บทที่ 988 ต่างแสดงอภินิหาร

สีหน้าจ้าวเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง เขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้

ขุนนางใหญ่คนนี้ให้ทหารเขามาเพียงร้อยนาย แต่กลับให้ทหารห้าร้อยนายกับซินอู๋เหิน

ซินอู๋เหินก็ตะลึงไปเหมือนกัน จากนั้นพูดขึ้น “จ้าวเฟิง เจ้าคือผู้ทุจริตสินะ?”

ในเขาวงกต ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณของเขา แม้กระทั่งกำแพงเหล็กเพียงหนึ่งแนวก็ไม่อาจทะลุผ่านได้ สัมผัสทั้งห้ายิ่งถูกลดจนถึงขีดจำกัด แต่จ้าวเฟิงอยู่ห่างไกลจากเขาไปมาก กลับค้นหาเขาเจอได้ สำหรับเรื่องนี้ ซินอู๋เหินรู้สึกประหลาดใจยิ่ง

เมื่อรวมกับยามนี้ ท่าทีของตัวละครที่ไม่ใช่ผู้แข่งขันในเหตุการณ์ที่มีต่อจ้าวเฟิง ซินอู๋เหินจึงเชื่อมโยงอะไรได้

“มีทหารเพียงแค่ร้อยนาย ข้าไปก่อนแล้วกัน!”

จ้าวเฟิงไม่ตอบคำถามของซินอู๋เหิน เลือกเส้นทางในภูเขาเส้นหนึ่ง

เบื้องหลังของเขา ทหารดาบร้อยนายเดินตามมา ทหารดาบเหล่านี้ล้วนมีขอบเขตพลังขั้นจักรพรรดิทั่วไป ใช้ให้ดีก็จะเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่ง

“ไป!” ซินอู๋เหินตะโกนขึ้น นำทหารดาบห้าร้อยนายบุกไปที่ทางบนเขาอีกเส้นหนึ่ง

ในชั่วขณะที่จ้าวเฟิงเข้าไปในเส้นทางบนเขา

กองโครงกระดูกในระหว่างทางและใต้พื้นดินก็ส่งเสียงประหลาดออกมา

ซ่า แกรก! เห็นเพียงโครงกระดูกลักษณะมนุษย์โครงหนึ่ง จู่ๆ ก็กระโดดออกมาจากใต้พื้นดิน ในมือถือดาบและโล่ ที่หลังยังมีปีกเหล็ก แผ่กระจายกลิ่นอายจักรพรรดิอันชั่วร้ายบ้าคลั่งออกมา

และต่อมา ‘องครักษ์โครงกระดูก’ ยั้วเยี้ยก็คลานออกมาจากใต้พื้นดิน ยืนอยู่เต็มทางบนเขาทั้งหมด

“บุก!”

จ้าวเฟิงโคจรวิชา ‘หมื่นห้วงคิดเซียน’ หลอมรวมจิตไปกับทหารดาบทุกนายเหมือนควบคุมสัตว์อสูร ก่อนควบคุมทหารร้อยนายนี้บุกไป

“กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์!”

ปีกแสงอัสนีสีชาดสยายออกด้านหลังจ้าวเฟิง โคจรพลังกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ทั่วทั้งร่างมีอัสนีสีทองเปล่งประกาย จากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นแสงอัสนีสีชาดกลุ่มหนึ่งพุ่งนำหน้าออกไป

“ระเบิด!”

จ้าวเฟิงฝ่าเข้าไปใจกลางวงล้อม ‘องครักษ์โครงกระดูก’ แก่นแท้กายสายฟ้าอันทรงพลังบดขยี้องครักษ์โครงกระดูกหลายสิบตัว

“หมัดศักดิ์สิทธิ์อัสนี!”

ภายในแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเฟิง มีเสียงดังกรอบของโครงกระดูกลอยมา หมัดทั้งสองกวัดแกว่งด้วยจังหวะประหลาด ชกออกเป็นแก่นแท้พลังหมัดที่สะเทือนฟ้าดินหลายสาย

วูบ ครืน ครืน! ตาเปล่าเห็นเพียงหมัดแสงใหญ่ยักษ์ที่มีอัสนีทองสอดประสาน รูปร่างเหมือนดั่งภูเขาอัสนีธาตุทอง เจิดจ้าทรงพลัง อานุภาพน่ากริ่งเกรง ทุกครั้งที่ออกหมัดล้วนทำให้องครักษ์โครงกระดูกหลายตัวแหลกเป็นผุยผง

ส่วนทหารกล้าของจ้าวเฟิง หน้าที่สำคัญคือจัดการทั้งสองฝั่งข้างทางและองครักษ์โครงกระดูกด้านหลัง เดินตามจ้าวเฟิงไป

เส้นทางภูเขาทั้งสองสายห่างกันเพียงแค่สิบจั้ง จ้าวเฟิงหันหน้าไป ก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ของซินอู๋เหินที่ทางอีกเส้นได้

ซินอู๋เหินเดินอยู่ตรงกลาง ทหารอีกห้าร้อยนายขนาบอยู่ที่สองฝั่งข้างทาง เดินหน้าอย่างเป็นระเบียบ

ชั่วขณะที่สองหมัดของซินอู๋เหินกวัดแกว่ง ระลอกคลื่นน้ำอันน่าอัศจรรย์ก็กวาดเอาองครักษ์โครงกระดูกด้านหน้าไปกองอยู่สองข้างทางทั้งหมด จากนั้นองครักษ์ที่เดินอยู่ทั้งสองฝั่งข้างทางก็จัดการสังหารองรักษ์โครงกระดูก การร่วมมือสมบูรณ์แบบ ได้ผลสูง รวดเร็วมาก อีกทั้งซินอู๋เหินไม่ได้สิ้นเปลืองพลังกายและปราณที่แท้จริงสักเท่าไหร่

“ซินอู๋เหินเยี่ยมนัก!” จ้าวเฟิงอดชื่นชมไม่ได้

วิชาหมัดอันน่าอัศจรรย์ที่ซินอู๋เหินสำแดงออกมา ใช้เสวียนอ้าวแห่งน้ำกวาดองรักษ์โครงกระดูกที่ขวางทางอยู่ออก แล้วส่งต่อให้ทหารกล้านักดาบจัดการ ใช้กำลังรบของทหารนับดาบทั้งห้าร้อยออกมาอย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงมีสายเลือดวารีเหมันต์ อีกทั้งภายหลังก็ฝึกฝนวายุอัสนีธาตุน้ำ การใช้เสวียนอ้าวธาตุน้ำยังไม่สามารถสู้ซินอู๋เหินได้เลย

“หึ พายุคลั่งอัสนี!”

ปีกแสงอัสนีสีชาดที่หลังของจ้าวเฟิงโบกกระพืออย่างสุดกำลัง ปราณที่แท้จริงวายุอัสนีมหาศาลทะลักออก ก่อร่างเป็นวายุคลั่งอัสนีสีชาดเป็นวงกว้าง

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงพร้อมพายุคลั่งอัสนีสีชาดที่ทรงพลังน่าหวาดกลัวพุ่งกวาดไปยังด้านหน้า

ฟู่ ฉัวะ ฉัวะ!

องครักษ์โครงกระดูกพวกนั้นยังไม่ทันได้เข้าใกล้จ้าวเฟิง ก็ถูกวายุคลั่งอัสนีที่แข็งแกร่งผลักออกและทำลายทิ้ง

จ้าวเฟิงมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นำหน้าซินอู๋เหินไปช่วงระยะหนึ่ง

พายุคลั่งอัสนีสีชาดของจ้าวเฟิง ขอบเขตการโจมตีกินระยะกว้าง ครอบคลุมไปทั่วทั้งเส้นทางภูเขา เช่นนี้แล้ว ทหารนักดาบร้อยคนของเขาก็สามารถสังหารทำลายองครักษ์โครงกระดูกได้อย่างรวดเร็ว และตามจ้าวเฟิงได้ทัน

“ด้านหลังของเส้นทางภูเขาเส้นนี้ ไม่รู้ว่ามีศัตรูหรืออันตรายอะไร จะทิ้งทหารดาบพวกนี้ไม่ได้!”

จ้าวเฟิงพึมพำในใจ

หากว่าจ้าวเฟิงทิ้งนักดาบร้อยนายในตอนนี้ เมื่อถึงเวลาจะชนะซินอู๋เหินที่มีนักดาบห้าร้อยนายได้อย่างไร ดีที่จ้าวเฟิงสามารถควบคุมทหารดาบร้อยนายนี้ได้อย่างดีเยี่ยม การสำแดงกำลังรบของพวกเขาเหนือกว่าทหารสามร้อยนายมากนัก

ซินอู๋เหินเห็นอีกด้านหนึ่ง จ้าวเฟิงนำหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว

“ฮ่า” สำนึกรู้ในหมัดทั้งสองของเขาเปลี่ยนไปทันใด ประกายแสงมรกตเรืองรองชั้นหนึ่งห่อหุ้มมือของเขา

บาดแผลที่ทหารนักดาบเบื้องหลังเขาได้มาตลอดทางได้รับการรักษาทันทีภายใต้แสงสาดส่องของประกายมรกต

ฟู่! ซินอู๋เหินยืนอยู่ที่เดิม กวัดแกว่งหมัดทั้งสอง ชกลวดลายเสวียนอ้าวแปลกประหลาดออกมา ผสานลงไปในดิน

ทันใดนั้น! ทางเบื้องหน้าของซินอู๋เหินมีเถาวัลย์ต้นอวบหนานับไม่ถ้วนงอกขึ้น

เถาวัลย์อวบหนาสีเขียวเข้มถาโถมมาอย่างบ้าคลั่ง บดขยี้องครักษ์โครงกระดูกจำนวนหนึ่งลงไปใต้ดิน

พรึ่บ พรึ่บ! องครักษ์โครงกระดูกที่เหลือพลันขยับปีกเหล็ก บินอยู่กลางท้องฟ้า

แซ่ก แซ่ก! ซินอู๋เหินและทหารดาบเดินไปบนเถาวัลย์ ความเร็วในการเดินหน้าเพิ่มขึ้นอีกตามการเคลื่อนไหวของเถาวัลย์ อีกทั้งเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีขององครักษ์โครงกระดูก เถาวัลย์รอบด้านก็พุ่งออกมาอย่างว่องไวยิ่ง รัดหรือต้านทานพวกมันเอาไว้

“วิชาลับแขนงพฤกษาล้ำลึกอะไรเช่นนี้!”

จ้าวเฟิงตกตะลึงไปเล็กน้อย

ซินอู๋เหินไม่เพียงแต่ชำนาญการใช้เสวียนอ้าวธาตุน้ำ เสวียนอ้าวธาตุไม้ก็ไปถึงจุดสูงสุด จ้าวเฟิงยังจำได้ว่าซินอู๋เหินหลอมรวมเขตแดนมิติห้าธาตุได้ในมิติเทพลวงตา

เช่นนั้นแล้ว การใช้เสวียนอ้าวห้าธาตุของซินอู๋เหินก็อาจจะถึงในระดับนี้ทั้งหมด

เผชิญหน้ากับคู่มือเช่นนี้ จ้าวเฟิงย่อมไม่ปิดบังอีกต่อไป

ฟู่! แสงเพลิงแวววาวราวกับสีแดงสดที่ลุกไหม้ โอบล้อมไปทั่วร่างจ้าวเฟิงดั่งแสงอรุโณทัยสีแดงโลหิต

ในชั่วพริบตา ทั่วทั้งร่างของจ้าวเฟิงลุกไหม้เหมือนอาบด้วยเปลวเพลิง สีแดงสดแวววาว ทั่วทั้งร่างวาววับ เมื่อรวมกับการเสริมรับของแก่นแท้กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ก็เปรียบดั่งจอมมารเพลิงโลหิตตนหนึ่ง กลิ่นอายน่าหวาดเกรงที่เผาไหม้ร้อนแรงก่อร่างเป็นเปลวเพลิงโจมตีกลุ่มหนึ่ง แผ่กระจายไปทั่วด้าน ในป่าเขา อุณหภูมิเพิ่มขึ้นทันใด

ครืน ฟู่ ฟู่! ภายใต้การกระตุ้นจากสายเลือดเพลิงมารโลหิต ความเร็วของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เขาแปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มอัสนีเพลิงโลหิต พุ่งไปยังองครักษ์โครงกระดูกที่อยู่เบื้องหน้า

จ้าวเฟิงนำวายุอัสนีธาตุไฟและพลังเพลิงมารโลหิตผสานเข้าด้วยกัน ก่อเป็นพลังเพลิงโลหิตอัสนีสีชาด

ทันใดนั้น วายุคลั่งแสงอัสนีรอบกายของจ้าวเฟิง อาบไปด้วยเพลิงอาทิตย์สีเลือดที่ระเบิดปะทุชั้นหนึ่ง พลังเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า

ครืน ฟุ่บ ฉัวะ!

ในชั่วพริบตา องครักษ์โครงกระดูกหลายสิบจั้งรอบกายจ้าวเฟิงถูกล้อมไว้ด้วยพลังเพลิงโลหิตและอัสนีสีชาดที่ร้อนแรงทรงพลัง ทั่วทั้งร่างถูกแผดเผา พลังหายไปอย่างรวดเร็ว

ฉัวะ ฉัวะ!

ทหารดาบเบื้องหลังจ้าวเฟิงตามมาอย่างว่องไว สามารถกำจัดพวกมันสิ้นซากได้อย่างง่ายดาย

ครืน! จ้าวเฟิงทิ้งกลุ่มแสงโลหิตอัสนีไว้ที่เดิม ก่อนเปลี่ยนร่างเป็นเศษเสี้ยวแสงเพลิงโลหิตสายหนึ่งพุ่งออกไปหลายสิบจั้ง ทำลายและแผดเผาฝูงองครักษ์โครงกระดูกอีกครั้ง แต่เมื่อเผชิญกับองครักษ์โครงกระดูกพวกนี้ คุณลักษณะพิเศษดูดเลือดคืนปราณในสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์ของจ้าวเฟิงไม่สามารถสำแดงออกมาได้ ดังนั้นจ้าวเฟิงกระตุ้นเพียงชั่วขณะก็หยุดลง จากนั้นกินของล้ำค่าจำนวนหนึ่งเพื่อฟื้นฟูไอสวรรค์และปราณที่แท้จริง ทว่าภายใต้ความเร็วของเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบและการระเบิดปะทุ จ้าวเฟิงพลันพุ่งทะยานขึ้นไป ทิ้งระยะห่างซินอู๋เหิน นำหน้าเขาไปหลายร้อยจั้ง

“สายเลือดที่ทรงพลังน่าเกรงขามชนิดนี้ น่าจะเป็นสายเลือดเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!”

ซินอู๋เหินเห็นจ้าวเฟิงนำหน้าเขาไปไกลด้วยความเร็วสุดยอดที่ไม่อาจต้านทาน

การระเบิดพลังและความเร็วที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ใช่สายเลือดเพลิงมารโลหิตธรรมดาเด็ดขาด

อีกทั้งเขายังมองออกว่าทหารดาบร้อยนายของจ้าวเฟิงเคลื่อนไหวอย่างฉับไว โจมตีเด็ดขาด ฟันไปยังจุดสำคัญของหุ่นโครงกระดูก ทั้งหมดนี้เป็นผลประโยชน์จากการควบคุมของจ้าวเฟิง

“สายเลือดถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ยาวนาน!”

ซินอู๋เหินเอ่ยอย่างเรียบเฉย ผลัดใช้เสวียนอ้าวธาตุน้ำและเสวียนอ้าวธาตุไม้ บุกไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน เขาเชื่อว่าหลังจากที่จ้าวเฟิงกระตุ้นสายเลือดแล้วจะต้องพักฟื้น ความเร็วย่อมช้าลงแน่นอน

“ฮ่าๆ สมกับที่เป็นซินอู๋เหิน โดนข้านำหน้ามายังสามารถควบคุมจิตใจไว้ได้เช่นนี้!”

จ้าวเฟิงหัวเราะน้อยๆ

วิธีบุกของซินอู๋เหินมั่นคงเป็นอย่างมาก ระดับไม่ช้าไม่เร็ว พลังกายและปราณที่แท้จริงสูญเสียไปไม่มาก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะช่วยองค์หญิงก่อนเขาเข้าไปในถ้ำมังกร!”

น้ำเสียงของจ้าวเฟิงเด็ดเดี่ยว ในเมื่อซินอู๋เหินไม่รีบ เช่นนั้นเขาจะถือโอกาสโจมตีช่วงชิงชัยชนะ ผิวกายของจ้าวเฟิงมีแสงอัสนีเพลิงเปล่งประกาย

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงสำแดงเคล็ดวิชาปีกอัสนีโบยบิน บุกเดินหน้าต่อไป ในขณะเดียวกันก็ควบคุมทหารดาบเบื้องหลังให้ตามเขามา ไม่นานเท่าไหร่ จิตวิญญาณของจ้าวเฟิงก็ฟื้นคืนกลับมาพอประมาณ เขากระตุ้นเพลิงมารโลหิตที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง ทะยานบุกไปข้างหน้า

“จ้าวเฟิงคนนี้!”

ซินอู๋เหินตกใจเล็กน้อย เขาประเมินพลังการฟื้นฟูของอีกฝ่ายต่ำไป

ผ่านมาเพียงครู่เดียว จ้าวเฟิงก็กระตุ้นสายเลือดอีกครั้ง นำห่างจากเขาไปไกลเรื่อยๆ

ใช้เวลาเพียงไม่นาน จ้าวเฟิงก็ทะยานจนมาถึงยอดเขา เขาไปยังถ้ำมืดมิด

“เป็นเช่นนี้ไม่ได้!” ใบหน้าหน้าของซินอู๋เหินเปลี่ยนไปทันที

เขาที่สุขุมลุ่มลึกมาโดยตลอด พลันแผ่กระจายกลิ่นอายเย็นเยือกเหนือสิ่งอื่นใดออกมา

เห็นเพียงแค่รอบกายของซินอู๋เหินมีแสงห้าสีล้อมรอบไม่ขาดสาย ค่อยๆ หลอมรวมเป็นโลกมิติส่วนตัวโอบล้อมซินอู๋เหินเอาไว้ข้างใน

ในโลกมิติส่วนตัว มีทิวทัศน์ ต้นไม้ใบหญ้า และบ้านเรือนเหมือนกับโลกแห่งความเห็นจริง เพียงแต่ขนาดเล็กมาก อีกทั้งการโคจรของโลกมิติยังมั่นคงไม่พอ

พรึ่บ! พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดเหนือสิ่งอื่นใด แผ่ซ่านออกมาจากในโลกมิติส่วนตัวของซินอู๋เหิน

“บุก!” เพียงคำสั้นๆ จากซินอู๋เหิน โลกมิติส่วนตัวที่ก่อขึ้นด้วยแสงห้าสีบินนำออกไปก่อน

วูบ วูบ! องครักษ์โครงกระดูกนับสิบพลันบินขึ้นล้อมซินอู๋เหิน

ปึง กรอบ! ในยามที่องครักษ์โครงกระดูกพวกนี้สัมผัสเข้ากับโลกมิติส่วนตัวรอบด้านซินอู๋เหิน ก็ถูกควบคุมโดยเสวียนอ้าวกฎเกณฑ์อันน่าหวาดกลัวทันที ทั่วทั้งร่างแหลกเป็นผุยผง

ซินอู๋เหินทิ้งทหารห้าร้อยนายเบื้องหลัง บินทะยานขึ้นไป

ปึง ปึง ปึง! ตลอดทางที่ผ่าน เมื่อองครักษ์โครงกระดูกทั้งหมดเข้าใกล้ซินอู๋เหินก็ถูกบดขยี้เป็นผุยผง ปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้ แน่นอนว่าจ้าวเฟิงย่อมเห็น

“นี่คือ นี่คือมิติส่วนตัวที่สร้างขึ้นจากเสวียนอ้าวห้าธาตุ!”

ใจของจ้าวเฟิงตกตะลึง

เขาคาดการณ์ไว้นานแล้ว หากต้องการสร้างโลกมิติส่วนตัวที่เทียบได้กับมิติแห่งความเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ จะต้องตระหนักรู้เสวียนอ้าวห้าธาตุ และนำมันผสานเข้าไปในนั้น

คิดไม่ถึงเลยว่าซินอู๋เหินจะทำได้จนถึงขั้นนี้แล้ว โลกมิติส่วนตัวของเขายังเป็นเพียงแค่ขั้นแรกเริ่ม ยังไม่ค่อยมั่งคง ขนาดก็ยังเล็ก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่โลกมิติส่วนตัวเพียงแค่ธาตุเดียวจะสามารถเทียบได้

ในยามนี้ ซินอู๋เหินใช้โลกมิติส่วนตัวของเขาพุ่งตรงเข้ามา

“มารโลหิตโจมตี!”

จ้าวเฟิงสำแดงเคล็ดวิชาเพลิงมารโลหิตทันที เปลวเพลิงวาววับทั่วทั้งร่างล้นทะลัก เผาไหม้เดือดพล่าน ส่งเสียงเพลิงปะทุเป็นระยะๆ ด้านหลังของเขา เงาเพลิงโลหิตกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในนั้นมีลวดลายหมุนวน บิดโค้งไปรอบๆ

ครืน ปัง ปัง! จ้าวเฟิงแปลงเป็นกลุ่มหินอุกกาบาตสีแดงเลือด พุ่งทะยานตรงไป พลังเพลิงโลหิตร้อนแรงทรงพลังทำลายทุกสรรพสิ่งจนสิ้น

ตุบ! สองเท้าของจ้าวเฟิงเหยียบลงพื้น มาถึงยังหน้าถ้ำก่อน เสี้ยววินาทีถัดมา ซินอู๋เหินก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆ