Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 583

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 583

ตอนที่ 583 จากไปเสียดีกว่า

ลู่เจียวคุยกับลูก ๆ ได้ครู่หนึ่ง ก็กลับห้อง ในห้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นเอนตัวพิงอยู่บนเตียงคิดบางอย่างอยู่ พอได้ยินมีเสียงฝีเท้าเดินเข้าประตูมา เขาก็หันหน้ามองไป เห็นลู่เจียวก็กวักมือเรียกนางมานอน

“เจ้าหนูน้อยทั้งสี่นอนแล้วหรือ”

ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มกล่าวว่า “อืม นอนแล้ว”

นางกล่าวจบมองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “เจ้าไม่เป็นอันใดแล้วกระมัง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นส่ายหน้า ดึงนางขึ้นเตียงมานอน “ไม่เป็นไร เจ้าอย่าได้เป็นห่วง ข้าจะไม่เป็นอันใด”

แม้เขาเกิดเรื่องขึ้นจริงก็ไม่เสียใจ ชีวิตนี้เขามีคนที่ชอบ มีลูกน้อยน่ารักแสนฉลาดทั้งสี่คน และมีเจียวเจียวที่มีความสามารถ หากเขาเกิดเรื่องอันใดขึ้นจริง นางก็สามารถอบรมเลี้ยงดูลูกทั้งสี่ให้เติบโตได้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็กอดลู่เจียวไว้แน่น ทั้งสองคนอิงแอบแนบชิดเป็นนานจึงได้เอ่ยขึ้นว่า “เจียวเจียว ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แต่เจ้าวางใจ แม้ข้าต้องตาย ก็ไม่ผิดต่อเจ้าไปแต่งกับหลินหรูเยว่ ตอนนี้คนที่ข้าชอบคือเจ้า ไม่ใช่หญิงผู้นั้น”

ลู่เจียวอดงึมงำไม่ได้ว่า “เจ้าไม่แต่งกับนางชีวิตเจ้าจะถูกพรากไปหรือไม่”

“แม้ต้องพรากชีวิตข้าไป ก็ไม่แต่งกับนาง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นตัดสินใจแน่วแน่ ขอบตาลู่เจียวแดงระเรื่ออิงแอบในอ้อมกอดเขา

“เชื่อข้า เจ้าจะไม่เป็นอันใด”

ทั้งสองคนค่อยๆ อิงแอบกันและกันหลับไป ผู้ใดก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องหลินหรูเยว่อีก

เช้าวันรุ่งขึ้น ตระกูลเซี่ยก็ได้รับเทียบเชิญ มหาบัณฑิตซุนหมิงเหลียงแห่งสำนักศึกษาฮั่นหลินย่วนส่งคนนำเทียบเชิญมาเชิญเซี่ยอวิ๋นจิ่นไปที่จวน

ซุนหมิงเหลียงเป็นคนตรงไปตรงมา ทรงคุณธรรมยิ่ง ไม่ใช่พวกเจ้าเล่ห์เล่นเหลี่ยมอันใด นับประสาอันใดกับเขาเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณเลือกเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นหุ้ยหยวนในครั้งนี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นย่อมยินดีสานสัมพันธ์กับเขา ดังนั้นเขาจึงได้กล่าวกับบ่าวรับใช้ตระกูลซุนว่า ตอนเที่ยงจะไปร่วมงานเลี้ยงจวนตระกูลซุน

บ่าวรับใช้ตระกูลซุนรีบกลับไปรายงานทันที

พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับถึงเรือนด้านหลังก็บอกกล่าวกับลู่เจียว “เจียวเจียว ท่านอาจารย์ซุนส่งคนนำเทียบเชิญมาเชิญข้าไปสนทนาที่จวนสักหน่อย วันนี้ตอนเที่ยงข้าจะไปงานเลี้ยงตระกูลซุน”

“ได้ ไปเถอะ จำไว้ว่าดื่มให้น้อยหน่อย อย่าได้ดื่มจนเมามาย”

“ข้าจดจำไว้แล้ว ครั้งนี้รับรองว่าไม่ดื่มสุรา”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบยิ้มให้คำรับรอง ลู่เจียวลุกขึ้นดึงเขาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็นางก็ช่วยจัดเสื้อผ้าให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไปพลางกล่าวไปพลางด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “ไปมาหาสู่กับใต้เท้าซุนบ่อยๆ แม้เขาไม่ใช่ชนชั้นสูงศักดิ์ แต่กลับเป็นที่โปรดปรานไว้วางพระทัยของฝ่าบาท ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทคงไม่ให้เขาออกมาดูแลการสอบหุ้ยซื่อในครั้งนี้ ดังนั้นเจ้าไปมาหาสู่กับเขาให้มากไม่มีข้อเสียอันใด”

“ชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวงมากมายราวกับขนวัว หลายคนไม่คู่ควรแก่การคบหา แต่มีบางคนเหมาะสมที่จะคบหา เจ้าควรไปมาหาสู่กับคนที่มีคุณธรรมเปิดเผยให้มาก”

ลู่เจียวพูดมายาวหลายประโยคแล้วก็เงียบไป นางกลัวว่าพูดมากไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นจะรู้สึกได้ ดังนั้นพอเห็นพอสมควรแล้วก็หยุดพูด

เมื่อก่อนนางมักรู้สึกว่าตนเองรักษาท่าทีนิ่งสงบได้ จนในห้วงเวลานี้ นางจึงได้พบว่า ความจริงนางพาตนเองร่วมลงไปในเรื่องราวแล้ว ไม่อาจรักษาท่าทีนิ่งสงบได้อีกต่อไปแล้ว

ตอนนี้ทั้งสองคนต้องแยกจากกัน นางรู้สึกว่าในใจตนเองเจ็บปวดราวกับถูกฉีกขาด นางทะลุมิติมาก็อยู่กับพวกเขา ทั้งสองฝ่ายต่างหลอมรวมกันราวกับญาติสนิทอย่างที่สุดไปนานแล้ว ตอนนี้ต้องมาตัดใจแยกจากพวกเขา นางเสียใจมาก แต่กลับไม่อาจแสดงออก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นอมยิ้มมองลู่เจียวกล่าวว่า “ชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวงมากมายเพียงใด พวกเราก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เจ้าลืมไปแล้วหรือ ข้าจะได้ออกไปประจำนอกเมืองหลวง เชื่อว่าตำแหน่งน่าจะมาถึงในเร็ววันนี้ ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะไปจากที่นี่แล้ว”

“อืม สายแล้ว เจ้ารีบไปจวนตระกูลซุนเถอะ อย่าให้ใต้เท้าซุนรอ”

“ได้ เช่นนั้นเจ้ารออยู่บ้าน อย่าคิดเหลวไหล ข้าไม่เป็นอันใดอย่างแน่นอน”

เขากล่าวจบก็ก้มหน้าลงมองลู่เจียว “ข้าคิดมาแล้วว่า ก่อนหน้านี้เพราะข้าคิดส่งนางขึ้นเตียงผู้อื่นหรือจับคู่ให้กับผู้อื่น จึงได้ก่อให้เกิดอาการผิดปกติ วันหน้าพวกเราก็ถือเสียว่าไม่มีคนผู้นี้ ห่างจากนางหน่อยก็พอ ข้าไม่เชื่อว่าเช่นนี้แล้วยังจะมีปัญหาอีก”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจนสุดท้ายรู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก

ลู่เจียวกลับรู้สึกว่าเรื่องไม่ได้ง่ายเช่นนี้ นางถึงกับสงสัยว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นอาจจะไม่อาจออกไปรับราชการนอกเมืองหลวงได้ หากไปจากเมืองหลวงย่อมต้องเกิดแรงสะท้อนกลับจากนิยาย เพราะความเดิมในนิยาย เขาอยู่เมืองหลวงรับตำแหน่ง ในเมื่อเรื่องราวเปิดฉากแล้ว เขาไปรับตำแหน่งนอกเมืองหลวงก็จะขัดต่อเรื่องราวในนิยาย

ลู่เจียวคิดไปก็ยิ้มตอบไปว่า “เช่นนั้น พวกเราก็ออกให้ห่างจากนางหน่อย วันหน้าไม่สนใจหญิงผู้นั้นอีก”

“ตกลง”

ทั้งสองคนสบตายิ้มให้กัน คล้ายว่าเรื่องราวที่เกิดแทรกขึ้นมาก่อนหน้านี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหลังเดินออกไป ลู่เจียวด้านหลังมองตามแผ่นหลังเขาไปอย่างเศร้าเสียใจ จนกระทั่งเขาหายลับไป นางจึงค่อยๆ เดินไปลงนั่งบนเก้าอี้

นอกประตู เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งเข้ามา ลู่เจียวรีบปรับใจที่วุ่นวายลง ยิ้มมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ “พวกเจ้ามาได้อย่างไร”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่วิ่งมาข้างกายลู่เจียว ถามว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อไม่ได้ป่วยหรือ เหตุใดจึงออกไปข้างนอกแล้ว”

“จะเกิดเรื่องหรือไม่”

ลู่เจียวเห็นสีหน้าของเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ก็ยิ่งมั่นใจกับการตัดสินใจของตนเองก่อนหน้านี้ นางไม่อาจปล่อยให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเกิดเรื่องขึ้นได้ หากเขาเกิดเรื่องขึ้น เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จะต้องเสียใจอย่างมาก

“เมื่อวานตอนเย็นไม่ได้ดื่มยาที่แม่ต้มให้ไปแล้วหรือ ไม่เป็นไรแล้ว พวกเจ้าวางใจได้”

“อืม ท่านแม่พวกเราออกไปเล่นกันไหม”

ซื่อเป่าคิดดึงลู่เจียวออกไปเล่น ลู่เจียวกลับปฏิเสธ นางยิ้มกล่าวว่า “แม่มีงานต้องจัดการ พวกเจ้าออกไปเล่นกันก่อน อีกสักครู่แม่จะตามไปเล่นกับพวกเจ้า”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นเด็กรู้ความ ได้ยินลู่เจียวบอกว่ามีงานต้องจัดการ ก็ไม่ดึงดันต่อ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พากันวิ่งเข้ามาผลัดกันหอมแก้มนางคนละที

“เช่นนั้น ท่านแม่ทำงานเถอะ พวกเราออกไปเล่นแล้ว”

“อืม ท่านแม่ทำงานเสร็จค่อยไปเล่นกับพวกเจ้า”

พอเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปแล้ว ลู่เจียวปรับอารมณ์ในใจครู่หนึ่งแล้วก็นั่งตัวตรงเริ่มเขียนจดหมาย นางตัดสินใจบอกเรื่องแรงสะท้อนกลับของนิยายกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ให้เขาได้รู้ว่านี่คือชะตาที่เขาและนางไม่อาจต่อต้านได้ เขาและนางได้แต่ต้องยอมรับชะตากรรมนี้

แต่ลู่เจียวรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นชอบนาง แม้ได้รับจดหมายฉบับนี้ เกรงว่าก็จะไม่ยอมรับ ดังนั้นนางจึงได้เขียนคำพูดที่ไม่เป็นผลดีต่อตัวนางเองในจดหมาย

เช่นว่า นางบอกเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่า ความจริงนางได้อ่านเรื่องราวในนิยาย รู้เส้นทางในวันหน้า รู้ว่าเขาจะกลายเป็นโส่วฝู่แห่งแคว้นต้าโจว ดังนั้นนางจึงยอมติดตามเขา หากไม่ใช่เพราะสถานะวันหน้าของเขา นางคงไม่คิดติดตามเขา เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวในนิยายจะไม่ยินยอมให้เขาและนางได้อยู่ร่วมกัน ดังนั้นนางได้แต่ต้องจากไปแล้ว

ลู่เจียวเขียนไปก็บังคับความเศร้าในใจไป น้ำตาไม่ได้เรื่องยังคงหลั่งรินร่วงลงมา นางรีบเงยหน้าบีบให้น้ำตาคืนกลับไป

นอกจากเขียนจดหมายให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น นางยังเขียนให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่คนละฉบับ บอกพวกเขาว่า นางไม่คิดอยู่เมืองหลวง อยู่เมืองหลวงนางไม่เบิกบานใจ ดังนั้นนางตัดสินใจกลับอำเภอชิงเหอ ให้พวกเขาวันหน้าเชื่อฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น

พอเขียนจดหมายพวกนี้เสร็จ ลู่เจียวก็รู้สึกว่าตนเองใกล้จะไร้เรี่ยวแรงกำลัง มือเท้าอ่อนแรงแทบทรงตัวไม่อยู่

แต่นางยังมีงานต้องทำ นางต้องถือโอกาสไปตอนที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่อยู่

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็หยิบตั๋วแลกเงินทั้งหมดในห้วงอากาศออกมาวางทับไว้บนโต๊ะ นอกจากตั๋วแลกเงินแล้ว ยังมีของที่ก่อนหน้านี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นให้นางเก็บไว้

นางนำเพียงหนังสือหย่าจากไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!