ตอนที่ 1346
แก่นแท้แห่งความว่างเปล่า
เมิ่งฮ่าวมองเห็นมิติแห่งความว่างเปล่านับไม่ถ้วน ทั้งหมดเหล่านั้นมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ดูเลือนราง บ้างก็ดูชัดเจน พวกมันกลายเป็นเส้นใยนับไม่ถ้วน เป็นเส้นใยที่เมิ่งฮ่าวรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่ปลดปล่อยเวทรุ่นแปดออกไป เส้นใยเหล่านี้จะปรากฏขึ้น ผูกมัดใครก็ตามที่ตกเป็นเป้าของเวทนี้ และผนึกพื้นฐานฝึกตน รวมทั้งแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันไว้
เดิมทีเมิ่งฮ่าวคาดเดาว่าเส้นใยเหล่านั้นคือกฎธรรมชาติของฟ้าดิน แต่ตอนนี้เมื่อสามารถจะมองเห็นพวกมันได้ชัดเจน ก็เข้าใจได้ว่าพวกมัน…ไม่ใช่ธรรมชาติหรือกฎแห่งเวทใดๆ อย่างแน่นอน!
พวกมันคือมิติแห่งความว่างเปล่า!
มิติแห่งความว่างเปล่านับไม่ถ้วนซ้อนทับกันไปมา และจากนั้นก็กระจายเป็นแรงกดดันไปบนร่างของผู้ฝึกตนเพื่อผนึกแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์และพื้นฐานฝึกตนของพวกมันไว้!
“ใช่แล้ว! นี่คือวิธีการตรึงผู้คนไว้อย่างแท้จริง! พันธนาการพื้นฐานฝึกตนด้วยมิติแห่งความว่างเปล่านับไม่ถ้วน! คงจะไม่เหมาะสมนักที่จะพูดว่าตรึงพวกมันไว้ จริงๆ แล้วน่าจะบอกว่า…ผนึกไว้มากกว่า!” จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังหมุนคว้าง และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่แก่นแท้โลกซึ่งอยู่รอบๆ บริเวณนั้นไหลเข้ามาในร่างอย่างต่อเนื่อง
ทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน และคนนอกคอกที่กลายเป็นทะเลเปลวไฟก็เดือดพล่าน กดทับลงมาบนร่างเมิ่งฮ่าวอีกครั้ง แต่แทนที่จะกระแทกลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว มันกลับพุ่งผ่านร่างเขาไป
ราวกับว่าที่เมิ่งฮ่าวกำลังลอยตัวอยู่ในตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่อยู่ในมิติแห่งความว่างเปล่าแห่งอื่น สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่ด้านหลังก็คือเงาร่าง ซึ่งเป็นภาพที่ใครก็ตามสามารถจะมองเห็นได้แต่ไม่อาจจะแตะต้องสัมผัส!
ในตอนนี้จิตใจของตี้จ้างกำลังเต้นรัว ราชันจักรพรรดินอกคอกที่ท่านกำลังต่อสู้อยู่ รับรู้ได้ถึงจิตใจที่กำลังสั่นสะท้านของท่าน และมันก็อ้าปากค้างมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความประหลาดใจโดยสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่คนทั้งสองเท่านั้น ไห่เมิ่งจื้อจุนและผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกอี้กู่ต่างก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
ราชันขุนเขาทะเล รวมทั้งผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอื่นๆ แห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ต่างก็รู้สึกราวกับว่าจิตใจเต็มไปด้วยสายฟ้าที่ฟาดลงมา ขณะที่ตระหนักว่า…สามารถจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งแก่นแท้ของเมิ่งฮ่าว
สีหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย แต่ประกายแสงแห่งความครุ่นคิดใคร่ครวญในดวงตาเจิดจ้าขึ้น และแก่นแท้โลกที่อยู่รอบๆ ตัวก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม ขณะที่ทำการดูดซับพวกมัน โดยไม่ยอมปล่อยให้หลุดรอดไปแม้แต่น้อย
หกหมื่น, เจ็ดหมื่น, แปดหมื่น!!
ชั่วขณะต่อมา เมิ่งฮ่าวก็ดูดซับจุดแสงเข้าไปมากกว่าแปดหมื่นจุด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังผ่านเข้าไปในสภาวะที่แปลกใหม่บางอย่าง ซึ่งกำลังลอยไปมาอยู่ในจิตใจตอนนี้…
สร้างแก่นแท้ขึ้นมาจากความว่างเปล่า!
ทำไมโลกต้องมีความว่างเปล่า และมันคืออะไรกันแน่?!
ด้วยการช่วยเหลือจากแก่นแท้โลก ทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถวิเคราะห์เรื่องราวและค้นหาแก่นแท้ของมันได้
ในตอนนี้เขาได้บรรลุถึงจุดสูงสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นเมื่อแสงเจิดจ้าอันไร้ขอบเขตพุ่งออกมาจากร่าง กระจายออกไปทั่วในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
ในตอนนี้ ผู้ฝึกตนและกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง
จักรพรรดิเต๋านอกคอกพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะคิดได้ แม้แต่ชายเสื้อเมิ่งฮ่าวมันก็ยังไม่อาจจะแตะต้องสัมผัสได้ ได้แต่มองไปขณะที่เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และจากนั้นก็หลับตาลง
ตอนนี้เขาได้รับความรู้แจ้งแห่งเต๋าที่แท้จริงแล้ว!
“ความว่างเปล่าคืออะไร…?” เมิ่งฮ่าวพึมพำ เมื่อเสียงนี้ดังก้องออกไป ก็ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวสั่นสะเทือน ถึงแม้ว่าดวงตาของเขายังคงหลับอยู่ แต่ในจิตใจสามารถจะมองเห็นมิติแห่งความว่างเปล่านับไม่ถ้วน กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ยืดขยายออกไปยังบริเวณที่กว้างใหญ่จนดูเหมือนว่าจะไร้ขีดจำกัด
“ความยาว…คือความว่างเปล่า…”
“ความสูง…คือความว่างเปล่า…”
“ความกว้าง…ก็คือความว่างเปล่าเช่นเดียวกัน…”
“ขนาด ก็ถือว่าเป็นความว่างเปล่าได้เช่นกัน…” ในท่ามกลางมิติแห่งความว่างเปล่านับไม่ถ้วน เมิ่งฮ่าวมองเห็นว่าพวกมันสามารถจะอธิบายได้ด้วยความยาว, ความสูง, ความกว้างและขนาดต่างๆ ทั้งหมด แต่ทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่บางส่วนของความว่างเปล่าเท่านั้น เหล่านั้นทั้งหมด…คือคำอธิบายของความว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม เมิ่งฮ่าวก็ยังคงไม่ค่อยเข้าใจได้อย่างชัดเจนทั้งหมด ยังมีบางสิ่งที่เขายังคงไม่เข้าใจ คิ้วเมิ่งฮ่าวขมวดมุ่น ขณะที่จิตใต้สำนึกยังคงดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปอย่างต่อเนื่องมากขึ้น
เขาต้องการเพิ่มพลังแห่งการครุ่นคิดใคร่ครวญและความเข้าใจ…เพื่อได้รับความรู้แจ้งในความหมายของแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าที่แท้จริง!
ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวลืมเรื่องทะเลเปลวไฟ อาณาจักรขุนเขาทะเล หรือสงครามอันโหดร้าย จมอยู่ในการรู้แจ้งแห่งเต๋าไปโดยสิ้นเชิง
โลกในส่วนที่เหลือสั่นสะเทือน ทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเลและกลุ่มคนนอกคอกตกอยู่ในความโกลาหล แต่ตอนนี้พวกมันกำลังนิ่งเงียบ แม้แต่ราชันจักรพรรดิและผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในที่สุดจักรพรรดิเต๋านอกคอกที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสังหารเมิ่งฮ่าว…ก็ต้องหยุดการปลดปล่อยพลังเวทออกไปอย่างไร้ทางเลือก
มันไร้ประโยชน์ใดๆ ไปโดยสิ้นเชิง…
ขณะที่เมิ่งฮ่าวแสวงหาความรู้แจ้งแห่งเต๋า บริเวณที่อยู่รอบๆ ตัวก็บิดเบี้ยวไปมา กำลังขยายตัวออกไปและหดเล็กลงเป็นระยะ บางครั้งก็กระเพื่อมขึ้นลง และบางครั้งก็ม้วนกวาดออกไปทางด้านซ้ายและด้านขวา
จักรพรรดิเต๋านอกคอกที่อยู่ในรูปแบบของทะเลเปลวไฟกำลังสั่นสะท้าน มันไม่อาจจะทำอะไรกับเมิ่งฮ่าวได้ และจริงๆ แล้วก็ไม่อาจจะเข้าไปใกล้ได้แม้แต่น้อย ยิ่งมันเข้าไปใกล้มากขึ้นเท่าใด ก็จะยิ่งกลายเป็นความว่างเปล่าที่ไม่เสถียรมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งเกิดเป็นรอยแตกอันน่ากลัวขึ้น ในที่สุดก็ต้องหลบหนีจากไป
ในตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะเข้าไปใกล้บริเวณนั้นได้ ยกเว้นเมิ่งฮ่าว ซึ่งกำลังได้รับความรู้แจ้งของแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า
ร่างเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยวไปมาอยู่ในสภาวะของการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นขณะที่ร่างกายขยายตัวออกไปและจากนั้นก็หดเล็กลงมา บางครั้งก็มีขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดพรรณผักกาด แต่ในชั่วพริบตาก็มีขนาดใหญ่โตเท่าสวรรค์!
ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน จากนั้นก็พึมพำขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น “แก่นแท้แห่งความว่างเปล่า…ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ มีผู้แข็งแกร่งค้นหาความรู้แจ้งมาแล้วมากมาย แต่คนที่จะทำได้สำเร็จเช่นนี้หาได้ยากเย็นเช่นเดียวกับการพบเห็นขนหงส์หรือเขากิเลน…”
ดวงตาไห่เมิ่งสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างช้าๆ
คนทั้งหมดเฝ้ามองไป ขณะที่เมิ่งฮ่าวหลับตาลอยตัวอยู่ที่นั่น ทำการค้นหาความรู้แจ้งเหมือนเช่นเคย ในตอนนี้เขาอยู่ในสถานะที่สูงเกินกว่าผู้ผนึกอสูรรุ่นที่แปดแล้ว เมื่อสามารถสร้างเวทรุ่นแปดขึ้นมาได้อย่างแท้จริง ตอนแรกเขาแค่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความยาว ความสูง ความกว้างและขนาดเท่านั้น แต่ด้วยเช่นนั้นทำให้สามารถจะสร้างเป็นเวทรุ่นแปดขึ้นมาได้อย่างแท้จริง
ในทางกลับกัน สิ่งที่เมิ่งฮ่าวกำลังใคร่ครวญอยู่นี้เกินกว่าเวทรุ่นแปดไปแล้ว เขากำลังครุ่นคิดไตร่ตรองถึงแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า!
นั่นเป็นแก่นแท้ที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้อย่างไร้จุดสิ้นสุด และเมิ่งฮ่าวก็ต้องการจะรู้เกี่ยวกับพวกมันทั้งหมด!
โดยปกติแล้วก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของแก่นแท้โลก จึงทำให้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ ตอนนี้เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่เมิ่งฮ่าวทำการดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปราวคลุ้มคลั่งอย่างต่อเนื่อง
ในตอนนี้เมิ่งฮ่าวดูดซับจุดแสงเข้าไปเก้าหมื่นจุด หรือเก้าในสิบส่วนแล้ว!
เขายังคงดูดซับเข้าไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมาถึงจุดนี้ การครุ่นคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับความรู้แจ้งก็บรรลุถึงจุดสูงสุด แก่นแท้โลกที่เป็นจุดแสงหนึ่งหมื่นจุดสุดท้ายถูกเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไป ในขณะที่จิตใจรู้สึกราวกับว่าถูกฉีกกระชากให้เปิดออกด้วยเสียงระเบิดขนาดใหญ่ ที่ดังก้องจนยากจะอธิบายออกมาได้
ในท่ามกลางเสียงกระหึ่มกึกก้องนั้น ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็ลืมขึ้นมาในทันที ถึงแม้ว่าจะเป็นแววตาที่ดูลึกซึ้งจนยากจะเข้าใจได้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก เวลาเดียวกันนั้นความแตกต่างระหว่างม่านตาดำและสีขาวในดวงตาก็เห็นได้ชัดมากขึ้นกว่าเดิม!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ส่องประกายขึ้นจนดูเหมือนจะเป็นการบ่งบอกว่า พวกมันเต็มไปด้วยเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดิน
“นี่คือแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น ยิ้มน้อยๆ ออกมา รับรู้ได้ว่าแก่นแท้แห่งความว่างเปล่ากำลังจางหายไปอยู่ภายในร่าง และรู้สึกได้ถึงพลังแห่งการใคร่ครวญไตร่ตรองที่ก้าวหน้ามากขึ้นกำลังกระจัดกระจายหายไปอีกด้วย จนต้องถอนหายใจออกมา
แทบจะในเวลาเดียวกับที่เมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา ความว่างเปล่าที่ไม่เสถียรมั่นคงรอบๆ บริเวณนั้นก็จางหายไป นอกจากนี้ร่างกายเมิ่งฮ่าวก็กลับเข้ามาอยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเลอีกครั้ง เมื่อจักรพรรดิเต๋านอกคอกที่บ้าคลั่งมองเห็นเช่นนั้น รูปร่างที่เป็นทะเลเปลวไฟของมันก็เดือดพล่านขึ้นมา และพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
“ความว่างเปล่า…คือเส้นใยนับไม่ถ้วน รวมตัวเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบต่างๆ รูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเส้นใยเหล่านั้นก็คือ…ความว่างเปล่า!” เมิ่งฮ่าวส่ายหน้าจากนั้นก็โบกสะบัดมือออกไป ทำให้วงกลมปรากฏขึ้นที่ใต้เท้า
“ตอนนี้ข้าอยู่ภายในความว่างเปล่า” เขากล่าวพร้อมกับมองลงไป จากนั้นก็ยิ้มออกมาขณะที่มีความรู้แจ้งลึกล้ำมากขึ้น สำหรับทะเลเปลวไฟที่เป็นจักรพรรดิเต๋านอกคอก มันแทบจะกลืนกินเมิ่งฮ่าวเข้าไปแล้ว แต่ก็ทำให้จักรพรรดิเต๋าต้องตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เมื่อตระหนักว่าเปลวไฟกระแทกไปยังด้านนอกของเส้นใยที่ก่อตัวเป็นรูปวงกลม!
“นี่…นี่…” จิตใจของจักรพรรดิเต๋านอกคอกถูกโจมตีด้วยคลื่นแห่งความตื่นตระหนก เช่นเดียวกับจิตใจของจักรพรรดิเต๋านอกคอกคนอื่นๆ และผู้ยิ่งใหญ่
“ความว่างเปล่า! มันรู้แจ้งแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าจริงๆ!”
เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่ง ขณะที่มองไปยังวงกลมที่ก่อตัวขึ้นมาจากเส้นใย ตรงจุดที่ตนเองยืนอยู่ จากนั้นก็ยิ้มออกมา “เส้นใยเหล่านี้…แก่นแท้ที่ข้ารู้แจ้งไม่ใช่แค่เส้นใยเหล่านี้?”
“ภายในเส้นใยเหล่านี้คือความยาว ความสูง ความกว้างและขนาด พวกมันไร้ขีดจำกัด และความว่างเปล่านั้น…ก็ไม่ได้แค่แบนราบเท่านั้น แต่เป็น…” เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือขวาออกไป ทำให้เส้นใยยืดยาวออกไปจากรูปวงกลม และจากนั้นก็พุ่งผ่านตนเองไป ในชั่วพริบตา เส้นใยรูปวงกลมก็ไม่ได้แบนราบอีกต่อไป แต่กลายเป็น…รูปทรงกลม!
“ด้วยเส้นใยที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านั้น ทำให้มันไม่ใช่รูปวงกลมอีกต่อไป แต่กลายเป็นรูปทรงกลม เหมือนกับโลก…น่าเสียดายที่ความรู้แจ้งของข้ายังไม่ลึกซึ้งเพียงพอ จึงไม่อาจจะสร้างมันให้คงอยู่เป็นเวลานานได้” แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวบ่นพึมพำกับตนเอง ลูกทรงกลมก็พังทลายลงไป จนต้องถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
“ในสายตาของข้า โลกก็เป็นแค่ผืนผ้าอันกว้างใหญ่เท่านั้น” เมิ่งฮ่าวมองไปยังคนนอกคอกที่ยังคงอยู่ในรูปแบบของทะเลเปลวไฟซึ่งกำลังตกตะลึงอยู่ จากนั้นก็โบกสะบัดมือขวาออกไป ทำให้เปลวไฟถูกตรึงไว้ในทันที พวกมันเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้ปกคลุมอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวอีกต่อไป แต่กระจายออกไปเพื่อก่อตัวเป็นภาพของเปลวไฟที่อยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาว เหมือนกับเป็นภาพวาด!
จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือออกไปอีกครั้ง และเส้นใยสี่เส้นก็ปรากฏขึ้นอยู่รอบๆ เปลวไฟ แทบจะราวกับว่าพวกมันเป็นกรอบภาพ
“นี่คือความว่างเปล่า” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยดวงตาที่แวบแสงแห่งความเย็นชาออกมา
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ทะเลเปลวไฟสั่นสะท้าน จักรพรรดิเต๋านอกคอกที่อยู่ด้านในกำลังแผดร้องด้วยความขมขื่นออกมา ดูเหมือนว่าเปลวไฟที่ถูกกักไว้ พยายามจะพุ่งออกมาจากเส้นใยเหล่านั้น แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ ในที่สุดเปลวไฟก็รวมตัวเข้าด้วยกันจนกลายเป็นกิ้งก่าเปลวไฟ เริ่มเอาศีรษะโขกกระแทกไปที่เส้นใย แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ มันไม่อาจจะ…หลุดพ้นเป็นอิสระได้ ถูกผนึกไว้อยู่ภายในสิ่งที่เมิ่งฮ่าวสร้างขึ้นมา…กรอบรูป
ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวคล้ายกับเป็นผืนผ้าอันกว้างใหญ่ และใครก็ตามที่สามารถจะควบคุมแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า ก็สามารถใช้มือของตนเองเป็นเหมือนกับพู่กัน ด้วยการสะบัดมือไปมาไม่กี่ครั้ง เส้นใยก็จะก่อตัวเข้าด้วยกันเพื่อกลายเป็นโครงร่าง สิ่งที่อยู่ภายในโครงร่างนั้นก็คือ…ความว่างเปล่า
ถ้าผืนผ้านี้ถูกพับไป ก็จะตามมาด้วยรอยแตก ซึ่งถูกสร้างเป็นรอยแตกมิติ นอกจากนั้นผืนผ้านี้ก็สามารถจะก่อตัวเป็นรูปทรงกลมได้ จากนั้นความว่างเปล่าก็จะกลายเป็น…โลกแห่งหนึ่ง