Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 716

บทที่ 716 เช่นนั้นเจ้าสนใจอะไร?

ถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของตี้ฝูอี ดังนั้นเพื่อสร้างให้หุ่นเชิดตัวนี้คล้ายคลึงที่สุดนางจึงไม่ได้สร้างเครื่องหน้าทั้งห้าให้มันจริงๆ เนื่องจากนางรู้สึกว่าเครื่องหน้าที่ตนจินตนาการเอาเองล้วนมิใช่เขา…

นางสวมหน้ากากอันนั้นให้มันอีกครั้งอย่างหดหู่ ด้วยเหตุนี้มันเลยกลายเป็นเขาที่มีชีวิตชีวาอีกครั้ง สามารถพูดคุยเป็นเพื่อนนางได้ ไปเที่ยวเทศกาลความรักเป็นเพื่อนนางได้ นางอยากให้ทำสิ่งใดเขาก็ทำสิ่งนั้น ขอเพียงใช้วิชาหุ่นเชิดควบคุมเขาก็พอ…

นางพริ้มตาลงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นมาเหมือนนึกอะไรได้ “เมื่อกี้เจ้าบอกว่ามีภารกิจอะไรที่ยังไม่สำเร็จ ?! ภารกิจอะไร?”

นิ้วคนชุดม่วงผู้นั้นไล้ใบหน้านาง ถอนหายใจเบาๆ “ชิงหลัวข้ามีที่มาอย่างไร?”

อวิ๋นชิงหลัวขมวดคิ้ว “ข้าสร้างขึ้นมาไง ข้าเป็นปรมาจารย์หุ่นเชิด…”

“หากอาศัยฝีมือทั้งหมดของเจ้า ก็สามารถสร้างให้เหมือนเขาอย่างสมบูรณ์ได้ แม้แต่กลิ่นอายของข้าก็เหมือนเขาอย่างสมบูรณ์มิใช่หรือ?”

อวิ๋นชิงหลัวเงียบงัน

นางเป็นปรมาจารย์หุ่นเชิดระดับสูง ย่อมสามารถสร้างหุ่นเชิดได้ แต่หุ่นเชิดทั้งหมดที่สร้างออกมาจะไม่มีชีวิตจิตใจ ต้องให้ปรมาจารย์หุ่นเชิดใช้วิชาหุ่นเชิดควบคุม และเมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ปกติแล้ว ท่วงท่าการเคลื่อนไหวและประสิทธิภาพในการต่อสู้ของหุ่นเชิดจะด้อยกว่าอยู่บ้าง บนร่างหุ่นเชิดทุกตัวล้วนมีกลิ่นอายพิเศษชนิดหนึ่งอยู่ ทำให้แยกแยะความแตกต่างกับมนุษย์ปกติได้ง่ายมาก

นางชอบทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ดังนั้นในยามที่ครอบครองเขาไม่ได้ จึงสร้างหุ่นเชิดของเขาขึ้นมาคลายความเหงา แต่หุ่นเชิดที่สร้างขึ้นมาล้วนมีข้อบกพร่องโน้นนี่ ทำให้นางสร้างมันให้เหมือนเขาไม่ได้ ล้มเหลวระหว่างสร้างง่ายดายนัก

จวบจนวันหนึ่ง นางได้รับการชี้แนะจากคนผู้หนึ่งในความฝัน คนผู้นั้นสอนวิธีสร้างหุ่นเชิดแบบพิเศษให้นาง ซํ้ายังมอบเส้นผมของตี้ฝูอีให้นางเส้น หนึ่งด้วย…

หลังจากตื่นขึ้นมานางก็จำขั้นตอนการสร้างหุ่นเชิดที่แสนซับซ้อนนั้นได้ จากนั้นก็ใช้เส้นผมของตี้ฝูอีใช้เวลาอยู่สองปี ในที่สุดก็สร้างมันที่เหมือนเขาทุกประการขึ้นมาได้…

อวิ๋นชิงหลัวมองหุ่นเชิดที่อยู่กับตนมาเป็นเวลาสองปี “เจ้า…”

หุ่นเชิดตัวนั้นกุมมือน้อยๆ ข้างนั้นของนางไว้ จากนั้นก็แย้มยิ้ม “ข้าแตกต่างจากหุ่นเชิดพวกนั้น ชิงหลัว ข้าอยู่ข้างกายเจ้าได้ตลอด ไม่หลีกลี้หนีหาย แต่เจ้าติดค้างหนี้นํ้าใจของคนผู้นั้น นํ้าใจนี้เจ้ายังต้องใช้คืน…”

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด หัวใจอวิ๋นชิงหลัวจึงสั่นสะท้านอยู่บ้าง “คนผู้นั้น…คือใคร?”

หุ่นเชิดตัวนั้นยิ้มน้อยๆ ยกมือปัดไรผมของนาง “ต่อไปเจ้าก็จะรู้เอง”

อวิ๋นชิงหลัวกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ข้าอยากรู้ตอนนี้!”

หุ่นเชิดยิ้มนิดๆ มองดูนางเงียบๆ

อวิ๋นชิงหลัวโมโหขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าคว้ากระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากที่ใดจ่อเข้าที่ลำคอเขา “พูด!”

ปลายกระบี่แทงเข้าเนื้อ โลหิตซึมออกมา หุ่นเชิดตัวนั้นนิ่งเงียบ แม้กระทั่งรอยยิ้มตรงมุมปากก็ไม่แปรเปลี่ยนไปเลย

อวิ๋นชิงหลัวเดือดดาลยิ่งนัก ข่มขู่เขาติดๆ กัน หลายประโยค แม้กระทั่งถ้อยคำจำพวกว่าจะนำเขาไปทำลายทิ้งก็กล่าวออกมาแล้ว ผลคือหุ่นเชิดตัวนี้ยังคงเงียบงันเช่นเดิม แย้มยิ้มดั่งไม้ท่อนหนึ่ง

ในที่สุดอวิ๋นชิงหลัวก็ถอดใจ ทำได้เพียงเก็บมันเข้าไปในถุงเก็บของอีกครั้ง แล้วเก็บไว้ให้ดี

ถุงเก็บของใบนี้เป็นถุงเก็บของระดับสูง สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดได้ตามใจนึก นางซ่อนมันไว้ค่อนข้างมิดชิด เก็บไว้ในห้วง

มิติที่นางบ่มเพาะขึ้นมา หากมิใช่ผู้ที่ฝึกฝนวรยุทธ์พิเศษเช่นนาง ก็ล้วงไปจากนางไม่ได้…

….

ยามที่ตี้ฝูอีเดินออกมาจากเรือนของอวิ๋นชิงหลัว ด้านนอกมีกลุ่มคนแสร้งเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ไม่น้อย

อาจารย์ที่ปรึกษาของอวิ๋นชิงหลัว ค่อนข้างเป็นห่วงศิษย์ของตน ทำหน้าหนาก้าวเข้าไปสอบถาม “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ชิงหลัวนาง…”

ตี้ฝูอีไม่หยุดฝีเท้าเลย ตอบเขาอย่างเฉยชาเพียงสามคำ “ไม่ถึงตาย”

แล้วสาวเท้าจากไป

นํ้าเสียงนี้ฟังอย่างก็ไม่คล้ายว่าดี ผู้คนที่อยู่รอบๆ มองหน้ากัน ไม่ทราบว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหมายความว่าอย่างไร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version