Skip to content

พลิกปฐพี 11

ตอนที่ 11

ยาวิเศษทะลุมิติ เปลี่ยนธาตุเกิดใหม่

ช่องว่าง เป็นสิ่งของนามธรรมอย่างหนึ่ง

ช่องว่างของมู่เกอ เป็นห้องขนาด 50 ลูกบาศก์เมตรห้องหนึ่ง สิ่งที่ต่างจากห้องธรรมดาคือห้องนี้ไม่มีประตูและหน้าต่าง จะพูดให้ถูกคือมันเป็นช่องว่างที่สร้างด้วย กำลังจิตของมู่เกอ

สามารถจุของได้ แต่คนไม่สามารถเข้าไปได้

ตอนนี้มู่เกอหลับตา นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง จิตวิญญาณเข้าไปอยู่ในช่องว่างของตัวเอง

ช่องว่างขนาด 50 ลูกบาศก์เมตรนี้ เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ เหมือนดงเพชรเม็ดงาม ข้างในว่างโล่ง ของสะสม ที่มู่เกอเคยสะสมเอาไว้ก็หายไปเพราะการตายของเธอ

สิ่งเดียวที่ยังอยู่ คือตู้เซฟที่ลอยอยู่ตรงกลางของช่องว่าง ตู้เซฟนี้มีความวิเศษ ดูมั่นคงกว่าตู้เซฟธรรมดา และเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เหลี่ยมมาก เหมือนตั้งใจทำขึ้น วัตถุดิบ ที่ใช้ก็เป็นทองอย่างดี

จิตวิญญาณของมู่เกอเข้าไปอยู่ในช่องว่าง ตาก็ไปหยุดอยู่บนตู้เซฟที่ลอยอยู่

ความตื่นเต้นในแววตายากจะปิดบัง

“ยังอยู่นี่ ฟ้าเมตตาข้าจริงๆ!” มู่เกอพูดด้วยความตื่นเต้น

เธอเดินมาหยุดตรงหน้าตู้เซฟในทันที

เธอไม่ต้องทำอะไร ตู้เซฟที่ลอยอยู่ก็ค่อยๆ ลดระดับลงมาช้าๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

มู่เกอไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้ร่างที่เธอถอดจิตมานั้นสั่น

และที่ชัดเจนคือปลายนิ้วที่ขาวซีดกำแน่นและคลายออกอยู่หลายครั้ง

เธอหายใจเข้าลึกๆ มู่เกอพยายามสงบจิตใจ

เธอจ้องตู้เซฟแล้วพึมพำว่า “เจ้าคือความหวังเดียวของข้า อย่าทำให้ข้าผิดหวัง” พูดจบเธอก็เปิดตู้เซฟอย่างคล่องแคล่ว ลมหนาวเย็นพัดออกมาจากตู้เซฟ

ที่จริงแล้ว ตู้เซฟที่ทำขึ้นพิเศษนี้ยังเป็นตู้อุณหภูมิคงที่

บริเวณสวนสระเมฆา ไร้ซึ่งสรรพสำเนียงใดๆ

ในเรือนที่ประตูปิดสนิท โย่วเหอและฮวาเยวี่ยมองหน้ากันไปมา แล้วหันไปมองประตูห้องที่ปีดสนิทอย่างเป็นห่วง ข้างในไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ

แม้ว่าชื่อเสียงข้างนอกของมู่ชิงเกอจะเลวร้ายเพียงใด แต่กลับปฏิบัติต่อสาวใช้ของตัวเองเป็นอย่างดี ฉะนั้น ความจริงใจที่โย่วเหอและฮวาเยวี่ยมีให้กับมู่ขิงเกอนั้นมิได้เสแสร้งแกล้งทำ

“พอคุณชายกลับมา ก็สั่งว่าห้ามรบกวน หรือว่าจะบาดเจ็บแล้วไม่อยากให้พวกเรารู้” ฮวาเยวี่ยถามโย่วเหอที่อายุมากกว่าเธอสองสามเดือนด้วยความเป็นห่วง โย่วเหอเป็นคนอ่อนโยน ท่าทางสุขุม เมื่อได้ยินคำถาม แบบนี้จากฮวาเยวี่ยก็หันไปมองด้วยสายตาที่เป็นห่วงไม่แพ้กัน เม้มปากพร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า“ถ้าคุณชายได้รับบาดเจ็บนายท่านก็คงตามหมอหลวงมาที่จวนแล้ว คิดว่าเคราะห์กรรมครั้งนี้คงทำให้จิตใจของคุณ ชายได้รับความกระทบกระเทือนมาก อาจจะอยากอยู่คนเดียว พวกเราอย่าไปรบกวนเลย”

ฮวาเยวี่ยพยักหน้า ไฝรองนํ้าตาที่หางตาขยับไปตามการเคลื่อนไหว ทำให้นางดูเย้ายวนขึ้นหลายส่วน

ในห้องมู่เกอที่ตาทั้งสองข้างปิดสนิท ในที่สุดก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

เธอหลุบตาลงมองมือขวาของตนเองเป็นสิ่งแรก ตอนแรกในมือของเธอไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้มือขวากลับมีหลอดทดลองโปร่งแสงหลอดหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ในหลอดทดลอง มีสารสีฟ้าม่วงส่องแสงเป็นประกาย ไหลเวียนราวกับมีชีวิต

มู่เกอชูมือขวาของตนเองขึ้น ตาทั้งคู่จ้องอยู่ที่ยาในหลอดทดลองในมือ พึมพำว่า “ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ ยาที่ทันสมัยที่สุดของโลกนั้นว่ากันว่า 100 ลูกบาศก์เซนติเมตรสามารถทำให้ร่างกายที่อ่อนแอ กลายเป็นยอดคนที่สามารถขึ้นฟ้าลงดินได้วันนี้ข้าจะลองดูว่าเจ้าจะร้ายกาจขนาดนั้นจริงหรือเปล่า คุ้มกับการที่คนๆ นั้นใช้เจ้าเป็นเหยื่อล่อเพื่อลวงให้ข้าเข้าไปติดกับและทำให้ข้าต้องตายหรือเปล่า”

พูดจบมู่เกอก็ใช้นิ้วโป้งข้างขวา เปิดฝาของหลอดทดลอง อย่างไม่ลังเล เธอเทยา 100 ลูกบาศก์เซนติเมตรเข้าไปในปาก

มู่เกอไม่รู้ว่าสภาพร่างกายของตนเองในตอนนี้เป็นอย่างไร แต่ทุกคนบอกว่าร่างของเธอคือร่างที่ไม่สามารถ ฝึกฝนพลังเวทได้ ต่อมาเพราะเธอถามมู่ซงถึงได้รู้ว่าเธอไม่สามารถรวบรวมพลังได้ตั้งแต่เกิดและไม่สามารถเข้าสู่ขั้นพลังสีแดงได้ คนที่เข้าไม่ได้แม้กระทั่งขั้นพลังสีแดง ก็ต้องกลายเป็นคนไร้ค่าเป็นธรรมดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะฝึกฝนอะไรเลย

และยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอนี้ ก็คือยาที่ทำให้ดีเอ็นเอสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ในโลกของมู่เกอ มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่า ดีเอ็นเอ เป็นสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ แต่ดีเอ็นเอของคน สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้ไม่ถึงร้อยละ 1 ส่วน 10 และความสามารถนี้เหมือนจะถูกกำหนดมาแล้วไม่สามารถแก็ไขได้ จึงมีการทดลองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ เกิดขึ้น เพี่อให้คนสามารถแสดงศักยภาพและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของดีเอ็นเอในขณะเดียวกัน

สำหรับผู้สังเกตการณ์แล้ว การทดลองนี้ถือว่าดี และถ้าสำเร็จผู้ป่วยหนักจำนวนมากก็จะได้เกิดใหม่อีกครั้ง

แต่ว่ากลับมีคนคิดไม่ซื่อกับการทดลองนี้อยากจะใช้มันในสงคราม จึงทำให้มู่เกอมีโอกาสขโมยมันออกมา

ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอนี้ แต่เดิมจะส่งมอบให้กับประเทศ เสียดายที่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสนั้น

จริงๆ แล้วยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอในช่องว่างของมู่เกอนั้นยังเป็นแค่ตัวทดลอง ยังไม่ใช่ยาที่เสร็จสมบูรณ์ 100% แต่ว่าในตอนนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ การจะทำให้เธออยู่ในโลกนี้ได้คือต้องแข็งแกร่งขึ้น สำหรับการ ทดลองนี้จึงไม่เลี่ยงไม่ได้

หากสำเร็จ บางทีเธออาจจะสามารถเข้าการฝึกฝนพลัง

ของโลกนี้ได้

แต่หากล้มเหลว……………………. ก็ไม่มีใครรู้ว่าผลที่ตามมาคืออะไร

การมัวห่วงหน้าพะวงหลังไม่กล้าตัดสินใจเด็ดขาดไม่ใช่ตัวมู่เกอ ดังนั้น เธอจึงดื่มยาทั้งหลอดทดลองเข้าไปอย่างไม่ลังเล ซึ่งนั้นเท่ากับปริมาณ 10 เท่าของคนธรรมดา        ถ้าไม่รอดก็ตาย

เพราะว่ามู่เกอไม่เคยยอมแพ้ใคร!

‘จืดๆไม่ได้มีรสชาติพิเศษอะไร แต่ให้ความรู้สึกเหนียวๆ’ ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่เกอ แต่เธอยังจะมีเวลามาให้คำวิจารณ์ยาแบบนี้อีก !

“อุก!”

เพลัง————— !

เสียงแก้วแตกดังขึ้น เพราะมือสั่นๆ ของมู่เกอไม่สามารถจับหลอดทดลองว่างเปล่านั้นไว้ได้ทำให้มันตกแตกกระจายบนพื้น ในร่างกายรู้สึกราวกับถูกไฟเผาไหม้ทำให้เธออุทานออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

อุก—————– อุก———————-

‘ร้อน! ร้อนมาก! รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะละลาย ’ มือทั้งคู่ของเธอจับชายเสื้อเอาไว้แน่น ล้มลงบนเตียงด้วยความเจ็บปวด

ร่างกายของเธอกลายเป็นสีม่วงคลํ้าในทันใด มีเสียงเหมือนนํ้าเดือดดังออกมาจากร่างกายของเธอ บนผิวหนังเกิดเป็นถุงเล็กๆ เวียนว่ายไปมาไม่หยุด และบิดร่างกายของเธอจนเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆเหมือนดินนํ้ามัน

“อื้อ……………. ” มู่เกอที่ล้มอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรงกัดฟันแน่นไม่ต้องการจะส่งเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดใดๆ ออกมา

เธออยากจะแกร่งขึ้น ก็จำเป็นต้องยอมรับบททดสอบของผู้แข็งแกร่ง

เหงื่อจำนวนมากไหลออกจากรูขุมขนทั่วทั้งร่างกายของมู่เกอ ร่างกายเสียนํ้าไปมาก และทำให้ผ้าห่มใต้ร่างเธอเปียกชุ่ม

มู่เกอจับปลายผ้าห่มแน่นใช้แรงใจทั้งหมดที่ยังมีอยู่ฝืนเอาไว้

เธอรู้สึกว่ากระดูกและเลือดเนื้อทั่วทั้งร่างกายของเธอถูกโยนเข้าไปในเตาไฟอันใหญ่ ถูกหลอมละลายด้วยอุณหภูมิสูง กลายเป็นนํ้ากองหนึ่งและนํ้ากองนั้นก็ถูกระเหยด้วยอุณหภูมิสูงเช่นกัน จนไม่เหลืออะไรเลย

“ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ…ความเจ็บปวดขนาดนี้มันจะมีไอ้บ้ากี่คนวะที่สามารถทนรับได้?!” มู่เกอเค้นเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความโกรธ แต่เธอกลับลืมไปว่าจำนวนที่เธอกินเข้าไปนั้นมากกว่าคนปกติถึง 10 เท่า เพราะฉะนั้นความเจ็บปวดที่ต้องรับมือก็ต้องมีมากกว่า 10 เท่าเช่นกัน

มันไม่ได้ง่ายเหมือน 1 + 1 เท่ากับ 2 นะ

‘อวดเก่ง! จะทำตัวเองตายแล้ว’ ในขณะที่จิตใต้สำนึกของมู่เกอเริ่มเข้าสู่ความมืดมน เธอได้ให้คำวิจารณ์ที่เหมาะกับการกระทำของตนเองในครั้งนี้ไว้แบบนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version