ตอนที่ 207-2
การสู่ขอของมหาปราชญ์!
ทันใดนั้น สายฟ้าที่ดูทรงพลังยิ่งกว่าเก้าสายก่อนหน้านี้ก็โผล่ออกมาท่ามกลางเมฆดำ นัยน์ตาของไป๋สี่หดตัวลง จากนั้นดวงตาที่ดูเหมือนมนุษย์ก็กลายเป็นนัยน์ตาสีม่วงทองของอสรพิษกลืนสวรรค์เก้าบรรจบ ทำให้ลักษณะของที่เดิมที่ดูเย็นยะเยือกเผยความเป็นปีศาจน่าหวาดกลัวออกมา
นางจับข้อมือของมู่ชิงเกอ ถอยออกไป สร้างระยะห่างจากหยินเฉิน
“เป็นอะไร?” มู่ชิงเกอมองนางอย่างประหลาดใจ
ไป๋สี่กลับกัดฟัน เอ่ยอย่างแค้นเคืองว่า “จิ้งจอกที่น่าตายตัวนี้มีที่มาอย่างไรกันแน่ถึงได้สามารถดึงดูดเคราะห์อัสนีทางสายเลือดออกมาได้!”
“อะไรคือเคราะห์อัสนีทางสายเลือด?” มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างตกใจ
ดูจากท่าทางของไป๋สี่ นางก็คงได้กลิ่นของอันตรายครั้งใหญ่!
ไป๋สี่อธิบายไม่ทัน ตะโกนไปทางหยินเฉินว่า “จิ้งจอกน้อย อย่าเพิ่งได้ใจไป ยังมีเคราะห์อัสนีอีกสายหนึ่ง! อย่าตายล่ะ หากเจ้าตายแล้ว ชิงเกอของพวกเราจะเสียใจ มาก!”
คำพูดของนางทำให้ขนคอของหยินเฉินตั้งขึ้นมา นัยน์ตาสีเลือดจ้องมองเมฆครึ้มที่ไม่ยอมหายไปไหน
มู่ชิงเกอมองไปทางไป๋สี่
ไป๋สี่เอ่ยกับนางว่า “ชิงเกอ เจ้าแน่ใจนะว่าจะช่วยเขา?”
มู่ชิงเกอพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
“เช่นนั้นก็ดี อีกครู่หนึ่งเมื่อเคราะห์อัสนีฟาดลงมา เจ้าก็รีบใช้พลังของพันธะสัญญาในทันที ช่วยเขาแบกรับพลังของสายฟ้า แต่อย่าไปฝืนเป็นอันขาด อย่าให้ตัวเองต้องเสี่ยง” ไป๋สี่เอ่ยอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของมู่ชิงเกอหรี่เล็กลง
จากนํ้าเสียงของไป๋สี่ นางก็ฟังออกแล้วว่าเคราะห์อัสนีสายนี้ไม่ธรรมดา
ไม่กล้าได้ใจ นางก็เตรียมพร้อมขึ้นมา
‘เจ้านาย ตอนที่ท่านจะรับเคราะห์อัสนีนั้นให้เปิดช่องว่าง ข้าสามารถนำเอาพลังสายฟ้าที่ท่านรับไม่ไหวดึงดูดเข้ามาในบ่อสายฟ้าภายในช่องว่างได้’ คำพูดของเหมิ งเหมิงเหมือนดังความหวัง ทำให้ความกังวลในใจของมู่ชิงเกอลดลงไปไม่น้อย
นางลอบพยักหน้า เตรียมการทั้งหมด
เชื่อมพันธะสัญญา เปิดช่องว่าง
ในตอนที่มู่ชิงเกอเตรียมการทั้งหมดเสร็จแล้วนั้น เมฆสีดำที่คล้อยตํ่าจนแทบจะตกลงมาจากบนท้องฟ้านั้นในที่สุดก็ปรากฏสายฟ้าสีแดงที่สว่างจ้าออกมา
สายฟ้าสายนี้พอปรากฏ พลังที่สามารถทลายฟ้าดินก็พุ่งออกมา
ดุจดั่งไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะสามารถหนีไปจากการชำระล้างของเคราะห์อัสนีสายนี้ได้
“นี่เป็นเคราะห์อัสนีอะไรกัน?!” มู่ชิงเกอมองเคราะห์อัสนีสายนั้น เอ่ยอย่างตกตะลึง
เคราะห์อัสนีสีแดงเลือด นางเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก!
ครืน—–
เคราะห์อัสนีสีแดงเลือดแหวกเมฆดำฟาดลงมา พุ่งตรงไปที่ในกลางหน้าผากของหยินเฉิน
ภายในความทรงพลังอันแข็งแกร่ง ขนทั่วร่างของหยินเฉินตั้งขึ้น นัยน์ตาสีเลือด สีใกล้เคียงกันกับสายฟ้าสีเลือด
เปรี้ยง!
สายฟ้าสีแดงเลือดท่วมร่างกายของหยินเฉิน
พลังสายฟ้าอันยิ่งใหญ่เหล่านั้น แผ่กระจายออกไปรอบทิศ พุ่งเข้าใส่นํ้าตก เผาทำลายผืนหญ้า
เสียงความเจ็บปวดของหยินเฉินดังออกมาจากภายในสายฟ้า
มู่ชิงเกอไม่กล้าชักช้ารีบนำอาสายฟ้าที่ตัวของหยินเฉิน ดึงมาที่ร่างกายของตนเอง…
‘อั๊ก!’
พลังของเคราะห์อัสนีเข้าไปในร่างของมู่ชิงเกอจนทำเอานางกระอักเลือดออกมา
พลังของเคราะห์อัสนีนี้แข็งแกร่งกว่าที่นางเคยผ่านมามากมายนัก!
แต่โชคดีที่ร่างกายของนางเคยผ่านการปรับเปลี่ยนดัดแปลง ทั้งยังคุ้นเคยกับการฝึกฝนในบ่อสายฟ้า หลังจากที่ไม่ชินไปชั่วขณะ นางก็พยายามรับพลังสายฟ้าอันแข็งแกร่งสายนั้น
ดวงตากระจ่างของมู่ชิงเกอถูกสายฟ้าทำให้มีสีแดงผสมเจือปนอยู่ด้านใน
บนผิวของนางมีรอยบวมของเส้นเลือดเกิดขึ้น เกิดรอยแดงไปทั่วผิวหนัง
“ชิงเกอ เจ้ารับมากเกินไปแล้ว!” เห็นฉากนี้แล้ว เสียงเยาว์วัยที่ไม่เข้ากับความตึงเครียดของไป๋สี่ก็ดังขึ้นมา มู่ชิงเกอไม่ได้ตอบกลับ
แต่กลับนำเอาพลังของสายฟ้าบนร่างของหยินเฉินเพิ่มเข้ามาอีกส่วนหนึ่ง
แต่ทว่า นางไม่ได้แบกมันไว้ แต่นำพลังสายท้าเข้าไปสู่ภายในช่องว่าง แล้วเหมิงเหมิงก็มันส่งไปยังบ่อสายฟ้า
พลังสายฟ้าสีแดงเลือด ไหลผ่านร่างกายของมู่ชิงเกอ ชำระล้างไปทั่วเส้นเลือดของนาง เหมือนกับกำลังล้างพลังสายฟ้าที่นางมีมาแต่เดิม
บนแก่นพลังของพลังสายฟ้าของนางนั้นตอนนี้ก็ถูกพลังสายฟ้าสีแดงล้อมรอบ แทนที่สีม่วงนํ้าเงินที่มีแต่เดิม
ทั้งหมดนี้มู่ชิงเกอไม่ได้สังเกตถึง นางเพียงแต่ตั้งใจฝ่าฟันบททดสอบจากสวรรค์ไปพร้อมกับหยินเฉิน!
ผ่านไปอย่างยาวนาน พลังของสายฟ้าก็ค่อยๆ หายไป
มู่ชิงเกอที่อ่อนแรงถูกไป๋สี่รับเข้าไปไว้ในอ้อมอก
“ชิงเกอ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” นัยน์ตาสีม่วงทองของไป๋สี่เต็มไปด้วยความกังวลใจ
มู่ชิงเกอส่ายหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอนนั้นนางรู้สึกว่าทั้งร่างกายเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก อีกอย่าง นางก็เคยถูกปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายจนเซลล์ในร่างเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการฟื้นฟูพลังในร่างกายนาง
นางไม่สนใจร่างกายของตนเอง แต่กลับเป็นห่วงหยินเฉิน “หยินเฉินเป็นอย่างไรบ้าง?”
ไป๋สี่มองไปทางหยินเฉิน พลังสายฟ้าสีแดงโอบล้อมตัวของเขาเอาไว้มองไม่เห็นชัดเจน แต่ว่าเมฆดำได้หายไปแล้ว ท้องฟ้ากลับคืนสู่ความสดใส
ถอยสายตากลับ ไป๋สี่เอ่ยกับมู่ชิงเกอว่า “เขาไม่เป็นไรแล้ว น่าจะกำลังจำแลงกาย”
เมื่อได้ยินว่าหยินเฉินไม่เป็นอะไร ในที่สุดมู่ชิงเกอก็สามารถวางใจได้ เผยรอยยิ้มออกมา
ไป๋สี่เอ่ยต่อว่า “บอกแล้วว่าไม่ให้เจ้าฝืน”
“ข้าไม่เป็นไร” มู่ชิงเกอพูดออกมา ร่างกายก็ฟื้นฟูกำลังแล้วส่วนหนึ่ง
พร้อมกับความแข็งแกร่งขึ้นของร่างกาย นางก็รู้สึกว่าหลังจากตัวเองได้รับบาดเจ็บแล้ว ความรวดเร็วในการฟื้นฟูก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มองไปที่รอยเลือดบนร่าง มู่ชิงเกอเอ่ยกับไป๋สี่ว่า “ข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” พูดจบแล้ว นางก็หายไปจากสายตาของไป๋สี่ เข้าไปภายในช่องว่าง
และอย่างรวดเร็ว มูชิงเกอก็ออกมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของไป๋สี่ ร่างกายกระปรี้กระเปร่า รอยเลือดเหล่านั้นก็ถูกชำระล้างอย่างสะอาดแล้ว
“หยินเฉินกำลังจำแลงกายงั้นหรือ?” มู่ชิงเกอมองไปยังหยินเฉินที่ถูกพลังสายฟ้าสีแดงโอบล้อมไว้อยู่เอ่ยขึ้น
หยินเฉินในตอนนี้มีขนาดเล็กลงแล้ว ถูกพลังสายฟ้าสีแดงโอบล้อมไว้ ดูดุจดั่งร่างกายถูกชั้นสีแดงทาบทับไว้อีกชั้น
ชั้นสีแดงนั้นยังเคลื่อนไหวไปมาเหมือนมีชีวิต
ไป๋สี่พยักหน้า “อีกไม่นาน เจ้าก็สามารถมองเห็นจิ้งจอกตัวนั้นเปลี่ยนเป็นคนแล้ว” มู่ชิงเกอยิ้มไม่พูดจา นางไม่ได้บอกไป๋สี่ว่าที่จริงแล้วนางเคยเห็นหยินเฉิน เปลี่ยนร่างเป็นคนแล้ว ในตอนแรกสุดนั้น ในครั้งที่หยินเฉินสร้างภาพมายาคิดอยากจะเอาชีวิตนาง นางก็เห็นแล้ว
ระลึกความหลังอย่างละเอียด นางกับหยินเฉินก็รู้จักกันมาเป็นเวลานานมาก!
แต่ก็เหมือนกับผ่านไปภายในช่วงเวลาแวบเดียวจริงๆ!
ในตอนที่มู่ชิงเกอกำลังใจลอยออกไปไกลนั้น ชั้นสีแดงที่โอบล้อมร่างของหยินเฉินอยู่ๆ ก็แตกออกกลายเป็นแสงหายไป
ปรากฏเป็นเรือนร่างเนื้อสีขาวปรากฏอยู่ต่อหน้าของมู่ชิงเกอกับไป๋สี่
มู่ชิงเกอกะพริบตา ยังไม่ทันได้มองเห็นได้ชัดเจน ด้านหน้าก็ถูกมือข้างหนึ่งปิดเอาไว้
มือข้างนั้นเป็นของไป๋สี่ เรียวยาวนุ่มนวล นางปิดบังภาพตรงหน้าของตนเอง มู่ชิงเกอคิดครู่หนึ่งก็เข้าใจแล้ว
“จิ้งจอกเหม็น รีบใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้นะ! ”
ที่แท้…
มู่ชิงเกอขยับปากหัวเราะอย่างไร้เสียง เสียงอันเข้มงวดของไป๋สี่กลับมาพร้อมกับนํ้าเสียงที่ดูเหมือนเด็กทารกของนาง ช่างไม่มีความน่าเกรงขามดุดันเอาเสียเลย!
มู่ชิงเกอมองฟ้า รู้สึกไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้หญิงโตเต็มวัย เช่นไป๋สี่ถึงได้มีเสียงที่ดูใสบริสุทธิ์ราวกับทารกเช่นนี้ได้?
ในตอนที่สายตาของมู่ชิงเกอถูกบังเอาไว้นั้น สีหน้าเข้มงวดของไป๋สี่ก็จ้องไปยังชายที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากพื้น
ชายคนนั้นมีผมสีเงิน หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่น
เรือนร่างสูง เพรียวสมบูรณ์ เส้นกล้ามเนื้อ เห็นได้ชัดเจน เผยความรู้สึกที่ดูน่าหลงใหล รูปลักษณ์ยิ่งดูดึงดูด มีเสน่ห์ แต่กลับดูเย็นชา นัยน์ตาสีเลือดนั้น เพียงพอที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนยอมที่จะถูกดูดเข้าไปในนั้น เผ่าจิ้งจอกแต่เดิมก็เป็นเผ่าที่ได้รับความเอ็นดูจากสวรรค์ คนของเผ่าพวกเขา ขอเพียงแค่เปลี่ยนร่างได้สำเร็จ ภายนอกล้วนแต่งดงามโดดเด่น
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง หยินเฉินยังเป็นจิ้งจอกมายา! ราชาของเผ่าจิ้งจอก!
คำพูดของไป๋สี่ไม่ได้ทำให้หยินเฉินรู้สึกกระดากใจเลยสักนิด เขามองมาอย่างเย็นชา นัยน์ตาสีเสีอดวาววาบ “งูตะกละ สิ่งที่ไม่ควรดูก็ไม่ควรมองเข้าใจไหม?”
“อุบ!” มู่ชิงเกออดขำไม่ได้
งูตะกละ? หยินเฉินข้ามมิติมาหรือไม่? ชื่อเล่นที่ใช้เรียกไป๋สี่นี้ทำให้นางคิดไปถึงเกมส์งูคลาสสิกในชาติภพก่อน
คิดไปถึงเกมส์นี้ ก็คิดไปถึงความอยากอาหารของไป๋สี่
อืม ช่างเข้ากันอย่างน่าตายจริงๆ!
เสียงหัวเราะของมู่ชิงเกอ ก็ทำให้บรรยากาศเก้อเขินอึดอัด ถูกลบกลบไป
หยินเฉินมองไปทางมู่ชิงเกอ ดวงตาของนางถูกไป๋สี่บังเอาไว้ ขวางสายตาของนาง
นัยน์ตาของไป๋สี่กวาดมองไปมาบนร่างของหยินเฉิน กล่าวท้าทายเสียงเย็นชาว่า “จิ้งจอกเหม็น เจ้าเข้าใจหรือไม่ว่าอะไรเรียกว่าไร้ยางอาย”
ความรู้สึกที่เปลือยเปล่าไม่ดีจริงๆ แต่ว่าหยินเฉินยังเฉยๆ ไม่ได้สนใจไป๋สี่
“อา ไป๋สี่กล่าวถูกต้อง ไม่สวมใส่เสื้อผ้า อาจทำให้เป็นหวัดได้ง่าย หยินเฉิน ข้าส่งเจ้ากลับช่องว่างไปใส่เสื้อผ้าก่อน เสื้อผ้าเหล่านั้นเจ้าใส่ไปก่อน รอถึงลั่วตูแล้ว ข้าจะเชิญช่างตัดเสื้อมาวัดตัวตัดเสื้อให้เจ้า’’ มู่ชิงเกอเอ่ย
คำสั่งของมู่ชิงเกอ หยินเฉินแน่นอนว่าไม่อาจขัดได้ หายลับไป เขาก็หายไปจากสายตาของไป๋สี่