หญิงใหญ่ก็ผุดลุกขึ้นยืน พุ่งไปกระชากหญิงด้านหลังฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกง ก่อนจะตวัดมือตบหน้านางไปทีหนึ่ง

“นังชั้นต่ำแซ่เหลียง เจ้าเป็นคนทำร้ายบุตรสาวข้าใช่หรือไม่ นังชั้นต่ำ ดูว่าข้าจะตีเจ้าตายเยี่ยงไร”

องค์หญิงใหญ่กล่าวจบก็ลงมือตบหน้าเหลียงฉินอีกสองสามที ทำเอาเหลียงฉินมึนงงตาลาย แทบจะหมดสติ

ฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงรีบเข้ามารั้งนาง “องค์หญิงใหญ่ ท่านรังแกกันเกินไปแล้ว นี่คือจวนอู่กั๋วกง ไม่ใช่จวนองค์หญิงท่าน ท่านรีบปล่อยเหลียงฉิน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนาง เกี่ยวอันใดกับนางกัน”

องค์หญิงใหญ่ปล่อยเหลียงฉิน อู่กั๋วกงฮูหยินผู้เฒ่าขวางอยู่หน้าเหลียงฉิน “องค์หญิงใหญ่อย่าได้รังแกกันมากเกินไป หลายปีมานี้ฉินเอ๋อร์อยู่จวนอู่กั๋วกงก็ให้ความเคารพต่อท่านหญิงอย่างมากมาตลอด แต่ไรมาไม่เคยไร้ความเคารพ และนางแต่งเข้าจวนอู่กั๋วกง แม้แต่ลูกก็ไม่ต้องการ ช่วยท่านหญิงดูแลบุตรชายหญิงนางด้วยความทุ่มเท เช่นนี้ยังไม่พออีกหรือ”

องค์หญิงใหญ่ถลึงตาจ้องมองเหลียงฉิน แม้เหลียงฉินพยายามสะกดสงบอารมณ์ให้นิ่ง แต่ยังคงไม่อาจรอดพ้นสายตาเยียบเย็นขององค์หญิงใหญ่

องค์หญิงใหญ่เป็นบุตรีไทเฮา นางผ่านการใช้อุบายในวังมามากมายเท่าไรเพื่อตนเอง มารดาและน้องชาย สีหน้าเหลียงฉินจะเล็ดลอดสายตานางไปได้อย่างไร

นางแค่นยิ้มตะโกนออกไปว่า “พวกเจ้า จับตัวนังชั้นต่ำเหลียงนี่ไว้”

องครักษ์องค์หญิงใหญ่เข้ามาจะจับกุมตัวเหลียงฉิน

ฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงต้องการปกป้องนาง องค์หญิงใหญ่ตวาดดุดันว่า “ข้าจะดูว่าผู้ใดกล้าปกป้องนาง ผู้นั้นก็เป็นศัตรูกับจวนองค์หญิงใหญ่ วันนี้ข้าต้องสังหารนางให้ไม่เหลือแม้แต่ซาก”

ฮูหยินผู้เฒ่าจวนอู่กั๋วกงตกใจ เหลียงฉินถูกจับกุมตัวไปแล้ว

อู่กั๋วกงคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้ มององค์หญิงใหญ่อย่างปวดหัว “ท่านแม่ เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ปล่อยเหลียงฉินไปก่อน หากสืบได้ว่าเป็นเหลียงฉินลงมือจริง ข้าจะไม่ปล่อยนางไปเป็นแน่”

องค์หญิงใหญ่แค่นยิ้มมองไปยังอู่กั๋วกงเนี่ยซื่อหย่งกล่าวว่า “เจ้าปวดใจกับนังชั้นต่ำแก่ๆ นี่หรือ นอนกับนางมาหลายปีเกิดความผูกพันหรือ”

อู่กั๋วกงนิ่งเบื้อใบ้ไปทันที องค์หญิงใหญ่กล่าวเยียบเย็นว่า “เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงบุตรสาวข้า ข้าสืบความเอง ไม่จำเป็นต้องให้จวนอู่กั๋วกงลงมือ วันนี้พวกเจ้าผู้ใดก็อย่าได้คิดยุ่งเรื่องนี้ ผู้ใดกล้ายุ่ง ข้าก็สังหารผู้นั้น แน่นอนว่าหากนางไม่ได้เป็นคนลงมือ ข้าเองก็จะไม่ยุ่งกับนางอีก”

องค์หญิงใหญ่กล่าวจบ ก็ปล่อยหมัดเด็ด “ตอนนี้ข้าไม่เพียงแค่สงสัยนางลงมือกับบุตรสาวข้า ยังสงสัยว่าตอนนั้นที่หลานสาวข้าหายตัวไป ก็เป็นฝีมือนาง”

อู่กั๋วกงตกใจ เห็นชัดว่าไม่เชื่อ องค์หญิงใหญ่แค่นยิ้มกล่าวว่า “เนี่ยซื่อหย่ง ข้าเป็นองค์หญิงใหญ่ในวัง พบเห็นอุบายชั่วร้ายมากมายเท่าไร เมื่อก่อนข้าไม่ได้คิดให้มาก ตอนนี้คิดให้มาก เห็นชัดว่าหญิงผู้นี้วางอุบายบุตรสาวข้ามานานแล้ว คิดแต่จะกำจัดบุตรสาวข้าเพื่อเข้าแทนที่”

สีหน้าเหลียงฉินซีดเผือดปฏิเสธ “ข้าเปล่า กั๋วกง ข้าเปล่า ท่านช่วยข้าด้วย ท่านช่วยข้าด้วย”

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version