บทที่ 33 : ชีวิตในความตาย
เป็นเพราะว่าเขาหลบซ่อนอยู่บนต้นไม้ จ้าวเฟิงจึงสามารถเห็นชายชุดเทาได้ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สามารถมองเห็นเขาได้
เด็กหนุ่มไม่ได้ยิงออกไปในทันที แต่เขากลับใช้นัยน์ตาซ้ายของเขาในการคำนวณทิศทางของลูกศร
เมื่อข้ายิงธนูออกไป ข้าย่อมถูกพบโดยสัตว์ปีศาจทั้งสองนั่นด้วย… จ้าวเฟิงยังคงเยือกเย็น เขาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับเสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองหลังจากที่เขาฆ่าชายชุดเทาได้
นักฆ่าชุดเทานั้นรับมือกับสัตว์ปีศาจทั้งสองอย่างยากลำบาก แต่เขาก็ยังคงใช้พลังส่วนหนึ่งในสอดส่องความเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิง
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ คนผู้นี้สมกับที่เป็นนักฆ่าแนวหน้า ในสถานการณ์เช่นนี้เขายังป้องกันตนเองจากการโจมตีของเขาได้อีก
ครืนน
ในตอนนั้นเองที่พื้นดินสะเทือนเบาๆ ราวกับมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าตรงมา
กี้!
เสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองที่มีพลังเทียบเท่าขั้นสุดยอดของผู้ฝึกตนขั้นห้าตัวสั่นสะท้านและหยุดโจมตีในทันที
โฮกก!
เสียงคำรามน่าหวาดกลัวดังไปกว่า 10 ไมล์ สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วน และกระทั่งสัตว์ปีศาจบางตัวยังต้องสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเสียงคำรามนั้น
มันคือตัวอันใดกัน! จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าแก้วหูของเขาสั่นสะท้าน เพียงแค่เสียงคำรามก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
ไม่ดีแล้ว… ชายชุดเทาราวกับรับรู้ได้ถึงบางอย่าง ใบหน้าของเขากลายเป็นขาวซีด เขารู้เกี่ยวกับป่าเมฆาคล้อยมากกว่าจ้าวเฟิง
นั่นคือ… จ้าวเฟิงใช้นัยน์ตาซ้ายมองไป ในสายตาปรากฏร่างของเสือเขี้ยวดาบสีม่วงดำ บนหลังปรากฏปีกสองปีก สูงราวๆ 7-8 เมตร และยาว 10 เมตร ขนาดของมันนั้นราวกับภูเขาขนาดเล็ก เพียงแค่ขนาดตัวของมันก็ทำให้ผู้พบเห็นต้องตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ในด้านของความยาวนั้น จ้าวพยัคฆ์หัวเขียวอาจเทียบเท่าได้กับมัน แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือปีกสีดำมืดบนหลังของมัน ซึ่งทำให้มันสามารถบินได้
ครืนน
ต้นไม้กลายเป็นเศษซากไปทุกๆ ที่ที่มันย่างเดิน
“เสือเขี้ยวดาบสองปีก… สัตว์ปีศาจระดับสูง ความแข็งแกร่งเทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นแปด!” ร่างของนักฆ่าชุดเทาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของสัตว์ปีศาจระดับสูงนั้นทำให้ผู้ที่รับรู้ต้องสั่นสะท้านด้วยความยำเกรง
ขาของจ้าวเฟิงสั่นระรัวอย่างหยุดไม่ได้ เขาไม่ได้ควบคุมร่างกายของเขาภายใต้กลิ่นอายน่าหวาดผวานี้ได้
โฮกกก!
เสียงคำรามของเสือเขี้ยวดาบสองปีกดังขึ้นในขณะที่มันทะยานเข้าหาเสือดาวโลหิตลายเงินและชายชุดเทา
“ช่วยข้า…” ชายชุดเทาพยายามที่จะดิ้นรน
กร๊อบ!
เสือเขี้ยวดาบสองปีกอ้าปากกว้างและกลืนร่างของเสือดาวโลหิตลายเงินเข้าไปในทีเดียว ภาพนี้ทำให้หัวใจของจ้าวเฟิงเย็นเยียบ เด็กหนุ่มกระทั่งรู้สึกราวกับว่าสัตว์ปีศาจตัวนั้นรู้ถึงการคงอยู่ของเขา
หลังจากที่เสือเขี้ยวดาบสองปีกกินเสือดาวโลหิตลายเงินเข้าไป ดวงตาสีม่วงแดงก็ตวัดไปมองยังจุดที่จ้าวเฟิงซ่อนตัวอยู่
อันใดกัน!? จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเย็นเฉียบ
เมื่อสัตว์ปีศาจได้เข้าสู่ระดับสูงจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถดูแคลนได้ เจ้าเคยเห็นเสือที่มีปีก ขนาดตัวราวๆ ภูเขาเล็กๆ สักลูกหรือไม่กันล่ะ?
หนี! หนีให้เร็ว!… หากข้าไม่หนีข้าย่อมไม่เหลือโอกาสอันใด จ้าวเฟิงต้องการมีชีวิตรอด ภายใต้ความกดดันอันน่าหวาดผวา เด็กหนุ่มได้ส่งพลังทั้งหมดเข้าไปที่ดวงตาซ้ายของเขา ดวงตาซ้ายได้ช่วยให้เขาเยือกเย็นลงอีกครั้ง มันยังส่งเสียงฉ่าพร้อมกับความอุ่นซ่านที่แพร่กระจายไปทั่วร่างของเขา
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าความกลัวได้ลดลง
หนี! ร่างของเด็กหนุ่มกลายเป็นเงาเลือนรางในขณะที่เขาพุ่งไปยังจุดบอด ทว่าเด็กหนุ่มก็ยังคงรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่ไล่หลังเขามา
กร๊อบ!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นจากเบื้องหลัง เสือดาวโลหิตลายเงินอีกตัวก็ตายแล้วเช่นกัน ในเสี้ยววินาที เสือเขี้ยวดาบสองปีกได้ฆ่าสัตว์ปีศาจที่มีพลังเทียบเท่าขั้นห้าแห่งผู้ฝึกตน ตอนนี้เหลือเพียงชายชุดเทาที่ยังคงมีชีวิตอยู่
หนี! นักฆ่าชุดเทาหนีไปอีกทิศอย่างหวาดกลัว
เสือเขี้ยวดาบสองปีกเคี้ยวอาหารในปากอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะไล่ตามชายชุดเทาไปอย่าง ‘ช้าๆ’ และ ‘สบายๆ’ แม้ว่าเสือเขี้ยวดาบสองปีกจะตามไปอย่างช้าๆ ระยะห่างของทั้งสองก็ยังคงหดสั้นลงเรื่อยๆ ชายชุดเทานั้นมีวิชาความเร็วระดับสูง และภายใต้ความหวาดกลัวนั้น ความเร็วของเขาก็ได้เหนือกว่าจ้าวเฟิงกว่าครึ่งขั้น
อีกด้านหนึ่ง ความเร็วของจ้าวเฟิงก็ได้พุ่งทะยานออกมาภายใต้ความหวาดกลัว วิชานภาลอยล่องของเขาบัดนี้กระทั่งเป็นไปอย่างลื่นไหลกว่าเก่า
“พลังฝึกตนของข้าเข้าสู่ขั้นสุดยอดของขั้นสี่แล้ว…” แม้ว่าจ้าวเฟิงจะรู้สึกว่าพลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขใดๆ เป็นเพราะประสาทสัมผัสของอสูรปีศาจตัวนั้นทรงพลังยิ่งนัก กระทั่งวิ่งหนีไปกว่า 10 ไมล์มันก็ยังคงสามารถตามหาเจอได้
ในตอนนั้นเอง เสียงร้องตะโกนได้ดังขึ้นจากเบื้องหลังเขา
“ดาบตัดจันทรา!”
ชายชุดเทาได้โจมตีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะตาย ดาบนั้นได้เลื่อนเข้าสู่ขั้นสุดยอด ไม่เพียงเท่านั้น พลังฝึกตนของอีกฝ่ายก็ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นหกอีกด้วย
ฉัวะ!
คมดาบแห่งความกลัวซึ่งสามารถฆ่าผู้ฝึกตนขั้นหกส่วนมากได้ โจมตีเข้าที่ร่างของเสือเขี้ยวดาบสองปีก
โฮก!
เสือเขี้ยวดาบสองปีกอ้าปากและกลืนชายชุดเทาพร้อมด้วยอาวุธของเขาเข้าไปพร้อมกัน ส่วนคมดาบตัดจันทรานั้นได้สร้างรอยเลือดขนาดครึ่งนิ้วไว้บนร่างของมัน และด้วยขนาดของมัน การโจมตีเช่นนี้ไม่อาจนับเป็นอันใดได้นอกจากการสะกิด
เมื่อชายชุดเทาตาย จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าความตายได้ครอบคลุมลงมาที่ศีรษะของเขา… เป้าหมายถัดไปของเสือเขี้ยวดาบสองปีกนั่นคือเขา!
ยังดีที่ยังมีระยะห่างระหว่างทั้งสอง และสัตว์ปีศาจนั่นค่อยๆ ไล่ล่าเขามาอย่างช้าๆ เสือเขี้ยวดาบสองปีกนั่นยังทำกระทั่งกินสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจระหว่างทางที่มันไล่ล่าเขา
คราแรกนั้นเด็กหนุ่มคิดว่าหากสัตว์ปีศาจนั่นอิ่ม มันจะปล่อยเขาไป ทว่าเจ้านั่นกลับดูเหมือนกำลังเล่นกับเขาอยู่ ช้าทว่าตามติดอย่างไม่ลดละ
“ไอ้ตัวน่าตายนี่!” จ้าวเฟิงสบถขณะใช้ดวงตาซ้ายในการหาเส้นทางหลบหนี
ทันใดนั้น ลำธารเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นทางซ้ายมือของเขา นำทางไปภายในหุบเขาลึก
จ้าวเฟิงพบว่ามีถ้ำลึกอยู่ภายในหุบเขานั้นห่างออกไป 10 ไมล์ เสือเขี้ยวดาบสองปีกไม่อาจเข้าไปในถ้ำนั้นได้ เด็กหนุ่มเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วและวิ่งไปตามลำธารนั้น
ปึก! ปึก! ปึก!
เท้าของเด็กหนุ่มแตะลงบนที่ผิวน้ำอย่างแผ่วเบาขณะที่เขาข้ามผ่านลำธารนั้นไป เขาได้ฝึกฝนวิชานภาลอยล่องจนถึงขั้นสามารถเดินบนน้ำได้
พรึ่บ! พรึ่บ!
เสือเขี้ยวดาบสองปีกขยับปีกของมันกะทันหันในขณะที่มันพุ่งทะยานเข้าหาจ้าวเฟิง
หนี! จ้าวเฟิงพุ่งตรงไปยังถ้ำนั้น
เสือนั้นโดยปกติแล้วก็ไม่ใช่สัตว์ที่สามารถบินได้ ดังนั้นแล้วความเร็วในการบินของมันจึงไม่มากนัก เมื่อรวมกับความที่ว่ามันอิ่มแล้วมันย่อมไม่อาจบินได้เร็วมากมาย ทว่ามันก็ยังคงไล่ล่าเด็กหนุ่ม
ถ้ำนั้นเข้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
10ไมล์… 9ไมล์… 8ไมล์…
เมื่อเหลือระยะห่างเพียงแค่ 1-2 ไมล์ จ้าวเฟิงก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายดำมืดเย็นเยียบ
พรึ่บ!
กลิ่นอายนั้นมาจากภายในหุบเขา!
ชี่
เสียงแปลกๆ นั้นทำให้หัวใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้าน กระทั่งสัตว์ปีศาจที่ไล่ล่าเขามายังมีทีท่าลังเล ชัดเจนว่ามันเองก็กำลังกังวลอยู่เช่นกัน
ครึ่กกก
ทันใดนั้น เสียงของหุบสั่นสะท้านก็ดังขึ้นจากภายใน งูหลามสีโลหิต ยาวมากกว่า 10 เมตรก็เลื้อยออกมาจากภายใน กลิ่นอายของมันนั้นทรงพลังไปน้อยไปกว่าเสือเขี้ยวดาบด้านหลังเขา
“อ่า…” ร่างของจ้าวเฟิงแข็งค้าง ด้านหน้าของเขาเป็นงูหลาม ในขณะที่เบื้องหลังเป็นเสือ นี่มันแย่กว่าก่อนหน้าเสียอีก!
โชคดีที่ความสนใจของงูหลามนั้นถูกดึงดูดไปโดยเสือเขี้ยวดาบสองปีก
สิ่งมีชีวิตทั้งสองเผชิญหน้ากัน เสือเขี้ยวดาบสองปีกคำรามขึ้นกลางอากาศราวกับประกาศความแข็งแกร่ง งูหลามโลหิตก็ส่งเสียงขู่ฟ่อ ที่นี่คือแดนของมัน! ส่วนจ้าวเฟิงนั้น มนุษย์อ่อนแอเช่นเขาได้ถูกมองข้ามไป
หลังจากที่จ้องหน้ากันอยู่พักหนึ่ง เสือเขี้ยวดาบสองปีกก็ได้หมดความอดทนและพุ่งไปยังงูหลามโลหิต
ฟุ่บ
งูหลามได้ดีดตัวขึ้นไปยังเสือ สัตว์ปีศาจทั้งสองได้เริ่มปะทะกันในทันที พื้นดินที่ทั้งสองต่อสู้กันนั้นสั่นสะเทือน
จ้าวเฟิงค่อยๆ ปกปิดกลิ่นอายของเขาในขณะที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางถ้ำนั้น
ฟ่อ! โฮก!
ทันใดนั้นสัตว์ปีศาจทั้งสองก็เริ่มกัดกัน โลหิตที่สาดกระจายนั้นทำให้หัวใจของจ้าวเฟิงกระตุก
หลังจากนั้นพักหนึ่ง การเคลื่อนไหวของทั้งสองจึงเริ่มน้อยลงและน้อยลง
ครึ่งชั่วโมงถัดมา ทั่วทั้งหุบเขาก็เงียบสนิท จ้าวเฟิงพ่นลมหายใจยาวในขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปยังซากศพของสัตว์ปีศาจทั้งสอง เขายังใช้นัยน์ตาซ้ายเพื่อยืนยันว่าทั้งสองตายแล้ว
เด็กหนุ่มถอนหายใจเมื่อเขามาถึงยังสัตว์ปีศาจขนาดเท่าภูเขาลูกเล็กๆ เขาไม่อาจนำพวกมันกลับเมืองประกายอรุณได้
ทันใดนั้นประกายแสงบางอย่างก็สะท้อนเข้าที่ตาของเขา
เพ้ย!
จ้าวเฟิงนั่งยองๆ ขณะที่ดึงดาบโค้งออกจากซากของเสือเขี้ยวดาบ ดาบโค้งนี้เป็นอาวุธของชายชุดเทา และมันก็คมยิ่งนัก
โฮก
สัตว์ปีศาจและสัตว์อสูรใกล้ๆ เริ่มคำราม จ้าวเฟิงใช้นัยน์ตาซ้ายของเขากวาดมองไปโดยรอบก่อนจะนิ่งงันไปในทันที
ตอนนี้มีสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจมากกว่า 30 ตัวที่มีพลังเทียบเท่าผู้ฝึกตนขั้นหกกำลังเข้ามาใกล้สถานที่แห่งนี้
ไม่ดีแล้ว ซากศพของสัตว์ปีศาจระดับสูงนี่จะดึงดูดความสนใจของตัวอื่น จ้าวเฟิงหยิบดาบโค้งขึ้นและวิ่งไปยังถ้ำของงูหลามโลหิตในทันที…