Skip to content

พลิกปฐพี 15

ตอนที่ 15

เพื่อนกินที่ยอดเยี่ยมที่สุด แอบฟัง

“ลูก……………. ลูกพี่………. ช่วยข้าด้วย” เจ้าอ้วนที่บุกเข้ามาในห้อง ชี้ดาบที่ทาบอยู่บนคอตัวเอง ตามองดาบที่จ่ออยู่จนตาแทบเหล่ พุงกลมๆ ที่อยู่ใต้ชุดผ้าไหมหรูหราสั่นระริก

เจ้าเป็นใคร? ทำไมต้องช่วย?

สายตาของมู่เกอมองไปยังมู่ชิงเกอโดยไม่พูดอะไร

“เช่าเย่เจ๋อ เจ้าอ้วนเช่า มีพ่อเป็นผู้บัญชาการทหาร และเป็นหนึ่งในจอมเสเพลของลั่วตู นับว่าเป็นเพื่อนที่ดีของข้า” มู่ชิงเกออธิบายสั้นๆ

มู่เกอยักคิ้วพูดหน้านิ่ง “เจ้าอ้วนเช่า เจ้ามาทำไม” พูดจบก็มองไปที่ฉินจิ่นห้าว

คนที่ถือดาบเป็นองครักษ์ของฉินจิ่นห้าว ก็ต้องฟังคำสั่งของเขา ตอนนี้ฉินจิ่นห้าวกำลังมีเรื่องต้องขอร้องเธอ ให้เขาตอบแทนนํ้าใจเล็กน้อย ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ตามคาด เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของมู่เกอ ฉินจิ่นห้าวก็พยักหน้าให้กับองครักษ์

ชิ้ง——– !

กระบี่ที่แหลมคม เก็บเข้าฝักในทันที องครักษ์คนนั้นกลับไปยืนที่เดิม ราวกับไม่เคยขยับไปไหน

มู่เกอมององครักษ์คนนั้นนิ่งๆ แสงสีเขียวที่สาดประกายออกมาเมื่อสักครู่นั้นทำให้เธอรู้ถึงระดับของคนๆ นี้ แค่องครักษ์ยังเป็นถึงยอดฝีมือชั้นสีเขียวแล้วฉินจิ่นห้าวจะอยู่ในระดับไหนกัน

“โอย! ถ้ารู้ว่ารุ่ยอ๋องกำลังคุยธุระกับพี่มู่ล่ะก็ ข้าไม่มีทางเข้ามารบกวนแน่นอน” เจ้าอ้วนเช่ายิ้มให้ฉินจิ่นห้าว แล้ววิ่งเข้าไปถามมู่เกออย่างรวดเร็ว “ลูกพี่ข้าได้ยินข่าวว่าพี่ไปที่ลั่วรื่อ ที่นั้นมีสงครามไม่ใช่เหรอ ท่านไม่เป็นไรนะ?”

“ถ้าเป็นอะไรแล้วยังจะมานั่งดื่มชากับรุ่ยอ๋องอยู่แบบนี้ ได้ยังไงเล่า?” มู่เกอปัดมือที่อ้วนเหมือนขาหมูของเจ้าอ้วนเช่าออกแล้วกลอกตา

“แหะๆ ก็จริง” เจ้าอ้วนเช่าเกาหัวแกรกแล้วแอบมองฉินจิ่นห้าว เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้มองตนเอง จึงเข้าไปใกล้ๆ มู่เกอ แล้วกระซิบว่า”พี่มู่ ท่านอยู่นี่ก็ดีแล้ว ข้าได้ยินมาว่าคืนนี้ที่หอเด็ดบุปผาจะมีการแสดง ไม่สู้ท่านไปดูกับข้าเถอะ ดื่มชามันไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนุกเลย” พูดจบเขาก็ยักคิ้วนัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

หอเด็ดบุปผา?

พอได้ยินชื่อนี้ไม่ต้องให้มู่ชิงเกออธิบายมู่เกอก็เดาออกว่ามันเป็นสถานที่แบบไหน

ตอนแรกว่าจะปฏิเสธแต่พอเธอสบกับสายตาเย็นชาของฉินจิ่นห้าวเข้า ก็เปลี่ยนใจ ปัดเสื้อตัวเอง แล้วมู่เกอก็ยืนขึ้นมาตบบ่าของเจ้าอ้วนเช่า “นำทางไปเลย”

เจ้าอ้วนเช่าดีใจรีบเงยหน้าหลังตรง

“ชิงเกอ เจ้า” ฉินจิ่นห้าวขมวดคิ้ว บทสนทนาระหว่างมู่เกอกับเจ้าอ้วนเช่า เขาได้ยินทั้งหมด พอรู้ว่ามู่เกอจะไปที่มั่วสุมแบบนั้น ขณะที่ในใจรู้สึกไม่ชอบก็มีความรู้สึกดูถูกเพิ่มเข้ามาด้วย

ก็อย่างว่า เสเพลก็คือเสเพล

ป๋ายซีเยวี่ยเองก็ไม่ค่อยชอบใจ เธอตามมู่ชิงเกอออกมา ถ้ามู่ชิงเกอออกไปกลางคันแบบนี้ แล้วเธอจะทำอย่างไร มู่เกอกระตุกยิ้ม คารวะฉินจิ่นห้าวอย่างสง่างาม “เรื่องที่รุ่ยอ๋องพูด ข้าจะไปพูดกับท่านปู่ให้” พูดจบเธอก็หันไปมองป๋ายซีเยวี่ย หัวเราะอย่างชอบใจ “ข้ามีธุระคงต้อง รบกวนรุ่ยอ๋องส่งน้องซีเยวี่ยกลับจวนตระกูลมู่เสียแล้ว” เมื่อได้ยินการจัดแจงของมู่ชิงเกอทำให้ป๋ายซีเยวี่ยประหลาดใจ เผลอหลุดสีหน้ายินดีออกมา

เธอจะไปคิดได้อย่างไรว่ามู่ชิงเกอที่ไม่ชอบให้เธอพบกับรุ่ยอ๋องนั้น วันนี้ไม่ใช่แค่จะพาเธอออกมา แต่ยังให้โอกาสทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพังอีกด้วย

นี่มัน……………

ความยินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้หางตาของ ป๋ายซีเยวี่ยแฝงไปด้วยความเขินอาย แลดูเย้ายวนใจ

ฉินจิ่นห้าวหันมามองนางพอดี เมื่อเห็นภาพที่ชวนให้ใจสั่นแบบนั้นก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว รอจนสติเขากลับมา จึงเพิ่งสังเกตว่าในห้องพิเศษนี้ไหนเลยจะเหลือเงาของพวกมู่ชิงเกออยู่อีก

ท่าทางจากไปโดยไม่หันกลับของมู่ชิงเกอ ทำลายภาพอันสวยงามในใจเมื่อครู่ของฉินจิ่นห้าว แววตาเขาเคร่งขรึม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ป๋ายซีเยวี่ยก้าวเนิบๆ ไปอยู่ข้างๆ ฉินจิ่นห้าว ชุดขาวปลิวไหว พูดอย่างนิ่มนวลว่า “ซีเยวี่ยรบกวนรุ่ยอ๋องแล้ว”

หญิงสาวสดใสงดงามราวกับสายนํ้ายืนอยู่ตรงหน้าและรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นดั่งกิ่งหลิวของนางนั้นก็ทำให้ฉินจิ่นห้าวลืมความผิดปกติของมู่ชิงเกอไปชั่วขณะ ยกมือขึ้นประคองป๋ายซีเยวี่ย

สัมผัสเนียนลื่นที่เข้าสู่ฝ่ามือ ท่าทางสั่นๆ ราวกับสัตว์น้อยขี้ตกใจ ทำให้ฉินจิ่นห้าวใจสั่น สายตาที่เย็นชา พลัน มีความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างเกิดขึ้น ตอนนี้ป๋ายซีเยวี่ยเองก็รู้สึกจิตใจไม่สงบแล้ว

นางอยากเข้าใกล้ผู้สูงส่งเทียมฟ้าอย่างรุ่ยอ๋องก็จริงอยู่ แต่ว่าก็มีโอกาสน้อยนักที่จะได้พบกับเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าการสัมผัสผิวกายกันแบบตอนนี้ทันใดนั้นแก้มขาวผ่องของนางก็แดงเรื่อราวกับดอกเถาแรกแย้ม ยิ่งเพิ่มความน่าดึงดูดให้นางหลายส่วน

หอเด็ดบุปผา ที่มั่วสุมไม่อันดับหนึ่งก็อันดับสองของลั่วตู และเป็นหนึ่งในที่ที่มู่ชิงเกอเคยแสดงเป็นจอมเสเพล และคู่หูของเธอก็คือเจ้าอ้วนเช่าที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและกำลังตามหลังเธอมาในตอนนี้

ช่วงเวลาที่อยู่กับเจ้าอ้วนเช่านั้น มู่ชิงเกอก็ไม่ได้เล่าอะไรมากนัก บอกแค่สั้นๆ ว่าทั้งสองเพื่อที่จะแย่งชิงความเป็นใหญ่ในหอเด็ดบุปผาจึงต่อยตีกัน หลังจากที่ตีกันยกใหญ่ หากไม่ต่อยตีก็ไม่รู้จัก จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนกินที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

เช่าเย่เจ๋อ แม้จะเป็นลูกชายของผู้บังคับบัญชาทหาร แต่ความสามารถก็ไม่เท่าไร วนเวียนอยู่ในขั้นแรกของชั้นพลังสีแดง ตระกูลเช่าก็ไม่ได้มีลูกชายแค่คนเดียว จึงไม่ได้ตั้งความหวังกับเขามากนัก ปล่อยให้เขาก่อความวุ่นวายข้างนอกได้ตามสบาย ยังไงเสียหากไม่ได้ก่อเรื่องใหญ่โตอะไรมากนัก ก็ปล่อยเลยตามเลย

แต่ว่า แม้ว่าเจ้าอ้วนเช่าจะมีพรสวรรค์ไม่ถึง แต่เมื่อเทียบกับคนไร้ค่าอย่างมู่ชิงเกอแล้ว อย่างน้อยเขายังสามารถฝึกเวทพลังได้มิใช่หรือ?

ภายใต้การนำทางของแม่เล้า ทั้งสองคนก็เข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นแป้งฉุน และตกแต่งอย่างฉูดฉาด

พอแม่เล้าหอบเงินเดินออกไป เจ้าอ้วนเช่าก็รีบถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปบนเตียงทันที ดึงรูปวาดรูปหนึ่งบนผนัง ออกเอาอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ตั้งแต่แรกเสียบเข้าไปในรูของผนัง

มู่เกอมองเขาทำทุกอย่างอย่างชำนาญเงียบๆ แล้วขมวดคิ้วพูดเสียงเบากับวิญญาณของมู่ชิงเกอว่า “ไม่คิดเลย ว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้ด้วย”

“แคว้นฉินมีกฎว่าผู้ชายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะห้ามประพฤติผิดในกาม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดผู้ฝ่าฝืนจะต้องรับทัณฑ์เฆี่ยนตี เป็นเพราะอยากให้ประชาชนมีสมาธิฝึกฝนพลัง นับประสาอะไรกับที่ตัวข้านั้นเป็นหญิง ของแบบนี้พวกเราไม่สามารถไปสัมผัสด้วยตัวเองได้ เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจอมเสเพลเจ้าอ้วนก็เลยคิดวิธีนี้ขึ้นมา” มู่ชิงเกอตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา

เหอะ น่าสนใจ กินยากระตุ้นได้แต่ห้ามมีอะไรไปมากกว่านั้น กฎนี้คือจะทรมานคนหรือว่าจะฆ่าคนกันแน่? มู่เกอแอบคิดในใจ

“แร่กๆ…………. ’’เจ้าอ้วนเช่าส่งเสียงอันน่าขนลุกและชอบใจออกมา

มู่เกอมองไป เห็นหน้าอ้วนเหมือนหมูนั้นแดงมาก ดวงตาหรี่เล็ก เหมือนสัตว์กำลังร้องหาคู่ หูแนบอยู่กับท่อนไผ่ที่ติดกับผนัง ตกอยู่ในความฝันของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดข้างห้อง

สักพัก เจ้าอ้วนเช่าก็ตื่นจากความฝันเห็นว่ามู่เกอยังคงนั่งอยู่อีกด้านจึงรีบเรียก “ลูกพี่นิ่งอยู่ทำไม ข้างห้องกำลังมันต่อเนื่องเลย”

เมื่อเจอกับคำชวนของเจ้าอ้วนเช่า มู่เกอกระตุกมุมปาก ท่าทางไม่สนใจจริงๆ

เธอไม่ได้อาย ชาติที่แล้วภาพอะไรบ้างที่เธอยังไม่เคยเห็น เธอไม่ใช่ทหารที่อยู่แต่ในกฎระเบียบอันเคร่งครัด ภารกิจที่ต้องทำส่วนมากเป็นภารกิจลับอย่าว่าแต่แอบฟังเลย เธอเคยเห็นภาพพวกนี้กับตา

“โอ้ย ไม่ไหว เร้าอารมณ์เกินไปแล้ว ข้าไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมานะลูกพี่” เจ้าอ้วนเช่าทิ้งท่อนไผ่ลงตรงอกของม่เกอ พุ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

ส่วนจะไปทำอะไรนั้น…………………………………..

อื้ม มู่เกอเข้าใจวัยรุ่นผู้ชายดี ว่าถ้าฮอร์โมนขึ้นหัวก็ต้องมีปฏิกิริยาเป็นธรรมดา

ไม่นานนัก เจ้าอ้วนเช่าก็กลับเข้ามาในห้องอย่างสั่นๆ เห็นม่เกอยังคงนั่งอยู่ ก็ไม่ไปแอบฟังต่อ แต่นั่งลงตรงข้ามเธอ เติมนํ้าชาในแก้วของทั้งสอง

“ลูกพี่ วันนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมตอนที่ข้ามาถึงก็ได้ยินพวกเขาบอกว่าลูกพี่โกรธจัดจนหุนหันจากไปแล้ว ไอ้เจ้าเหอเฉิงหน้าตากระหยิ่มยิ้มย่องมาก จากนั้นก็ได้ข่าวว่าลูกพี่พาองครักษ์ออกจากลั่วตูไปลั่วรื่อ” เจ้าอ้วนเช่า ถามอย่างจริงจัง

วันนั้นที่เจ้าอ้วนเช่าพูด มู่เกอรู้ดีว่าวันไหน เรื่องราวทั้งหมดมู่ชิงเกอก็เคยบอกเธอไปแล้ว ตอนนี้เธอก็แค่เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

ปัง!

“เหอเฉิงกล้าว่าลูกพี่แบบนี้เลยหรือ! ไป เราไปจัดการมันกัน วันนั้นข้าไอ้อ้วนไม่อยู่แต่วันนี้จะช่วยให้ลูกพี่ได้แก้ ค้น” มู่เกอเพิ่งพูดจบ เจ้าอ้วนเช่าก็ตบโต๊ะยืนขึ้นด้วย ความโมโห พูดแล้วก็ดึงแขนเสื้อของมู่เกอจะออกจากหอเด็ดบุปผา

มู่เกอหลบการดึงแขนเสื้อได้ทัน พูดนิ่งๆ ว่า “ท่านปู่ข้า จับเหอเฉิงขังเอาไว้แล้ว เมื่อสักครู่รุ่ยอ๋องก็มาขอตัวเขาจากข้า”

เจ้าอ้วนเช่าฟังแล้วรีบเดินกลับมาถาม “ลูกพี่ ลูกพี่คงจะไม่ฟังคำขอร้องของรุ่ยอ๋องปล่อยไอ้เจ้านั่นไปแบบนี้นะ”

“แน่นอนว่าไม่” มู่เกอแสยะยิ้ม ทันใดนั้นดวงหน้าอันงดงามก็พลันเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม

ความโหดเหี้ยมนั้นทำให้เจ้าอ้วนเช่าเห็นแล้วขนลุก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก และตบหน้าอกตัวเองรับรองว่า “ลูกพี่ ลูกพี่พูดมาเลยว่าจะจัดการไอ้นั่นยังไง แม้ว่าจะต้องแหวกฟ้า ไอ้อ้วนก็จะไปทำกับลูกพี่”

มู่เกอหยุดสายตาที่เจ้าอ้วนเช่าสักพัก หลังจากที่มองจนขนของฝ่ายหลังลุกชันแทบทั้งตัวแล้วนั้น เธอก็หัวเราะขึ้นมา “เจ้าอ้วนเช่า เจ้านี่ถือเป็นยอดคน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version