Skip to content

King of Gods 32

King Of Gods

บทที่ 32 : แสวงหาชีวิตหรือความตาย

ในขณะที่จ้าวเฟิงรั้งสายธนูนั้น สีหน้าของชายชุดเทาก็เปลี่ยนไปเป็นเยาะหยัน

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ทว่าเมื่อศรทั้งสามพุ่งมายังเขา สีหน้านั้นก็เปลี่ยนไปในทันที ศรอาบยาพิษทั้งสามนั้นมีช่องว่างระหว่างกันเพียงเล็กน้อยและไม่ได้พุ่งไปเป็นเส้นตรง

ทว่าทิศทางแปลกประหลาดเช่นนั้นก็หมายความว่าเขาไม่มีช่องทางหลบหนี เขาถูกล้อมกรอบไว้จนสิ้น!

กร๊อบ!

ชายชุดเทาวาดมือของเขาเกิดลมกรรโชกสายหนึ่งหักธนูดอกแรกเป็นสองท่อน ทว่าลูกธนูดอกที่สองก็ตามมาติดๆ

หากเขาหลบธนูดอกนี้ ด้วยทิศทางการโจมตีที่ถูกวางมาเป็นอย่างดีของอีกฝ่าย เขาย่อมต้องเผชิญหน้ากับศรดอกที่สาม

ธนูดอกที่สามนั้นราวกับคำนวณการตอบโต้ของเขาไว้แล้ว

มันทำเช่นนี้ได้อย่างไร… รูม่านตาของชายชุดดำหดเล็กลง ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึง หากทุกสิ่งถูกวางไว้โดยจ้าวเฟิงล่ะก็ นั่นย่อมน่ากลัวยิ่งแล้ว เขานั้นอายุไม่ถึง 14 ขวบปีเสียด้วยซ้ำ!

เขาไม่รู้ว่านัยน์ตาซ้ายของจ้าวเฟิงได้จับจ้องไปที่เขาแล้ว ทุกสิ่งรวมทั้งจังหวะการเต้นของหัวใจและความเร็วของลมหายใจล้วนถูกสังเกตอย่างใกล้ชิด

ธนุทั้งสามนั้นถูกยิงออกไปโดยใช้ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายคู่ต่อสู้เป็นหลัก ทุกสิ่งเป็นไปตามแผน ธนูทั้งสามดอกนั้นดึงเวลาชายชุดเทาได้ถึง 2-3 ลมหายใจ

“ไร้ประโยชน์ อย่างไรเจ้าก็ต้องตายวันนี้” น้ำเสียงของชายชุดเทาเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ

ทว่าการกระทำของจ้าวเฟิงนั้นทำให้เขาต้องชะงักไปอีกครั้ง เด็กหนุ่มไม่ได้หนีไปหลังจากที่ยิงศรทั้งสามออกไป แต่เขากลับหันหลังและโจมตีชายทั้งสองเบื้องหลังแทน

ฆ่า!

ชายชุดดำทั้งสองก็โจมตีจ้าวเฟิงเช่นกัน

เมื่อพวกเขาต่างพุ่งเข้าหากันเป็นเส้นตรง ระยะห่างของทั้งหมดจึงหดลงอย่างรวดเร็ว

“เด็กนั่นมีความสามารถในการคิดคำนวณสูงนัก” ชายชุดเทารู้สึกกระวนกระวาย การกระทำของอีกฝ่ายกลับเป็นทางหนีที่ดีที่สุด

อย่างแรก เขาไม่ได้วิ่งหนีไปเลย โอกาสที่เขาจะรอดจากการตามล่าของคนสองกลุ่มนั้นนับว่าต่ำยิ่ง อย่างน้อยเด็กหนุ่มก็มั่นใจว่าความเร็วของชายชุดเทานั้นย่อมไม่ด้อยไปกว่าเขา หรือไม่เช่นอีกฝ่ายคงไม่อาจปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเขาราวภูตผีได้

อย่างที่สอง การที่จะทะลวงออกไปจากวงล้อมนั้นยากสำหรับจ้าวเฟิงนัก

หลังจากที่เปรียบเทียบคนทั้งสาม จ้าวเฟิงคิดว่าชายสองคนในชุดดำนั้นอ่อนแอกว่า หากเขาสามารถกำจัดทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว แล้วค่อยมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ชายชุดเทา โอกาสที่เขาจะชนะย่อมสูงขึ้น

เพียงแค่จ้าวเฟิงและชายชุดดำทั้งสองเข้าใกล้กัน

“ผู้ที่มีพลังขั้นครึ่งขั้นแห่งผู้ฝึกตนขี้ประติ๋วเช่นนั้นจะสู้กับผู้ฝึกตนขั้นสุดยอดของขั้นสี่ได้อย่างไร?” ชายชุดเทาไม่ได้รู้สึกเร่งรีบ เขาไม่ได้ต้องการให้ชายชุดดำทั้งสองฆ่าเด็กหนุ่ม สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงแค่ให้ทั้งสองถ่วงเวลาไว้เท่านั้น จากนั้นเด็กนั่นย่อมตายอย่างแน่นอน

ฆ่า!

หมัดมังกรคลั่ง!

ในขณะที่จ้าวเฟิงปะทะกับชายชุดดำทั้งสอง ร่างของเขาก็ลอดผ่านช่องว่างระหว่างการโจมตีของทั้งสองไปอย่างไร้รอยขีดขวน

ทันใดนั้นพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

“อันใดกัน! ไอ้เด็กนี่เป็นผู้ฝึกตนที่แท้จริง!” สีหน้าของชายชุดเทาเปลี่ยนไปในที่สุด พลังที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมานั้นเป็นของผู้ฝึกตนขั้นสี่ไม่ผิดแน่

เปรี้ยง!

หมัดที่มีแสงสีเขียวซีดส่องประกายของจ้าวเฟิงนั้นราวกับมังกรคำราม มันกระแทกเข้าที่ทรวงอกของหนึ่งในชายชุดดำ

กร๊อบ!

กระดูกในร่างของชายผู้นั้นแตกหักลงในเสี้ยววินาที ทำให้เขาสิ้นชีวิตลง

พลังภายในของจ้าวเฟิงนั้นได้เข้าสู่ขั้นสุดยอดของขั้นสี่ ทั้งหมัดมังกรคำรามก็ยังเข้าถึงขั้นหลอมรวม

ด้วยสิ่งเหล่านั้นทำให้หมัดเพียงหมัดเดียวของเขาสามารถฆ่าชายในชุดดำได้ ไม่ใช่เพียง เพราะอีกฝ่ายดูแคลนเขา แต่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของตัวจ้าวเฟิงและการคำนวณจากตาซ้ายของเขา

“น้องชาย!” ชายชุดดำอีกคนกรีดร้องออกมาอย่างโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำ

หมัดมังกรคลั่ง!

จ้าวเฟิงโจมตีชายชุดดำที่เหลือในทันที การเมตตาต่อศัตรูคือการทรมานตนเอง

“ข้าจะหั่นเจ้าให้เป็นหมื่นชิ้นในฐานะที่เจ้าฆ่าน้องข้า” ดาบในมือของชายชุดดำส่งพลังภายในเข้มข้นออกมาในขณะที่เขาฟาดมันไปที่ร่างของจ้าวเฟิงอย่างกราดเกรี้ยว

“รั้งเขาไว้!”

ชายชุดเทาด้านหลังตะโกนลั่น

เขาต้องการเพียงแค่ให้คนยื้อเด็กหนุ่มไว้ ไม่จำเป็นต้องฆ่า น่าเศร้าที่ชายชุดดำได้เสียสติและเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง จ้าวเฟิงใช้นัยน์ตาซ้ายของเขาอย่างเต็มที่เพื่อหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ทว่าเวลาของเขานั้นมีจำกัดเมื่อชายชุดเทาเบื้องหลังนั้นกำลังจะตามมาทัน

สู้!

จ้าวเฟิงไม่สนใจสิ่งอื่นใดขณะที่ร่างของเขาพลิ้วลอยขึ้นในระยะการโจมตีของดาบในมืออีกฝ่าย

แคร่ก!

จ้าวเฟิงส่งหมัดลงบนไหล่ซ้ายของนักฆ่า

“อ๊ากก!”

แม้ว่าแขนของชายชุดดำจะหักไปแล้ว เขาก็ยังคงโจมตีจ้าวเฟิงต่อ เด็กหนุ่มต่อยเขาไปอีกครั้งและบดขยี้คอหอยของเขา

ผล่อย!

ชายชุดดำสิ้นชีพล้มลงบนพื้น

จ้าวเฟิงเองก็ได้รับบาดเจ็บภายในจากการโจมตีเมื่อครู่ ก่อนตายชายผู้นั้นได้ส่งหมัดเขาทั้งอกของเขา อย่างไรก็ตามวิชากำแพงเหล็กของเขายังไม่เข้าระดับสาม นั่นหมายความว่าเขายังไม่อาจต้านทานการโจมตีของผู้ที่อยู่ในขั้นเดียวกันได้

“ไอ้หนู… เจ้าปกปิดได้ดี ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเอยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้ฝึกตนขั้นห้า ทว่าเจ้าก็ยังต้องตายในวันนี้” ในตอนนั้นเองที่ชายชุดเทาได้ตามมาทัน

ความเงียบงันเข้าปกคลุมหลังจากที่ทั้งสองเผชิญหน้ากัน

“ใครส่งเจ้ามา? จ้าวเทียนเจี้ยนเช่นนั้นหรือ?” จ้าวเฟิงจ้องไปยังนักฆ่า เขามั่นใจกว่า 80% ว่าจ้าวเทียนเจี้ยนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ในตอนนี้เขามีศัตรูเพียงสองคนในเมืองประกายอรุณ และนั่นคือจ้าวเทียนเจี้ยนและบุตรชายของเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่สำคัญว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย”

ชายชุดเทาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม เขาเคลื่อนกายราวภูตผี ดาบโค้งในมือวาดฟันไปยังร่างของจ้าวเฟิง

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าศัตรูมีท่าเท้าระดับสูงและความเร็วในการโจมตีที่มากมาย มีเพียงการช่วยเหลือจากดวงตาซ้ายของเขาเขาจึงสามารถหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้ หากเป็นผู้อื่นที่มีระดับการฝึกตนขั้นสี่หรือห้าคงต้องสิ้นชีพใต้คมดาบอีกฝ่ายไปแล้ว

ดาบโค้งบางในมือของนักฆ่าชุดเทานั้นคมมาก กระทั่งกายาสัมฤทธิ์ของซินโทงก็ไม่อาจป้องกันได้

หากจ้าวเฟิงถูกการโจมตีเพียงครั้ง เขาย่อมตายตกในทันที เขาพยายามที่จะหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย ทว่าชายชุดเทากลับมีประสบการณ์มาก ผ่านพ้นช่วงเวลาเฉียดตายมาหลายครั้ง แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีจุดอ่อน

วิชาดาบระดับสูง ท่าเท้าระดับสูง วิชาพลังภายในระดับสูง… ทุกสิ่งล้วนเป็นระดับสูง วิชาดาบของเขายังเข้าขั้นสุดยอดด้วย ในขณะที่หลบการโจมตีอย่างยากลำบาก จ้าวเฟิงก็ได้คาดคำนวณความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไปด้วย

ผลลัพธ์นั้นทำให้ใจของเขาหนาวเยือก

พลังฝึกตนของนักฆ่าชุดเทาเองก็เข้าขั้นสุดยอดของขั้นห้าและใกล้จะทะลวงเข้าสู่ขั้นหก ทั้งยังวิชาระดับสูง เขาย่อมเป็นนักสู้ชั้นยอดในบรรดาผู้ฝึกตนขั้นห้า

ยิ่งการต่อสู้กินเวลาไปนานเท่าใด เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บภายในของเขานั้นย่ำแย่ขึ้น

ข้าย่อมต้องตายเป็นแน่หากยังปะทะกันในระยะใกล้เช่นนี้… เหตุใดจึงไม่… นัยน์ตาของจ้าวเฟิงส่องประกายวูบในขณะที่เขาคิดแผน

ปึก!

เขาออกจากการต่อสู้ในทันทีก่อนจะใช้วิชานภาลอยล่องและลมหายใจตัดอากาศจนสุดขีดความสามารถ

ในเสี้ยววินาที เขาได้พุ่งทะยานผ่านแมกไม้ มุ่งตรงไปยังส่วนลึกของป่าเมฆาคล้อย

ตอนนี้ เพราะว่าเขาได้เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา ความเร็วของวิชานภาลอยล่องจึงเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง

“จะหนีไปไหนกัน?” ชายชุดเทาตวาดลั่นขณะไล่ล่าไปในทันที

จ้าวเฟิงเริ่มเยือกเย็นลงเมื่อวิ่งหนีไป 2-3 ไมล์ ศัตรูใช้ท่าเท้าระดับสูงที่ถูกฝึกจนเข้าขั้นสูงและพลังฝึกตนจนทำให้ความเร็วเทียบเท่ากับเด็กหนุ่ม

ในขณะที่เด็กหนุ่มวิ่งหนีอยู่นั้น เขาได้ใช้นัยน์ตาซ้ายในการเปิดทาง และพยายามหาสิ่งที่จะช่วยรั้งถ่วงศัตรูเบื้องหลัง เพราะตาซ้ายของเขานั้นสามารถมองไปไกลกว่าและชัดเจนกว่า จ้าวเฟิงจึงกลายเป็นราวกับมัจฉาในวารีที่ว่ายไปอย่างลื่นไหลไม่หยุดชะงัก

ทว่าชายชุดเทากลับถูกขัดขวางด้วยสิ่งเหล่านั้น อย่างเช่นใบไม้และพุ่มไม้

“ฮึ่ม แม้ว่าข้าจะไม่สามารถสลัดเจ้าหลุดได้ แต่ข้าก็สามารถนำเจ้าเข้าไปลึกในป่าและทำให้เราตายตกไปพร้อมกันได้” จ้าวเฟิงเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว เขารู้สึกว่าในขณะที่เขาหนีนั้น วิชานภาลอยล่องได้พัฒนาขึ้น

ในแผนของจ้าวเฟิงนั้นมีสัตว์ปีศาจอยู่สามสองตัว

โฮกกก

เสียงคำรามของสัตว์ปีศาจทำให้หัวใจของชายชุดเทากระตุก

“ไอ้เด็กเหลือขอนั่น… น่าชังนัก!” ชายชุดเทากัดฟันแน่น หากเป็นสัตว์ปีศาจระดับต่ำ ในขั้นสี่ ห้า หรือหก เขาย่อมสามารถปกป้องตนเองได้

ทว่าหากพวกเขาโชคร้ายและพบเข้ากับสัตว์ปีศาจระดับสูง ผู้ฝึกตนโดยทั่วไปย่อมไม่มีกระทั่งโอกาสหนี นั่นเป็นเพราะสัตว์ปีศาจระดับสูงนั้นแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ เทียบได้กับผู้อาวุโสของพรรค…

แผนของจ้าวเฟิงนั้นเรียบง่าย นำนักฆ่าชุดเทาไปยังสถานที่ที่มีสัตว์ปีศาจจำนวนมาก ในเมื่อเขามีสุดยอดสายตา เขาย่อมสามารถมองเห็นทุกอย่างในระยะสิบไมล์ได้อย่างง่ายดาย เมื่อทั้งสองเขาสู่บริเวณที่มีสัตว์ปีศาจอยู่ จ้าวเฟิงจะซ่อนตัวในจุดบอดของสัตว์ปีศาจเหล่านั้นในเสี้ยววินาที เพื่อให้สัตว์ปีศาจเหล่านั้นเห็นชายชุดเทาก่อน

โฮก! โฮก!

จ้าวเฟิงนำทางชายชุดเทาไปยัง ‘เสือดาวโลหิตลายเงิน’ เสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองนั้นมีหน้าตาน่าเกลียด ขนาดของมันนั้นใหญ่เสียยิ่งกว่าจ้าวพยัคฆ์หัวเขียวเสียอีก

จ้าวเฟิงประเมินพลังของสัตว์ปีศาจทั้งสองไว้ที่ผู้ฝึกตนขั้นห้า

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปยังเขตแดนของเสือดาวโลหิตลายเงินและรบกวนพวกมัน จ้าวเฟิงก็รีบหลบซ่อนในช่องว่างระหว่างพุ่มไม้บนต้นไม้และใช้วิชาซ่อนลมหายใจเพื่อลบกลิ่นอายของเขา

วิชาซ่อนลมหายใจของเขานั้นเข้าสู่ขั้นสูงและสามารถลบกลิ่นอายของผู้ฝึกได้จนหมดสิ้น รวมทั้งกลิ่นและอุณหภูมิร่างกาย

จ้าวเฟิงหลบการดมกลิ่นเสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสอง ทว่านักฆ่าชุดเทาที่ตามมาเบื้องหลังกลับไม่โชคดีเช่นนั้น เขาไม่มีสายตาที่สามารถมองเห็นในระยะสิบไมล์ได้เช่นจ้าวเฟิง

โฮก กรรร! ซูมมม

เสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองทะยานเข้าหาชายชุดเทา

“เจ้าเด็กไร้ยางอาย!” ชายชุดเทาสาบาน เขารู้ว่าเด็กหนุ่มหลบซ่อนอยู่ที่ใด ทว่าเสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองกลับพุ่งเข้ามาที่เขาแทน

เสือดาวโลหิตลายเงินมีความเร็วอันน่าทึ่งขณะที่มันพุ่งผ่านแมกไม้ ความแข็งแกร่งของมันนั้นเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกตนขั้นสุดยอดของขั้นห้า

หากมีเพียงแค่ตัวเดียว นักฆ่าชุดเทาย่อมสามารถเอาชนะได้โดยง่าย ทว่าเมื่อมีถึงสองแล้ว มันย่อมยาก

เพียงแค่ชายชุดเทาเกือบจะถูกเสือดาวโลหิตลายเงินทั้งสองตะครุบ

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

จ้าวเฟิงที่แอบอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้หัวเราออกมาอย่างย่ามใจ ด้วยตาซ้ายของเขา โอกาสที่เขาจะมีชีวิตรอดนั้นเหนือกว่าผู้อื่นยิ่ง

“ฮี่ฮี่ อย่าได้เคืองที่ข้าช่วยเหลือเลย” จ้าวเฟิงหัวเราะอย่างชั่วร้ายในขณะที่เขาดึงคันธนูเงินออกจากหลังของเขาและวางศรพิษสามดอกลงไปบนสายธนู…

TL: ทำไมเกรียนแบบนี้ล่ะคะจ้าวเฟิง//ถอนหายใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!