บทที่ 34 : ก้าวกระโดด
เมื่อจ้าวเฟิงเข้าไปในถ้ำนั้น เขาก็รู้สึกเย็นในทันที
ยิ่งเขาเข้าไปลึกเท่าใด พื้นที่ภายในถ้ำก็ยิ่งขยายขึ้นเท่านั้น ภายในถ้ำปรากฏร่างของสัตว์ปีศาจและสัตว์อสูรอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ทั้งหมดล้วนอ่อนแอ เมื่อเขาเห็นพวกมันจากไกลๆ ก็สามารถใช้ธนูในการเก็บพวกมันทีล่ะตัวได้
เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้ เขาก็ใช้ดาบโค้งที่ได้มาใหม่ในการหั่นพวกมัน
ไม่ช้า พื้นผนังหินสีแดงเลือดก็ปรากฏขึ้น และเบื้องหลังผนังนั้นก็ปรากฏบ่อน้ำสีโลหิตพร้อมด้วยฟองที่ผุดขึ้นบนผิวน้ำตลอดเวลา
จ้าวเฟิงไม่รู้ว่าของเหลวสีเลือดนั้นคือสิ่งใด แต่เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับสัตว์ปีศาจสีเลือดตัวนั้น
“พฤกษาโลหิต หญ้าวิญญาณโลหิต หินไผ่สีเลือด… สามร้อยปี ห้าร้อยปี หนึ่งพันปี…”
เด็กหนุ่มหัวเราะขณะที่ดวงตาจับจ้องไปยังหินสีแดง
สมุนไพรล้ำค่าบางส่วนเติบโตบนผนังหินและต้นที่แก่ที่สุดมีอายุถึงหนึ่งพันปี ครั้งหนึ่งจ้าวเฟิงเคยกินวัตถุดิบอายุสองร้อยถึงสามร้อยปีมาแล้ว ดังนั้นเขาย่อมรับรู้ถึงมูลค่าของสมุนไพรเหล่านี้
พฤกษาโลหิตห้าร้อยปีโดยทั่วไปราคา 20,000 เงินหรือมากกว่านั้น
และสำหรับพฤกษาโลหิตและหญ้าวิญญาณโลหิตที่มีอายุเกินพันปีไม่มีปรากฏในเมืองประกายอรุณ
จ้าวเฟิงนับจำนวนโดยคร่าวๆ มีพฤกษาโลหิตสามร้อยปีอยู่ราวๆ 20 ต้น พฤกษาโลหิตห้าร้อยปีมากกว่า 10 ต้น และพฤกษาโลหิตพันปีอีก 3 ต้น
เด็กหนุ่มไม่อาจหยุดความสุขของเขาได้
เมื่อคนไม่ตาย โชคย่อมตามมาหลังจากนั้นเสมอ
เด็กหนุ่มได้ผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตาย ทว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และภายในความหวาดกลัวนั้น โชคก็ได้มาหาเขา
จ้าวเฟิงเดินตรงไปยังผนังสีแดง เขาไม่ได้เก็บสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นในทันที
ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังบ่อน้ำสีแดง
ข้างๆ บ่อน้ำนั้นยังปรากฏคราบของงูหลามโลหิต ส่วนของเหลวนั้นมันไหลออกมาจากผนังหิน
“หินสีแดงนี่ให้กำเนิดสมุนไพรล้ำค่ามากมาย ดูเหมือนว่าของเหลวนี่จะไม่ธรรมดา”
เด็กหนุ่มมองด้วยสายตาตื่นเต้น เขาค่อยๆ โน้มตัวลงแตะของเหลวสีโลหิต ทันใดนั้น ดวงตาซ้ายของเขาก็กระตุก ประสิทธิภาพของของเหลวสีเลือดนี่มากกว่าผงเสริมกายเสียอีก
“เยี่ยม!”
บ่อน้ำสีเลือดเป็นแหล่งพลังงานที่ทำให้สมุนไพรล้ำค่าสามารถเติบโตบนผนังหินสีแดงได้
ตูม!
จ้าวเฟิงกระโดดลงไปในบ่อทันที
ปุดปุดปุด!
เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงพลังงานแสบร้อนสายหนึ่งได้ซึมผ่านรูขุมขนของเขาเข้ามาในร่าง
อ่า
จ้าวเฟิงไม่อาจหยุดตนเองไม่ให้ครางออกมาอย่างพึงพอใจได้
“พลังงานในบ่อน้ำนี่แข็งแกร่งกว่าผงเสริมกายที่ข้าซื้อมายิ่งนัก”
เด็กหนุ่มโคจรเคล็ดลมหายใจตัดอากาศและวิชากำแพงเหล็กไปพร้อมๆ กัน
ของเหลวสีโลหิตนี้ลึกลับยิ่ง ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่กระทั่งเพิ่มพลังภายในของคนผู้หนึ่งไปด้วย
เวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไป
ด้วยความช่วยเหลือของของเหลวสีเลือด จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าเคล็ดลมหายใจตัดอากาศและวิชากำแพงเหล็กได้พัฒนาขึ้นอย่างมหาศาล
ทว่าพลังงานมากกว่า 70% กลับถูกดูดซึมไปโดยกระดูก เลือด และผิวหนังของเขา
หลังจากนั้นครึ่งวัน
จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าวิชากำแพงเหล็กได้เลื่อนขั้นจากขั้นสุดยอดของระดับสองไปเป็นระดับสาม
ในตอนนั้นเองที่เขารู้สึกได้ว่าผิวของเขานั้นแข็งแกร่งราวกับโลหะและกระดูกนั้นกลับแข็งกว่านั้นเสียอีก
“วิชากำแพงเหล็กได้เข้าถึงระดับสาม พลังป้องกันของข้านั้นมากขึ้นสองเท่าและแรงของข้านั้นได้เพิ่มขึ้นราวๆ 150-200 กิโลกรัม”
จ้าวเฟิงรู้สึกพึงพอใจมาก หากวิชากำแพงเหล็กได้เข้าสู่ระดับสามเช่นนี้ ร่างกายของเขาย่อมสามารถเผชิญหน้ากับคมดาบได้โดยตรง
หลังจากที่วิชากำแพงเหล็กได้เข้าสู่ระดับสาม จ้าวเฟิงจึงแช่ในของเหลวสีแดงต่ออีก 2-3 ชั่วโมง ในตอนนี้พลังฝึกตนของเขาได้เข้าสู่ขั้นสุดยอดของขั้นสี่และพลังภายในของเขาได้เข้าใกล้ขั้นห้าแล้ว
ในสถานการณ์เสี่ยงตายในป่าเมฆาก่อนหน้าทำให้พลังฝึกตนของเขาพัฒนาไปถึงขั้นสุดยอดของขั้นสี่ แม้แต่ชายชุดเทาก็ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นหกก่อนตาย
“ดูเหมือนว่าความสามารถของคนผู้หนึ่งจะสามารถแสดงออกมาได้ดีที่สุดในสถานการณ์เสี่ยงตาย”
หลังจากที่วิชากำแพงเหล็กได้มั่นคงขั้น เขาก็กระโดดออกจากบ่อน้ำและมุ่งตรงไปยังทางเข้าถ้ำ
โฮกกก แฮ่ กรรรร
สัตว์ปีศาจและสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งหลายตัวกำลังเข่นฆ่ากันเพื่อแย่งชิงซากสัตว์ปีศาจระดับสูงสองซากด้านนอก
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างจนใจเมื่อเข้าคิดถึงมูลค่าของซากสัตว์ปีศาจระดับสูง พวกมันมีราคามากกว่าสัตว์ปีศาจระดับต่ำกว่า 20 เท่าเสียอีก
ทว่าสัตว์ปีศาจและสัตว์อสูรเหล่านี้สามารถกินซากศพของสัตว์ปีศาจระดับสูงทั้งสองเพื่อเพิ่มพลังของพวกมันได้ จ้าวเฟิงกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงถอยกลับไปยังบ่อน้ำ
“เช่นนั้นข้าก็ฝึกอยู่ที่นี่อีกหน่อยแล้วกัน”
จ้าวเฟิงนอนลงในบ่อสีโลหิตและเริ่มเข้าญาณอีกครั้ง บ่อโลหิตนี้นับว่ามีประโยชน์ยิ่งนัก เมื่อเขาไป เขาอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีก
ครึ่งวันถัดไป
พลังการฝึกตนและพลังภายในของเด็กหนุ่มเข้าใกล้ขั้นห้าแห่งหนทางผู้ฝึกตนเข้าไปทุกที ภายในดวงตาซ้ายของเขา แสงสีเขียวลึกลับได้ขยายออกเป็น 4.9 ฟุตแล้ว
“ข้าสามารถลองทะลวงขั้นได้ในไม่ช้า”
จ้าวเฟิงกระโดดออกจากบ่อน้ำและเริ่มฝึกฝนวิชาหมัดมังกรคลั่ง หมัดมังกรคลั่งนั้นได้ถูกฝึกจนกระทั่งเข้าขั้นหลอมรวมแล้ว บัดนี้พลังของบางกระบวนท่าได้มากกว่าพลังแต่ดั้งเดิมของมันแล้ว หรือหากมองในอีกทาง มันก็นับได้ว่าเป็นวิชาใหม่ไปแล้ว
เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับร่างกายของเขากำลังไหม้
ปึก!
จ้าวเฟิงเก็บพฤกษาโลหิตห้าร้อยปีออกจากผนังสีแดง
เมื่อผู้ฝึกตนทั่วไปเข้าถึงขั้นสูงสุดของระดับขั้น พวกเขาไม่อาจทะลวงสู่ขั้นต่อไปได้ในทันที นั่นเป็นเพราะปัญหาที่ถูกเรียกว่าคอขวด
เป้าหมายของเด็กหนุ่มในการใช้พฤกษาโลหิตคือการเปิดคอขวดนี้ พฤกษาโลหิตห้าร้อยปีนั้นมีพลังมากกว่าพฤกษาโลหิตมากมายนัก เมื่อเขากินมันเข้าไป เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่พุ่งพล่านทั่วร่างกายของเขาทันที
เขาเริ่มโคจรเคล็ดลมหายใจตัดอากาศและดูดซึมพลังงานเหล่านั้นในทันที
หนึ่งวันหนึ่งคืนต่อมา
จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าพลังภายในได้หลอมรวมเข้ากับเลือดของเขา เขารู้สึกได้ว่าเส้นพลังปราณภายในร่างเริ่มปรากฏมากขึ้น
“จำนวนของพลังภายในของข้ามากขึ้นเกือบสองเท่าตั้งแต่ข้าทะลวงเข้าสู่ขั้นห้า คุณสมบัติของร่างกายของข้าเองก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเช่นกัน”
เด็กหนุ่มสามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเองได้ทางตาซ้าย
ไม่นานเด็กหนุ่มก็ปรับพื้นฐานของพลังและดูดซึมยาที่เหลือได้จนหมด เมื่อรวมพลังภายในของเขาเข้ากับเคล็ดลมหายใจตัดอากาศ ความเร็วในการฝึกของเขานั้นก็เพิ่มขึ้นไปเป็นอีกระดับหนึ่ง ความแข็งแกร่งโดยรวมของเด็กหนุ่มได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากทะลวงขั้น
หากเขาพบกับชายชุดเทาในยามนี้ เขามั่นใจว่าสมารถต่อสู้และเอาชนะอีกฝ่ายได้
พลังฝึกตนนั้นถือเป็นพลังพื้นฐาน ยิ่งพื้นฐานนั้นสูงยิ่งขึ้นเท่าใด พลังภายใน ความเร็ว และทักษะก็ย่อมมีมากขึ้นตามไปด้วย
หลังจากวันที่เขาปรับพื้นฐาน จ้าวเฟิงก็ได้กลับไปยังทางเข้าถ้ำอีกครั้ง
ฮู่ววว โฮกกกก
เสียงคำรามกรีดก้องไปทั่วหุบเขา เด็กหนุ่มไม่อาจหยุดร่างกายของตนไม่ให้สั่นสะท้านได้
นั่นมัน…
สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนไป
ภายในหุบเขา ไฮยีน่าตาสีฟ้าขนาดตัวราวๆ 7-8 เมตรยืนอยู่ภายในหุบเขา ไฮยีน่าตัวนั้นปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันออกมา ทำให้สัตว์อสูรและสัตว์ปีศาจในรัศมี 10 ไมล์ต้องตัวสั่นด้วยความกลัว
แน่นอนว่าไฮยีน่าตัวนี้ย่อมเป็นสัตว์ปีศาจระดับสูงเช่นกัน ความแข็งแกร่งของมันนั้นไม่นับว่าด้อยไปกว่างูหลามโลหิตหรือเสือเขี้ยวดาบสองปีกแม้แต่น้อย
ไฮยีน่าตัวนั้นรับรู้ถึงการคงอยู่ของจ้าวเฟิงได้ในทันทีที่เขาโผล่ออกไปจากถ้ำ มันพุ่งตัวมายังเขาทันทีด้วยความเร็วราวกับสายลม
ความเร็วอันใดกัน!
นัยน์ตาดำของเด็กหนุ่มหดเล็กลงในขณะที่เขาโคจรพลังภายในและถอยกลับเข้าไปในถ้ำ
ครืนนน
ถ้ำทั้งถ้ำสั่นสะท้านเมื่อร่างของสัตว์ปีศาจระดับสูงกระแทกเข้ากับทางเข้า คลื่นกระแทกทำให้เด็กหนุ่มต้องครางออกมาอย่างเจ็บปวด
“สัตว์ปีศาจระดับสูง พลังอันใดกัน!”
เพราะว่าเขาได้โคจรพลังภายในและวิชากำแพงเหล็กของเขาก็ได้เข้าสู่ระดับสาม เด็กหนุ่มจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด
หากเขาเป็นผู้ฝึกตนขั้นสี่ เพียงแค่คลื่นกระแทกก็เกือบจะปลิดชีวิตของพวกเขาไปได้แล้ว
ตูม!
ไฮยีน่าตาฟ้ายังคงโจมตีทางเข้าอย่างต่อเนื่อง
จ้าวเฟิงรู้สึกราวกับว่าภูเขาทั้งลูกกำลังสั่นไหว ดีที่ทางเข้านั้นแข็งแกร่งเพียงพอ แต่ทว่าทางเข้านั้นเล็กเกินไปสำหรับร่างกายอันใหญ่โตของไฮยีน่า หลังจากที่มันโจมตีทางเข้าอยู่ไม่กี่ครั้ง มันก็เริ่มที่จะถล่มลงมาแทน
ตูม!
ทางเข้าพังทลายลง
อ๊า!
ใบหน้าของจ้าวเฟิงมืดทะมึน หลังจากเกิดแรงสั่นสะเทือนอีกสองสามครั้ง ดวงตาของไฮยีน่าก็ผละออกจากทางเข้า
ทว่าเด็กหนุ่มก็ยังคงรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของมัน หลังจากที่งูหลามโลหิตตายลง บัดนี้สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นอาณาเขตของไฮยีน่าไปแทน
แม้ว่าจ้าวเฟิงจะสามารถขุดช่องออกไปด้านนอกได้ เขาก็ยังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจกลับไปยังส่วนลึกของถ้ำ
ในถ้ำยังคงมีสัตว์และอสูรที่สามารถเป็นอาหารได้อยู่
จ๋อม!
จ้าวเฟิงกระโดดกลับลงไปในบ่อน้ำสีโลหิตและเริ่มเพ่งความสนใจไปยังการฝึกฝนวิชากำแพงเหล็กอีกครั้ง
ของเหลวสีแดงนี้สร้างประโยชน์ให้กับร่างกายอย่างมาก จ้าวเฟิงรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขามีบางอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
ตึก! ตึก!
เสียงเต้นตุบดังขึ้นจากภายในดวงตาซ้ายในขณะที่มันส่งความอุ่นร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเขา ทำให้ความสามารถในการดูดซึมของเหลวสีแดงนี้รวดเร็วขึ้น
หนึ่งชั่วโมง… สองชั่วโมง… สามชั่วโมง…
เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ครึ่งวัน… หนึ่งวัน… สองวัน…
ในที่สุด หลังจากเวลาผ่านพ้นไปสองวัน วิชากำแพงเหล็กของเด็กหนุ่มก็ได้เข้าถึงระดับสี่