ตอนที่ 199-1
ตรงหน้ามีผู้สูงส่ง! สุนัขมากลวดลาย!
“เจ้าคือมู่ชิงเกอ?! เป็นไปไม่ได้!” ไท่สื่อซงฟื้นตื่นขึ้นมาจากอาการแข็งค้าง นํ้าเสียงดูชัดเจนขึ้นหลายส่วน เขาเบิกดวงตากว้าง มองสาวงามตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะเชื่อ
นี่! ในจดหมายที่ไท่สื่อเกาเขียนมา มู่ชิงเกอคนนั้นเป็นคุณชายที่มาจากแคว้นระดับสามชัดๆ เฮยมู่เคยต่อสู้กับเขาหลายครั้ง ก็ไม่เคยพูดมาก่อนว่าเขาเป็นสตรี!
เหตุใดเพียงแค่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเพศแล้ว?
“เจ้าจะบอกว่าข้าพูดโกหกงั้นหรือ?” นัยน์ตาสดใสของมู่ชิงเกอหรี่เล็กลง
สายตาเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าเหมือนกับซือมั่วที่อยู่ด้านข้างของนางไม่มีผิด แม้แต่คำพูดก็ยังเหมือนกัน!
กู่หยาเงียบลง คนไร้คู่รู้สึกปวดใจ!
ในสายตาที่เฉียบคมของเขา คุณชายจงใจเลียนแบบท่าทีที่เจ้านายของพวกเขาที่ใช้พูดกับไท่สื่อซง! มองไปที่เจ้านายของตนเองอีกครั้ง อา ท่าทางยิ้มหวานเช่นนั้น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักนี้เป็นใครกัน?
เป็นเขาที่สูงส่ง โดดเดี่ยว ราชาที่ฆ่าคนไม่กะพริบตาคนนั้นหรือไม่?
มองท่าทีที่เติมไปด้วยรักของท่านประมุขตนเองแล้ว กู่หยาก็รู้สึกใจสลาย
“ไม่ ไม่ ไม่ ข้าไม่กล้า…” และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลงานของซือมั่วหรือว่ามู่ชิงเกอที่เลียนแบบได้เหมือนมากกันแน่ ไท่สื่อซงรีบส่ายหน้าปฏิเสธในทันที
ในหัวของเขามีแต่ความสับสน ไม่เข้าใจเรื่องราวเท่าไหร่นัก
เขาคิดไม่ออกว่าเหตุใดผู้ชายคนหนึ่งถึงได้กลายเป็นผู้หญิงไปได้?
เขาคิดไม่ออกว่าเหตุใดจากผู้ชายกลายเป็นผู้หญิงคนนี้ ถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างกายมหาปราชญ์ได้ แล้วก็ยังกลายเป็นผู้หญิงของเขาอีก?
เขายิ่งคิดไม่ออกว่าเหตุใดสำนักหมื่นอสูรของพวกเขาจึงได้ตกอยู่ในห้วงแห่งเลือดแปดชั่วอายุคนนี้ได้ไปล่วงเกินผู้หญิงของมหาปราชญ์?
มองมหาปราชญ์ของพวกเขาอีกครั้ง…
ไท่สื่อซงลอบกวาดตามองไปที่ซือมั่ว ชั่วขณะนั้นก็ตกตะลึงขึ้นมา! นี่ นี่…มหาปราชญ์จะล้างแค้นสำนักหมื่นอสูรของพวกเขา ล้างแค้นให้คุณชายมู่!
ในที่สุดไท่สื่อซงก็เข้าใจ ใบหน้าเปลี่ยนไป หันมาเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “คุณชายมู่ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องเข้าใจผิด! เข้าใจผิด! ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอคุณชายมู่ได้โปรดเมตตาด้วย!”
“เข้าใจผิดงั้นหรือ?” มู่ชิงเกอยิ้มเย็น นัยน์ตาฉายแววดูแคลน “หลังจากที่ข้าฆ่าเจ้าแล้วค่อยบอกกับครอบครัวของเจ้าว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดดีไหม?”
ในใจของไท่สื่อซงชะงัก ดวงตาฉายแววหวาดกลัวมองนาง
ถ้าหากมีเพียงแค่มู่ชิงเกออยู่ที่นี่ เขาจะไม่กลัวเลย เพียงแค่ฆ่านางอีกครั้งก็สิ้นเรื่อง
แต่ว่าข้างกายของนางในตอนนี้มีเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งแผ่นดินหลินชวนยืนอยู่ หากท่านผู้นั้นดีดนิ้วมือมาก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งสำนักหมื่นอสูรกลายเป็นผุยผงได้แล้ว
ในใจของไท่สื่อซงรู้สึกโกรธแค้น คิดว่ามู่ชิงเกอช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก
ผู้หนุนหลังที่มาช่วยเหลือนี้เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นอาวุธวิเศษที่จะช่วยเอาชัยได้อย่างแน่นอน!
ชายชาตรีสามารถทนความอัปยศ แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย!
ไท่สื่อซงกัดฟันเอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “ดี! เรื่องนี้ข้ายอมรับผิดแล้ว คุณชายมู่คิดอยากจะให้สำนักหมื่นอสูรของข้าชดใช้ท่านอย่างไร ขอได้โปรดพูดออกมา ข้าไท่สื่อชงจะทำตามไม่บิดพลิ้ว!”
“ยอมรับก็ดีแล้ว จะได้ไม่เป็นข่าวลือว่าข้าใช้อำนาจรังแกคน” แววตาของมู่ชิงเกอฉายแววแข็งกร้าว รอยยิ้มมองไม่เห็นความอบอุ่น
ในใจของกู่หยาหมดคำพูดจะกล่าว ‘คุณชาย ท่านเช่นนี้ยังไม่เรียกใช้อำนาจรักแกคนอีกหรือ?’
ไท่สื่อซงเอ่ยว่า “ขอให้คุณชายมู่พูดให้ชัดเจนด้วย!”
เขาคิดว่า แค่ส่งคนไป มอบของชดใช้ให้ ก็สามารถทำให้เรื่องนี้สงบลงได้แล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าที่มู่ชิงเกอต้องการกลับไม่ใช่ของพวกนี้ “ไท่สื่อเกาได้ตายไปแล้ว เฮยมู่ก็ตายแล้ว คนของสำนักหมื่นอสูรที่เจ้าส่งไปอาณาจักรเซิ่งหยวนก็ตาย หมดแล้ว” มู่ชิงเกอเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“อะไรนะ!” ดวงตาของไท่สื่อซงเบิกกว้าง ข่าวคราวนี้ ทำให้เขาตกตะลึงมาก ท่าทางที่แสดงออกดูบ้าคลั่ง แค้นจนอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกมู่ชิงเกอเป็นขึ้นๆ
แต่ว่ากู่หยากลับขวางที่ตรงหน้าของเขา ซือมั่วก็จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“รู้ไหมว่าพวกเขาตายอย่างไร?” มู่ชิงเกอหัวเราะขึ้นมาอย่างสนุก เอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่ดูเย็นชาว่า “คนที่จะฆ่าข้า ข้าก็จะฆ่าตอบ!”
‘ที่แท้เป็นเจ้าที่ฆ่าลูกชายของข้า! ริมฝีปากของไท่สื่อซงสั่นแต่กลับไม่ได้เปล่งเสียงใดๆ ออกมา
เขาจ้องมู่ชิงเกอ ความโกรธในแววตาจะทำอย่างไรก็ควบคุมไม่อยู่ ความโกรธเช่นนี้เพิ่มขึ้นมาไม่หยุดดูเหมือนจะพุ่งออกมา
แต่มู่ชิงเกอก็ไม่ได้สนใจ
ดูเหมือนว่ายิ่งไท่สื่อซงโมโหนางก็ยิ่งพึงพอใจ
นางไพล่มือไว้ด้านหลัง ชุดแดงถูกสายลมพัดขึ้น ดูสง่างาม นางมองไปที่ไท่สื่อซง ยิ้มอย่างอำมหิตแล้วเอ่ยว่า “ยังมีอีกประโยคหนึ่ง ที่ข้ายึดถือมาโดยตลอด รู้หรือไม่ว่าคืออะไร?”
ไท่สื่อซงกัดฟัน หัวแทบจะระเบิดดวงตาฉายแววแค้นเคืองออกมา
มู่ชิงเกอหัวเราะเอ่ยว่า “คนหากทำผิดต่อข้า ข้ายังต่อให้สามส่วนได้ แต่คนผู้นั้นหากยังทำผิดต่อข้าอีก ข้าก็จะตัดรากถอนโคน!” ประโยคสุดท้ายของนาง นางพูด พร้อมกับไอสังหารและก็แสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงที่มาในครั้งนี้ ไท่สื่อซงได้ยินถึงไอสังหารในคำพูดของนางแล้ว ท่าทีก็เปลี่ยนไปมองไปทางซือมั่วแล้วเอ่ยว่า “มหาปราชญ์! หรือว่าท่านจะปล่อยให้หญิงผู้นี้มาพูดจาเหลวไหลอย่าง นั้นหรือ?”
ซือมั่วมองไปทางเขา พ่นคำที่ทำให้ไท่ลื่อซงหวาดกกลัวออกมา “หากให้ข้าจัดการ ตอนนี้เจ้าก็คงกลายเป็นฝุ่นผงไปนานแล้ว”
“มหาปราชญ์! สำนักหมื่นอสูรของข้าตั้งขึ้นมาในหลินชวนเป็นพันปี จะล่มสลายไปเช่นนี้เองน่ะหรือ หรือว่าท่านไม่กังวลใจว่าจะทำให้กำลังของหลินชวนขาดสมดุลงั้นหรือ?” ไท่สื่อซงยังคิดที่จะพยายาม
สายตาที่ซือมั่วมองมาเต็มไปด้วยความดูแคลน เขาไม่ได้หันกลับไปมองไท่สื่อซงอีก แต่กลับมองไปที่มู่ชิงเกอ ดวงตาที่เย็นชากลายเป็นอ่อนโยนชั่วขณะ เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวเกอเอ๋อร์เหนื่อยหรือไม่? อย่าได้ฝืนตัวเองมากนัก”
มู่ชิงเกอมุมปากกระตุก ผู้ชายคนนี้กำลังเร่งให้นางรีบฆ่าคนอย่างนั้นหรือ?!
เอาเถอะ จุดนี้เข้ากับความชอบของนางดี นางชอบ!
มุมปากของมู่ชิงเกอโค้งยิ้มขึ้นมา ใช้ดวงตาที่ดูโหดเหี้ยมมองดูไท่สื่อซง “กลียุคสร้างวีรบุรุษ ฐานกำลังใดๆ ก็ล้วนต้องมาจากรุ่งโรจน์ลงสู่ล่มสลาย ตอนนี้เจ้ายังจะมากล่าววาจาข่มขู่? ช่างน่าหัวเราะจริงๆ”
ไท่สื่อซงตกตะลึง จ้องมองนาง
มู่ชิงเกอกลับยิ้มเยาะ เอ่ยกับเขาว่า “ไท่สื่อซง คิดดูให้ดี อะไรที่เรียกว่าตัดรากถอนโคน”
พูดจบแล้ว นางก็ไม่สนใจเขาอีก มีกู่หยาคอยจ้องอยู่ด้านข้าง ไท่สื่อซงก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้กู่เย่ก็ได้ทำภารกิจสำเร็จแล้ว นำเอาคนทั้งหมดของสำนักหมื่นอสูรมารวมตัวกันอยู่ที่ลาน
ภายในคนเหล่านี้ มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง มีคนแก่ มีเด็ก
มู่ชิงเกอมองคนเหล่านี้ นัยน์ตาก็ไม่ได้มีความเมตตา มีแต่เพียงความเย็นชา นางพลิกมือ ขลุ่ยกระดูกอันหนึ่งก็มาอยู่ในมือของนาง
“ขลุ่ยอสูร!” จำขลุ่ยในมือของนางได้ ไท่สื่อซงร้องตะโกนขึ้น
มู่ชิงเกอยิ้มเบาๆ เล่นกับขลุ่ยอสูรในมือ เอ่ยกับไท่สื่อซงว่า “ได้ยินมาว่า นี่เป็นสมบัติวิเศษของสำนักหมื่นอสูรของพวกเจ้า สามารถควบคุมสัตว์อสูรให้ข้าใช้งานได้ แม้ว่าจะเป็นสัตว์อสูรที่ถูกทำให้เชื่องแล้วก็ต้องตกอยู่ในการควบคุมของเสียงขลุ่ยนี้ ฟังคำสั่งจากผู้เป่าขลุ่ย คิดดูแล้ว ในสำนักหมื่นอสูรนี้ ขลุ่ยอสูรถึงเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
“เจ้าจะทำอะไร!” ไท่สื่อซงตะคอกออกมา
เขาฟังออกถึงคำขู่จากคำพูดของมู่ชิงเกอ แต่ว่ามู่ชิงเกอกลับไม่ได้คิดจะพูดอะไรออกมาอีก นางจรดขลุ่ยอสูรที่เล่นอยู่ในมือไปที่ริมฝีปากของตนเอง ใช้พลังจิตเป่าออกไป เสียงขลุ่ยอันเป็นเอกลักษณ์เสียงหนึ่งดังออกมาจากขลุ่ยอสูร สะท้อนไปภายในสำนักหมื่นอสูร
เสียงของขลุ่ยอสูรไม่ได้ดังมาก แต่ก็ยังสามารถทำให้สัตว์อสูรได้ยิน
คนบนลานยังอยู่ในภาวะสับสนวุ่นวาย ส่วนสัตว์อสูรวิญญาณของพวกเขากลับเริ่มเคลื่อนไหว
เสียงขลุ่ยยิ่งสะท้อนยิ่งสนุก สัตว์อสูรวิญญาณที่อยู่ในถุงเก็บสัตว์อสูรเหล่านั้น หนีออกจากพื้นที่กักขัง พุ่งออกมา หันร่างกัดคอของเจ้านายของตนเองอย่างบ้าคลั่ง
กลิ่นเลือดยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายมากขึ้น และทำให้พวกมันบ้าคลั่ง!
“ไม่! ไม่อาจทำเช่นนี้! หยุดมือ! หยุดมือ!” ไท่สื่อซงตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจกลัว
แต่ว่า มู่ชิงเกอจะหยุดมือเพราะคำพูดของเขารึ?
คนเบื้องล่างตกเข้าไปอยู่ในท่ามกลางเสียงกรีดร้อง
คนของสำนักหมื่นอสูร ทำสงครามแต่ละครั้งก็ล้วนแต่ใช้สัตว์อสูรวิญญาณ ตอนนี้ถูกสัตว์อสูรวิญญาณย้อนกลับทำร้าย พวกเขากลับกลายเป็นอ่อนแอมาก
ในตอนนี้เอง ด้านล่างก็มีเสียงสั่นสะเทือนขึ้นมา ราวกับว่ากำลังมีม้าศึกเป็นพันเป็นหมื่นกำลังวิ่งมา
มุมปากของมู่ชิงเกอมีรอยยิ้มที่แปลกประหลาด เป่าขลุ่ยอสูรต่อ
ไม่นาน นอกหมอกควันหนาแน่น มีสัตว์อสูรวิญญาณจำนวนนับไม่ล้วนพุ่งออกมาจากป่า พุ่งตรงเข้าใส่ประตูของสำนักหมื่นอสูร เริ่มความบ้าคลั่งและโหดร้าย!
การฆ่าล้างที่โหดร้ายก็เริ่มต้นขึ้น…
มู่ชิงเกอให้ไท่สื่อซงดูให้ดีว่าฐานกำลังของเขานั้นล่มสลายต่อหน้าเขาได้อย่างไร
มองไปที่เบื้องล่าง มองดูคนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือมีความสัมพันธ์ศิษย์อาจารย์กับเขา ถูกตัดสินให้ตายเพราะความผิดพลาดของตนเองได้อย่างไร
พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์งั้นหรือ…
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอไม่มีร่องรอยของความเห็นใจ ต่อหน้าศัตรู คนที่นี่ก็ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ตั้งนานแล้ว พวกเขาเข้ามาสู่สำนักนี้ก็ต้องร่วมเป็นร่วมตายกับสำนัก เพราะว่าการตัดสินใจผิดพลาดครั้งหนึ่งของเจ้าสำนักของพวกเขา เพราะว่านายน้อยของพวกเขา ไม่ยอมอับอาย เพราะว่าความโลภของผู้อาวุโสของพวกเขา ถึงทำ ให้เกิดภัยพิบัติในวันนี้
นาง ไม่ใช่นางฟ้า แต่เป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มาล้างแค้น!
สำนักที่อาศัยอยู่ด้วยการฝึกสัตว์อสูร ยังจะมีใครที่มือไม่แปดเปื้อนอีก? ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเปื้อนเลือดคนก็ต้องเคยเปื้อนเลือดสัตว์อสูร สัตว์อสูรและคนที่ตายภายใต้เงื้อมมือของพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่?
เข้ามาในโลกใบนี้มีแค่เพียงแข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ ไม่มีอะไรที่บริสุทธิ์หรือผิดชอบชั่วดี!
สำนักหมื่นอสูรล่มสลายในพริบตา
ทุกคนตายภายในปากและกรงเล็บของสัตว์อสูรวิญญาณที่ตนเองเคยควบคุม
ไท่สื่อซงก็ถูกกู่หยาทิ้งลงไปในปากของสัตว์อสูรวิญญาณ ในที่สุดตายกลายเป็นอาหาร
มู่ชิงเกอเก็บขลุ่ยอสูร สุดท้ายก็มองไปยังสำนักหมื่นอสูรที่ไม่มีสัญญาณสิ่งมีชีวิตจากนั้นก็เอ่ยกับซือมั่วว่า “ไปเถอะ ไปหอหลอมศาสตรา”