บทที่ 92 : ทักษะธนู
ไม่ช้า เหล่านักธนูชั้นแนวหน้าก็ได้มารวมตัวกันใกล้แม่ทัพเฮิง บางคนนั้นเป็นผู้ฝึกตนขั้นห้าและหก ในขณะที่ที่เหลือคือผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดและแปด
ทั้งกลุ่มนั้นเต็มไปด้วยคนวัยกลางคน ยกเว้นจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิงนั้นรู้สึกสงสัยเล็กๆ ขณะที่ยืนอยู่ในกลุ่มคน ผู้ที่อยู่ใกล้ๆ เขาก่อนหน้าได้ดันเขาออกมาก่อนที่เขาจะทันได้รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น
“สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำคือการดึงความสนใจราชาอินทรีปากทองไปใกล้ๆ เมือง…” แม่ทัพเฮิงบอกแผนแก่พวกเขา
แผนนั้นง่ายดาย สร้างความรำคาญและบาดเจ็บให้ราชาอินทรีและดึงความสนใจของมัน จากนั้นจึงฆ่ามันด้วยการร่วมมือกันของผู้ฝึกตนขั้นเก้า
“นี่อาจจะ…” นักธนูจำนวน 7-8 คนลังเลเล็กๆ
“อันใดกัน!? พวกเจ้าไม่อาจทำสิ่งง่ายๆ เช่นนี้ได้หรือ?” แม่ทัพเฮิงเอ่ยเสียงเย็น
เหล่านักธนูพลันเหงื่อไหลโชกทันที
“แม่ทัพ มันเป็นเช่นนี้ ความเร็วของราชาอินทรีปากทองนั้นเร็วเกินไป นอกจากนั้นเมื่อมันเคลื่อนไหว มันยังดึงสายลมไปกับมัน ดังนั้นก่อนที่ลูกธนูจะเข้าไปใกล้ มันจะเลี้ยวเบนไปก่อนถึงตัวโดยอัตโนมัติ” หนึ่งในนักธนูวัยกลางคนเอ่ยอย่างจนใจ
เขานั้นเป็นนักธนูที่มีพลังฝึกตนขั้นเจ็ด และคำกล่าวของเขาก็ได้รับเสียงเห็นด้วยจากผู้อื่น สายตาของจ้าวเฟิงนั้นดีกว่าและชัดเจนกว่า ดังนั้นเขาจึงรู้ถึงความยากของมัน
อย่างแรก ความเร็วของราชาอินทรีปากทองนั้นเร็วมาก และเมื่อมันพัดพาสายลมรอบด้านจะรบกวนการเคลื่อนไหวของลูกธนู อย่างที่สองนั้นคือพลังป้องกันของราชาอินทรีนั้นสูงยิ่ง มันสามารถรับการโจมตีจากผู้ฝึกตนขั้นแปดได้สบายๆ
ไม่เพียงเท่านั้น เหล่านักธนูยังต้องยิงจากบนพื้นในขณะที่ราชาอินทรีนั้นอยู่บนท้องฟ้า
แน่นอนว่ามันยังมีอีกเรื่องหนึ่ง
หากพวกเขาสร้างอาการบาดเจ็บให้มันได้แล้วอย่างไรเล่า? เหล่านักธนูจำต้องดึงความสนใจของมันไปยังสถานที่ลอบโจมตีอีกเช่นกัน
ผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดและแปดโดยทั่วไปย่อมถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ในเสี้ยววินาที ดังนั้นแล้วเหล่านักธนูในที่นี้จึงไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย
ในตอนนี้เอง
“อ๊ากกกก”
ร่างสีทองของราชาอินทรีพุ่งโฉบอีกครั้งคร่าชีวิตของคนนับสิบไปในคราเดียว
ฟุ่บ!
หลังจากที่ฆ่าคนกลุ่มนั้นเสร็จ ราชาอินทรีจึงหันไปในอีกทิศทาง
“ศิษย์น้องเป่ยโม่ย ระวัง!” เย่หลินเหลียนและหยางชิงชั่นตะโกนลั่น
ครานี้ ราชาอินทรีปากทองนั้นมุ่งตรงไปยังร่างของเป่ยโม่ย เด็กหนุ่มศิษย์หลักของเจ้าเมืองกว่านจวินกำลังสู้อยู่กับสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดอีกตัวอยู่และได้ยินเสียงแหวกอากาศขึ้นจากเบื้องหลังของเขา
“นกกระเรียนถลาลม!”
เป่ยโม่ยใช้วิชาเคลื่อนไหวอันล้ำลึก ร่างของเขานั้นราวกับกลายเป็นนกกระเรียนและลอยขึ้นไปบนอากาศ มันเป็นวิชาเซียน!
กว๊ากกก
ราชาอินทรีปากทองกรีดเสียงร้องก่อนจะปะทะกับเด็กหนุ่มใจกลางอากาศ
ตูม!
การโจมตีของราชานกอินทรีถูกป้องกันไว้ ทว่าเป่ยโม่ยกลับได้รับบาดเจ็บเล็กๆ หลังจากที่ราชาอินทรีปากทองฆ่าเขาไม่สำเร็จ มันก็หายไปอีกครั้งเพื่อหาเป้าหมายใหม่
“ไอ้เวรนี่… หากศิษย์น้องเป่ยโม่ยตาย…” เย่หลินเหลียนปาดเหงื่อเย็นบนศีรษะ
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
ในครานี้ เหล่านักธนูชั้นยอดต่างยิงธนูของพวกเขาไปยังราชานกอินทรีปากทอง
เคร้ง เคร้ง
ลูกธนูจำนวนหนึ่งสามารถสร้างประกายไฟได้บนปีกของมัน ทว่าไม่ได้ทะลวงพลังป้องกันนั้นเข้าไปแม้แต่น้อย สีหน้าของเหล่านักธนูหม่นลงเล็กๆ
“เว้นเสียแต่จะยิงโดนจุดตาย…” เหล่านักธนูส่ายศีรษะ
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ทันใดนั้น ธนุอีกจำนวนหนึ่งก็ได้โดนร่างของราชาอินทรี ทว่าไม่มีดอกใดที่สามารถแทงทะลุขนที่แข็งราวโลหะนั้นได้
ล้มเหลวอีกครั้ง!
เหล่านักธนูต่างมีสีหน้าขมขื่น
จ้าวเฟิงใช้ธนูบันไดสุวรรณของเขา ทว่าสถานการณ์ก็ยังคงเดิม ลูกธนูที่เข้าไปใกล้ร่างของมันต่างถูกผลักออกโดยแรงลมจากการกระพือปีกของมัน
กว๊ากกกก
ราชาอินทรีปากทองพลันโฉบลงด้านล่างใกล้ๆ กับเหล่านักธนู
“อ๊ากกกก”
สีหน้าของเหล่านักธนูขาวซีดขณะที่พยายามหลบการโจมตีอย่างสุดชีวิต ทว่าก็ยังตายไปสองคน
นภาลอยล่อง!
จ้าวเฟิงเริ่มใช้วิชาเคลื่อนไหวของเขา จากนั้นจึงนำคันธนูบันไดสุวรรณของเขาออกมาพร้อมด้วยเสียง ‘ฉึก’ จัดการสัตว์ปีศาจระดับต่ำไปสองตัวและผลักดันสัตว์ปีศาจระดับสูงออกไปหนึ่งตัว
เมื่อเทียบกับนักธนูทุกคนแล้ว จ้าวเฟิงนับว่าเยือกเย็นยิ่งนัก
หืมม?
ครานี้แม่ทัพเฮิงได้สังเกตเห็นจ้าวเฟิงเช่นกัน และเขารู้สึกประหลาดใจที่อีกฝ่ายยังคงเยือกเย็นได้ในสถานการณ์เช่นนี้
“ศิษย์น้องจ้าว เจ้าเชี่ยวชาญธนูหรือ?” เย่หลินเหลียนเองก็สังเกตเห็นเด็กหนุ่มเช่นกัน
“ขอรับ บางทีข้าอาจทำได้” จ้าวเฟิงผงกศีรษะและปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าเย่หลินเหลียน
“นายน้อยจ้าว ท่านมั่นใจหรือ?” แม่ทัพเฮิงมีสีหน้าเคร่งเครียด
หากอีกฝ่ายเป็นเพียงนักธนูธรรมดา เขาย่อมไม่ใส่ใจที่จะให้อีกฝ่ายลอง ทว่าจ้าวเฟิงนั้นเป็นศิษย์ของเจ้าเมืองกว่านจวิน ความรับผิดชอบย่อมตกอยู่ที่เขา
“หากเป็นเพียงการดึงความสนใจมันลงมา เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหามาก” ขณะที่เด็กหนุ่มเอ่ยเช่นนั้น เขาก็ได้รั้งสายธนูของธนูบันไดสุวรรณอย่างช้าๆ และตัดสินใจจะพิสูจน์คำกล่าวของเขาด้วยการกระทำ
เฮือก
เขาสูดลมหายใจเย็นเยียบขณะที่แสงสีเขียวซีดปรากฏขึ้นบนดวงตาของเขา ราชาอินทรีพลันเชื่องช้าลงและชัดเจนขึ้นในสายตาของเขา
ฟุ่บ!
ภายใต้สายตาอันเฉียบแหลม จ้าวเฟิงสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของกระดูกและโลหิตของอีกฝ่าย
เขายืนนิ่งและเพ่งความสนใจไปยังราชาอินทรี ทว่ายังไม่ได้ปลดปล่อยธนูออกไป
“ไม่ธรรมดา!”
แม่ทัพเฮิงและเย่หลินเหลียนมองหน้ากัน ทั้งสองรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแหลมคมจากร่างของเด็กหนุ่ม
กว๊ากกกก!
ทันใดนั้น ราชาอินทรีทองก็ได้หมุนตัวกลับ
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
จ้าวเฟิงพลันปลดปล่อยลูกธนูของเขาออก มันราวกับว่าราชาอินทรีนั้นได้มุ่งตรงเข้าหาลูกธนูและไม่มีทางอื่นใดรอบๆ
ในที่สุด ธนูสีทองทั้งสามดอกและราชาอินทรีก็ได้ปะทะกัน
เยี่ยม! โดนแล้ว!
ลูกธนูและอินทรีนั้นต่างมุ่งหน้าไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ทว่าพบกันในที่สุด
ฟุ่บบบ
ลูกธนูสีทองพุ่งผ่านชั้นของสายลมและแทงทะลุเข้าไปในตาของราชาอินทรีอย่างสมบูรณ์แบบ ภาพนั้นทำให้นักธนูด้านล่างต้องยืนมองนิ่ง ดวงตาว่างเปล่า
“เขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร…?”
นักธนูผู้ฝึกตนขั้นหกมีสีหน้าเหลือเชื่อ เขาไม่อาจยอมรับได้ว่าจ้าวเฟิงนั้นสามารถยิงดวงตาของราชาอินทรีได้อย่างสมบูรณ์แบบได้
เคร้ง!
ธนูสีทองได้ทิ้งรอยประกายไฟไว้เมื่อมันเบี่ยงออกไปจากเปลือกตาของราชาอินทรี
โชคร้ายยิ่ง!
เหล่านักธนูถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ราชาอินทรีปากทองนั้นได้ปิดเปลือกตาของมันลงในวินาทีสุดท้าย ในฐานะของสัตว์ปีศาจระดับสุดยอด ปฏิกิริยาตอบโต้ของมันนั้นรวดเร็วอย่างมาก ทว่ามันไม่ได้สังเกตว่ารอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของจ้าวเฟิง
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
ธนูอีกสองดอกได้ตามธนูดอกแรกไปและกระแทกเข้าที่เปลือกตาของมันอีกครั้ง
เพราะว่าธนูดอกแรกได้ทำลายการป้องกันจากสายลมไป เส้นทางการบินของอีกสองดอกจึงดีกว่ามาก
เคร้ง!
รอยเลือดไหลออกจากดวงตาของราชาอินทรี
ฉึก!
ธนูดอกที่สามได้แทงทะลุเข้าไปในลูกตาของมัน
ธนูสองดอกแรกนั้นเป็นเพียงการเปิดทางให้ธนูดอกที่สาม ธนูดอกที่สามนั้นเป็นไม้ตาย
กร๊าซซซซซซ
เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นจากท้องฟ้าขณะที่ราชาอินทรีปากทองได้จ้องมายังร่างของจ้าวเฟิงด้วยดวงตาแดงฉาน
“เตรียมการลอบจู่โจม!”
จ้าวเฟิงพลันใช้วิชานภาลอยล่องของเขาและพุ่งไปยังสถานที่ลอบโจมตี ในตอนนี้แม่ทัพเฮิงและเย่หลินเหลียนก็ได้หลุดออกจากความตกตะลึงของพวกเขาในที่สุด
ซุ่มโจมตี!
เตรียมพร้อม!
แม่ทัพเฮิง เย่หลินเหลียน และผู้ฝึกตนขั้นสุดยอดของขั้นแปดอีกจำนวนหนึ่งกำลังเฝ้ารออยู่
กว๊ากกกก!
ราชาอินทรีพุ่งเข้าหาจ้าวเฟิงด้วยความกราดเกรี้ยว เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกและรู้ว่าตัวเขาถูกเล็งโดยราชาอินทรีปากทองไว้แล้ว
ย่างก้าวหมอกผันแปร!
ร่างของเขาเคลื่อนไหวและหลอมกลืนไปกับฝูงชนในเมืองโดยไร้ซึ่งร่องรอย
ราชาอินทรีนั้นคลาดสายตาจากร่างของจ้าวเฟิง ทว่ารู้ว่าอีกฝ่ายนั้นหายไปในจุดใด และในตอนนั้นเองที่แม่ทัพเฮิงและเย่หลินเหลียนโจมตี
ทลายสวรรค์!
ตัดประกาย!
ผู้ฝึกตนขั้นสุดยอดของขั้นเก้าทั้งสองต่างระเบิดพลังของพวกเขาออกมา
แคร่กกกก
ราชาอินทรีที่กราดเกรี้ยวและไม่สังเกตถูกโจมตีโดยผู้ฝึกตนขั้นเก้าทั้งสอง
เย่หลินเหลียนใช้วิชาเซียน ฝ่ามือของเขานั้นราวกับกลายเป็นดาบที่ตัดผ่านพลังป้องกันของราชาอินทรี ทิ้งรอยบาดลึกแปดนิ้วไว้ วิชาดาบของแม่ทัพเฮิงนั้นเป็นวิชาอรรธเซียนที่ถูกฝึกจนเข้าขั้นสุดยอด มันกระทั่งแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของเย่หลินเหลียน
ฉวะ!
คมดาบที่เต็มไปด้วยความต้องการสังหารเกือบจะตัดศีรษะของราชาอินทรีขาดออกจากร่าง
เปรี้ยง! เปรี้ยง! ตูม! ตูม!
ผู้ฝึกตนขั้นเจ็ดและแปดพลันใช้วิชาที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาออกมาซึ่งเกือบจะจัดการปักษาสีทองได้
กว๊ากกกก
ราชาอินทรีปากทองใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งตรงไปยังร่างของเด็กหนุ่มที่ถือธนูสีทอง เต็มไปด้วยความเกลียดแค้น