Skip to content

พลิกปฐพี 16

ตอนที่ 16

ไม่สมบูรณ์ ร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผล

ตระกูลเหอ มีรุ่ยอ๋องเป็นที่พึ่งและเสด็จแม่ของรุ่ยอ๋องเจียงกุ้ยเฟยก็เป็นพระสนมที่ได้รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้มากที่สุดในตอนนี้ แม้ว่ารุ่ยอ๋องจะไม่ใช่รัชทายาท แต่ฮ่องเต้กลับรักและโปรดปรานเขามากกว่ารัชทายาทเสียอีก

ขอแค่องค์ฮ่องเต้ยังอยู่ ใครจะได้เป็นรัชทายาทก็ยังไม่แน่

แม้ว่าพ่อของเจ้าอ้วนเช่าจะเป็นผู้บังคับบัญชา แต่ก็ยากที่จะต่อกรกับตระกูลเหอ เกี่ยวกับเรื่องเหอเฉิง ตระกูลเหอไม่กล้าทำอะไรตระกูลมู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กล้าเอาตระกูลเช่ามาเป็นแพะรับบาป

เหตุผลข้อนี้ มู่เกอเชื่อว่าเจ้าอ้วนเช่าดูออก แต่ว่าเขากลับยืนอยู่ข้างเดียวกับเธออย่างเด็ดเดี่ยว เพราะฉะนั้นเธอจึงบอกว่าเขาก็เป็นยอดคนๆ หนึ่ง

“ เจ้าอ้วน สั่งเด็กรับใช้ของเจ้าให้ไปที่จวนตระกูลมู่” ม่เกอหรี่ตาพูดกับเจ้าอ้วนเช่า ตอนออกจากบ้านเธอไม่ได้พาใครมาด้วยแม้แต่คนเดียว ตอนนี้ก็เพิ่งจะมารู้สึกว่าไม่สะดวกเอาเสียเลย

เจ้าอ้วนเช่ากลอกตาไปมา ไม่ได้ถามอะไรมาก พยักหน้าให้มู่เกอ แล้วหันหลังเดินออกไป

เหอเฉิงถูกมู่ซงขังไว้ที่จวนตระกูลมู่ แต่มู่ซงกลับไม่ได้ทำอะไรมัน เพราะว่าเหอเฉิงยังเป็นเด็ก ด้วยฐานะของมู่ซง แล้ว แค่จับมันกลับมาก็ทำให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์มากพอแล้ว

“ฆ่ามันไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถเล่นกับมันได้นี่ รุ่ยอ๋องต้องการคน ข้าก็ให้ได้ข้าใจกว้างพอ!” มู่เกอที่พิงอยู่บนพนักเก้าอี้ หรี่ตาลงในดวงตามีประกายเย็นชาวาบผ่านแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย มุมปากกลับยกยิ้มเจิดจ้า

หลังจากที่เจ้าอ้วนสั่งให้เด็กรับใช้ไปทำตามคำสั่งแล้ว ก็กลับมาที่ห้อง พอเห็นมู่เกอที่กำลังแสยะยิ้มเย็นออกมาพอดี ไขมันทั่วร่างก็สั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เจ้าอ้วนเช่าดื่มนํ้าไปคำหนึ่ง ย่อเอวลงถามเสียงเบา “ลูกพี่เราจะทำยังไงต่อ?”

“ไปเรียกแม่เล้ามาให้ข้าอย่างอื่นเจ้าก็ไม่ต้องสนใจแล้ว” มู่เกอสั่ง

ใครจะรู้ เจ้าอ้วนเช่ายังคงจ้องมู่เกอตาเขม็ง ยืดตัวตรงแล้วแย้งขึ้นว่า “ได้ยังไง ก็ตกลงกันแล้วว่าข้ากับลูกพี่จะสั่งสอนไอ้สารเลวเหอเฉิงด้วยกันยังไงเล่า”

มู่เกอมองเขา แล้วยกมือตบไหล่ที่เต็มไปด้วยเนื้อของเขาทีหนึ่ง “นํ้าใจของเจ้าข้ารับเอาไว้แล้ว แต่เรื่องของข้า ข้าต้องจัดการเอง เจ้าก็ดูอยู่ห่างๆ เถอะ” เจ้าอ้วนเช่าไม่สนใจตระกูลเช่าของตนเลือกมาอยู่ข้างเธอ แต่ว่าเธอไม่อาจดึงให้พี่น้องมาลำบากด้วยกันได้

“ลูกพี่ ลูกพี่ดูถูกข้าใช่ไหม” เจ้าอ้วนเช่ากำหมัดแน่น หายใจฮึดฮัด

มู่เกอหัวเราะ แฝงแววขี้เล่น “เจ้าคิดว่าแค่เจ้าคนไม่สำคัญนั่น คู่ควรให้เราสองพี่น้องลงมือรึ?”

เจ้าอ้วนเช่าพูดอะไรไม่ออก

สักพักเขาถึงออกไปหาแม่เล้าอย่างจำยอม

ไม่ว่าสิ่งที่มู่เกอพูดจะจริงหรือไม่ เขาก็ยอมแพ้แล้ว

แต่ว่า หลังจากที่เขาออกประตูไป ก็แอบสูดจมูก เขาไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าจะต้องสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงในคำพูดของมู่เกอ ตระกูลเช่าจะลำบากเพราะเขาไม่ได้

เขาก้มหน้าลงมองนิ้วอันอ้วนสั้นของตนเอง กลางฝ่ามือมีแสงสีแดงผุดขึ้นมาจางๆ แต่ไรมา เขา เจ้าอ้วนเช่าไม่เคยเห็นว่าการฝึกเวทพลังมันจะมีดีที่ตรงไหน เรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตคนควรจะเป็นการดื่มกินหาความสำราญ ต่างหาก

แต่ว่าวันนี้ เป็นครั้งแรกที่เขารูสึกว่าตนเองอ่อนแอไร้สามารถ พี่น้องมีปัญหา เขาไม่เพียงแต่ช่วยไม่ได้แต่ยังต้องยืนอยู่ข้างหลังให้พี่น้องคอยปกป้อง นี่มันช่างน่าอายบัดซบจริงๆ!

เจ้าอ้วนเช่ากำหมัดด้วยความโมโห กัดฟันแน่น แล้วเดินไปหาแม่เล้า

ณ ตระกูลมู่ เหอเฉิงเดินออกมาจากด้านใน ถ่มนำลาย ใส่หน้าจวนกตระกูลมู่ทันที แววตามีความดูแคลนและโกรธแค้นอย่างชัดเจน

“จวน ตระกูลมู่ขี้หมาอะไร กล้าทำแบบนี้กับข้า ตอนนี้ก็ต้องปล่อยนายท่านอย่างข้าออกมาแต่โดยดีไม่ใช่รึ? มู่ชิงเกอ เจ้าคนไร้ค่าวิปริตรักเพศเดียวกัน ค่อยก่อนเถอะ หลายวันที่ข้าโดนขังเอาไว้ในนี้ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน!” หลังจากระบายความแค้นทั้งหมดในใจออกไป เหอเฉิงก็ จงใจสะบัดแขนเสื้อด้วยท่าทางงามสง่า เงยหน้ายืดอก ท่าทางลำพองใจ ค่อยๆ เดินออกจากอาณาเขตของจวนมู่ไป

จวนตระกูลเหอเองก็อยู่ในเขตเมืองชั้นใน เหมือนกับจวนตระกูลมู่ แต่ว่าห่างกันค่อนข้างไกล สภาพแวดล้อมและพื้นที่รอบๆ ไม่อาจนำมาเทียบกันได้เลย

เลี้ยวอีกตรอกหนึ่ง ก็จะเห็นประตูจวนตระกูลเหอแล้ว

ระหว่างทาง เหอเฉิงเอาแต่คิดว่าจะแก้แค้นมู่ชิงเกออย่างไร และนึกถึงร่างกายอันนุ่มลื่นเนียนละเอียดของสาวใช้อุ่นเตียงของตน

ทันใดนั้น ก็มีเงาสีดำทอดลงมาจากฟ้าปกคลุมตัวเขาไว้ในทันที ยังไม่ทันที่เขาจะดิ้นรน ก็รู้สึกเจ็บตรงท้ายทอย จากนั้นก็สลบไป

รอจนเหอเฉิงค่อยๆ รู้สึกตัวก็รู้ว่าตนเองเหมือนถูกมัดอยู่ในกระสอบข้าวสาร

“อือๆๆๆๆ

ใครกล้ามัดนายท่านอย่างข้า!

เสียงอันเย่อหยิ่งที่ออกมาจากปาก กลับกลายเป็นเพียงเสียงอู้อี้ที่ฟังได้ไม่ชัดเจน ตอนนี้เหอเฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าปากของตนเองนั้นถูกถุงเท้าเหม็นๆ ยัดอยู่ ทั้งแขนและขาก็ถูกมัด ไม่สามารถขยับได้เลย

“อื้อ————- !อื้อๆ———— ’’ ในใจเหอเฉิงเริ่มกังวล ตาที่เล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวเบิกโต

ตอนนี้นอกถุงข้าวสารมีเสียงที่เขาคุ้นเคยมากเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ฟังให้ดีนะ วันนี้ข้าจะมาสอนวิธีเล่นของเล่นขึ้นใหม่ให้แก่พวกเจ้า ใครเล่นได้ดีที่สุด ข้าจะมีรางวัลให้”

จากนั้นก็มีเสียงอืออาดังขึ้นมา

มู่ ชิง เกอ!

ความรู้สึกเคียดแค้นอันเข้มข้นของเหอเฉิงสะท้อนออกมาทางแววตา

ไอ้ไร้ค่านั้นกลับกล้ามัดตัวเขาไว้ ถ้าเขาออกไปได้เมื่อไหร่จะให้รุ่ยอ๋องคิดบัญชีกับไอ้ไร้ค่านี้ให้สาสม!

เสียดายที่ความโกรธแค้นในใจของเหอเฉิงนั้นคนข้างนอกไม่ได้รับรู้ด้วย

บทสนทนา ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

“ตายแล้ว! คุณชาย กระสอบใหญ่ขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าต้องหนักมากแน่ๆ พี่สาวน้องสาวทั้งหลายต่างก็มีเท้าอันบอบบาง จะเตะไหวได้อย่างไร” เสียงใสๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทั้งออดอ้อนและยั่วยวน

สิ้นเสียงของนาง ก็มีเสียงเห็นด้วยจำนวนมากดังขึ้น

มู่เกอยกมือขึ้น หยุดเสียงของสาวๆ พวกนั้น แล้วเชยคางของหญิงนางโลมคนหนึ่งขึ้นมา พูดอย่างองอาจว่า “เพราะฉะนั้นข้าถึงอนุญาตให้พวกเจ้าใช้มือผลัก ใช้เท้าเตะได้ แต่หากยังไม่ขยับอีก จะใช้ไม้ข้าก็อนุญาต” พูดจบเธอก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ใบหน้าอันงดงามของเธอนั้นดูเปี่ยมเสน่ห์เกินผู้ใด

“สามารถใช้ไม้ได้!” หญิงนางโลมคนหนึ่งพูดอย่างชอบใจ

ม่เกอพยักหน้าริมฝีปากเย้ายวนได้รูปรับเหล้าที่หญิงนางโลมส่งมาให้หลังจากที่ดื่มเข้าไปแล้ว ก็เอาปากกัดจอกเหล้าไว้แล้วสะบัดจอกลงพื้น จนจอกเหล้าแตกกระจาย

ท่าทางอันน่าดึงดูดนี้ทำให้นางโลมจำนวนไม่น้อยร้องออกมาอย่างเขินอาย

“มา ข้าจะเป็นกรรมการด้วยตัวเอง ดูว่าคะแนนใครสูงที่สุด” มู่เกออ้าปากพูดพร้อมโอบกอดนางโลมที่งามเย้ายวนดังดอกไม้สองคนข้างกาย กำชับกับทุกคน พอเธอสั่งให้เริ่ม สวนด้านหลังของหอเด็ดบุปผาก็เต็มไปด้วยเสียงร้องเล่นอย่างสนุกสนานดังขึ้นทันที

นางโลมของหอเด็ดบุปผาที่ไม่ได้รับแขก ต่างก็ถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่นี่ เพื่อร่วมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกายใจที่แข็งแรง อเมริกันฟุตบอล!

ด้วยแรงของเหล่านางโลมแล้วไม่อาจทำให้เหอเฉิงที่อยู่ในกระสอบข้าวเคลื่อนที่ได้เลย เพราะฉะนั้นแทบจะทุกคนจึงถือไม้เข้าไปร่วมแข่งกันมาตั้งนาน เหอเฉิงก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิด ไม้พวกนั้นไม่รู้ว่าฟาดลงมาแรงๆ ไปกี่ทีแล้ว

มู่เกอหรี่ตานั่งมองฉากตรงหน้าแล้วหัวเราะ เห็นเหล่านางโลมใช้แรงสุดแรงเกิดในการชูไม้ขึ้นแล้วฟาดลงไปบนกระสอบช้าวสาร ฟาดไปก็บ่นไปว่าคนในกระสอบข้าวสารหนักเกินไป

ท่าทางที่เหล่านางโลมพยายามทำตามกฎ ทำให้มู่เกออารมณ์ดีมากนางโลมในอ้อมกอดก็ยื่นเหล้าให้เขาดื่มอีกครั้ง

เหอเฉิงในกระสอบข้าวสารโดนนางโลมพวกนี้ฟาดอย่างน่าสงสาร ความโกรธแค้นในใจที่มีต่อมู่ชิงเกอนั้นมีมากจนยากที่จะอธิบาย

ร่างกายที่เจ็บระบมไปทั่วทำให้เขาทั้งหวาดกลัวและเคียดแค้น กัดฟันแน่นหวังว่าจะทนผ่านเคราะห์ร้ายครั้งนี้ไปให้ได้ แล้วคราวหน้าค่อยหาโอกาสแก้แค้น

แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่มู่ชิงเกอเตรียมให้เขานั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้

สุดท้าย เหอเฉิงก็ถูกฟาดจนสลบไปอีกครั้ง พอเขารู้สึกตัวอีกครั้งตัวเขาก็ได้ออกจากกระสอบข้าวสารแล้ว ตอนนี้ร่างของเขานอนอยู่บนเตียงในห้องที่ไม่คุ้นเคยห้องหนึ่ง

เพราะเจ็บไปหมดทั้งตัวทำให้เหอเฉิงสูดปาก ส่วนที่ไม่โดนฟาดเหลือแค่ช่องว่างบริเวณดวงตาเท่านั้นที่ยังดีอยู่ เขากวาดตามองรอบๆ กลับเห็นว่าข้างมือของตนนั้นมีกระจกอยู่บานหนึ่ง

ไม่ทันได้คิดว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมถึงมีกระจกบานหนึ่งวางอยู่ข้างตนเอง เหอเฉิงก็หยิบกระจกบานนั้นขึ้นมาส่องหน้าตัวเอง

“อ้ากกก———— !” เสียงร้องก้องอยู่ภายในห้อง

เหอเฉิงมองหัวหมูในกระจกและรอยเขียวช้ำบนตัว แทบจะเสียสติ นี่คือเขาหรือ? คือเขาที่หน้าตาหล่อเหลาสง่างามคนนั้นน่ะรึ?

“นายท่าน ท่านตื่นแล้วหรือ หากว่าตื่นแล้วพวกข้าจะเข้าไปปรนนิบัติท่าน” ตอนนี้ข้างนอกมีเสียงที่ไม่มีที่มาที่ไปดังขึ้น

ไม่ทันที่เหอเฉิงจะตอบก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนคนหนึ่งพาชายหน้าตาอัปลักษณ์ร่างกายกำยำสองคนเดินเข้ามา

ชายหน้าตาอ่อนโยนที่เดินนำหน้าเข้ามา สวมเพียงชุดคลุมตัวยาวไม่มีกระดุมตัวเดียว สองคนที่เดินตามเขาเข้ามานอกจากผ้าเตี่ยวแล้วก็ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลย

ใต้ผืนผ้า เจ้าสิ่งนั้นเห็นเป็นรูปร่างที่น่าเกลียดน่ากลัว

เหอเฉิงเบิกตากว้าง ความหวาดกลัวที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีก่อตัวขึ้นในจิตใจของเขา เขากอดขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้แล้วตะคอกราวกับหญิงสาวที่โดนข่มเหง “พวกเจ้าจะทำอะไร? อย่าเข้ามานะ! ข้าเป็นคนตระกูลเหอและ เป็นคนของรุ่ยอ๋องนะ!”

เสียดายที่ทั้งสามคนทำราวกับไม่ใส่ใจ ยังคงเดินเข้าหาเขา

หนึ่งในนั้น แสยะยิ้มออกมา นัยน์ตากลอกไปมา แอบคิดในใจที่คุณชายพูดไว้ไม่มีผิด หลังจากที่คนๆ นี้ตื่นขึ้นมา ก็จะพูดจาเหลวไหลไปเรื่อย ท่าทางแบบนี้ยังจะกล้าแอบอ้างถึงรุ่ยอ๋อง

“นายท่าน พวกบ่าวแค่จะเข้ามาปรนนิบัติท่านเท่านั้นเอง!” ชายหนุ่มสะบัดผงขาวในมือ ชี้หน้าหนุ่มร่างใหญ่สองคนแล้วสงการว่า” ฟังข้าให้ดี นายท่านผู้นี้เป็นแขกคนสำคัญ แสดงความสามารถทั้งหมดของพวกเจ้าออกมา ดูแลปรนนิบัติให้ดี หากนายท่านไม่พอใจ พวกเจ้าจงระวังตัวไว้ให้ดี”

พูดจบเขาก็เดินออกไป ทิ้งชายหนุ่มร่างใหญ่สองคนที่ดูมีเรี่ยวแรงมหาศาล ที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นเอาไว้

“เจ้า…………… เจ้าจะทำอะไร? ไสหัวไป ข้าบอกให้ไสหัวออกไปให้หมด!” เหอเฉิงร้องด้วยความกลัว

แต่กลับไม่มีประโยชนอะไรแม้แต่น้อย

“อ้าาา————— !”

“พวกแก ไอ้พวก เลว ”

“อุก……….. อุก………………… ”

เสียงของเหอเฉิงถูกกลบ ม่านที่กั้นอยู่รอบๆ เริ่มสั่นไหวเบาๆ และทันใดนั้นไม่ทันมีใครได้คาดคิด ม่านพวกนั้นก็พลันปลดลง

ห้องที่ถูกปิดตายในตอนแรก พลันกลายเป็นศาลาโล่งแจ้งที่ไม่มีอะไรกำบังในทันที

รอบๆ ศาลา มีคนใหญ่คนโตผู้สูงคักดิ์รวมทั้งบรรดาขุนนางของลั่วตูนั่งอยู่เต็มไปหมด

เมื่อเห็นภาพโสมมตรงหน้า ทุกคนพลันเงียบสงบไม่ส่งเสียงแม้แต่คำเดียว แต่ละคนเบิกตาโตจ้องมองภาพร่วมรักในศาลา

สิ่งที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้น ก็คือสามคนที่กอดรัดกันเป็นก้อนกลมนั้น เป็นผู้ชายทั้งหมด!

ภาพที่เห็นตรงหน้ามันช่างกระตุ้นอารมณ์เกินไปแล้ว ลูกชายข้าต้องสงบจิตสงบใจสักพัก

คืนนี้พวกเขามางานประมูลคืนแรกของนางโลมแห่งหอเด็ดบุปผาไม่ใช่หรือ?

ทำไมถึงได้เจอฉากปลุกเร้าอารมณ์แบบนี้ได้เล่า นี่เป็นการแสดงเปิดงานที่หอเด็ดบุปผาจัดขึ้นเพื่อเรียกนํ้าย่อยงั้นรึ?

“เอ้ะ? หนึ่งในนั้นดูคล้ายเหอเฉิงบุตรชายตระกูลเหอมากเลยนะ”

ท่ามกลางผู้คน คนที่มู่เกอจ้างไว้ตะโกนขึ้นมาอย่างทันท่วงที ทันใดนั้น สายตาคาดเดาต่างก็ตกลงบนร่างชายหนุ่มสามคนนั้น

“ไสหัวไป!” เหอเฉิงที่หมดหวังในที่สุดก็ระเบิดขึ้น

แสงสีแดงเข้มสาดประกายออกจากตัวเขาทำให้ชายสองคนที่คร่อมทับเขาไว้กระเด็นออกไป

ตอนนี้ เขาจึงเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองอยู่ที่ไหน และรอบด้านยังเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่นั่งอยู่

“คุณชายเหอจริงๆ ด้วย”

ตูม———- !

สายตาของเหอเฉิงระเบิดความเคียดแค้นและอัปยศอดสูออกมา เขาไม่สนใจร่างกายที่เปลือยเปล่าต่อสายตาผู้คน สายตาที่เติมไปด้วยความแค้นสบเข้ากับสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกท่ามกลางกลุ่มคนคู่นั้น

มู่เกอที่นั่งดูละครท่ามกลางผู้คนสบตากับเหอเฉิงอย่างไม่เกรงกลัว ยกเหล้าในมือขึ้นคารวะ ยิ้มน้อยๆ แล้วดื่มมันลงไป……

‘เหอเฉิง ของขวัญชิ้นนี้ที่ข้าให้เจ้า เจ้าชอบหรือไม่เล่า ไม่ต้องรีบ บัญชีระหว่างเราสองนั้นค่อยๆ คิดกันไป’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version