Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 269

ตอนที่ 269

มันคือบุรุษชุดฟ้านิรนาม!

“หุบปาก!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ไม่สนใจลำแสงและกระถางขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาโดยสิ้นเชิง เขาตบไปที่ถุงสมบัติ และทันใดนั้น กระบี่ไม้ธรรมดาก็ปรากฎขึ้น

คว้าจับกระบี่อยู่ในมือ เขากวาดมันไปยังลำแสงและกระถางนั้น

การกรีดเฉือนไปของกระบี่นั้น ดูเหมือนจะแยกผ่าอากาศออก ส่งผลให้ระลอกคลื่นกระจายออกไป รวมถึงแสงสีขาวเจิดจ้า ดูเหมือนว่าแค่การสะบัดกระบี่ธรรมดาเช่นนั้น ก็ประกอบไปด้วยเต๋าอันยิ่งใหญ่ ราวกับว่าสายลมอันยิ่งใหญ่แห่งเวลากำลังม้วนกวาดระลอกคลื่นออกไป

ภายในลำแสงที่พุ่งเข้ามาเป็นขวานบิน ลมพายุที่เต็มไปด้วยวงจรหกสิบปีของกาลเวลา กระแทกเข้าไปในขวานบิน ทันใดนั้น จุดดำก็ปรากฎขึ้นบนพื้นผิวของมัน ราวกับว่ามันกำลังมีอายุมากขึ้น ลมปราณของขวานเริ่มเสื่อมโทรมลง เพียงชั่วพริบตา มันก็ผุพังราวกับว่ากำลังจะสลายไป ในทันใดนั้นมันก็เน่าเปื่อยผุพังล่วงหล่นลงไปบนพื้น

สายลมยังคงอยู่ที่นั่น พุ่งตรงไปยังภาพลวงตากระถาง ซึ่งเริ่มสั่นไปมาและบิดเบือนไป วงจรแห่งกาลเวลาหกสิบปี ดูเหมือนจะผ่านไป สิ่งที่เป็นภาพลวงตาเช่นนี้ไม่อาจต่อต้านการพัดผ่านของกาลเวลา กระถางที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ทันใดนั้น ก็เริ่มแตกกระจายไป

สายลมพุ่งไปกระทบร่างเต้าจื่อดินแดนสีดำหลัวชง โชยพัดผ่านมันไปอย่างอ่อนโยน ผิวหนังที่เต่งตึงของมันดูเหมือนจะถูกพัดพาไปโดยสายลมนั้น ริ้วรอยเหี่ยวย่นปรากฎขึ้นบนมือของมัน และภายใต้หน้ากาก ใบหน้าของมันเริ่มมีอายุมากขึ้น พลังชีวิตหกสิบปีทันใดนั้นก็ถูกดูดออกไป ความรู้สึกอ่อนแออย่างน่าเหลือเชื่อพุ่งขึ้นมาจากด้านใน ความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปกคลุมไปทั่วใบหน้าของมัน ร่างกายสั่นสะท้าน และกระอักโลหิตออกมา โซเซถอยออกไปด้านหลัง ความไม่อยากจะเชื่อเต็มอยู่ในดวงตา

“เจ้า…” ร่างกายของมันสั่นเทา และใบหน้าก็ซีดขาว ผิวกายแห้งเหี่ยวลงอย่างต่อเนื่อง ทั่วทั้งร่างกายเริ่มผอมแห้งลง หน้ากากทันใดนั้นก็ตกลงมา เปิดเผยให้เห็นเส้นผมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสีดำ ได้กลายเป็นสีขาวในตอนนี้ ใบหน้าของมันดูแก่ชรา ซึ่งยังคงมีร่องรอยของความกล้าหาญอยู่ แต่ในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว ทุกสิ่งทุกอย่างสงบเงียบราวความตาย

สามผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้า ทันใดนั้น ก็ยืนขึ้น ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยแววตาที่เคร่งขรึมจริงจัง บนพื้นด้านล่าง ผู้ฝึกตนนับหมื่นจากดินแดนด้านใต้ เงียบอยู่สักพัก จากนั้นเสียงพูดคุยก็ดังกระหึ่มขึ้นมา

เต้าจื่ออีกคน, ฉือเฟย ถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่นางมองมายังเมิ่งฮ่าว

หวังลี่ไห่ และหานซานเต้า สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ทั้งคู่จ้องมาด้วยความตกตะลึง จิตใจเต้นรัว

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้เพียงพอที่จะสร้างความตกตะลึงให้กับทุกๆ คนภายใต้สวรรค์แห่งนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมิ่งฮ่าวเพียงสะบัดกระบี่กวาดไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น!

ขวานถูกทำให้อยู่ในขั้นการเน่าเปื่อยผุผัง, กระถางภาพลวงตาหายสาบสูญไป และอายุขัยของหลัวชงหายไปหกสิบปี ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคลื่นของการพูดคุยกระจายออกไปทั่วทั้งบริเวณนั้น

“นั่น…นั่นคือวิชาเวทอะไร?!?!”

“มันเป็นกระบี่เล่มนั้น! มันต้องเป็นความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากกระบี่!!”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันกล้าท้าทายขั้นสร้างแกนลมปราณ มันคือใคร…? มันสวมใส่ชุดยาวสีฟ้า อย่าบอกข้านะว่า…”

ขณะที่เสียงพูดคุยดังเต็มอยู่ในอากาศ เต้าจื่อหลัวชงยืนตัวสั่นอยู่ที่นั่น ใบหน้ามันซีดขาว สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสน

เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดแขนเสื้อ กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ”ข้าเอาเวลาไปจากเจ้าหกสิบปี ตอนนี้เจ้าเข้าใจว่าฟ้าสูงเพียงใด แผ่นดินต่ำเพียงไหนแล้วหรือไม่?” ด้วยเช่นนั้น เขาไม่สนใจมัน จ้องมองไปยังหวังลี่ไห่ และหานซานเต้า

หวังลี่ไห่มองมาที่เขา และกล่าวขึ้นในทันที ”ดูเหมือนว่าท่านที่นับถือกำลังใช้ใบหน้าที่แท้จริงในวันนี้ ข้าเข้าใจว่าเป็นท่านที่เอาชนะข้าในวันนั้น แต่ยังคงมีการต่อสู้ระหว่างพวกเราอีกในวันข้างหน้า!”

หานซานเต้าแห่งสำนักกูตู๋เจี้ยน ประสานมือและโค้งตัวลง ”บุรุษชุดฟ้านิรนาม…ข้าขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำของท่านก่อนหน้านี้”

คำพูดของพวกมัน ทำให้ผู้ฝึกตนที่อยู่รายรอบเงียบลงในทันที แต่ความเงียบก็เกิดขึ้นแค่ไม่กี่อึดใจ ทันใดนั้น เสียงตะโกนก็ดังขึ้นจนพื้นดินสั่นสะเทือน

“อะไรนะ?! มันคือบุรุษชุดฟ้านิรนาม!”

“บุรุษชุดฟ้านิรนาม! มันเพิ่งจะมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ มันกวาดล้างผู้ถูกเลือก และสะกดข่มเต้าจื่อไปทั่ว เป็นมันนี่เอง!!”

“ข้าอยากรู้นักว่า บุรุษชุดฟ้านิรนามนี้มาจากสำนักอะไร? เมื่อพิจารณจากความน่าเหลือเชื่อของมัน มันต้องเป็นเต้าจื่ออย่างแน่นอน!”

ขณะที่เสียงตะโกนดังขึ้นมา ทุกคนจ้องมายังเมิ่งฮ่าวด้วยสายตาร้อนแรง ชื่อเสียงของบุรุษชุดฟ้านิรนามช่างน่าเหลือเชื่อนัก มันเป็นความลึกลับที่น้อยคนนักในเขตตะวันตกของดินแดนด้านใต้ จะไม่พูดถึง

หลัวชงอ้าปากค้าง และถอยหลังไปหลายก้าวในทันที ก่อนที่จะมายังดินแดนด้านใต้ มันเคยได้ยินเรื่องของบุรุษชุดฟ้านิรนาม และมองว่าเขาเป็นศัตรูที่น่ากลัว มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่า บุคคลที่อยู่ตรงหน้ามันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบุรุษชุดฟ้านิรนาม? จิตใจมันเต็มไปด้วยความขมขื่น ขณะที่มันตระหนักว่ามันได้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง

เมื่อพิจารณาว่าความพ่ายแพ้นี้ตกอยู่ในสายตาของผู้ฝึกตนนับหมื่น ก็เห็นได้ชัดว่า คำพูดก็จะกระจายออกไปตลอดทั้งดินแดนด้านใต้อย่างรวดเร็วว่า เต้าจื่อดินแดนสีดำหลัวชง ได้สูญเสียเวลาไปหกสิบปีในการสะบัดกระบี่เพียงแค่ครั้งเดียว

แสงอันดุร้ายผุดขึ้นมาในดวงตาหลัวชง ขณะที่มันล่าถอย ทันใดนั้น มันก็ตะโกนออกมา ”ผู้อาวุโสหน้ากากฟ้า, ได้โปรดสังหารคนผู้นี้!” ทันใดนั้น ดวงตาของสองผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าเริ่มสาดประกายด้วยรังสีสังหารออกมา

สีหน้าเมิ่งฮ่าวเรียบเฉยเหมือนเช่นเคย ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ทันทีที่เขาตัดสินใจโจมตี ก็ได้คาดคิดไว้ก่อนแล้วว่าจะมีบางสิ่งเช่นนี้เกิดขึ้น ก่อนที่คำพูดดังก้องของหลัวชงจะเงียบลง เสียงของเมิ่งฮ่าวก็ได้ยินออกมา

ครั้งนี้ เขาพูดไปยังผู้ฝึกตนนับหมื่นที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น

“สหายเต๋าแห่งดินแดนด้านใต้ทั้งหลาย ข้าคือฟางมู่ เจ้าแห่งเตาแห่งสำนักจื่อยิ่น เมื่อปีที่แล้ว ผู้ฝึกตนดินแดนสีดำได้ลอบโจมตีข้า และสหายเจ้าแห่งเตาของข้า โจวเต๋อคุน ในภูเขาฮวงหลิ่ง โชคดีที่ข้าหลบหนีจากมาได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าโจวเต๋อคุนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เนื่องจากการรู้แจ้งจากน้ำพุร้อนแห่งเต๋านี้ พื้นฐานฝึกตนของข้าจึงได้บรรลุถึงจุดสูงสุดใหม่ วันนี้ ข้ามาเพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู้ในภูเขาฮวงหลิ่งวันนั้น สหายเต๋าแห่งดินแดนด้านใต้ทั้งหลาย ข้าขอให้ท่านทั้งหลายช่วยเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย!” คำพูดของเขาดังออกมาราวเสียงฟ้าฟาด ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่วท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนนับหมื่นที่ด้านล่าง

“เจ้าแห่งเตา…จริงๆ แล้ว…มันก็คือเจ้าแห่งเตาแห่งแผนกเม็ดยาบูรพา!!”

“ฟางมู่ ข้าจำได้แล้ว! เมื่อปีที่แล้ว มีเจ้าแห่งเตาคนใหม่ในแผนกเม็ดยาบูรพานามว่า ฟางมู่!”

“มันคือฟางมู่! เจ้าแห่งเตา!”

ผู้ฝึกตนตกอยู่ในความโกลาหล ขณะที่พวกมันมองมายังเมิ่งฮ่าว คลื่นแห่งความประหลาดใจเต็มอยู่ในจิตใจ นามของบุรุษชุดฟ้านิรนาม ทำให้จิตใจของพวกมันสั่นสะท้านไปเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือคำว่า ’เจ้าแห่งเตา’

ดวงตาแวววาวของผู้ฝึกตนทั้งหมดในตอนนี้ตรึงแน่นอยู่ที่เมิ่งฮ่าว!

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมมันไม่ได้สังหารคนที่มันได้ท้าสู้ด้วยแม้แต่คนเดียว!”

“ฟางมู่ต้าชือ ทำทั้งหมดก็เพื่อให้ได้รับการรู้แจ้ง! มันต้องโจมตี แต่มันก็เป็นนักปรุงยา และไม่ต้องการจะสร้างศัตรู ดังนั้น มันจึงยับยั้งความต้องการสังหารของมันไว้ นี่คือนักปรุงยาดินแดนด้านใต้ของพวกเรา! นี่คือผู้ถูกเลือกที่แท้จริงของดินแดนด้านใต้!!!”

ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ใบหน้าเต้าจื่อดินแดนสีดำหลัวชง ทันใดนั้นก็เปลี่ยนไป มันจ้องมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความงุนงง จิตใจหมุนคว้าง ตัวตนของเมิ่งฮ่าวทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายใหญ่โตท่ามกลางกลุ่มคน แต่ก็สร้างความสั่นสะเทือนให้กับจิตใจมันโดยสิ้นเชิงด้วยเช่นกัน

ด้านข้างมัน ฉือเฟย ก็หอบหายใจด้วยเช่นกัน ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าว ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

สามผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้ามีสีหน้าเยือกเย็น สองในพวกมัน ไม่ใช่คนที่ผอมแห้ง กำลังขมวดคิ้วอยู่

รังสีสังหารอันเข้มข้นพุ่งออกมาจากดวงตาเมิ่งฮ่าว และเขาก็มองไปยังผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าร่างผอมแห้ง ”การต่อสู้ของข้าในวันนี้ก็คือ คนผู้นี้ ถ้ามีใครสอดแทรกเข้ามา ถ้าผู้ฝึกตนดินแดนสีดำคนอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย ข้าก็ขอให้สหายเต๋าทั้งหลายจากดินแดนด้านใต้หยุดพวกมันด้วย!”

ดวงตาหวังลี่ไห่สาดประกาย และมันก็กล่าวขึ้นในทันที ”ตระกูลหวังแห่งดินแดนด้านใต้จะร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่งนี้ ถ้าผู้ฝึกตนดินแดนสีดำสอดแทรกเข้าไป พวกมันก็จะเป็นศัตรูกับตระกูลหวังทั้งหมด!”

“สำนักกูตู๋เจี้ยนแห่งดินแดนด้านใต้ จะร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้นี้ ถ้าผู้ฝึกตนดินแดนสีดำคนอื่นเคลื่อนไหว พวกมันก็จะกลายเป็นศัตรูกับสำนักกูตู๋เจี้ยน”

“สำนักจินซวงแห่งดินแดนด้านใต้ จะร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้! ถ้าผู้ฝึกตนดินแดนสีดำคนใดกล้าที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ สำนักจินซวงก็จะถูกบังคับให้ยื่นมือเข้าไป!”

“สำนักเซี่ยเยางแห่งดินแดนด้านใต้ จะร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้!”

“สำนักชิงหลัวแห่งดินแดนด้านใต้ จะร่วมเป็นสักขีพยานในการต่อสู้!”

“สำนัก…”

คนแล้วคนเล่า ส่งเสียงดังออกมา อย่างไม่รู้จบ ผู้ฝึกตนนับหมื่นไม่ได้นั่งขัดสมาธิอยู่อีกต่อไป พวกมันทั้งหมดต่างก็ลุกขึ้นยืน จ้องมองขึ้นไปด้วยความโกรธเคืองยังผู้ฝึกตนดินแดนสีดำ

ตระกูลทั้งหมด สำนักทั้งหมด ส่งเสียงดังออกมา หลอมรวมกันเป็นเสียงกระหึ่มดังกึกก้อง สะเทือนสวรรค์ สั่นปฐพี ราวกับเสียงฟ้าผ่าที่ไม่มีวันรู้จบ

ผู้ฝึกตนที่อยู่ที่นี่ ทั้งหมดต่างก็อยู่ในขั้นพื้นฐานลมปราณ แต่พวกมันก็เป็นตัวแทนของสำนักและตระกูลต่างๆ ของดินแดนด้านใต้ เห็นได้ชัดว่า พวกมันมีอิทธิพลต่อท่าทีของสำนักทั้งหมด เมื่อพิจารณาว่าพวกมันได้ส่งเสียงไปในความคิดเห็นเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ฝึกตนดินแดนสีดำในตอนนี้ ถูกผลักเข้าไปอยู่ในมุมอับ

ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว ก็จะทำให้เกิดสงครามใหญ่ระหว่างดินแดนด้านใต้ และดินแดนสีดำ!

ใบหน้าหลัวชงบิดเบี้ยว ร่างกายสั่นเทิ้ม ข้างกายมัน ฉือเฟย กำลังหอบหายใจ ผู้ฝึกตนชุดดำคนอื่นๆ จากกลุ่มของพวกมันทั้งหมด ต่างก็ดูท่าทางกังวลใจ และกำลังโคจรพื้นฐานฝึกตนของพวกมัน

สีหน้าของสามผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้าเปลี่ยนไปในทันใด

ผู้ฝึกตนร่างผอมแห้งมีสีหน้าเยือกเย็นภายใต้หน้ากาก มันก้าวเท้ามาข้างหน้า และกล่าวว่า ”นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างเด็กผู้เยาว์รุ่นหลังและข้า, หยาง คนภายในไม่จำเป็นต้องสอดแทรกเข้ามา มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับดินแดนสีดำ ฟางมู่ เจ้าลูกสุนัข ดูเหมือนเจ้ากำลังอยากหาที่ตาย ก็ดี ข้าจะช่วยเหลือเจ้าเอง!” เสียงของมันดังออกมา ทำให้ผู้ฝึกตนดินแดนสีดำที่อยู่รอบๆ ต้องถอยหลังไป ทันใดนั้น ผู้ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็มีแต่มันและเมิ่งฮ่าวเท่านั้น

นี่คือสนามต่อสู้ของคนทั้งสอง!

“ดูเหมือนเจ้าได้คิดมาแล้วว่าจะตายอย่างไร” ผู้ฝึกตนหน้ากากฟ้ากล่าวเสียงราบเรียบ ”ถ้าข้าไม่ช่วยเจ้า ข้าก็จะรู้สึกไม่ดี” รังสีสังหารกระจายออกมาจากดวงตา มันยกมือขึ้น และทันใดนั้นแสงสีเหลืองอ่อนก็ปรากฎ นี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากแกนปราณของมัน

นี่เป็นปราณที่มีรูปแบบเปลี่ยนไปมาได้ตลอดเวลา และตอนนี้มันก็กลายเป็นภาพของกระบี่

เมิ่งฮ่าวมองไปด้วยความจดจ่ออยู่ในดวงตา นี่เป็นการต่อสู้ที่สำคัญมากสำหรับเขา พื้นฐานฝึกตนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยปราณที่มองไม่เห็น ดูเหมือนความกระหายต่อการโจมตีของเมิ่งฮ่าวรุนแรงมากขึ้น เมื่อเขาทำเช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นพลังที่จะนำไปสู่การทะลวงผ่านพื้นฐานฝึกตนของเขา!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!