บทที่ 132

คุณหนูกู้หกชนะอย่างใสสะอาด!

จักรพรรดิซวนลุกยืนขึ้น “ดี! เยี่ยมมาก! เยี่ยมมาก! เสี่ยวซีจิ่ว เจ้าไม่ทำให้เราต้องผิดหวังจริงๆ!”

เขาหันไปถามทูตสวรรค์ฝ่ายขวาเทียนจี้เยวี่ย “ท่านทูตสวรรค์ เป็นอย่างไรบ้าง? ครั้งนี้เสี่ยวซีจิ่วชนะแล้วใช่ไหม?”

สายตาของเทียนจี้เยวี่ยตกลงบนร่างของกู้ซีจิ่วครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเล็กน้อย “คุณหนูกู้หกชนะอย่างใสสะอาด!”

คนที่อยู่บนอาคารยังดีหน่อย ถึงอย่างไรส่วนใหญ่ก็เป็นขุนนางในราชสำนัก ค่อนข้างสงบเสงี่ยมเงียบขรึม กู้ซีจิ่วได้รับชัยชนะอย่างงดงามพวกเขาก็เพียงแสดงความยินดีและปรบมือเท่านั้น

แต่ด้านล่างอาคารกลับมิใช่เช่นนั้น ด้านล่างอาคารส่วนใหญ่เป็นสามัญชนคนธรรมดา พอข่าวที่กู้ซีจิ่วชนะการแข่งขันแพร่กระจายลงไป เสียงไชโยโห่ร้องก็ปะทุขึ้นทันที มีแม้กระทั่งผู้ที่หยิบประทัดขึ้นมาจุดข้างถนน เสียงดัง ปังๆ คึกคักเป็นพิเศษ สีหน้าของกู่ซีซีซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่พูดอะไรสักคำ ทำได้เพียงเบิกตามองกู้ซีจิ่วเก็บเตาหลอมโอสถชั้นยอดเข้าไปในถุงเก็บของ

นางไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ยกมือแตะริมฝีปากผิวปากออกมา เรียกนกกระเรียนมงกุฎแดงสัตว์พาหนะของตนมา แล้วบินจากไปอย่างเศร้าซึม

กู้เซียเทียนร้องเหอะอย่างเย็นชา “นางขาดทุนแล้ว!”

กู้ซีจิ่วยกชาถ้วยหนึ่งขึ้นมาดื่มไม่ได้กล่าวอะไร ขาดทุนหรือ?

มองเผินๆ แล้วการเดิมพันครั้งนี้ต่อให้กู่ซีซีพ่ายแพ้ก็ไม่ได้สูญเสียอะไร ถึงอย่างไรของเดิมพันก็มาจากองค์ชายสี่หรงฉู่ แต่สิ่งที่นางสูญเสียก็คือชื่อเสียง ชื่อเสียงของหมอเทวดา ต่อไปนางคงไม่สามารถเดินวางท่าในทวีปนี้ได้อีกแล้ว…

ภายใต้ความคิดเช่นนี้นางเสียหายอย่างใหญ่หลวงแล้ว!

วิธีการช่วยชีวิตคนของกู้ซีจิ่วในครั้งนี้ช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก หมอหลวงโจวอดมาขอคำชี้แนะไม่ได้ “คุณหนูกู้ คุณชายตระกูลยวี๋ทั้งสองที่แท้แล้วถูกพิษอะไรหรือ?”

กู้ซีจิ่วส่ายศีรษะ “พวกเขาไม่ได้ถูกพิษ ไม่แม้แต่จะป่วยด้วยซํ้า ที่จริงแล้วพวกเขาโดนคำสาปประเภทหนึ่ง”

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ จักรพรรดิซวนจึงถามออกมา “คำสาปอะไร?”

กู้ซีจิ่วยิ้มนิดๆ “อันที่จริงเป็นคาถาสะกดใจประเภทหนึ่ง ตอนอยู่ในป่าทมิฬคุณชายทั้งสองน่าจะประสบกับคนหรือสิ่งที่แปลกๆ เข้า จึงถูกผู้อื่นสาปแช่ง…”

เห็นผู้คนสับสนงงงวย กู้ซีจิ่วเลยเล่าสาเหตุทั้งหมดออกมาโดยตรง “คำสาปพิฆาตที่จริงแล้วเป็นคำสาปสะกดใจประเภทหนึ่ง ผู้ที่โดนสาปแรกเริ่มจะถูกบังคับให้กินยาที่มีฤทธิ์หลอนประสาทลงไป ทำให้ผู้ที่ถูกสาปรู้สึกหลอน เห็นว่าเขาอ่อนแอลงทุกวันๆ จนตายไป รอพวกเขาฟื้นจากอาการหลอน ผู้สาปก็จะร่ายคำสาปแบบเดียวกันใส่พวกเขา…ยาหลอนประสาทชนิดนี้ถึงแม้จะไม่มีพิษถึงตาย แต่กลับทำให้คนเป็นใบ้ไปสามวัน มือไม้ก็อ่อนแรง ไร้ความรู้สึก เหมือนคนพิการ เดิมทียาหลอนประสาทชนิดนี้จะออกฤทธิ์นานสามวัน หลังจากผ่านไปสามวันก็จะสลายหายไปเอง แต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ถูกข่มขวัญอย่างหนักจนวิตกจริต ผู้ที่ถูกสาปจึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า คาถานี้จะทำให้พวกเขาตาย แม้กระทั่งตายก็ไม่มีทางพูดความลับออกมา ตามความคิดเห็นของข้า สุขภาพของเขาจะค่อยๆ เสื่อมถอยลง…จนกระทั่งเสียชีวิตลงภายในระยะเวลาที่คำสาปกำหนดไว้”

เนื่องจากจิตใจของผู้ต้องสาปรู้สึกว่าตนเองต้องตายย่างแน่นอน ดังนั้นคำสาปนี้จึงยากจะแก้ไข

นอกเสียจากผู้แก้คำสาปจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญการใช้พิษ ยิ่งไปกว่านั้นต้องชำนาญการทำสงครามจิตวิทยาอีกด้วย

ต้องทำให้ผู้ที่ถูกสาปเชื่อมั่นในตัวเธอให้ได้จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดคำแนะนำให้ถึงจะบรรลุผลที่เหมาะสม

ยาหลอนประสาทชนิดนี้ก่อให้เกิดอาการคล้ายถูกพิษร้ายแรงชนิดหนึ่ง มองเผินๆ ไม่อาจแยกแยะได้

ดังนั้นกู่ซีซีจึงคิดว่าพี่น้องคู่นี้ถูกพิษร้ายแรงชนิดนั้น ยาแก้พิษที่นางใช้อันที่จริงก็เป็นยาพิษชนิดหนึ่ง ถ้าหากสองพี่น้องถูกพิษร้ายแรงชนิดนั้นจริงๆ จะเป็นการใช้พิษแก้พิษ แก้ไขได้สมบูรณ์แบบ

………………………….

[1] กายบริหารเบญจสัตว์ คือ ท่าออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพวิธีหนึ่งที่สืบทอดกันมาของจีน โดยท่าการเคลื่อนไหวเลียนแบบท่าทางของสัตว์ 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก