ตอนที่ 1440 : เทพแท้จริง

เทพแท้จิรงของสำนักบรรพบุรุษอสูรเทพได้มารวมตัวกันที่วัง

“เหลือเชื่อ แม้แต่เราเทพแท้จริงก็ยังต้องคุกเข่ารึ?” วาฬเย็น คำรามออกมา “ทางช้างเผือก ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ เจ้าแห่งจักรวาล แม้ว่าเขาจะเริ่มทะลวงเป็นเทพแท้จริง…เราเองก็เป็นเทพแท้จริงด้วย ทำไมถึงเป็นแบบนั้นทั้งๆ ที่เขาอยู่ห่างไปหลายปีแสงแต่เราก็ยังต้องคุกเข่าราวกับว่าเราควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้?”

“นี่ไม่ต้องพูดถึงเทพแท้จริงเลย” อสูรเทพอาวุโสพูดขึ้น “แม้แต่เราบรรพบุรุษอสูรเทพสามคนที่มักจะได้รับความช่วยเหลือจากจิตจักรวาลดั้งเดิมก็ยังต้องคุกเข่าตอนที่แสงสีทองทะลุเวลาและมิติมาถึงเรา…”

อสูรเทพอาวุโสส่ายหน้า

“ตลกสิ้นดี”

“น่าเหลือเชื่อ”

เทพแท้จริงหลายคนรวมไปถึง เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล พบว่ามันยากที่จะเข้าใจได้ ยังไงซะพวกเขาก็เป็นเทพแท้จริง!

และพวกเขาก็มีจักรวาลย่อยของตัวเอง ในด้านฐานะทางสังคมแล้วแม้แต่จิตจักรวาลดั้งเดิมก็ยังต้องแสดงความเคารพให้พวกเขา คำสั่งของพวกเขาจะถูกปฏิบัติอย่างเคร่งคัดเพราะพวกเขาเป็นคนสั่งการ แม้แต่จิตจักรวาลดั้งเดิมก็ไม่อาจทำให้พวกเขาต้องคุกเข่าได้!

แต่เมื่อกี้นี้ไม่ว่าจะอยู่ห่างจาก หลัวเฟิง เพียงใด เทพแท้จริงทุกคนของจักรวาลหลักก็ต้องคุกเข่า

“เกินไป แต่ก็น่าเหลือเชื่อ” เทพสองหน้าพูดขึ้น “ไม่ต้องสงสัยใดๆ ทางช้างเผือก คงเริ่มทะลวงเป็นเทพแท้จริง!”

“ใช่ เขาต้องเริ่มเปลี่ยนเป็นเทพแท้จริง!”

“ช่างน่าทึ่ง ทั้งจักรวาลหลักต้องคุกเข่าให้กับเขา! พลังของเขา น่าประทับใจ! มันเป็นการทะลวงที่โดดเด่น!”

ไม่มีความเห็นอื่นในหมู่เทพแท้จริงของสำนักบรรพบุรุษอสูรเทพ ทุกคนต่างก็ถือว่าเป็นเหตุผลที่โดดเด่นที่เกิดขึ้นตอนที่ หลัวเฟิง ได้เป็นเทพแท้จริง

หลัวเฟิง ถูกอธิบายไว้ว่าเริ่มกลายเป็นเทพแท้จริงเพราะกระบวนการในการเป็นเทพแท้จริง ตอนแรกเขาต้องขยายจักรวรรดิเทพตัวเองให้เป็นจักรวาลย่อย จากนั้นร่างอมตะของเขาก็ต้องผ่านการทะลวงผ่านในระดับพื้นฐาน ขั้นตอนเหล่านี้ล้วนแต่กินเวลา

****

กลุ่มเทพแท้จริงจากพันธมิตรสัตว์อสูรมิติต่างก็มาจับตาดู

“ทางช้างเผือก ได้กลายเป็นเทพแท้จริงแล้วรึ? เหตุการณ์ที่เขาสร้างนั้นน่าเหลือเชื่อ ที่ทำให้ทุกเผ่าในจักรวาลหลักต้องคุกเข่าให้กับเขาอย่างเต็มใจ…”

“แม้ว่ามันจะเป็นเส้นทางพลังอมตะในตำนานที่เขาได้เลือกแต่ข้าก็เห็นด้วยตัวเอง ตอนที่อยู่ในโลกแห่งจินเกี่ยวกับการสืบทอดของสังคมโบราณ ข้าไม่ได้นึกถึงบันทึกที่อธิบายถึงฉากแบบนั้นตอนที่คนขึ้นเป็นเทพแท้จริงผ่านเส้นทางพลังอมตะ สถานการณ์นี้มันน่าเหลือเชื่อ”

พวกเขาต่างก็สงสัย เกิดอะไรขึ้นกับ ทางช้างเผือก จนสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้?

เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน

****

ในอาณาเขตมนุษย์ เจ้าแห่งจักรวาลทองสูญได้พูดขึ้นท่ามกลางเสียงถอนหายใจ “ไม่แปลกใจเลยว่า ทางช้างเผือก ยังไม่ขึ้นเป็นเทพแท้จริงตลอดเวลานี้ ดูจากพรสวรรค์อันโดดเด่นของเขาแล้ว เขาคงกลายเป็นเทพแท้จริงตั้งแต่เมื่อพันล้านปีก่อนแล้ว แต่ตลอดเวลานี้เขาก็ยังไม่ทะลวงผ่าน เขารักษาระดับตัวเองไว้ที่ เจ้าแห่งจักรวาล และกลายเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในทะเลจักรวาล เขาเลือกเส้นทางที่ยากอย่างมาก เส้นทางที่แม้แต่ตัวเขาเองที่มีพรสวรรค์โดดเด่นก็ต้องบ่มเพาะมาเป็นพันล้านยุค วันนี้ในที่สุดเขาก็มาถึงเส้นทางทะลวงผ่านได้และตอนที่เขาทำสำเร็จ ความสำเร็จของเขาก็แสดงไปทั่วจักรวาลหลักที่เผ่านับพันล้านต้องคุกเข่าให้กับเขา แม้แต่เทพแท้จริงก็ต้องคุกเข่าให้กับเขา”

เจ้าแห่งจักรวาลทองสูญ ยินดีกับความสำเร็จของ หลัวเฟิง “ถ้าเขาทำสำเร็จ ทุกเผ่าก็มีหวังที่จะผ่านวิกฤต อสูรทลายมิติ ไปได้!”

“ฮ่า ฮ่า…”

“ทางช้างเผือก พลังของเขาต้องสูงส่งจนน่าเหลือเชื่อ”

“น่าประทับใจ”

ในหมู่พวกนั้นมนุษย์ได้ถือว่า หลัวเฟิง เป็นตัวตนสูงส่ง การทะลวงผ่านของ หลัวเฟิง ครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบจนทำให้วิญญาณของพวกเขาตื่นมา แม้แต่เทพแท้จริงนับไม่ถ้วนก็ต้องคุกเข่า เผ่าอื่นอาจจะอิจฉา แต่มนุษย์นั้นตื่นเต้นและยินดีเพราะพวกเขาอยู่เผ่าเดียวกัน ตอนที่ หลัวเฟิง ได้พบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ พวกเขาเองก็ต้องได้รับผลประโยชน์ไม่รู้จบ

ในอนาคตถ้า หลัวเฟิง ทำการเกิดใหม่เหนือกว่าได้ งั้นทั้งเผ่ามนุษย์ก็จะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์

*****

เผ่านับพันล้านในจักรวาลหลักต่างก็ถกเถียงกัน เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์นับไม่ถ้วน พวกเขาไม่รู้ว่าใครคือ หลัวเฟิง แต่ร่างสีทองได้ประทับเข้าไปในวิญญาณของทุกคน ดังนั้นมันจึงไม่อาจจะลืมเลือนได้ ในทางกลับกันแล้วเผ่าที่ระดับสูงขึ้นไปล้วนแต่รู้จักชายคนนี้ ทางช้างเผือก!

“ในที่สุด ทางช้างเผือก ก็ทะลวงผ่านไปได้”

“เผ่านับพันล้านจากทะเลจักรวาลมีหวังแล้ว”

“ตอนนี้เราก็มีหวังที่จะผ่านพ้นวิกฤต อสูรทลายมิติ ได้แล้ว”

เผ่าที่อ่อนแอต่างก็ตื่นเต้นและคาดหวัง

****

มันมีจักรวาลย่อยไม่ไกลจากจักรวาลหลัก มันคือจักรวาลย่อยของ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ตกลงมาจากยอดเขาท่ามกลางสันเขา เขาอยู่ในสภาพที่แย่แต่ใบหน้าของเขาแสดงท่าทีโล่งอก

“เกือบแล้ว เกือบ…” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ส่ายหน้าและรู้สึกยินดี “ข้าแทบเกือบคุกเข่าไปด้วย!”

ก่อนหน้านี้ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ในวังของตัวเองคอยสลักหินตอนที่แสงสีทองส่องประกายรอบตัวเขา ตอนนั้นสีหน้าของ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เปลี่ยนไปอย่างมากและเขาก็รีบหนีไปยังช่องว่างในจักรวาลทันที ในวังของเขามันมีช่องจักรวาลที่เชื่อมต่อวังกับจักรวาลย่อยของเขา เขาต้านแสงสีทองด้วยความยากลำบากและหนีผ่านช่องจักรวาลกลับไปยังจักรวาลย่อยของตัวเอง

“เกิดอะไรขึ้น?” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ คิ้วขมวดด้วยความสงสัย

เขาโดนแสงสีทองห้อมล้อและมันได้ประทับร่างสีทองลงในวิญญาณของเขา ไม่ต้องเดาเลยว่าเขารู้จักร่างนั้น หลัวเฟิง

“เกิดอะไรขึ้นกับ หลัวเฟิง? ทำไมเขาถึงก่อพายุเช่นนี้ขึ้นมา? เทพแท้จริงทั่วไปไม่อาจจะสร้างแรงขนาดนี้ได้ แม้แต่ข้า ถ้าข้าอยู่นานกว่านี้ ข้าคิดว่าจิตของข้าคงสยบให้กับแสงสีทองนั่นด้วย” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ คิ้วขมวด “แสงสีทองไม่ได้มีจิตดั้งเดิม มันมีกฎสูงสุด!”

จิตจักรวาลดั้งเดิมไม่ได้ทำให้ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ กลัวเลยแม้แต่น้อย จิตจักรวาลดั้งเดิมมีแค่ความสามารถที่จะคิด ตัวมันเองไม่ได้มีภัยอะไร แต่กฎสูงสุดนี้กลับกัน กฎสูงสุดบ่งบอกถึงการดำเนินของทุกอย่างในทะเลจักรวาลอย่างจักรวาลหลักที่ผ่านการทำลายและกำเนิดรวมถึงทำไม อสูรทลายมิติ ถึงได้กำเนิดมา ทำไมเทพแท้จริงถึงได้เกิดใหม่สูงสุดหลังจากที่ผ่านการเกิดใหม่สามยุค?

ทุกอย่างและทุกสิ่งต้องเป็นไปตามกฎ!

กฎสูงสุดไม่ได้มีความสามารถในการคิด มันแค่ชุดกฎที่ต้องทำตามแต่มันเหนือกว่าทุกอย่าง

“โชคดีที่กฎสูงสุดนั้นแค่ชี้นำไปยังวิญญาณ” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดกับตัวเอง “พวกชีวิตระดับต่ำต้องเคารพผู้ที่สูงส่งกว่า และพวกเขาก็ต้องชื่นชมพวกที่ระดับสูงกว่า…กฎสูงสุดชี้แนะและเพิ่มกำลังจนทุกชีวิตรวมถึงเทพแท้จริงต้องเชื่อฟังสัญชาตญาณตัวเองและคุกเข่าต่อหน้าแสงทองนั่น โชคดีที่มันแค่ชี้แนะ ถ้ามันบังคับให้เราต้องคุกเข่า แม้แต่ตัวข้าเองก็คงต้องคุกเข่าไปด้วย”

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ถอนหายใจออกมา เขาไม่ได้กลัวจิตจักรวาลดั้งเดิมเพราะจิตจักรวาลดั้งเดิมยับยั้งโดยกฎ แต่กฎจักรวาลของทะเลจักรวาลต่างออกไป แม้ว่าเขาจะเข้าใจความลับมากมายแต่เมื่อเป็นกฎสูงสุด ความเข้าใจของเขาก็แค่ผิวเผิน

“ศิษย์ข้า…ในที่สุดเขาก็ทะลวงผ่านไปได้แล้วรึ?” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ สงสัย “ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาเลือกเส้นทางพลังอมตะ เนิ่นนานมานี้เขาก็ยังไม่ทะลวงผ่าน ข้าเดาว่าเขาตั้งเป้าหมายตัวเองไว้สูงเนื่องจากเขามีความทะเยอทะยานในการเข้าถึงขั้น 3 ของเส้นทางพลังอมตะแต่ไม่ว่ายังไงก็ตามขั้น 3 นี้ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แม้แต่กฎสูงสุดก็ยังแสดงความยินดีให้ด้วย!”

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ บอกได้ว่านี่มันหมายถึงการยินดีให้กับ หลัวเฟิง ความสำเร็จนี้น่าเหลือเชื่อจนแม้แต่กฎสูงสุดก็ต้องมายินดี อีกอย่างแล้วมันทำให้นับพันล้านเผ่าต้องคุกเข่าเพื่อแสดงความยินดีให้ด้วย

****

ในระบบสุริยะที่อาณาเขตมนุษย์ แสงสีทองได้สลายหายไปหมด

หลัวเฟิง กลับมาเป็นปกติ

“หือ?” หลัวเฟิง สับสน “เมื่อกี้นี้…”

เมื่อกี้นี้เขากรู้สึกว่าเขาได้มองเห็นทุกชีวิตในจักรวาลหลัก, เดินทางไปยังพื้นที่ลับนับไม่ถ้วน, และทุกวิญญาณต่างก็คุกเข่าให้กับเขา จากนั้น หลัวเฟิง ก็สลัดเรื่องนี้ออกจากหัวอย่างรวดเร็ว

“ระดับยีนชีวิตของข้า” หลัวเฟิง รู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ของการทะลวงผ่าน เขากำหมัดแน่นรู้สึกได้ถึงพลังอมตะมหาศาล มันทำให้ หลัวเฟิง ดีใจ ที่ระดับนี้ความเข้าใจในการควบคุมนั้นแม่นยำอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขายืนยันได้ว่าพลังอมตะของเขาขึ้นไปถึง 89,999 เท่า นี่คือระดับความแม่นยำของเขา

“100,000 เท่า! ทั้งหมด 100,000 เท่า ไม่มากไม่น้อยกว่านี้ ระดับยีนชีวิตของข้าคือ 100,000 เท่าจริงๆ”

หลัวเฟิง ช็อกอย่างมาก พระเจ้า!

มันน่าเหลือเชื่อ พลังอมตะแบ่งเป็น 3 ระดับ

30,000-60,000 เท่าคือระดับแรก

60,000-90,000 เท่าคือระดับสอง

90,000 และสูงกว่านั้นคือจนเกือบถึง 100,000 เท่าคือระดับสาม

การสืบทอดสายน้ำวูดูวง ได้บันทึกไว้ว่าไม่มีใครขึ้นถึงระดับ 100,000 เท่าได้ มันไม่มีใครขึ้นถึงระดับนี้ได้ในบันทึกโลกแห่งจิน มันคู่ควรที่จะบอกว่าบันทึกเหล่านี้มันหมายความว่าสังคมโบราณ, สายน้ำวูดูวง และโลกแห่งจินนั้นไม่มีใครขึ้นมาถึงระดับนี้มาก่อน นี่เป็นตำนานหนึ่งเดียว!

แม้แต่สังคมโบราณ มันก็เป็นได้แค่ตำนาน มันไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จมาก่อน!

มันไม่มีบันทึกเลยแม้แต่น้อย!

“ขะ…ข้าทำได้…” หลัวเฟิง อ้ำอึ้งด้วยความสับสน เขาพึมพำกับตัวเอง “ตอนแรกข้ามีระดับยีนชีวิต 89,999 เท่า จากนั้นข้าก็ได้ทำการศึกษาโครงสร้างของ เจ้าแห่งจักรวาล , เทพแท้จริงและเทพแท้จริงมิติ จากนั้นก็ของ อสูรทลายมิติ เพื่อจะหาจุดเหมือนระหว่างสองอย่าง…เป็นไปได้หรือไม่ว่าจากสังคมโบราณ ไม่มี เจ้าแห่งจักรวาลคนไหนที่ทำแบบนี้ได้? ใช่ ดูเหมือนว่าในบันทึกของโลกแห่งจิน บันทึกในเรื่องอสูรทลายมิติ ก็ยังเป็นตำนานและ อสูรทลายมิติ ในบันทึกต่างก็ดูแข็งแกร่งอย่างมาก พวกนั้นคือ อสูรทลายมิติ ที่เข้าสู่ช่วงเติบโตแล้ว”

ตอนนั้น หลัวเฟิง ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเข้าถึงระดับนี้ได้ นี่เพราะเขาขาดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับมัน!

ยังไงซะแม้แต่สายน้ำวูดูวง และโลกแห่งจินก็ยังไม่เคยเห็นตัวตนไหนที่ขึ้นมาถึงระดับ 100,000 เท่าได้ผ่านเส้นทางพลังอมตะ เนื่องจากไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมา เป็นธรรมดาที่มันจะไม่ชัดเจน หลัวเฟิง ทำสำเร็จแต่เขาก็ได้ข้อสรุปบางอย่างจากการสังเกต

“เวลาสำหรับการทะลวงผ่านของข้า”

หลัวเฟิง ก้าวออกไป

ซู่!

ทันใดนั้นเขาก็เทเลพอร์ทกลับไปที่ดินแดนทางช้างเผือก ท่ามกลางดินแดนทางช้างเผือกสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือมหาสมุทร หลัวเฟิง ในชุดขาวได้ปรากฏตัวขึ้นมา

“มหาสมุทร รวมใหม่!” หลัวเฟิง มองลงไปที่มหาสมุทรด้านล่างเขา

ฮ่ง! ล่ง!

หมอกนับไม่ถ้วนลอยตัวล้อมรอบมหาสมุทร หลังจากนั้นระดับยีนชีวิตเขาก็เพิ่มจาก 89,999 เท่าเป็น 100,000 เท่าแต่ครั้งนี้การทะลวงผ่านไม่ได้มีกฎสูงสุดมายินดีด้วย จากการทะลวงนี้พลังอมตะของเขาได้เพิ่มปริมาณขึ้นมา ร่างอมตะของเขาหดตัวลงไปเล็กน้อยจาก 12 ปีแสงเป็น 11 ปีแสง

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

มหาสมุทรกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง ในมิติด้านบนนั้นกฎจักรวาลเริ่มโผล่มาตามกฎจักรวาลหลัก น้ำทะเลนับไม่ถ้วนไหลออกมาในอากาศและตกลงไปในมหาสมุทร

ในอดีตนั้นมหาสมุทรต้องพึ่งเทคนิคการสร้างเพื่อจะฟื้นฟูในการเพิ่มขนาดแต่ตอนนี้มันเพิ่มขึ้นมา 100,000 เท่า

ร่างอมตะไร้ขีดจำกัด!

ซึ่งสามารถดูดซับได้ตามใจต้องการ!

พลังอมตะที่ไม่รู้จบจากเบื้องบนได้รวมตัวเข้ากับมหาสมุทร มันทำให้ร่างมหาสมุทรเพิ่มขนาดขึ้น ในเวลาเดียวกันร่างมหาสมุทร, ร่างโมชาน และร่างสัตว์อสูรเขาทองซึ่งประจำอยู่ในทะเลจักรวาลก็รีบกลับมา

ตอนทะลวงผ่านสุดท้าย ร่างต่างๆ ได้รวมตัวกัน ร่างอื่นได้สลายหายไป ถ้าพวกมันไม่กลับมา สมบัติที่พกติดตัวไปจะไม่เสียเปล่าไปรึ?