ตอนที่ 584 รันทดและน่าสงสาร
ส่วนบ่าวรับใช้ตระกูลเซี่ย ลู่เจียวพาเพียงหร่วนไคกับหร่วนจู๋ เฝิงจือ หลิ่วอันและหลิ่วฝูไป คนที่เหลือไม่ได้นำไปด้วย ทิ้งไว้ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่น
ก่อนไปนางยังไปดูแฝดสี่ บอกกับพวกเขาว่านางออกไปซื้อของ
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่นึกสงสัย ยังคุยหัวเราะโบกมือให้และกอดนาง ก่อนปล่อยให้นางไป ซื่อเป่ายังหอมแก้มนางฟอดดัง
“ท่านแม่ รีบกลับมานะ”
น้ำตาลู่เจียวแทบไหล แต่นางกลั้นเอาไว้ ฝืนหัวเราะขึ้น จากนั้นก็หันหลังนำคนจากไป
หน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ย พ่อบ้านเซียวรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด เหตุใดเหนียงจื่อนำคนรับใช้ออกไปมากมายเพียงนี้ ปกติอย่างมากนางพาหร่วนจู๋กับเฝิงจือไปเท่านั้น และครั้งนี้นางถึงกับบอกกับคุณชายว่าให้หร่วนไคอยู่บ้าน นางมีงานให้เขาไปทำ ปรากฏนางนำคนกลุ่มนี้ไป พ่อบ้านเซียวยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเหนียงจื่อดูแปลกๆ
ณ จวนตระกูลซุน
ซุนหมิงเหลียงออกมาต้อนรับเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยตนเอง สำหรับหุ้ยหยวนที่เขาเลือกมาด้วยตนเองผู้นี้ ซุน หมิงเหลียงชื่นชมอย่างมาก พูดจากับเซี่ยอวิ๋นจิ่นได้สองสามคำ ซุนหมิงเหลียงก็กล่าวอย่างเกรงใจว่า “อวิ๋นจิ่น ความจริงวันนี้ไม่ใช่ข้าอยากพบเจ้า แต่ได้รับการไหว้วานให้เชิญเจ้ามาสักครั้ง”
ซุนหมิงเหลียงกล่าวจบ นอกประตูก็มีเสียงฝีเท้าพร้อมเงาร่างหนึ่งเดินเข้าประตูมา
ผู้ที่เข้ามาก็คือเฉิงเต๋อโหว สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันย่ำแย่ขึ้นมาทันที มองเฉิงเต๋อโหวที่ก้าวเข้าประตูมาด้วยสีหน้าเย็นเยียบ
เฉิงเต๋อโหวเห็นเขาเช่นนี้ก็รู้สึกทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ได้แต่กลั้นใจเดินเข้ามานั่งลงข้างเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับซุน หมิงเหลียง
“เซี่ยจ้วงหยวน ข้าเป็นคนอยากพบเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเขาด้วยสายตานิ่งเฉย กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าท่านโหวต้องการพบข้าด้วยเรื่องอันใด”
เฉิงเต๋อโหวสงบจิตใจลงได้แล้วก็มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “อันดับแรก ข้ามาขอโทษเจ้ากับภรรยาเจ้าแทนบุตรสาวข้า อันดับถัดมาก็คือ…”
เฉิงเต๋อโหวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นนิ่งก่อนจะกล่าวว่า “อันดับถัดมา บุตรสาวข้าเสียชื่อเสียงเพราะเจ้า ตอนนี้ได้แต่แต่งกับเจ้า พวกเราไม่ขอตำแหน่งภรรยาเอกของเจ้า แค่มอบตำแหน่งภรรยาเอกคนที่สองให้นาง ให้นางได้แต่งเข้าตระกูลเซี่ยเป็นภรรยาเอกคนที่สองก็แล้วกัน”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นโมโหจนส่งเสียงเยาะขึ้นทันที กล่าวเสียดสีว่า “ท่านโหวไม่รู้สึกว่าตนเองน่าขันมากหรือ บุตรสาวท่านจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเพียงนี้ ถึงกับจะแต่งเข้าตระกูลเซี่ยข้า ท่านมีความแค้นกับตระกูลข้าหรือ”
“ขออภัย ข้าไม่กล้าแต่งหญิงเช่นนี้เข้าตระกูลเซี่ย ภรรยาข้าเล่นเล่ห์อุบายไม่เป็น บุตรชายข้าทั้งสี่อายุยังน้อย หากให้หญิงผู้นี้เข้าตระกูลเซี่ยข้า ตระกูลข้าคงไม่มีวันสงบสุข”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็ไม่คิดกล่าวเรื่องนี้ต่อ เขาหันไปมองซุนหมิงเหลียงกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ ที่บ้านอวิ๋นจิ่นยังมีธุระ ขอกลับก่อน วันหน้าค่อยมาพบอาจารย์ใหม่”
ซุนหมิงเหลียงรู้ว่าที่ตนเองทำครั้งนี้ทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่พอใจ เขาเองก็ไม่คิดรั้งเซี่ยอวิ๋นจิ่นไว้ “ได้ เช่นนั้นเจ้ากลับไปเถอะ”
หากไม่ใช่เฉิงเต๋อโหวมาขอร้องเขาเป็นนาน เขาก็คงไม่ทำเรื่องเช่นนี้ แต่เรื่องนี้เขาทำไปแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นลำบากใจ
ซุนหมิงเหลียงไม่ได้กล่อมเซี่ยอวิ๋นจิ่นให้แต่งหลินหรูเยว่เป็นภรรยาเอกคนที่สอง แม้แต่เขาเองก็ไม่คิดแต่งหญิงเช่นนั้น แต่งภรรยาต้องแต่งภรรยาดีงาม เขาเองยังทำไม่ได้ ถือสิทธิ์อันใดให้ผู้อื่นแต่ง
เฉิงเต๋อโหวเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะจากไป ก็ร้อนใจกล่าวว่า “เซี่ยจ้วงหยวน ข้ารับรองว่าบุตรีข้าแต่งเข้าตระกูลเซี่ยจะไม่ก่อเรื่องอีก หากวันหน้านางกล้าก่อเรื่องอีก เจ้าก็หย่านางส่งคืนตระกูลหลิน”
“หากเจ้ารับปากคำขอร้องข้า วันหน้าข้าเฉิงเต๋อโหวจะทุ่มเทช่วยประคองเจ้า ตระกูลหลินข้าจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเจ้า”
วาจาเฉิงเต๋อโหวนี้เท่ากับคำมั่นสัญญา
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่นึกเสียดายคำมั่นสัญญานี้แม้แต่น้อย เขาหันไปมองเฉิงเต๋อโหว เอ่ยอย่างไม่นึกสนใจว่า “ขอโทษ ข้าไม่นึกสนใจความช่วยเหลือของตระกูลหลินท่าน ข้าไม่นึกสนใจคุณหนูใหญ่ตระกูลหลินเช่นกัน ขออภัย ลืมบอกท่านโหวไปเรื่องหนึ่ง เมื่อก่อนตอนข้าบาดเจ็บอัมพาตอยู่บนเตียง ภรรยาข้าเป็นคนช่วยข้า ตอนนั้นข้าสาบานไว้ว่าจะมีภรรยาเพียงคนเดียว แม้วันหน้านางจากข้าไปก่อน ข้าก็จะไม่แต่งกับผู้ใดอีก ชีวิตนี้ขอมีเพียงภรรยาเดียว”
เฉิงเต๋อโหวมีสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ เขาคิดไม่ถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นถึงกับมีความคิดจะมีภรรยาเพียงคนเดียวชั่วชีวิต
เดิมเขาคิดว่ายอมลดสถานะตนเองลง ให้บุตรีแต่งเข้าบ้านตระกูลเซี่ยเป็นภรรยาเอกคนที่สอง เซี่ยอวิ๋นจิ่นคงจะเห็นด้วย เพราะภรรยาเอกคนที่สองก็เท่ากับอนุ บุตรีพระชายาจวนเฉิงเต๋อโหวแท้ๆ ถึงกับมาเป็นอนุ เปลี่ยนเป็นชายอื่นคงดีใจแทบแย่ สำหรับเขาแล้วเรียกได้ว่าเป็นเรื่องได้กับได้เท่านั้น
ในเมื่อกล่าวชัดเจนเรื่องตำแหน่งภรรยา ทำให้คนเขารู้สึกว่าเขามีความจริงใจแล้ว ยังทำให้อีกฝ่ายได้อนุที่สถานะสูงส่งคนหนึ่งมาครอง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายทุกคนต่างเฝ้าใฝ่ฝันหรือ ปรากฏว่าเขาใช้กับคนผู้นี้ไม่ได้ เพราะคนเขาว่าชีวิตนี้ขอมีเพียงภรรยาเดียว
เฉิงเต๋อโหวไม่รู้ว่าควรกล่าวอันใด เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่สนใจเขาอีกแล้ว ก้าวเท้าออกนอกประตูไป ปรากฏเดินถึงหน้าประตูก็มีคนมาขวางเขาไว้ คนผู้นั้นก็คือหลินหรูเยว่
ยามนี้หลินหรูเยว่ดูแล้วซีดเซียวและน่าสงสารอย่างมาก
เมื่อวานเซี่ยอวิ๋นจิ่นป้อนยานาง ยังสั่งคนให้โยนนางลงไปแช่ในน้ำเป็นนาน นางเกือบสิ้นชีพ
วันนี้เดิมนางตื่นไม่ไหว แต่เพื่อแต่งกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็ยังฝืนลุกขึ้นมา
เดิมนางคิดว่าบิดาตนเองออกหน้า เรื่องนี้ย่อมสำเร็จ แต่คิดไม่ถึงว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นถึงกับปฏิเสธไม่ไยดี ยังบอกบิดานางว่าชีวิตนี้ขอมีเพียงภรรยาเดียว
วาจาเขายิ่งทำให้นางอิจฉาริษยาวาสนาลู่เจียว และไม่อาจทำใจยอมรับว่าตนเองไม่อาจแต่งกับคนเช่นนี้ได้
หลินหรูเยว่เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะจากไปแล้ว ก็อดวิ่งออกมาไม่ได้
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ทำไม ข้าเป็นถึงบุตรีพระชายาจวนเฉิงเต๋อโหว ยอมแต่งเป็นภรรยาเอกคนที่สองของเจ้า หรือว่าเจ้าน้อยเนื้อต่ำใจ คนที่ควรน้อยเนื้อต่ำใจควรเป็นข้าถึงจะถูก”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นหลินหรูเยว่ตรงหน้า ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกเห็นใจ ยังรู้สึกเพียงแค่รังเกียจอย่างที่สุด
เขาเป็นโรคประหลาดก็เพราะหญิงผู้นี้นำมา ตอนนี้เขาเห็นนางก็นึกรังเกียจอย่างที่สุด คิดแต่จะหนีให้ห่างไกลจากนาง
“น้อยเนื้อต่ำใจก็ไม่ต้องแต่ง นับประสาอันใดกับข้าก็มิได้อยากแต่งกับเจ้า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบก็เดินถึงหน้าประตู มองนางด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ตวาดว่า “ถอย”
น่าเสียดายหลินหรูเยว่ไม่หลีกทาง นางยื่นมือขึ้นขวางเซี่ยอวิ๋นจิ่น “ข้าไม่ถอย เพราะเจ้า ชื่อเสียงข้าจึงต้องเสียหาย หากเจ้าไม่แต่งกับข้า ข้าก็ได้แต่มีความตายเป็นจุดจบ หรือว่าเจ้าคิดบีบให้ข้าไปตาย”
หลินหรูเยว่กล่าวถึงตรงนี้ก็ร้องไห้ออกมา ท่าทางน่าอนาถยิ่ง
ห้องโถงด้านหลัง เฉิงเต๋อโหวเห็นบุตรสาวร้องไห้น่าอนาถเช่นนี้ก็อดทนต่อไปไม่ไหว เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “เซี่ยจ้วงหยวน เจ้าก็มอบตำแหน่งภรรยาเอกคนที่สองให้บุตรีข้าเถอะนะ หากเจ้ารับปากแต่งกับนางเป็นภรรยาเอกคนที่สอง ไม่ว่าเจ้าเสนอเงื่อนไขอันใด จวนเรารับปากเจ้าทั้งหมด”
เพื่อบุตรีคนนี้ เฉิงเต๋อโหวก็ยอมแลกแล้ว
ซุนหมิงเหลียงด้านหลังมองหลินหรูเยว่อย่างไม่รู้จะทำเช่นไร ในใจเห็นใจเฉิงเต๋อโหวอย่างมาก เฉิงเต๋อโหวเป็นคนไม่เลว แต่เพราะตามใจบุตรีมากเกินไป วันหน้าบุตรีผู้นี้คงนำภัยหายนะมาสู่จวนเฉิงเต๋อโหว
แต่วาจานี้เขาไม่อาจกล่าวออกไปได้