ตอนที่ 1343 : น้ำตา

บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามได้พูดแทนความคิดของจักรวาลหลักดั้งเดิม ตอนนี้พวกเขาล้อมรอบไปด้วยแสงที่มีพลังของกฎทอง, ไม้, น้ำ, ไฟ, ดิน, ลม, สายฟ้า, แสง, เวลา และมิติ แสงเหล่านี้ได้แผ่พลังอันรุนแรงออกมา เอาให้ชัดเจนคือนี่ไม่ใช่สิ่งที่บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามสร้างมาด้วยตัวเอง ความสำเร็จก่อนหน้านี้ก็เพราะการสนับสนุนจากจิตของจักรวาลดั้งเดิม มันยังชี้แนะให้กับบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสาม

“จักรวาลย่อยนั้นพวกเราได้ทดลองมาก่อนแล้ว เมื่อสัมผัสกับกำแพงชั้นหุ้มจะนำไปสู่ความตาย”

“มันไม่ได้เข้าไปง่ายๆ”

ตอนนั้นคนหนึ่งก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นมา

บรรพบุรุษอสูรเทพสองหน้า คือ 1 ใน 3 บรรพบุรุษอสูรเทพที่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ได้พูดขึ้นมา “ถ้าเจ้าฝ่าเข้าไป แน่นอนว่ามันไม่มีทางเข้าไปได้ โลกแห่งจินนี้พิเศษ…ภายใต้เงื่อนไขปกติแล้ว แม้ว่าจะผ่านไปสักพันล้านยุคแต่มันก็ยังคงไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อทุกอย่างที่อยู่ในทะเลจักรวาลอันกว้างใหญ่ มันย่อมมีกฎของจักรวาล เวลานั้นก็จะเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเกิด”

ไม่มีใครถามว่าพวกเขาควรเข้าไปยังไง ข้อมูลที่เทพสองหน้านี้ให้มาเพียงพอจะสร้างความวุ่นวายในหมู่ผู้คนจากขุมกำลังในทะเลจักรวาลได้!

เหมาะสมสำหรับการเกิด?

เขาหมายความว่ายังไง?

ภายใต้เงื่อนไขปกติแล้วแม้ว่าจะผ่านไปสักพันล้านยุค มันก็ยังไม่เกิด?

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลัวเฟิง ถึงกับผงะและส่งเสียงไปหา ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ข้างๆ “อาจารย์ หลังจากที่ได้ยินบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามบอกมา การกำเนิดโลกแห่งจินนั้นดูเหมือนจะมีความหมายพิเศษ”

“ใช่” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พยักหน้า “ทุกอย่างมีกฎของตัวมันเอง ความคิดของจักรวาลดั้งเดิมนั้นอาจจะแข็งแกร่งอย่างมากแต่มันก็โดดเดี่ยวอย่างมาก ดังนั้นมันจึงแยกความต่างระหว่างดีกับเลวไม่ได้ มันได้แต่ทำตามกฎพื้นฐาน แม้แต่ตอนที่จัดการกับ เจ้าแห่งจักรวาล อย่างเจ้าแห่งยันอา หรือจัดการกับ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดสายฟ้ายิ่งใหญ่ มันก็ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากคนอื่น ชัดแล้วว่ามันไม่ได้ไร้เทียมทาน ดังนั้นแม้แต่ตอนที่จัดการกับ อาจารย์ต้นกำเนิด พลังจิตของจักรวาลดั้งเดิมก็ทำได้แค่ขังเขาไว้ มันไม่มีทางที่จะกำจัดเขาได้”

หลัวเฟิง พยักหน้า มันคือเรื่องจริง ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามกฎและปรากฏว่าภายใต้เงื่อนไขทั่วไปแล้ว วัตถุนี้ไม่น่าจะเกิดมา แต่ตอนนี้มันกลับกำลังอยู่ภายใต้การกำเนิดที่เหมาะสม!

ชัดแล้วว่ามันหมายถึงช่วงเวลานี้สามารถเข้าสู่ช่วงพิเศษที่ต่างจากการเกิดใหม่อื่นๆ

บรรพบุรุษอสูรเทพที่หล่อเหลาที่สุดที่มีใบหน้างดงามและหางเกล็ดสีแดงซึ่งไม่ได้ดูต่างจากวัยรุ่นได้พูดขึ้นมา “จากภายในแล้ว โลกแห่งจินนั้นเหมือนจะคาดเดาไม่ได้แต่มันก็มีโอกาสอยู่นับไม่ถ้วน มันพิเศษมากกว่าหากเทียบกับดินแดนอันตรายทั้งสาม วัตถุนี้ไม่มีประโยชน์ต่อทะเลจักรวาล มันมีความพิเศษในโลกแห่งจินภายในตัวมัน ถ้าพวกเจ้าต้องการเข้าไปในโลกแห่งจิน พวกเจ้าต้องรอโอกาสที่เหมาะสม พลังของชั้นหุ้มจะเปลี่ยนจากแข็งแกร่งเป็นอ่อนแอ ตอนที่มันกลายเป็นสีดำ พลังของมันจะแข็งแกร่งที่สุด ตอนที่มันเปลี่ยนเป็นสีขาว พลังของมันจะอ่อนแอที่สุด มันคือตอนที่ เจ้าแห่งจักรวาล ทั่วไปสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ แต่ละรอบ…นั้นกินเวลาประมาณ 1 ยุค ทุกคนเพียงแค่ต้องรอ รอให้ชั้นหุ้มของโลกแห่งจินเปลี่ยนเป็นสีขาว จากนั้นเราก็จะเข้าไปได้”

เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็พากันคันไม้คันมือขึ้นมา

วงโคจร?

ตอนนั้นมีคนจำนวนมากต้องการเข้าไปในโลกแห่งจินทันทีแต่เมื่อได้ยินว่ารอบหนึ่งกินเวลา 1 ยุค พวกเขาก็กดความรู้สึกตัวเองไว้เพื่อจะฟังต่อ

“โลกแห่งจินนั้นลึกลับและคาดเดาไม่ได้” บรรพบุรุษอสูรเทพอาวุโสตรงกลางพูดขึ้น “ภายในโลกแห่งจินนั้นมันมีวิญญาณมีชีวิตมากมาย”

“วิญญาณมีชีวิต?”

“อะไรนะ!”

“มันมีวิญญาณมีชีวิตที่นั่นด้วยรึ?”

หลายคนต่างพากันช็อก

หลัวเฟิง เองก็ตะลึงไปด้วยเช่นกัน

ดินแดนสามแห่งที่อันตรายที่สุดในเรือจักรวาลไม่ได้มีวิญญาณทีมีชีวิต

“วิญญาณในโลกแห่งจินนั้นสามารถรอดได้แต่ในโลกแห่งจิน พวกนั้นออกมาไม่ได้” บรรพบุรุษอสูรเทพอาวุโสพูดต่อ “ในตอนที่พวกมันออกมา พวกมันก็ต้องตาย ถ้าพวกเจ้าเข้าไป…สิ่งที่พวกเจ้าเอาออกมานั้นจะกลายเป็นของไร้ชีวิต ถ้าพวกเจ้าเอาวิญญาณมีชีวิตออกมา มันจะเท่ากับการฆ่ามัน อีกอย่างแล้วโลกแห่งจิน…ยังมีความลับของการเกิดใหม่ที่เหนือกว่า”

ฮัวะ!

นี่ทำให้หลายคนพากันตื่นตัว

ความลับของการเกิดใหม่ที่เหนือกว่า.มันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนตามหารึไง?

“จำไว้” บรรพบุรุษอสูรเทพอาวุโสพูดขึ้น “ความลับของการเกิดใหม่ที่เหนือกว่าคือความลับของโลกแห่งจิน เมื่อเข้าไปแล้วเจ้าจะสำรวจและหาสิ่งที่พวกเจ้าต้องการได้แต่ตอนที่ต้องออกมา ทุกอย่างที่พวกเจ้าได้รู้มาต้องเก็บมันไว้กับตัว ห้ามแพร่งพรายให้โลกภายนอก แน่นอน…แม้ว่าเจ้าต้องการแต่ก็ไม่มีทางที่จะบอกเรื่องจากโลกแห่งจินได้”

ทุกคนเหมือนกับครุ่นคิด

หลัวเฟิง เข้าใจทันที มันเหมือนกับตอนที่เขาได้รับการสืบทอดมรดกสายน้ำวูดูวง เขาไม่พบอะไรนอกจากความรู้พื้นฐาน มันเหมือนกับที่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ได้มอบ คู่มือเก้าขั้น ให้กับเขา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ต้องยอมสละไปอย่างมากก่อนที่จะส่งต่อคู่มือนี้ให้กับศิษย์หนึ่งคน ชัดแล้วว่ามันคือกฎอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อทุกอย่าง

“ความลับของการเกิดใหม่ที่เหนือกว่า? ความลับของโลกแห่งจิน?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคึก

เขารู้ว่าสำหรับการเกิดใหม่ในหลายๆ รุ่นที่ผ่านมานั้น โลกแห่งจินนั้นไม่ได้เกิดมา ครั้งนี้มันได้เกิดขึ้นใกล้เคียงที่สุดที่เขาจะได้ความลับของทะเลจักรวาล

“โลกแห่งจินคือดินแดนอันตรายแห่งที่สี่ของทะเลจักรวาล” บรรพบุรุษอสูรเทพอาวุโสพูดขึ้น “พวกเจ้าต้องจำให้ขึ้นใจ…เมื่อโอกาสมาถึง วิกฤตเองก็รออยู่ด้วย โลกแห่งจินนั้นอันตรายกว่ายอดเขาเอียง, ภูเขาไหล และเรือจักรวาล”

“ไปกันเถอะ”

บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามมองหน้ากัน จากนั้นก็หายตัวไปในอากาศ

คนนับพันๆ จากทะเลจักรวาลเองต่างก็กลับไปยังวังของตัวเอง คนกลุ่มใหญ่จากพันธมิตรหงเองก็ได้กลับไปยังเรือสุสานทันที

***

บรรพบุรุษอสูรเทพ ทั้งสามรุ่นได้แสดงบทบาทตัวแทนของจักรวาลดั้งเดิมและพวกเขาก็มีหน้าที่ในการส่งต่อข้อความและชี้แนะ

แต่คนอื่นๆ ในทะเลจักรวาลไม่กล้าที่จะเชื่อในทุกอย่างที่ได้ยินมา พวกเขาจะยังคงสำรวจด้วยความสงสัย ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าเส้นทางทั้งหมดจากจุดที่พวกเขาได้เข้าไปจนไปถึงรูหนอนนั้นไม่มีอันตรายและในตอนที่เข้าไปในรูหนอน พวกเขาก็จะไปถึงมิติลับที่ได้พบกับจักรวาลย่อยซึ่งคือโลกแห่งจิน

“หลัวเฟิง ไม่มีใครเคยเข้าไปสำรวจโลกแห่งจินมาก่อนและเจ้ากำลังจะเข้าไป” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “มันอันตราย หากมีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ความเสียหายที่เจ้าจะได้รับนั้นก็คงมากโข”

หลัวเฟิง มีสมบัติแท้จริงมากมายอยู่กับตัว ถ้าเขาต้องเสียมันไป มันก็ถือว่ามากมายจริงๆ

“อาจารย์ ข้าไม่อาจจะให้ตัวเองยอมทิ้งโอกาสนี้ไปได้” หลัวเฟิง พูดขึ้น “นอกจากนี้แล้วข้ายังมีร่างอื่น แม้ว่าข้าจะล้มเหลวแต่ข้าก็ยังมีโอกาสในการตั้งตัวใหม่จากความล้มเหลว อาจารย์ สบายใจได้”

หลัวเฟิง แบ่งพลังของเขาเป็นสองทาง เขาอัดแน่นพลังอมตะเพื่อ สร้างร่างโมชาน ซึ่งเอาไว้ใช้ในเส้นทางหนึ่ง ร่างโมชาน จะเอาปีกซื่อหวู๋และหอคอยดวงดาวกลับไปยังจักรวาลหลัก ยังไงซะทุกอย่างเกี่ยวกับโลกแห่งจินก็ยังไม่รู้ข้อมูล ถ้าเขาเอาสมบัติแท้จริงเข้าไปทั้งหมด เมื่อเขาล้มเหลว ทุกอย่างก็จะเสียไป ตอนนั้นมันคงสายเกินไปแล้วที่จะรู้สึกผิด

ร่างหลักของเขาและอสูรเขาทองจะเอาดาบเงาเลือด และเรือสุสานออกเดินทางไปยังอีกทางเพื่อเตรียมมุ่งหน้าเข้าไปในโลกแห่งจิน

***

เมื่อเดินทางไปยังเส้นทางตามรูหนอน พวกเขาก็ได้ไปถึงมิติอีกแห่ง

เรือสุสานได้ลอยอยู่กลางอากาศ หลัวเฟิง มองออกไปด้านนอกและพบกับจักรวาลย่อยอยู่ไกลๆ มันมีสีฟ้าหม่น ชัดแล้วว่ายังไม่ได้เวลาจะเข้าไป

“แม้ว่าจะไม่มีสมบัติแท้จริงแต่ดูจากพลังของข้าตอนนี้แล้ว ข้าอยู่จุดสูงสุดของทะเลจักรวาล”

หลัวเฟิง มั่นใจอย่างมากแต่ไม่คิดจะเอาสมบัติแท้จริงทั้งหมดมาเสี่ยง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ส่งปีกซื่อหวู๋และหอคอยดวงดาวกลับไปแต่เขาก็ยังเอา ดาบเงาเลือด และเรือสุสานมาด้วย สองอย่างนี้ถือว่าเพียงพอ!

“รอก่อน รอตอนที่ข้าเข้าไปในโลกแห่งจินนี้ได้”

เรือสุสานรอคอยเงียบๆ

ตัดสินจากภายนอกแล้ว จักรวาลย่อยสีฟ้าหม่นนี้ดูเหมือนว่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงแค่ 10 ล้านปีแสงแต่พลังของมันแข็งแกร่งกว่าจักรวาลย่อยของ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด หลายเท่า รอบข้างนั้นมีวังสมบัติแท้จริงชั้นยอด ลอยอยู่นับไม่ถ้วน

คนจากทะเลจักรวาลต่างก็พากันรอคอย แน่นอนมันถือว่าเป็นดินแดนอัตรายที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปสำรวจมาก่อน พวกนี้ไม่กล้าที่จะทุ่มเต็มกำลังในการสำรวจ คนส่วนมากนั้นได้ส่งคนของตัวเองมาจำนวนหนึ่งเพื่อทำการสำรวจรอบแรก มันมีคนมากกว่า 200 คน(รวมไปถึง เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ) ที่ซึ่งต่างก็อยากจะสำรวจโลกแห่งจินเป็นพวกแรกๆ

***

200 คนที่รออยู่ด้านนอกนี้พร้อมจะเข้าไปเริ่มการสำรวจ

ในอีกด้านแล้วกลุ่มอื่นๆ จากทะเลจักรวาลต่างก็เดินทางกลับ ยกตัวอย่างเช่นทีมโจมตีจากพันธมิตรหงที่มุ่งหน้าไปยังจักรวาลหลัก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนั้นนอกจากโลกแห่งจินซึ่งอยู่ในร่างกายวัตถุนี้แล้ว ส่วนอื่นของยักษ์นี้จึงดูสงบสุขและไม่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเหมือนก่อนหน้านี้ มีแค่ไม่กี่คนที่คอยประจำการอยู่ด้านนอก

ฮัวะ!

คลื่นได้ปรากฏขึ้นมาในอวกาศ

มีร่างหนึ่งโผล่มา บนหน้าผากเขามีเขาคริสตัลคู่หนึ่งและเขาสวมชุดดำซึ่งแผ่แสงสีดำออกมา มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ได้มาถึงก่อนคนอื่นแต่ไม่ว่าพวกอื่นจะมาก่อนนานแค่ไหน หรือข้อความของบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามจะเรียกคนมาเยอะแค่ไหนแต่ก็ไม่มีสักคนที่เห็น ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

หลัวเฟิง เองก็ไม่รู้ว่า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ที่นี่ เขาถึงกับถาม ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านเหรียญสื่อสารแต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมา

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ นั้นยืนอยู่ท่ามกลางมิติและมองไปยังวัตถุยักษ์ตรงหน้า เขามองไปที่ร่างมันไล่ตามไปถึงผม, ตา, จมูก, หู, ปากและแม้แต่เกราะที่มันใส่ เขามองไปยังวัตถุรูปร่างมนุษย์ราวกับกำลังตรวจสอบสมบัติล้ำค่า

“ในที่สุด…” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พึมพำ กับตัวเอง “มันก็มาถึง”

เขาเดินหน้าไปทีละก้าวคอยเทเลพอร์ตัวเองต่อไปและลงไปยืนที่ร่างของวัตถุ

หลังจากที่เท้าเขาแตะลงที่สันเขา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ก้าวไปข้างหน้าต่ออีกหลายก้าว ทุกก้าวนั้นคือการเทเลพอร์ เขาไปถึงที่นิ้วมือของร่างนี้ จากนั้นก็ไปถึงไหล่ สุดท้ายก็ไปถึงเอว มันมีจุดแตกหักเพราะบาดแผล ที่ที่มีบางอย่างหักไป

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ลูบเกราะส่วนที่เสียหาย มีแสงยาว 9 ล้านปีแสงปรากฏขึ้นมา

“ฮา…!” อยู่ๆ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็หัวเราะออกมา “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ หัวเราะอย่างพอใจ เขาหัวเราะอย่างหนักจนตัวสั่น เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนเสียงหัวเราะดูเหมือนกรีดร้อง มันเต็มไปด้วยความแค้นและความเกลียดชัง

เสียงหัวเราะค่อยๆ หยุดลง ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ นั่งลงแล้วลูบไปที่เกราะ น้ำตาสีทองได้ไหลออกมา

“มันอยู่ที่นี่ มันมาถึงแล้ว” เขาพูดขึ้นแล้วลูบเกราะด้วยมือที่สั่น “โลกแห่งจิน!”

“จักรวาลดั้งเดิมรู้จักมันในชื่อโลกแห่งจินงั้นรึ?” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พึมพำกับตัวเอง “จิน…จิน…ความคิดของจักรวาลดั้งเดิมไม่มีอารมณ์ มันจะจำจินได้ยังไง?”

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เงยหน้าขึ้นและมองไปยังมิติกว้างใหญ่ตรงหน้า

ฮ่ง! ล่ง!

อากาศปั่นป่วนในมิติผันผวนและมีความคิดอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้นมา

“ข้าจะไม่ทำตัวโง่งมเหมือน อาจารย์ต้นกำเนิด” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “ข้าจะให้โอกาสเจ้า”

เขาส่ายหน้า จากนั้นก็ก้าวออกไปก่อนจะหายไปในอวกาศอันกว้างใหญ่