บทที่ 91 : ฝูงสัตว์อสูร (2)
กว๊ากกกกก
น้ำเสียงร้องกรีดบาดไปในแก้วหูดังก้องไปทั่วนครหลวงกว่านจวิน
ตุบ! ตุบ!
ผู้ที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนหมดสติไปในทันที จ้าวเฟิงใช้ดวงตาที่พัฒนาแล้วของเขามองออกไปก่อนจะพบกับนกสีทองตัวใหญ่ยักษ์ห่างออกไป 40-60 ลี้ อินทรีทองนี้คล้ายคลึงกับอินทรีจิกโลหะที่เขาเคยเห็นในป่าเมฆาคล้อย ทว่าใหญ่กว่ามากมายนัก เพียงแค่ความกว้างของปีกข้างหนึ่งก็กว้างกว่าสิบเมตรแล้ว
“ไม่ดีแล้ว! นั่นมันราชาอินทรีปากทองจากป่าเมฆาคล้อย ครอบครองผืนฟ้า!” ผู้ฝึกตนบางคนในเมืองรับรู้ถึงตัวตนของปักษาสีทองตัวนั้น
ราชาอินทรีปากทองนั้นเป็นสัตว์ปีศาจระดับสูงที่สามารถเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนขั้นเก้า
ฮู่วววว
ร่างของราชาอินทรีพุ่งผ่านกำแพงเมืองในเสี้ยววินาที
“อ๊ากก”
ในเสี้ยววินาที ผู้ฝึกตนเจ็ดคนก็ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนทั้งเจ็ดนั้นเป็นถึงผู้ฝึกตนขั้นเจ็ด และเขาไม่แม้แต่จะเห็นการมาของราชาอินทรีปากทอง
กว๊าก กว๊าก กว๊าก
ในตอนนั้นเอง กลุ่มก้อนเมฆสีทองส่องประกายก็ได้เคลื่อนมาจากที่ไกลๆ ก้อนเมฆสีทองนั้นสร้างขึ้นจากอินทรีปากทองจำนวนนับพัน ซึ่งเทียบเท่าได้กับจอมยุทธ์
“ป้องกัน!”
“กองทัพสัตว์อสูรมาแล้ว ไปรายงานตำหนักกว่านจวิน!”
นครหลวงกว่านจวินตกอยู่ในความวุ่นวายเมื่อทุกคนเริ่มกรีดร้องตะโกนออกมา
กองพันองครักษ์ฟ้า
เหล่าเด็กหนุ่มสาวล้วนได้ยินเสียงร้องที่กรีดหัวใจนั้น ทว่าพวกเขาไม่ได้มีดวงตาที่สามารถมองเห็นได้ไกลเช่นจ้าวเฟิง ดังนั้นแล้วจึงไม่อาจเห็นภาพในระยะห่างออกไป 40-60 ลี้ได้
“จะพูดสั้นๆ นับแต่บัดนี้ พวกเจ้าจะช่วยต่อต้านกองทัพสัตว์อสูร และจะมีแต้มต่อสู้ให้กับสัตว์อสูรที่พวกเจ้าฆ่า สำหรับสัตว์อสูรทั่วไป ตัวล่ะ 1 แต้ม สัตว์ปีศาจระดับสูงตัวล่ะ 20 แต้ม…” องครักษ์สามประกาศ
หลังจากบอกถึงสิ่งที่พวกเขาต้องทำ องครักษ์สามและเย่หลินเหลียนจึงนำทั้งหมดออกไป
เมื่อทั้งกลุ่มมาถึงกำแพงเมืองก็ล้วนต้องตกตะลึง ในสายตาของพวกเขานั้นเป็นกองทัพสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจทั้งบนท้องฟ้าและพื้นดิน
เพียงแค่สัตว์ปีศาจอย่างเดียวก็มีนับพัน ส่วนสัตว์อสูรนั้นมีนับแสน
“เร็วยิ่ง! สัตว์อสูรมาถึงแล้ว” เย่หลินเหลียนสูดลมหายใจลึก
เป็นเรื่องดีที่จอมยุทธ์และกองทัพได้มึงแล้ว และเริ่มเข่นฆ่าสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจที่โจมตี ทว่าปัญหานั้นคืออินทรีปากทองบนท้องฟ้า มันคล้ายกับอินทรีจิกโลหะ ทว่าแข็งแกร่งกว่ามาก กระทั่งลูกธนูธรรมดาก็ไม่อาจทะลวงพลังป้องกันของมันได้
สามารถกล่าวได้ว่าอินทรีปากเงินนั้นเป็นร่างที่พัฒนาแล้วของอินทรีจิกโลหะ
เคร้ง เคร้ง เคร้ง
ฝนห่าธนูร่วงลงบนร่างของอินทรีปากทองและส่งเสียงราวกับปะทะกับโลหะออกมา ทว่าธนูที่ยิงออกโดยผู้เรียนรู้การฝึกตนนั้นไม่อาจทะลวงพลังป้องกันของมันไปได้
ฟุ่บ!
จ้าวเฟิงนำธนูบันไดสุวรรณของเขาออกมาและยิงอินทรีปากทองสองตัวในหนึ่งดอก
หนึ่งดอก สองอินทรี!
นักธนูที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกประหลาดใจเล็กๆ เมื่อผู้ยิงนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ 14 ปีเท่านั้น
“ทุกคนไปเข้าร่วมการต่อสู้ นักธนูจัดการสัตว์อสูรบนท้องฟ้า ผู้ฝึกตนคนอื่นตามกองทัพไปและสู้กับสัตว์อสูรด้านนอก” แม่ทัพของนครหลวงกว่านจวินเอ่ยสั่ง
กองทัพนั้นสามารถเอาชนะสัตว์อสูรธรรมดาได้ ทว่ามีเพียงผู้ฝึกตนที่สามารถเอาชนะสัตว์ปีศาจได้
“ไป!”
เด็กหนุ่มสาวจากกองพันองครักษ์ฟ้าเข้าร่วมและเสริมพลังการป้องกัน
กองทัพสัตว์อสูรนั้นมีโอกาสที่จะช่วยกระตุ้นความสามารถของคนผู้หนึ่งได้พร้อมกับได้รับแต้มต่อสู้ในขณะเดียวกัน ศิษย์ของเจ้าเมืองกว่านจวินพลันพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจใกล้ๆ ในทันที
หนานกงฟั่น เฟิงฮันเยว่ และจ้าวหยูเฟ่ยต่างก็เข้าสู่ขั้นเจ็ดหรือสูงกว่าแล้ว พวกเขาสามารถฆ่าสัตว์อสูรนับสิบได้ด้วยการวาดมือเพียงครั้งเดียว ทว่าจำนวนของพวกมันนั้นมีมากเกินไป
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
จ้าวเฟิงยังคงยิงธนูบันไดสุวรรณของเขาต่อ ทุกๆ ศรจะทะลวงร่างของสัตว์ปีศาจ 2-3 ตัวเสมอ บางทีอาจเป็นเพราะว่าเขาฆ่ามากเกินไป สัตว์อสูรตัวอื่นๆ จึงได้พุ่งเข้าหาเขาด้วยดวงตาแดงฉาน
“ระวัง!”
นักธนุใกล้ๆ ตะโกนลั่น
“ไอ้พวกเวรนี่มีสติปัญญาด้วยหรือ?” จ้าวเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กๆ ทว่าไม่ได้หวาดกลัว
ดรรชนีดารา!
จ้าวเฟิงแทงนิ้วออกไปซ้ำๆ ก่อนที่แสงสีครามงดงามจะปรากฏขึ้นซึ่งกำจัดอินทรีปากทองไปจำนวนมากในคราเดียวทว่ามันก็ได้เรียกความสนใจจากสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่า
กว๊ากกก
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น เมื่อมองไปทางต้นเสียง สัตว์ปีศาจระดับสูงที่เป็นผู้นำอินทรีปากทองได้นำฝูงของมันมุ่งมายังจ้าวเฟิง
“หยุดพวกมัน!” สีหน้าของผู้ฝึกตนใกล้ๆ แปรเปลี่ยนไป
สัตว์ปีศาจระดับสูงนั้นเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนขั้นแปด และเมื่อพวกมันเข้าไปในเมือง ความเสียหายย่อมเกิดขึ้น
ดรรชนีดารา! กระบวนท่าวายุกรรโชก!
ดวงตาของจ้าวเฟิงนั้นแหลมคมขณะที่เขาส่งเส้นแสงสีครามที่กระจายออกไปการโจมตีวงกว้างออก
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
ในเสี้ยววินาที อินทรีปากทองจำนวน 5-6 ตัวก็ร่วงลงตายบนพื้น และที่น่าตะลึงไปมากกว่านั้นคืออินทรีปากทองทุกตัวล้วนถูกแทงทะลุคอหอย
ตูม!
จ้าวเฟิงปะทะเข้ากับอินทรีปากทองโดยที่ไม่เป็นอันใดในขณะที่ร่างของสัตว์ปีศาจถูกดันถอยหลัง
“เด็กนั่นแข็งแกร่งยิ่ง! เข้าสู่ขั้นเจ็ดด้วยวัยเพียงเท่านี้!” ผู้ฝึกตนใกล้ๆ ตะลึง
จ้าวเฟิงพบว่าอินทรีปากทองที่เขาเพิ่งจะเผชิญหน้าด้วยเมื่อครู่กระทั่งแข็งแกร่งกว่าเสือเขี้ยวดาบสองปีก และเกือบเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนขั้นเก้า
จ้าวเฟิงจะฆ่าอินทรีอย่างน้อยสองตัวด้วยธนุหนึ่งดอกทุกครั้ง
โฮกกกกก
ด้านนอกประตูเมือง ปรากฏร่างของสัตว์ปีศาจระดับสูงจำนวนห้าตัว หรือสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดตัวอื่นๆ ที่มาถึง สัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจเหล่านี้เทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนขั้นเก้า และฆ่าคนอย่างน้อยสิบคนในทุกๆ การโจมตี
จ้าวเฟิงเห็นสัตว์ปีศาจเหล่านั้นด้วยตาซ้ายและจงใจหลีกเลี่ยงพวกมันเมื่อทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งกว่าเสือเขี้ยวดาบสองปีกทั้งสิ้น
“ระลอกคลื่นแห่งการฆ่า!”
เสียงตวาดลั่นดังจากเด็กหนุ่มที่เผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจระดับสุดยอด
ตูมมมม!
เด็กหนุ่มตัวเล็กคนนั้นสามารถต่อกรกับสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดร่างยักษ์ได้อย่างเท่าเทียม ผู้ฝึกตนใกล้ๆ ล้วนนิ่งงันไป
เป่ยโม่ย!
จ้าวเฟิงและคนอื่นๆ เห็นเจ้าของร่างที่คุ้นเคยนั้นเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจขั้นเก้าได้ด้วยพลังฝึกตนเพียงขั้นสุดยอดของขั้นแปด
สัตว์ปีศาจระดับสุดยอดนั้นน่าหวาดกลัวเกินไป พวกมันสามารถฆ่าได้เกือบทุกสิ่งหากมันได้เข้าเมืองไป
ปึก! ปึก! ปึก!
เย่หลินเหลียน องครักษ์สาม และผู้ติดตามผู้ฝึกตนขั้นเก้าของพวกเขาลอยออกจากกำแพงเมืองและพบกับศัตรูของตน ผู้ฝึกตนขั้นเก้า 5-6 คนถูกส่งออกจากตำหนักกว่านจวิน จำนวนเท่าเทียมกับสัตว์ปีศาจระดับสุดยอด ทว่าราชาอินทรีปากทองนั้นไม่มีคู่ต่อสู้เมื่อมันรวดเร็วเกินไป
แม้ว่าผู้ฝึกตนขั้นเก้าจะแข็งแกร่ง พวกเขาก็ยังไม่อาจต่อสู้กับราชาอินทรีปากทองได้กลางอากาศเมื่อมันถือเป็นอาณาจักรของราชาอินทรี
“ไอ้ตัวบัดซบนี่!”
เหล่านักธนุบนกำแพงเมืองต่างปวดศีรษะขณะที่พวกเขามองราชาอินทรี หากมันเป็นเพียงสัตว์อสูรธรรมดา พวกเขาลำบากเพียงยิงธนุครั้งเดียวก็ฆ่ามันได้แล้ว ทว่าพลังป้องกันของมันนั้นสูงเกินไป ด้วยการนำของราชาอินทรีปากทอง อินทรีปากทองนับร้อยนับพันได้พุ่งเข้าหากำแพงเมือง
“อ๊ากกกก”
การโจมตีทุกระลอกจะคร่าชีวิตทหารไปจำนวนมาก
“บอกให้นักธนูยิงไอ้เวรพวกนั้น…”
เหนือกำแพงนครหลวงกว่านจวินปรากฎร่างของชายวัยกลางคนที่เป็นผู้ออกคำสั่ง
คนผู้นี้คือแม่ทัพแห่งนครหลวงกว่านจวินซึ่งมีพลังฝึกตนที่ขั้นสุดยอดของขั้นเก้า และเพิ่งจะจัดการสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดไปหนึ่งตัวเมื่อไม่นานมานี้ เสริมสร้างขวัญกำลังใจของพวกเขา ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับราชาอินทรีปากทอง แม่ทัพวัยกลางคนก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ราชาอินทรีนั้นรวดเร็ว แข็งแกร่ง และต่อสู้เพียงกลางอากาศเท่านั้น
“แม่ทัพเฮิง หากเราไม่จัดการราชาอินทรีปากทอง ฝั่งของเราย่อมตกลงสู่ความวุ่นวายไม่ช้าก็เร็ว” เย่หลินเหลียนเอ่ยขณะที่กระโดดลงด้านข้างของแม่ทัพ ร่างโชกเลือด
ก่อนหน้าเขาเพิ่งจะจัดการสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดไปได้หนึ่งตัว ทว่าก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
กว๊ากกก
ทันใดนั้น ร่างของราชาอินทรีปากทองก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นไม่ชัดเจนและพุ่งเข้าหาร่างของผู้ฝึกตนขั้นเก้าด้วยความเร็วราวสายฟ้า
“ระวัง!”
ผู้เป็นแม่ทัพและเย่หลินเหลียนต่างตะโกนลั่น คนผู้นั้นได้สู้อยู่กับสัตว์ปีศาจระดับสุดยอดอีกตัวในตอนนั้น ในความคิดปรากฏ ‘บัดซบ’ ขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเตือน
ฟุ่บ ฉัวะ!
กรงเล็บที่แหลมคมของราชาอินทรีได้กรีดผ่านโล่พลังภายในของผู้ฝึกตนขั้นเก้า
“อ๊ากกกก!”
ผู้ฝึกตนขั้นเก้าผู้นั้นกรีดร้องก่อนจะถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ โดยสัตว์ปีศาจสองตัว
เมื่อเห็นภาพนั้น หัวใจของจ้าวเฟิงก็เย็นเยียบ
ไอ้เวรบัดซบ!
ทั้งแม่ทัพและเย่หลินเหลียนต่างกัดฟันกรอด
“แม่ทัพเฮิง เราต้องฆ่าไอ้นกนี่ไม่ว่าจะเสียอะไรไปก็ตาม!”
ความเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่หลินเหลียน มันยากที่จะเลี้ยงดูผู้ฝึกตนขั้นเก้าขึ้นสักคน ในเมืองเล็กๆ นั้นอาจไม่มีแม้แต่คนเดียวในสิบปี
“เราต้องดึงดูดความสนใจให้มันลงมาที่พื้น จากนั้นจึงลอบโจมตี” แม่ทัพเฮิงคิด
“แล้วเราจะฆ่ามันอย่างไรเมื่อนักธนูส่วนมากไม่อาจทะลวงพลังป้องกันของมันได้?ใ” เย่หลินเหลียนเอ่ยอย่างขมขื่นและจนใจ
“รวมตัวนักธนูที่ยอดเยี่ยมที่สุด…” น้ำเสียงโหดเหี้ยมของแม่ทัพเฮิงดังก้องไปในระยะหลายลี้