ตอนที่ 1334 : สมบัติของเจียฟานฉี

บนเรือสุสาน หลัวเฟิง ได้เข้าไปในส่วนในของเรือกันไม่ให้พบกับอันตรายภายนอก แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลัวแต่เขาก็ระวังและคอยสังเกตรอบตัวเพื่อที่เขาจะได้โอกาส ตอนที่ตัวตนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงเคลื่อนไหวแบบประมาท ในตอนที่เขาพบมัน เขาก็จะใช้หอคอยดวงดาวจับมันทันที!

ด้วยวิธีนี้ไม่ใช่แค่เขาจะได้สั่งสอนพวกที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงแต่เขายังยึดสมบัติของพวกนั้นได้ด้วย

มันเป็นความคิดที่ดี ปัญหาเดียวคือแม้ว่าหลังจากที่เขาใช้เวลาไปเกือบ 900 ปีในการเดินทางและมาถึงเขตที่อวกาศของห้องลับแต่มันก็ไม่มีพวกที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงแม้แต่คนเดียว

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงระวังตัวจริงๆ มันเหมือนการเดินทางที่ยาวนานแต่ข้ากลับไม่ได้พบใครเลย ดูเหมือนว่า เจ้าแห่งจักรวาล ด้านในเรือจักรวาลนั้นต่างก็พากันซ่อนตัวอย่างระวัง”

หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะสลดและส่ายหน้า ยังไงซะเรือจักรวาลก็กว้างอย่างมากและเขาก็เดินหน้าด้วยความเร็วสูง ถ้าศัตรูเคลื่อนไหว เขาอาจจะพบพวกนั้นบ้างแต่ถ้าศัตรูนั้นซ่อนตัวอย่างระวัง มันก็ไม่มีทางที่เขาจะหาพวกนั้นพบ

เมื่อมองไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่ เขาก็ได้มาถึงเขตห้องลับ

ฮ่ง!

เรือสีเขียวทึบเล็กๆ ได้พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สำหรับเขาที่มาถึงได้ภายใน 900 ปีนั้นก็เป็นเพราะเรือสุสาน ด้วยเรือนี้ หลัวเฟิง เดินทางผ่านดินแดนอันตรายมากมายด้วยการเปลี่ยนทาง แม้แต่สมบัติแท้จริงชั้นยอด จะสามารถทนรับอันตรายได้ในระดับหนึ่งก็ต้องรับภาระหนักเมื่อเจอสภาพแวดล้อมที่น่ากลัวแต่เรือสุสานนี้มั่นคงอย่างมากซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม หลัวเฟิง ถึงพึ่งพามัน ตามทางนั้น หลัวเฟิง ได้ทำการค้นหาดินแดนที่เป็นจุดกำเนิดของสมบัติและโชคดีได้สมบัติแท้จริงขั้นสูงสุด มาบ้าง, สมบัติแท้จริงขั้นสูง 2 ชิ้นและสมบัติแท้จริงขั้นทั่วไป

ระหว่างที่พูดคุยกันนั้น ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ได้บอกกับ หลัวเฟิง “เรือสุสานนั้นไม่อาจจะสั่นไหวได้ ภายในดินแดนอันตรายทั้งสามแห่ง ความอันตรายกว่า 90% ไม่ส่งผลกับเรือ มีแค่เขตหลักเท่านั้นที่หยุดเรือได้…ใช้เรือนี้เพื่อค้นหาสมบัติ ประสิทธิภาพของเจ้าจะเพิ่มสูงกว่าตัวตนอื่นๆ”

“การขี่เรือสุสานไปยังสามดินแดนที่อันตรายที่สุด ข้าจะสามารถค้นหาและได้รับสมบัติแท้จริงมากมาย วิเศษจริงๆ”

หลัวเฟิง ที่อยู่ในเรือมองไกลออกไปยังตึกมากมายบนใบไม้ขนาดใหญ่ เขาเข้าไปใกล้และทดสอบรับรู้มัน

“หลังจากที่ได้รับสมบัติจากสิ่งที่ เจียฟานฉี ทิ้งไว้ ข้าจะท่องไปยังสามดินแดนที่อันตรายที่สุด”

การท่องไปในสามดินแดนที่อันตรายที่สุดนั้นใช้เพียงสติของเขาเล็กน้อย หลักๆ แล้วเขาโฟกัสพลังวิญญาณไปกับการบ่มเพาะ ผ่านไปสองวัน หลัวเฟิง ก็ได้พบกับห้องลับภายในมิติของเหรียญฟ้าที่เป็นของเขา

“ที่นี่แหละ”

เรือได้ลดความเร็วลงและลงไปที่ใบไม้ ประตูเรือเปิดออก หลัวเฟิง ได้เดินออกมาและเงยหน้าขึ้นมองตึกตรงหน้า

“ห้องลับของเหรียญดำและห้องลับของเหรียญฟ้าต่างก็ขาดการออกแบบที่ดี”

แค่เพียงโบกมือ หลัวเฟิง ก็เก็บเรือสุสานไป จากนั้นเขาก็เดินไปยังตึกโบราณ ตอนที่ร่างของเขาสัมผัสกับมัน เขาก็รู้สึกได้ราวกับแตะที่ผิวน้ำ เขาทะลุเข้าไปในพื้นที่ส่วนในของห้องลับทันที

***

หลัวเฟิง โผล่มากลางอากาศและมองไปด้านหน้า ท่ามกลางอวกาศนี้มีลูกไฟขนาดใหญ่ 9 ลูกซึ่งใหญ่กว่าดวงดาวดั้งเดิมกว่าพันเท่า ลูกไฟทั้งเก้าลอยอยู่ในอวกาศและต่างก็โคจรเป็นวงกลม ใจกลางพื้นที่ที่พวกมันโคจรนั้นมีทวีปลอยอยู่

“หืม?” หลัวเฟิง โบกมือ ปีกทั้งสิบข้างบนหลังเขาได้กางออกและมีแสงสีทองแผ่ออกมาภายนอก ทันใดนั้นทั้งอวกาศก็ถูกหุ้มเอาไว้ ทุกอย่างภายในนี้อยู่ในการควบคุมของเขา

แค่เพียงมอง สีหน้าของ หลัวเฟิง ก็เผยความแปลกใจออกมา เขาเทเลพอร์ทไปยังทวีปผืนดินที่ขยายตัวออกมานั้นกว้างขวาง เขายืนอยู่ในทะเลทรายและเงยหน้าขึ้นมองฟ้าซึ่งสามารถเห็นลำแสงที่เกิดจากลูกไฟทั้งเก้าที่ฉายลงมาบนผืนดิน พวกมันฉายภาพคัมภีร์ที่มีตัวหนังสือซึ่งเขียนโดยอสรพิษไฟ คัมภีร์นั้นเต็มไปด้วยตัวหนังสือที่หลัวเฟิง ไม่คุ้นแต่ทุกตัวนั้นมีคลื่นแผ่ข้อมูลออกมาซึ่งทำให้ หลัวเฟิง ไม่มีปัญหาในการทำความเข้าใจมัน

“ข้า เจียฟานฉี ร่างชีวิตพิเศษ ข้าได้กลายเป็นอมตะด้วยการบ่มเพาะกฎน้ำ และได้บ่มเพาะตั้งแต่ต้นจนกลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด หลังจากที่เป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด แล้ว….นหนึ่งตอนที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนดาวเคราะห์หนึ่ง ข้าก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา ในดาวเคราะห์แห่งนี้ ชีวิตต้องการน้ำเพื่ออยู่รอด ดังนั้นน้ำจึงเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตแต่ทั้งดาวเคราะห์นั้นจำเป็นต้องพึ่งพาความร้อนของดวงดาวในการดูดซับพลังงานเพื่อร่างชีวิตทั้งหมดในการเติบโต กฎน้ำ และกฎไฟ มันไม่ได้เรียบง่ายแบบที่เราเข้าใจ พวกมันไม่ได้เรียบง่ายแบบกฎสองข้อ น้ำ และไฟต่างก็เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดชีวิต”

“ต้นกำเนิดของร่างชีวิตและต้นกำเนิดของการขยายพันธุ์ ดังนั้นข้าจึงได้สร้างเทคนิคของตัวเองขึ้น ร่างของความรู้ที่สูญหายไป…ต้นกำเนิดน้ำ และไฟ ข้าได้ท่องไปในจักรวาลดั้งเดิมและเมื่อจักรวาลดั้งเดิมพบกับจุดจบ ข้าก็ได้มาสังเกตทะเลจักรวาลและทำความเข้าใจถึงสองยุคแห่งการเกิดใหม่…ต้นกำเนิดน้ำ และไฟจึงเริ่มสมบูรณ์ขึ้นและข้าเชื่อว่าหากข้ามีเวลามากพอ ข้าก็จะมีระดับเพิ่มขึ้นเพื่อจะทำการเกิดใหม่แต่ข้าไม่ได้มีเวลามากพอ…ข้าอาจจะประสบความสำเร็จในเรื่องพลังต่อสู้ที่ขั้น 10 แต่ข้าก็ยังไม่มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จในการเกิดใหม่ที่เหนือกว่า ต้นกำเนิดน้ำ และไฟ สร้างขึ้นด้วยความพยายามอย่างมาก”

“หลังจากที่ใช้เวลามานาน…การเกิดใหม่ 3 ยุค…ข้าก็เห็นว่ามันหายไป ความหวังเดียวคือ รุ่นหลังจะรับสิ่งที่ข้าเข้าใจและส่งต่อมรดกของข้าต่อไป ลูกไฟทั้ง 9 ที่วนรอบอวกาศคือวัตถุจากส่วนยอดเอียงของทะเลจักรวาล พวกมันคือคริสตัลน้ำแข็งทั้งเก้าที่เปลี่ยนเป็นลูกไฟทั้งเก้าโดยต้นกำเนิดน้ำ และไฟของข้า พวกมันได้แสดงถึงความเข้าใจของข้า เมื่อลูกไฟทั้งเก้ากลายเป็นหนึ่ง พลังของมันก็ไม่ควรแผ่ไปถึงโลกภายนอก ภายใต้ทวีปแห่งนี้ มันมีวังสมบัติแท้จริงชั้นยอด ด้านในวังนั้นเจ้าจะได้พบกับสมบัติทั้งหมดที่ข้าทิ้งไว้และเจ้าจะพบกับการสืบทอดตั้งแต่ระดับต่ำ ถึงสูงของความรู้ที่สูญหายซึ่งข้าได้สร้างขึ้นมา ข้าหวังจริงๆ ว่าลูกหลานของข้าจะไม่ทำให้งานทั้งชีวิตของข้าต้องเสียเปล่า”

บนคัมภีร์ที่ลอยอยู่บนฟ้า เมื่อเห็นข้อมูลที่ส่งผ่านมาทางตัวหนังสือที่ทำขึ้นจากอสรพิษไฟ หลัวเฟิง ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

ขั้น 10?

ต้นกำเนิดน้ำ และไฟ?

“ก็จริงที่ว่าทุกรุ่นจะมีบุคคลไร้เทียมทานอย่างน้อยหนึ่งคนที่ซึ่งมีการเติบโตและพรสวรรค์ที่ไร้คนเทียบ” หลัวเฟิง พูดด้วยความตะลึง “เจียฟานฉี ผู้นี้มีพลังในขั้น 10 มันเทียบได้กับสิ่งที่ อาจารย์ต้นกำเนิด ได้ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ เขาต้องเป็นหนึ่งในบุคคลยิ่งใหญ่ในยุคของเขา ไม่แปลกใจเลย…ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้กำหนดการสืบทอดของเขาเอาไว้ ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดน้ำ และไฟนั้นคือเทคนิคความรู้ที่สูญหายไปที่เขาได้สร้างขึ้นมาและภูมิใจกับมัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เต็มใจที่จะเห็นความพยายามและการสืบทอดของเขาไม่คงอยู่ต่อไป”

แน่นอนว่าในด้านพรสวรรค์แล้ว เจียฟานฉี นั้นยังเทียบกับ อาจารย์ต้นกำเนิด ไม่ได้ ยังไงซะ อาจารย์ต้นกำเนิด ก็ได้อยู่ในขั้น 10 ตอนที่เขายังอยู่ในการเกิดใหม่ครั้งแรกก่อนจะถูกขังไปชั่วนิรันดร์ ในทางกลับกันแล้ว เจียฟานฉี ได้เกิดใหม่ทั้งหมดสามครั้งเพื่อจะขึ้นมาถึงขั้น 10 ได้ แต่…ทั่วทั้งทะเลจักรวาล นอกจาก อาจารย์ต้นกำเนิด และบรรพบุรุษของสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว คนที่แข็งแกร่งรองลงมาในวันนี้ต่างก็เป็นตัวตนที่อยู่ในขั้น 9 นี่แสดงให้เห็นว่า เจียฟานฉี นั้นมีพรสวรรค์มากเพียงใด

“ต้นกำเนิดน้ำ และไฟ…ต้นกำเนิดชีวิต? ต้นกำเนิดของร่างชีวิตและการขยายพันธุ์?” แม้แต่ หลัวเฟิง ก็ยังซึ้งเมื่อได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้

ก่อนหน้านี้กฎที่เขาบ่มเพาะมาไม่ว่าจะเป็นทอง, ไม้, น้ำ, ไฟ หรือดินต่างก็เป็นกฎพื้นฐาน อีกอย่างแล้วเขามักจะบ่มเพาะมันแบบแยกเดี่ยว เขาไม่เคยคิดว่ากฎแยกเดี่ยวแบบนั้นจะมีความลึกลับของต้นกำเนิดชีวิต

ถ้าร่างของความรู้ที่สูญหายนี้คือการสร้างทั่วไป แม้ว่ามันจะไม่พัฒนาต่อแต่มันก็ไม่เสียคุณค่าของมันแต่บางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์อย่างต้นกำเนิดน้ำ และไฟนั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด คนอื่นสร้างขึ้นมา…ร่างของความรู้ที่สูญหายนี้คือสิ่งที่ควรค่าแก่การภูมิใจ

“บุคคลไร้เทียมทานในด้านความสามารถและพรสวรรค์” หลัวเฟิง ตะลึง “แต่เขาก็ยังจากไปโดยยังไม่ได้เกิดใหม่ การเกิดใหม่ที่เหนือกว่า โอ้ การเกิดใหม่ที่เหลือกว่า! มันยากจริงๆ! เก็บ!”

แค่เพียงดีดนิ้วหอคอยดวงดาวก็ได้บินออกไปทันที จากการชักนำโดยพลังอมตะของ หลัวเฟิง ลูกไฟทั้งเก้าที่ลอยอยู่ก็ได้ถูกส่งเข้ามาในหอคอยดวงดาวอย่างรวดเร็ว

“ยก!” หลัวเฟิง มองไปที่ทวีปข้างกาย

ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!

ทวีปแยกออกจากกันและวังก็โผล่มาจากใต้ดิน หินทรายแยกออกเป็นสองฝั่งเผยให้เห็นวังทั้งหมด

หลัวเฟิง ได้ส่งเส้นพลังอมตะแทงทะลุไปยังวังนั้นและไม่นานเขาก็ได้ทำให้วังนั้นรับรู้ได้ว่าเขาเป็นเจ้าของมัน

“สมบัติด้านใน…”

หลังจากที่วังนี้รู้ว่า หลัวเฟิง เป็นเจ้าของ หลัวเฟิง ก็สามารถรู้ได้ว่ามีสมบัติอยู่ด้านในมากแค่ไหน หลังจากที่จัดการจัดเรียงและรวมทุกอย่างแล้ว เขาก็เห็นสมบัติที่ เจียฟานฉี ทิ้งไว้อย่างชัดเจน เมื่อรวมกันแล้วก็ทำให้ หลัวเฟิง ต้องช็อกอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอด แต่กองสมบัตินี้ก็มากกว่าที่เขาได้จากการฆ่า เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดสายฟ้ายิ่งใหญ่ โดยรวมถึงสิ่งที่เขาได้จากจักรวาลย่อยด้วย มันมีวังสมบัติแท้จริงและสมบัติแท้จริงประเภทขอบเขตขั้น สูงสุด 32 ชิ้น แล้วยังมีสมบัติแท้จริงขั้น สูงสุด ทั่วไป 91 ชิ้น (สมบัติแท้จริงประเภทขอบเขตขั้นสูง ถือว่าอยู่ในระดับนี้ด้วย)

สมบัติแท้จริงขั้นทั่วไป นั้นมีน้อยมาก จำนวนทั้งหมดนั้นมากกว่า 100 เพียงเล็กน้อย บางทีของเหล่านี้คงไม่ได้มีค่ามากสำหรับ เจียฟานฉี เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สนใจมัน

สำหรับสมบัติล้ำค่า, วัตถุดิบในการสร้างสมบัติแท้จริง, สมบัติในการฟื้นฟูร่างอมตะและสมบัติในการเพิ่มจำนวนยีนชีวิตมากมายแล้ว…มันมีอยู่มากมาย

“ถ้าไม่นับสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุด พวกนี้ถือว่ามีมากยิ่งกว่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์” หลัวเฟิง ตะลึง

อันที่จริงมันถือว่าเป็นเรื่องปกติ ความร่ำรวยของเผ่าพันธุ์นั้นหลักๆ แล้วสร้างขึ้นโดยเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ที่ซึ่งอยู่ลำพัง…โดยไม่สนว่า เจียฟานฉี มาจากยุคไหน ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่, ผู้นำเกาะชิรู หรือคนอื่นๆ ในยุคนี้…ไม่จำเป็นต้องคำนึงเรื่องเผ่าพันธุ์เลย สมบัติที่พวกเขาได้มาจะเป็นของพวกเขาเองแต่มันก็ไม่มีทางด้อยกว่าสมบัติที่ทั้งเผ่าพันธุ์มี!

พลังต่อสู้ของ เจียฟานฉี อยู่ขั้น 10 ในยุคเขานั้น เขาเคยกวาดไปทั่วทั้งทะเลจักรวาล ด้วยพลังที่เขามี ปัญหาเดียวของเขาคือเขาหมกมุ่นกับต้นกำเนิดน้ำ และไฟ เขาทะเยอทะยาน ถ้าเขาสนใจเรื่องสมบัติมากกว่านี้ เขาคงมีสมบัติมากกว่านี้หลายเท่าตัว แต่จำนวนสมบัติที่เขาได้มาก็ถือว่าปกติ เพราะเขาเก็บมันมานานในระหว่าง การเกิดใหม่ทั้ง 3

“สมบัติมากมาย ดังนั้นข้าจึงสามารถซ่อมแซมปีกขาวส่วนสุดท้ายที่เสียหายได้”

หลัวเฟิง ดีใจเมื่อรู้เรื่องนี้ แค่เพียงพลิกฝ่ามือก็มีหินคริสตัลทรงกลมขนาดเท่ากับกำปั้นโผล่มาใจกลางฝ่ามือ คริสติลนี้เก็บข้อมูลได้จำนวนมากและข้อมูลทั้งหมดคือสิ่งที่เจียฟานฉี ภูมิใจ…ต้นกำเนิดน้ำ และไฟของเขา

“มาลองดูต้นกำเนิดน้ำ และไฟนี้กัน”

ในตอนที่ หลัวเฟิง มองลงไป เขาก็ตะลึง เขาแปลกใจกับสิ่งที่เขาเห็น ความรู้ของต้นกำเนิดน้ำ และไฟนั้นลึกลับจนถึงว่าอยู่ในอันดับภายในการสืบทอดหลักของสายน้ำวูดูวงได้ น่าเสียดายที่ เจียฟานฉี เข้าใจมันแค่พื้นฐานแต่แม้ว่าจะเพิ่งสร้างพื้นฐานขึ้นมาแต่ด้านรายละเอียดของความรู้ที่สูญหายนี้ก็สามารถดูได้อย่างละเอียด

“ตามที่มันอธิบายไว้…” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “การไปถึงยอดของที่แห่งนี้เพียงคิดครั้งเดียว และเอาต้นกำเนิดทั้งสองที่เป็นแก่นหลัก ข้าสามารถพัฒนาจักรวาลที่แท้จริงได้ เมื่อมีสงคราม รอบตัวข้าจะเปลี่ยนเป็นจักรวาลย่อยที่แท้จริง มันบังคับศัตรูให้เข้าไปในจักรวาลย่อยนี้ มันจะไม่มีทางที่พวกนั้นจะรอดมาได้ ถูกรึเปล่า?”