บทที่ 365
ในที่สุดองค์รัชทายาทก็หวั่นไหวแล้ว!
หรือในนั้นจะมีอะไรแอบแฝงอยู่?
ในใจทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีแผนใด?
ทุกคนค่อนข้างพิศวงงงงวยอยู่ในใจ แม้แต่ขุนนางที่เจนจัดที่สุดในราชสำนักก็เดาไม่ออกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้มีจุดประสงค์อะไร
จักรพรรดิซวนไม่ค่อยสบายใจนัก รู้สึกเหมือนลูกสะใภ้ที่จวนถึงมือกำลังจะหลุดลอยไปแล้ว!
เขากระแอมไอพลางเอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้จิ่วเอ๋อร์ยังต้องไปป่าทมิฬ ไม่ควรดื่มมากไปจริงๆ ทุกคนแค่มอบด้วยใจก็เพียงพอ ใช่แล้ว จิ่วเอ๋อร์ ก่อนหน้านี้เราบอกไปว่าต้องการมอบสมรสพระราชทานให้เจ้า ฉู่เอ๋อร์อายุยังน้อยมีความ…”
กู้ซีจิ่วใจเต้นโครมคราม นึกไม่ถึงว่าจักรพรรดิซวนยังไม่ลืมเรื่องนี้ เมื่อดูจากวาจาเขาก็เห็นได้ชัดว่าต้องการจับคู่เธอกับเศษเดนอย่างองค์ชายหรงฉู่ผู้นั้น!
เธอกำลังจะเปิดปากเอ่ย องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พลันลุกขึ้นยืน “เสด็จพ่อ ลูกมีเรื่องจะกราบทูลพะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิซวนเลิกคิ้ว มองเขาอย่างประหลาดใจ “เจียหลัว เจ้ามีอั ใดจะกล่าว?”
หรงเจียหลัวค้อมกายลงพลางเอ่ย “เสด็จพ่อ ลูกมีใจปฏิพัทธ์ต่อคุณหนูกู้ อยากตบแต่งนางเป็นชายาพะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดิซวนตกตะลึง
สีหน้าองค์ชายหรงฉู่ย่ำแย่ยิ่ง ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ค้อมกายลงกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ลูกก็ชื่นชมคุณหนูกู้ยิ่งนัก หากสามารถตบแต่งนางเป็นชายาได้ ลูกจะรักใคร่ทะนุถนอมนาง จะให้นางอยู่อย่างสุขสบายไร้กังวลแน่นอนพะย่ะค่ะ ถ้ามีนางอยู่ข้างกาย ลูกจะใส่ใจกับราชการบ้านเมืองได้มากยิ่งขึ้น และช่วยแบ่งเบาภาระของเสด็จพ่อ…”
องค์ชายหรงฉู่คารมคมคายซ้ำยังกล่าวได้ดีนัก น้ำเสียงที่เอ่ยไพเราะน่าประทับใจ
ในราชสำนักมีผู้สนับสนุนหรงฉู่อยู่ไม่น้อย คนเหล่านี้ก็พากันออกปากเพื่อเขาด้วย
แต่คนส่วนน้อยที่อยู่ฝ่ายองค์รัชทายาทก็พยายามถกเถียงด้วยเหตุผล
หรงเจียหลัวไม่เคยใกล้ชิดสตรีมาก่อน ทำให้พรรคพวกฝ่ายองค์รัชทายาทที่คอยสนับสนุนเขากังวลใจยิ่งนัก เกรงว่าเขาจะเป็นต้วนซิ่ว ไม่พิสมัยสตรีแต่ชมชอบบุรุษ
สิ่งที่กริ่งเกรงยิ่งกว่านั้นคือ หลังจากเขาขึ้นครองราชย์แล้วจะไม่ไยดีวังหลังจนทำให้ไร้ทายาทสืบทอดราชวงศ์ดังนั้นพรรคพวกฝ่ายองค์รัชทายาทเหล่านี้จึงเป็นกังวลกับองค์รัชทายาทผู้นี้มาก เมื่ออยู่ต่อหน้าก็จะเกลี้ยกล่อมเขาจนปากเปียกปากแฉะเป็นประจำ อยากให้เขาตบแต่งชายา รับสนมสักนางก่อนก็ยังดี จนใจที่องค์รัชทายาทผู้นี้ไม่รับฟัง…
ยามนี้เป็นการดี ในที่สุดองค์รัชทายาทก็หวั่นไหวแล้ว! ต้องการตบแต่งชายาเสียที!
ข่าวนี้สำหรับพรรคพวกขององค์รัชทายาทเปรียบเสมือนก้อนทองที่ หล่นลงมาจากฟ้ากระแทกกลางศีรษะ ยินดีปรีดาจนใบหน้ายับย่น พลอยสั่นสะท้านไปด้วย!
อย่าว่าแต่อีกฝ่ายที่องค์รัชทายาทพึงใจเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์เลย ยามนี้ต่อให้เขาพึงใจสตรีขี้ริ้วขี้เหร่ พวกเขาก็จะพยายามยื้อแย่งมาให้อย่างสุดชีวิต!
ยามนี้พวกเขาย่อมพยายามต่อสู้ช่วงชิงสุดกำลัง ต้นเรื่องยังไม่ได้พูดอะไร พวกเขาก็โต้แย้งจนหน้าดำหน้าแดง!
พรรคพวกฝ่ายองค์รัชทายาทมีขุนนางที่ฝีปากคมคายอยู่ พอได้โต้แย้งก็พูดไม่หยุด พูดจนนํ้าไหลไฟดับ ทำให้เรื่ององค์รัชทายาทตบแต่งกู้ซีจิ่วถึงขั้นบานปลายไปถึงโชคชะตาของอาณาจักร ความ เจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร เอ่ยจนน้ำลายกระเต็นเป็นฝอย พ่นใส่อีกฝ่าย จนพรรคพวกองค์ชายสี่ที่ถกเถียงกับเขาต้องคอยซับเหงื่ออยู่เนืองๆ…
พรรคพวกฝ่ายองค์ชายสี่ก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาใช้วิธีเวียนกันพูดทีละคนมาต่อกรกับเขา
คนที่เข้าร่วมสงครามมีมากขึ้นเรื่อยๆ
งานเลี้ยงส่งกลายเป็นการประชุมโต้วาทีของเหล่าขุนนางในราชสำนัก เหล่าขุนนางต่างแสดงความคิดเห็นของตน ร้อนระอุอย่างยิ่ง
ทำให้บรรดาฮูหยิน คุณหนู คุณชายทั้งหลายที่ไม่เคยอยู่ในราชสำนักมองกันจนตาค้างอ้าปากกว้าง ได้เปิดโลกใหม่
กู้ซีจิ่วก็คิดไม่ถึงว่าหินก้อนเดียวจะก่อระลอกคลื่นใหญ่โตถึงเพียงนี้ จึงมึนงงไปครู่หนึ่ง
เพียงแต่เธอก็คาดหวังให้กระแสน้ำนี้ขุ่นขึ้นเรื่อยๆ จะให้ดีต้องขุ่นจนจักรพรรดิซวนเลิกวุ่นวายจับคู่เพี่อให้โอรสทั้งสองอยู่ร่วมกันอย่างสงบ เช่นนั้นจะดีที่สุด
ดังนั้นเธอจึงปิดปากเงียบตลอด นั่งนิ่งไม่ไหวติง
“เด็กน้อย ที่แท้เจ้าเป็นที่ต้องการถึงเพียงนี้เชียว” จู่ๆ นํ้าเสียงเอื่อยเฉื่อยของตี้ฝูอีก็ลอดเข้ามาในหู
กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อ เอียงคอมองเขาแวบหนึ่ง