Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1345

ตอนที่ 1345

แก่นแท้เวทผนึก

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ถึงแก่นแท้โลก ก็เริ่มดูดซับมันเข้าไป แก่นแท้โลกที่อยู่รอบๆ ตัวเริ่มเคลื่อนไหว และจากนั้นคนทั้งหมดก็เริ่มมองเห็นได้

จุดแสงนับไม่ถ้วนกระจายเป็นแสงอันอ่อนโยน ลอยออกมาจากสวรรค์ชั้นแรกและกระจายออกไปเต็มอยู่ทั่วทุกที่ ถ้ามองมาจากที่ห่างไกลก็จะเห็นว่าจุดแสงนับแสนรวมตัวเข้าด้วยกันจนกลายเป็นกิ้งก่า

เมิ่งฮ่าวอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของกิ้งก่าพอดี ซึ่งแก่นแท้โลกมีความหนาแน่นมากที่สุด!

ในตอนนี้เองที่จักรพรรดิเต๋านอกคอกอ้าปากค้าง จากนั้นก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “แก่นแท้โลก!!”

เมื่อผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกที่กำลังต่อสู้กับไห่เมิ่งมองเห็นแก่นแท้โลกรูปร่างกิ้งก่า แววตาของมันก็เต็มไปด้วยความเสียใจ

ไม่ใช่โลกทั้งหมดจะสามารถมีแก่นแท้โลกได้ แต่เมื่อไหร่ที่โลกนั้นมีแก่นแท้โลก และมีเวลาเพียงพอ ก็จะกลายเป็น…สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง!

ผู้ฝึกตนและกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมด มองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ แต่ก็ไม่มีใครจะเข้าใจได้

แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอาณาจักรสายลม ทำให้กลุ่มผู้ฝึกตนลำดับขั้นจากขุนเขาทะเลต่างๆ รู้ว่าสิ่งที่พวกมันกำลังมองไปนั้นคืออะไร ทำให้ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน พวกมันตระหนักได้ในทันทีว่านั่นคือแก่นแท้โลก

จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังเต้นรัว จากระดับพื้นฐานฝึกตนในตอนนี้ ทำให้รู้สึกได้ว่าแก่นแท้โลกนี้ทำให้ตนเองเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ครอบครองมัน นอกจากนั้นก็ยังรู้ด้วยว่าแก่นแท้โลกนี้ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่งสำหรับตนเอง

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของแก่นแท้โลก และทุกครั้งที่สูดลมหายใจเข้าไป ก็ทำให้แก่นแท้โลกไหลเข้ามาในร่างเป็นจำนวนมาก ความคิดเริ่มว่องไวปราดเปรียวมากขึ้น พลังแห่งการใคร่ครวญไตร่ตรองแข็งแกร่งขึ้น แม้แต่พลังแห่งเจตจำนงก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้น ราวกับว่าเขากำลังกลายเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดินมากขึ้นกว่าเดิม

ในตอนนี้เองที่จักรพรรดิเต๋านอกคอก กำลังเผาไหม้พลังชีวิตด้วยดวงตาที่แดงก่ำ จู่ๆ ก็มีความรู้สึกที่แปลกๆ ขึ้นมา มันไม่แน่ใจว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่หลังจากที่มองเห็นเมิ่งฮ่าวกำลังดูดซับแก่นแท้โลก ก็แทบจะคิดว่าได้ยินเสียงแก่นแท้โลกแผดร้องออกมา

นี่คือแก่นแท้ของบ้านมัน ซึ่งพวกมันคิดว่าเป็นซีหมู่ (มารดากิ้งก่า)!

“เมิ่งฮ่าว!” มันแผดร้องคำรามขึ้น ขยับตัวเคลื่อนไหว พุ่งเข้าไปในแก่นแท้โลกด้วยความต้องการจะขัดขวางเมิ่งฮ่าว แต่ขณะที่เข้าไปใกล้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบประกายขึ้น และหลบเลี่ยงไปทางด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิเต๋านอกคอก แต่ทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

เมื่อไม่อาจจะหลบไปได้ เมิ่งฮ่าวก็จะใช้กระถางสายฟ้าและการสลับร่างย้ายตำแหน่ง เพื่อยืดระยะห่างระหว่างคนทั้งสองออกไป ขณะที่ทำการดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปอยู่ตลอดเวลา เมื่อจักรพรรดิเต๋านอกคอกเห็นว่าเมิ่งฮ่าวไม่สนใจที่จะต่อสู้ มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

นอกจากนี้ถึงแม้จะดูเหมือนว่าในแง่ของพลังการต่อสู้แล้ว คนทั้งสองจะอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ความเป็นจริงก็คือว่าตอนนี้เมิ่งฮ่าวมีความแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิเต๋านอกคอกอยู่เล็กน้อย!

ถ้าไม่ใช่ดูเหมือนว่าแก่นแท้โลกไม่เสถียรมั่นคง ราวกับว่าอาจจะจางหายไปได้ทุกเมื่อแล้วละก็ เมิ่งฮ่าวคงจะต้องโจมตีและสังหารมันไปอย่างแน่นอน และจากนั้นค่อยทำการดูดซับต่อไป

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาพอที่จะทำเช่นนั้น ร่างเมิ่งฮ่าวแวบไปมาขณะที่หลบหลีกทะเลแห่งเปลวไฟสีดำ หลังจากที่สูดหายใจเข้าลึกๆ ก็ทำให้แก่นแท้โลกจำนวนมากส่งเสียงดังกระหึ่มพุ่งตรงมา

ขณะที่แก่นแท้โลกหดเล็กลงไป เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังก้องขึ้นอยู่ในจิตใจของกลุ่มคนนอกคอก แต่ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไม่อาจจะรับรู้ได้

ราวกับว่าแก่นแท้โลกกำลังขอร้องกลุ่มคนของมัน อ้อนวอนผู้ฝึกตนกิ้งก่าทั้งปวงให้ช่วยมัน!

กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมดกำลังสั่นสะท้าน และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้…

เมิ่งฮ่าวดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และดวงตาก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้าเพิ่มมากขึ้น แทบจะดูคล้ายกับเป็นดวงตะวัน ที่กำลังเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา เป็นแสงแห่งความเข้าใจอย่างไร้ขอบเขต

เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความคิดของตนเองว่องไวปราดเปรียวกว่าก่อนหน้านี้ สามารถจะตรวจสอบสิ่งที่ไม่เคยตรวจสอบได้มาก่อน และยังรับรู้ได้ถึงการรู้แจ้งแห่งเต๋าอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายได้อีกด้วย

ราวกับว่าเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดินต่างก็มารวมอยู่ตรงหน้าทั้งหมด และสิ่งที่เขาต้องทำก็คือหยิบมันออกมาและทำความเข้าใจถึงพื้นฐานธรรมชาติของมัน จากนั้น…ก็จะมีแก่นแท้ที่เป็นของตนเองเพียงคนเดียวเท่านั้น

นี่ไม่เหมือนกับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งของภายนอก ไม่ใช่ของตนเองอย่างแท้จริง!

สิ่งที่เขาสามารถจะทำได้ในตอนนี้จริงๆ แล้วก็มาจากประสบการณ์ตอนที่อยู่ในอาณาจักรสายลม ในที่แห่งนั้นเขาได้วางรากฐานจากการรู้แจ้งที่เกี่ยวข้องกับสามพันเต๋าอันยิ่งใหญ่ ซึ่งกลายเป็นการเพาะเมล็ดกรรมไว้ และวันนี้เขาก็สามารถจะเก็บเกี่ยวได้แล้ว!

“เข้าใจแก่นแท้…” เมิ่งฮ่าวคิดดวงตาสาดประกายขึ้น

“ข้าไม่จำเป็นต้องรู้แจ้งแก่นแท้จากภายนอกใดๆ สามพันเต๋าอันยิ่งใหญ่ สามพันแก่นแท้ ไม่มีใครมีแก่นแท้ได้ครบทั้งสามพัน…ข้าต้องรู้แจ้งเพียงแค่เก้าเต๋าเท่านั้น!”

“เต๋าทั้งเก้าเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องพยายามให้ได้มาจากคนอื่นๆ แต่เป็นสิ่งที่คงอยู่ภายในใจข้า…ต้องไม่มีแก่นแท้ใดที่จะเหมาะสมกับข้ามากไปกว่าเก้าเวทผนึกอสูรอีกแล้ว!”

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยคิดไว้แล้วว่า จะใช้เวทผนึกอสูรเป็นแก่นแท้อาณาจักรเต๋าของข้า ถ้าเวทผนึกแต่ละอย่างสามารถเป็นแก่นแท้ได้…เมื่อข้ามีครบทั้งเก้าเวท ข้าก็จะมีเก้าแก่นแท้ และนั่นคือตอนที่ข้า, เมิ่งฮ่าว…จะก้าวเข้าไปในระดับสูงสุดของผู้ยิ่งใหญ่!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าขึ้น และจิตใจก็เริ่มเต้นรัว ในตอนนี้เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ทุ่มเทพลังทั้งหมดเท่าที่สามารถจะรวบรวมได้ออกมาเพื่อได้รับความรู้แจ้งแห่ง…เวทผนึกอสูรรุ่นแปด!

เวทผนึกร่างและวิญญาณ!

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวตัดสินใจที่จะได้รับความรู้แจ้งแห่งเวทผนึกอสูรรุ่นแปด เสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในจิตใจ ขณะที่พลังจิตทั้งหมดของเขาเพ่งนิ่งไปที่เวทผนึกโดยสิ้นเชิง!

จิตใจเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มราวกับมีสายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดลงมา ขณะที่ทำการวิเคราะห์เวทผนึกอสูรรุ่นแปด เพ่งสมาธิไปเพื่อแยกมันออกเป็นชิ้นๆ และขุดลึกลงไป!

เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดใคร่ครวญว่าทำไมเวทนี้ถึงสามารถจะหยุดการเคลื่อนไหวของพื้นฐานฝึกตนได้ และไตร่ตรองว่ามันสามารถจะควบคุมแก่นแท้ได้อย่างไร วิเคราะห์ว่าทำไมเวทนี้ถึงสามารถตรึงได้แม้กระทั่งแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์!

เขายังได้วิเคราะห์ไปถึงว่าทำไมผู้ผนึกอสูรรุ่นแปด…ถึงสามารถสร้างเวทผนึกที่พิเศษเฉพาะเช่นนี้ได้อีกด้วย!

ถ้าไม่มีแก่นแท้โลก เมิ่งฮ่าวคงจะต้องใช้เวลานานมากๆ เพื่อกระทำเรื่องเช่นนี้ และคงจะต้องวิเคราะห์ไตร่ตรองไปอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้แก่นแท้โลกแทบจะดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ช่วงเวลามีความแตกต่างกันเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าแค่เมิ่งฮ่าวคิดไปแวบเดียวก็ผ่านไปแล้วหนึ่งหมื่นปี ทำให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ในช่วงเวลาสั้นๆ!

ขณะที่เมิ่งฮ่าวทำการวิเคราะห์และใคร่ครวญไปอย่างต่อเนื่อง เสียงแผดร้องก็ดังก้องอยู่ในจิตใจกลุ่มคนนอกคอกอย่างไม่รู้จบ และพวกมันก็รู้ว่าจุดแสงเหล่านั้นคือแก่นแท้โลกที่กำลังถูกเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมได้

ในชั่วพริบตา สามหมื่นจุดแสงก็ถูกดูดเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว

พลังแห่งการใคร่ครวญไตร่ตรองเริ่มมีความลึกล้ำมากขึ้น ทำให้เมิ่งฮ่าวสามารถจะวิเคราะห์เรื่องราวได้รวดเร็วมากขึ้น ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าจนใครก็ตามที่มองมาจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน

ในตอนนี้เองที่กลิ่นอายแห่งความรู้แจ้งเริ่มพุ่งขึ้นมาจากภายในร่างเมิ่งฮ่าว หลอมรวมเข้ากับฟ้าดิน ราวกับว่าเขากำลังเป็นหนึ่งเดียวกับโลกแห่งนี้!

การรู้แจ้งเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนทั้งหลายต่างก็ใฝ่ฝันถึง มันคือ…การรู้แจ้งแห่งเต๋า!

“ไม่!!” จักรพรรดิเต๋านอกคอกแผดร้องออกมา ดวงตาแวบขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง ทันใดนั้นร่างมันก็แตกกระจายออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เพื่อก่อตัวเป็นทะเลโลหิตสีแดงเข้ม อยู่ตรงด้านบนของเปลวไฟสีดำที่กำลังโหมกระหน่ำ

สีแดงและสีดำผสมรวมเข้าด้วยกัน กลายเป็นสีม่วง เห็นได้ชัดว่านี่คือเวทยิ่งใหญ่ละลายวิญญาณบางอย่าง จักรพรรดิเต๋านอกคอกยินดีที่จะละทิ้งกายเนื้อและพื้นฐานเต๋าของตัวเอง เพื่อเผาไหม้พลังของแรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไป เพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นทะเลแห่งเปลวไฟที่ม้วนกวาดตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวไม่ยอมหลบเลี่ยงหลีกหนี ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่ทะเลโลหิตพุ่งตรงมา จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วออกไป

นิ้วที่ชี้ออกไปนั้นไม่ได้ปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นแปด แต่ก็มีระลอกคลื่นอันแข็งแกร่งกระจายออกไป ทำให้ทะเลโลหิตหยุดชะงักนิ่ง แต่เพียงชั่วขณะมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป ขณะที่คลื่นสีม่วงแผดร้องคำราม กระจายเป็นคลื่นความร้อนพุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว พร้อมกับพลังแห่งการทำลายล้าง

“ตาย!” จักรพรรดิเต๋านอกคอกร้องตวาดออกมาจากภายในทะเลโลหิต ทำให้แรงกดดันขนาดใหญ่ปะทุขึ้นมา กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง และจากนั้นก็บดขยี้ลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว

จักรพรรดิเต๋านอกคอกรวมพลังจากเจตจำนงทั้งหมดโจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่ง และเผาไหม้พื้นฐานฝึกตนของมันเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังโจมตี ที่แม้แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังต้องรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น และโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปากเมิ่งฮ่าว เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่วทั้งร่าง ขณะที่ถอยโซเซไปทางด้านหลัง แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจแม้แต่น้อย มองเห็นความว่างเปล่าอยู่ในแววตา เป็นความว่างเปล่าที่ออกมาจากส่วนลึกของจิตใจและการเข้าฌาณเพื่อไตร่ตรองอย่างลึกล้ำ

แทบจะราวกับว่าเมิ่งฮ่าวมองไม่เห็นอันตรายที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้

“ตาย!” ทะเลโลหิตกลายเป็นใบหน้าขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือจักรพรรดิเต๋านอกคอกนั่นเอง จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรง แผดร้องคำรามออกมาขณะที่ทะเลแห่งเปลวไฟจู่ๆ ก็เริ่มหมุนวนไปมา กระจายเป็นกลิ่นอายอันน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวนั่งอยู่ภายในทะเลแห่งเปลวไฟ ขมวดคิ้ว ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแสงแห่งความครุ่นคิดใคร่ครวญ

“มันไม่ใช่เป็นแค่เวทผนึก แก่นแท้…ถูกซ่อนอยู่ภายในเวทผนึกนี้…?” ทันใดนั้นดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายขึ้น

“ข้าต้องการแก่นแท้โลกมากขึ้นอีก!” เมิ่งฮ่าวไม่สนใจทะเลโลหิตที่กำลังกดทับลงมา ทันใดนั้นก็เดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

เมื่อเท้าของเมิ่งฮ่าวเหยียบย่างลงไป ทั่วทั้งโลกแห่งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะซ้อนทับกันเอง จากนั้นก็แยกส่วนออกจากกัน ราวกับว่าเขาได้เดินผ่านเข้าไปในมิติที่แตกต่างกันออกไป ราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ในอาณาจักรขุนเขาทะเลอีกต่อไป

ตอนนี้เมิ่งฮ่าวออกไปอยู่ที่ด้านนอกของทะเลโลหิต ซึ่งบดขยี้ลงไปยังตำแหน่งเดิมก่อนหน้านี้ของเขาด้วยเสียงดังกึกก้อง เวลาเดียวกันนั้นแก่นแท้โลกก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวมากขึ้น

หนึ่งหมื่น, สองหมื่น…ในชั่วพริบตา เมิ่งฮ่าวก็ดูดซับแก่นแท้โลกเข้าไปมากกว่าครึ่ง!

ตอนนี้จิตใจเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่ม และพลังแห่งการครุ่นคิดใคร่ครวญก็ระเบิดออกไป ขณะที่จิตใจแยกเวทผนึกอสูรรุ่นแปดออกเป็นส่วนๆ จนกระทั่งในที่สุด…ก็มองเห็นแก่นแท้ของเวทผนึก!

“ความว่างเปล่า…” เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!