Skip to content

พลิกปฐพี 185-2

ตอนที่ 185-2

นี่ถึงเรียกว่าเล่นแส้!

หลานเฟยเยว่ยอมแพ้แล้ว ประตูเหล็กสีดำถูกเปิดออก คนของตระกูลหลานที่รออยู่นานแล้วรีบวิ่งเข้ามาแบกหลานเฟยเยว่จากไป

“ช้าก่อน” ในตอนที่คนของตระกูลหลานเตรียมจะจากไป มุ่งชิงเกอก็ส่งเสียงขึ้นในทันที

คนของตระกูลหลานมองมู่ชิงเกอเหมือนเห็นผี อยู่ดีๆ ก็ถูกนางเรียกเอาไว้ทำให้ทุกคนล้วนแต่หวาดกลัว

มู่ชิงเกอกลับโยนแส้อำพรางเมฆาที่เปื้อนเลือดของหลานเฟยเยว่ในมือไปที่ข้างเท้าของพวกเขา ยิ้มเยาะ กล่าวว่า “อย่าได้ลืมแส้ของคุณหนูใหญ่ของพวกเจ้า”

คนของตระกูลหลานรีบเก็บเอาแส้อำพรางเมฆาขึ้นมา ก่อนจะหนีออกไปจากกรง

มูชิงเกอเงยหน้าขึ้น เชิดคาง มองไปทางประมุขตระกูลหลานที่อยู่ตรงระเบียง

นัยน์ตาของทั้งสองคน ปะทะกันกลางอากาศ

ประมุขตระกูลหลานสบถ สะบัดเสื้อจากไป ท่าทางที่ดูรีบร้อนเช่นนั้น เกรงว่าคงจะรีบกลับไปรักษาอาการบาดเจ็บของหลานเฟยเยว่

หลังจากที่เขาจากไปแล้ว เฮยมู่กับโหลวเสวียนเถี่ยก็ลอบส่งสายตาหากัน นัยน์ตาเกิดรอยยิ้มที่ดูอำมหิตขึ้นพร้อมกัน

เทียนตู ตระกูลหลาน หลานเฟยเยว่ที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ถูกหามเข้าไปในจวนตระกูลหลาน ทำให้คนภายในจวนต่างแตกตื่นตกใจ

เพียงชั่วครู่ จวนตระกูลหลานก็เปลี่ยนเป็นสับสนวุ่นวาย

ประมุขตระกูลหลานยืนอยู่ด้านหน้าประตูห้องของหลานเฟยเยว่ มองไปที่สาวใช้ที่เข้าๆ ออกๆ ห้องของหลานเฟย เยว่ไม่ขาดสาย ยกนํ้าสะอาดเข้าไป ล้วนแต่เปลี่ยนเป็นนํ้าเลือดเมื่อยกออกมา

อีกอย่าง มีบางอ่างนํ้าเลือดก็ยังมีชิ้นเนื้อแตกผสมอยู่ด้วย

ทุกครั้งที่มองเห็นฉากนี้ในใจของประมุขตระกูลหลานก็เพิ่มความโกรธแค้นขึ้นหนึ่งขั้น ฟันถูกเขาขบจนรู้สึกเจ็บ! ผ่านไปกว่าครึ่งขั้วโมง เขาไม่อาจรอได้อีกต่อไป ลากสาวใช้ที่เพิ่งจะออกมาจากห้องแล้วถามว่า “สถานการณ์ของคุณหนูในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

สาวใช้รีบร้อนเอ่ยตอบ “ท่านหมอยังคงทำความสะอาดแผลและพันแผลให้คุณหนูอยู่ เพียงแต่ว่าบาดแผลบนร่างกายของคุณหนูนั้นเยอะและลึกเกินไป ดันนั้นจึงจัดการช้าไปบ้าง ยาที่ประมุขเอามานั้นได้ให้คุณหนูใช้แล้ว ท่านหมอบอกว่าชีวิตของคุณหนูนั้นปลอดภัยดี เพียงแต่ เพียงแต่…”

ทันใดนั้นนางก็ลังเลขึ้นมา ประมุขตระกูลหลานขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเอ่ยว่า “เพียงแต่อะไร? หากเจ้าไม่พูด ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”

“ประมุขโปรดไว้ชีวิตด้วย” สาวใช้รีบคุกเข่าลงกับพื้น พูดอย่างสิ้นหวังว่า “ท่านหมอกล่าวว่า ร่างกายของคุณหนูได้รับบาดเจ็บหนักมาก โดยเฉพาะบาดแผลบนใบหน้า ซึ่งลึกไปจนถึงกระดูก หากคิดจะให้คุณหนูฟื้นคืนกลับมาเหมือนเดิมทั้งหมด ไม่หลงเหลือรอยแผลเป็น ก็ต้องขอยาฟื้นฟูระดับจิตวิญญาณจากโรงโอสถ”

“โรงโอสถ! โรงโอสถ! โรงโอสถกับคนแซ่มู่นั้นเป็นพวกเดียวกัน จะยอมเอายาฟื้นฟูให้ข้าได้อย่างไร?” ประมุขตระกูลหลานโมโห

“ไป! ไสหัวไป!” เขาเอาความโกรธในใจระบายไปที่สาวใช้คนนั้น

สาวใช้รีบร้อนถอยออกไป ไม่กล้าล่าช้า

กลัวว่าหากตนเองช้าไปอีกเพียงนิดเดียว ชีวิตก็อาจจะไม่ปลอดภัย

พลังของประมุขตระกูลหลานนั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เขาพยายามข่มอารมณ์อยากฆ่าคนใบหน้าบิดเบี้ยวเขียวคลํ้า เดินกลับไปมา

หลานเฟยเยว่เป็นลูกสาวที่เขาทุ่มเทเลี้ยงดูขึ้นมากับมือ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเข้าไปในตำหนักหลีกงได้ แต่อาศัยแค่รูปลักษณ์ของนางก็สามารถมีอนาคตที่ดีและ นำผลประโยชน์มหาศาลมาให้กับตระกูลหลานได้แล้ว แต่ว่าความคาดหวังทั้งหมดล้วนถูกมู่ชิงเกอทำลายลงไปแล้ว แล้วจะให้เขาไม่แค้นได้อย่างไร?

ภายในห้อง บนเตียงแกะสลักหลังใหญ่ หลานเฟยเยว่นอนอย่างสงบ หมอสองคนของจวนล้วนกำลังจัดการบาดแผลของนางอย่างละเอียด ตอนนี้ครึ่งหนึ่งของร่างกายนั้นถูกพันแผลเอาไว้แล้ว ครึ่งหน้าก็มีผ้าพันอยู่ เหลือแค่เพียงบาดแผลบนสองขาที่กำลังทำความสะอาดและพันแผล

เมื่อได้ใช้ยารักษาชีวิต ชีวิตของนางก็ถือว่าปลอดภัยแล้ว แต่ว่าความเจ็บปวดบนร่างกาย กลับทำให้นางยากที่จะพักผ่อน ภายในหัวมีแต่ภาพฉากที่นางได้รับบาดเจ็บ ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง บาดแผลบนขาของนางก็ถูกจัดการเสร็จ หลังจากท่านหมอบอกให้นางพักผ่อนดีๆ แล้ว ก็ถอยออกไปจากห้อง

หลังจากพูดคุยกับหมอแล้ว เดิมทีประมุขตระกูลหลานก็คิดอยากจะพูดกับบุตรสาว แต่ว่าทันใดนั้นด้านนอกก็มีรายงานว่ามีแขกมาขอพบ

“แขกอะไร? ไม่เห็นหรือว่านี่เป็นสถานการณ์อะไร? ไม่พบ!” ประมุขตระกูลหลานโบกมืออย่างหงุดหงิด

คนที่มารายงานถูกทำให้ตกใจจนอํ้าๆ อึ้งๆ แต่ว่าก็ยังพูดคำที่แขกฝากมาออกไปจนได้ “ประ…ประมุข สองท่าน…นั้นกล่าวว่า ในมือของพวกเขามียาที่สามารถช่วยฟื้นฟูใบหน้าของคุณหนูได้”

“เจ้าพูดอะไรนะ!” ประมุขตระกูลหลานไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของบ่าวรับใช้ที่มารายงานในพริบตา จับคอเสื้อของเขา ยกขึ้นมาตรงหน้าของตนเอง

ร่างกายของบ่าวรับใช้สั่นๆ เอ่ยคำพูดเมื่อครู่อีกครั้ง

เมื่อได้ฟังชัดๆ อีกครั้งแล้ว ประมุขตระกูลหลานก็ทิ้งบ่าวรับใช้ในมือลงกับพื้น นัยน์ตาเยียบเย็นฉายแววอำมหิต เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้สงบลงมา “นำแขกไปพบข้าที่ห้องหนังสือ”

บ่าวรับใช้ถอยออกไปในทันที

ตอนที่ประมุขตระกูลหลานจะจากไป ก็หันหน้าไปทางห้องของหลานเฟยเยว่แวบหนึ่ง ถึงได้ก้าวเท้ายาวจากไป

เรือนของหลานเฟยเยว่ ค่อยๆ เงียบลง หลังจากที่ประมุขตระกูลหลานจากไป

หลานเฟยเยว่นอนอยู่บนเตียง เบิกตากว้างจ้องผ้าม่านเป็นชั้นๆ

ในตอนนี้ สาวใช้ประจำตัวที่อยู่ข้างกายของนางก็คุกเข่าลงข้างเตียง ใช้สองมือยกแส้อำพรางเมฆาที่ล้างสะอาดแล้วไว้ข้างกายนาง เอ่ยเสียงเบาๆ ว่า “คุณหนู แส้อำพรางเมฆาล้างสะอาดดีแล้ว”

เดิมนางคิดว่าจะได้รับการชื่นชมจากคุณหนู เพราะนี่เป็นอาวุธที่คุณหนูรักมากที่สุด

แต่ทว่า ในตอนที่หลานเฟยเยว่ได้ยินคำว่า ‘แส้อำพรางเมฆา’ นั้น ร่างกายกลับแผ่ความเยียบเย็นออกมา ไม่สนใจอาการบาดเจ็บลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ดวงตาที่ดูเย็น ยะเยือกตกลงไปมองที่สาวใช้คนนั้น

เมื่อสาวใช้ประจำตัวตกอยู่ภายในสายตาที่ดูเยือกเย็นดุจดั่งนํ้าแข็งแล้ว ตัวนางก็สั่นสะท้าน เอ่ยออกมาเสียงสั่นๆ “คุณ…คุณหนู…”

ทันใดนั้นดวงตาของหลานเฟยเยว่ก็แข็งกร้าวขึ้น ยกมือขึ้นหยิบแส้อำพรางเมฆาจากมือของนาง สะบัดฟาดไปที่นาง

“อ๊า—–!”

สาวใช้คนนั้นเป็นคนธรรมดา แต่เล็กก็ถูกซื้อเข้ามาในจวนตระกูลหลานเป็นสาวใช้ไม่มีพลังหรือทักษะสงครามใดๆ ไหนเลยจะสามารถรับแส้นี้ของหลานเฟย เยว่ได้?

ตอนนั้น ความเจ็บปวดก็แทรกซึมไปทั่วทั้งร่างกาย นางร้องครวญคราง กอดร่างกายเกลือกกลิ้งไปมา

หลานเฟยเยว่ลุกขึ้นมาจากเตียง ไม่ได้สนใจว่าการเคลื่อนไหวจะทำให้บาดแผลของตนเองฉีกเลยแม้แต่น้อย ชูแส้อำพรางเมฆาขึ้นแล้วฟาดลงไปที่สาวใช้คนนั้น อย่างรุนแรง

ดูเหมือนนางจะมองสาวใช้คนนั้นเป็นมู่ชิงเกอ จึงระบายความแค้นลงไป

นางฟาดแส้ลงไปทีละแส้…ทีละแส้ ด้วยความแค้น เลือดของสาวใช้สาดกระจายเต็มห้องไปนานแล้ว สาวใช้ที่น่าสงสารก็หมดลมหายใจไปนานแล้วเช่นกัน

คนอื่นๆ ที่รับใช้หลานเฟยเยว่ ล้วนแต่ไม่กล้าเข้าใกล้นาง แต่ละคนพยายามทำตัวเองให้ไร้ตัวตนมากที่สุด ด้วยเกรงว่าตนเองจะกลายเป็นคนที่หลานเฟยเยว่ใช้เป็นที่ระบายอารมณ์

แส้ถูกฟาดลงไปเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม จนหลังจากที่บาดแผลบนร่างกายของหลานเฟยเยว่ฉีกไปเป็นจำนวนไม่น้อยแล้ว นางถึงได้สูดหายใจ ทิ้งแส้อำพรางเมฆาไปที่ก้อนเนื้อเปื้อนเลือดอย่างแค้นเคือง

“เอาแส้อำพรางเมฆากับบ่าวสารเลวผู้นี้ออกไปเผา!” หลานเฟยเยว่เอ่ยอย่างเย็นชา

ลักษณะที่โหดร้ายไม่เหมือนกันกับรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามของนาง

เหล่าสาวใช้ที่หลบอยู่ข้างๆ มองเห็นกองเนื้อที่มองไม่ชัดเจนแล้วว่าเป็นอะไรใครก็ล้วนไม่กล้าเข้ามาใกล้ หลานเฟยเยว่เอ่ยอย่างแค้นเคือง “ทำไม พวกเจ้าก็อยาก จะเป็นเหมือนนางอย่างนั้นหรือ?”

สายตาที่ดูเยือกเย็นกวาดมองไป เหล่าสาวใช้จึงทำได้เพียงข่มกลั้นความกลัว หลับตาเริ่มเก็บกวาดห้องที่เต็มไปด้วยเลือด หลานเฟยเยว่ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง สั่งการด้วยนํ้าเสียงที่เย็นชาว่า “เรียกท่านหมอมา”

เหล่าสาวใช้ไม่กล้าชักช้า รีบไป เรียกท่านหมอมาพันแผลให้หลานเฟยเยว่ใหม่

รอจิตใจของนางสงบลงแล้ว ถึงได้เอ่ยถามว่า “ท่านพ่อ?”

สาวใช้เอ่ยอย่างระมัดระวัง “ดูเหมือนว่าประมุขกำลังพบแขกอยู่ที่ห้องหนังสือ”

“พบแขก?” นํ้าเสียงของหลานเฟยเยว่ดูแข็งกร้าวขึ้นหลายส่วน “ข้าได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้ เขากลับยังมีใจไปพบแขกอีกหรือ?”

สาวใช้คนนั้นรีบคุกเข่าลงในทันที เอ่ยอย่างเร่งร้อนว่า “คุณหนูโปรดอย่าเพิ่งโมโห เดิมประมุขก็ไม่ได้จะพบ แต่ได้ยินว่าในมือของพวกเขานั้นมียาที่จะสามารถฟื้นฟูรูปโฉมของคุณหนู ถึงได้ไปพบ” นางรีบเอ่ยคำที่ตนเองได้ยินออกมา

ยาที่สามารถฟื้นฟูรูปโฉมของตน!

หัวใจของหลานเฟยเยว่กระตุก ค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบแก้มของตนเองที่มีผ้าพันเอาไว้

เมื่อคิดถึงว่ารูปโฉมของตนเองได้ถูกทำลายไปแล้ว ความแค้นในใจของหลานเฟยเยว่ก็เพิ่มขึ้นมา ในตอนนี้ นางแค้นจนต้องการที่จะฆ่าทุกคนที่ได้เห็นรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดของนาง!

ตอนที่ความแค้นพร้อมไอสังหารในใจลุกขึ้นมา นางก็พยายามควบคุมเอาไว้

นางเอ่ยกับสาวใช้ว่า “เปลี่ยนชุดให้ข้า”

สาวใช้มองนางอย่างตกตะลึง “คุณหนู ท่านหมอบอกว่าท่านต้องรักษาตัว ไม่อาจขยับตัวมาก!”

หลานเฟยเยว่ใช้สายตาที่เยือกเย็นกวาดมองไป สาวใช้รีบหุบปากในทันที

ไม่กล้าพูดมากอีก นางหยิบชุดที่หลานเฟยเยว่ชอบสวมเป็นประจำออกมาช่วยนางสวมใส่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version