1317. ต่อไป…
ชายวัยกลางคนเดินออกมาจากแสงสีฟ้า เขามองแต่เพียงหลี่เฉียนเหมยที่หวังหลินกำลังอุ้มไว้อยู่เท่านั้น เผยสายตารักใคร่และเจ็บปวดหัวใจ
วินาทีที่เอ่ยเสียงออกมา ความคิดหวังหลินสั่นเทาและมองขึ้นไปทันที เขาเห็นชายวัยกลางคนชุดสีฟ้าเอ่ยเสียงคำรามกึกก้องในใจ
ชายคนนี้หน้าตาคล้ายกับหลี่เฉียนเหมยมาก แค่ชำเลืองดูก็เห็นถึงความเกี่ยวพันธ์กันได้ชัดเจน
“ปรมาจารย์เต๋าความฝัน!” หวังหลินมองชายวัยกลางคน จดจำน้ำเสียงนี้ได้เพราะมันเกือบทำให้เขาตายไปแล้ว!
เขาไม่มีวันลืมน้ำเสียงนี้!
เรื่องนี้มิอาจคาดคะเนได้ ไม่มีใครคิดว่าการที่พวกเขาพบเจอกันสั้นๆเมื่อสิบกว่าปีก่อนในดินแดนเจ็ดสีจะส่งผลให้เจอเขาอีกครั้งในวันนี้
ชายวัยกลางคนมองหลี่เฉียนเหมย หัวใจเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งขึ้น เขาสะบัดแขนให้พายุพุ่งหาหวังหลิน ส่วนตัวเองเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเกินอธิบาย ประชิดหวังหลินได้ในพริบตา
พลังอันแข็งแกร่งล้อมรอบหวังหลินและห่อหุ้มหลี่เฉียนเหมย นางลอยเข้าสู่อ้อมแขนของชายวัยกลางคนอย่างแผ่วเบา เขากุมมือหลี่เฉียนเหมยไว้ ในแววตานั้นมีความรักใคร่ภายใต้ความเจ็บปวด
เขาหันตัวกลับและเดินออกไปไกล แสงสีฟ้ารวมตัวกันจนกระทั่งเขาหายตัวไป ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เขาไม่เคยมองหวังหลินเลยสักครั้ง!
เมื่อหวังหลินถูกพายุตีเข้าใส่ เขาถอยร่นก่อนจะหยุดยั้งตัวเองด้วยสีหน้าซับซ้อน เขามองตำแหน่งที่ปรมาจารย์เต๋าความฝันหายไปและต่างก็เงียบเสียง
หวังหลินมั่นใจว่าระหว่างหลี่เฉียนเหมยและปรมาจารย์เต๋าความฝันมีความเกี่ยวข้องกัน ในเมื่ออีกฝ่ายเอานางไป เขาต้องมีวิธีช่วยนางแน่
แผนเดิมก่อนหน้านี้คือออกไปจากเผ่าแพรฟ้าและพื้นที่ดวงดาวแห่งนี้ หลังจากขบคิดเล็กน้อยหวังหลินก็เลือกไม่จากไป เขาต้องการมั่นใจว่าหลี่เฉียนเหมยจะตื่นขึ้นมาจริงๆ
หวังหลินขบคิดพลางเปลี่ยนเป็นลำแสงลอยตรงไปข้างหน้า หวังหลินค่อยๆเข้าสู่พื้นที่ของเผ่าแพรฟ้า เขาไม่ได้แพร่กระจายสัมผัสวิญญาณแต่ก็เห็นดาวเคราะห์เซียนเปล่งแสงสีฟ้ารุนแรงท่ามกลางดวงดาวนับไม่ถ้วนได้ชัดเจน นั่นเป็นตำแหน่งที่ปรมาจารย์เต๋าความฝันอยู่
ดาวเคราะห์เซียนแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้า แม้กระทั่งในดาวเคราะห์ก็ดูเหมือนจะมีแสงสีฟ้าแทรกซึมไปทั้งมหาสมุทร หวังหลินเดินทางไปข้างหน้าและเข้าสู่ดาวเคราะห์เซียน
ที่นี่ไม่มีค่ายกลป้องกัน ดังนั้นหวังหลินจึงลอยตัวในอากาศบนดาวเคราะห์เซียน เสียงคลื่นทะเลด้านล่างดังเข้าสู่หูเขาอย่างช้าๆ
บนมหาสมุทรมีเรืออยู่บางส่วนและมีเสียงเพลงพัดมากับสายลม เสียงเพลงเต็มไปด้วยความสุข
หลังจากผ่านไปสักพัก หวังหลินก้าวเข้าไปบนอากาศและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาปรากฏตัวอีกครั้งอยู่ด้านล่างภูเขาสีฟ้า
มีภูเขาอยู่ล้อมรอบบริเวณและต้นไม้เต็มไปหมด แต่เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าภูเขาสีฟ้าลูกนี้ เขารู้สึกเหมือนตนเองเล็กมาก ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้เป็นสีฟ้าด้วยตัวเองแต่มีแสงสีฟ้าไร้ขอบเขตโผล่ออกมาจากภายในจนดูเหมือนเป็นภูเขาสีฟ้า!
พอมองภูเขาลูกนี้ หวังหลินเผยสายตาที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้ หลังจากผ่านไปสักพักจึงถอนหายใจและมุ่งหน้าเข้าหาภูเขา ทว่าเมื่อเข้าไปใกล้ สีหน้าพลันเปลี่ยนไปและหยุดชะงักกลางอากาศ ห่างออกไปหมื่นฟุต!
เมื่อแสงสีฟ้าแทรกเข้ามาในร่างกาย มันกลายเป็นพลังต้านทานอันไร้ขอบเขตที่หยุดทุกอย่างไม่ให้เข้าใกล้!
‘เขตอาคมทรงพลังอะไรเช่นนี้!’ หวังหลินจ้องมองภูเขาสีฟ้า ด้วยความเข้าใจด้านเขตอาคม แค่ชำเลืองก็เห็นได้ว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นมาจากคน แต่เป็นแสงจากภูเขาสีฟ้า
หลังจากขบคิดเงียบๆอยู่นาน หวังหลินดวงตาส่องสว่าง พลังดั้งเดิมพร้อมกับพลังเทพโบราณเต็มไปทั่วร่างกาย เคลื่อนไหวเข้าหาแสงสีฟ้าดุจอุกกาบาต!
ขณะที่พุ่งเข้าไป แรงต้านยิ่งแข็งแกร่งขึ้น ท้ายที่สุดมันจึงเหมือนกำแพงเหล็กและมีเสียงดังสนั่นกึกก้องไปรอบตัวหวังหลิน
ยามที่เท้ายืนสัมผัสด้านล่างภูเขาสีฟ้า แรงต้านทานจึงเหมือนสวรรค์กดทับใส่ร่างกาย เสียงปะทุดังสนั่นออกมาจากร่าง
ทว่าไม่มีสิ่งใดจะหยุดหวังหลินได้ เขาเงยศีรษะขึ้นมามองยอดภูเขาสีฟ้าที่ปกคลุมอยู่ในก้อนเมฆ สายตามุ่งมั่นพลางเริ่มเดินไปบนภูเขา
ยอดภูเขาแห่งนี้แทงทะลุก้อนเมฆจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทว่ามีบันไดสายลมที่นำทางไปถึงยอด หวังหลินก้าวเดินทีละก้าวเข้าไป
เขารวดเร็วมากและไม่หยุดพัก ใช้พลังดั้งเดิมทั้งหมดเพื่อต้านทานแรงที่จะผลักเขาให้กลับไป พลันร้องคำรามเมื่อเดินไปได้สามในสิบส่วน!
ทว่าวินาทีนี้แรงต้านทานจากภูเขาก็ยิ่งสั่นสะเทือนปฐพีขึ้น ราวกับดาวเคราะห์เซียนกดทับลงมาไม่ให้หวังหลินได้ก้าวไปข้างหน้า ทุกก้าวของเขาต้องทนทานต่อแรงกดดันมหาศาล สิ่งที่น่าตกตะลึงก็คือขณะที่เขาเคลื่อนที่ขึ้นไป แรงต้านยิ่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า!
ขณะที่เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หลี่เฉียนเหมยกำลังนั่งอยู่ในบ้านธรรมดาหลังหนึ่งบนยอดภูเขา ดวงตาหลับสนิท ร่างกายปลดปล่อยแสงสีฟ้า บิดาของนาง ปรมาจารย์เต๋าความฝันกำลังนั่งอยู่ด้านล่าง สองฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ใส่อากาศเป็นระยะ
ทุกครั้งที่ชี้ออกไป ร่างหลี่เฉียนเหมยจะสั่นเทา ควันสีดำโผล่ออกมาจากรูขุมขนและหายไปจากห้อง
เสียงขลุ่ยบรรเลงดังอยู่นอกห้อง สตรีชุดสีชมพูนั่งอยู่นอกบ้าน นางถือขลุ่ยและเล่นเพลงเบาๆ เสียงเพลงเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนดังกึกก้องไปทั่วทั้งโลก ทั้งในบ้านและภูเขาที่หวังหลินกำลังปีนอยู่
ยามที่เสียงขลุ่ยดังเข้าหูหวังหลิน เขาเดินมาได้เกือบห้าในสิบส่วนแล้ว หวังหลินดูเหน็ดเหนื่อยยิ่ง ดวงตาแดงก่ำ แรงต้านจากภูเขานั้นเกินบรรยาย ราวกับมีดาวเคราะห์เซียนหลายลูกกำลังกดทับลงใส่ ทุกก้าวที่เหยียบย่ำลงไปช่างยากยิ่ง!
พลังเทพโบราณไหลเวียนไปทั่วร่างพร้อมกับพลังดั้งเดิม พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมาจากร่าง ดวงตาเปล่งประกายพลางยกขาขึ้นมาและเริ่มเดินอีกครั้ง
ในร่างกายส่งเสียงปะทุและมีเม็ดเหงื่อไหลรินจำนวนมาก ในหยาดเหงื่อมีสีแดงโลหิตอยู่จางๆอันเนื่องมาจากโลหิตที่ไหลอยู่ในร่างและถูกขับออกมาเพราะแรงกดดัน
จนกระทั่งพลังดั้งเดิมมาถึงขีดจำกัด หวังหลินสูดหายใจ พลังดั้งเดิมจำนวนมากพรั่งพรูเข้าไปในร่าง ขณะที่เวลาผ่านไป พลังเทพโบราณก็มาถึงขีดจำกัดเช่นเดียวกัน
สองพลังงานนี้ค้ำจุนเขาเพื่อให้เข้าใกล้ยอดภูเขามากยิ่งขึ้น!
ในเวลาสามวันหวังหลินปีนขึ้นไปได้เกือบแปดในสิบ ตอนนี้เขามองขึ้นไปเห็นปลายทางเดิน ทว่าเหน็ดเหนื่อยมาก ร่างกายดุจกลองที่กำลังสั่นพร้อมกับมีแรงกดดันมหาศาลกดทับใส่ ร่างกายสั่นเทาอย่างอดไม่ได้
พริบตานั้นเขาคล้ายจะกลับไปตอนก่อนเริ่มต้นฝึกฝนเซียนและกำลังผ่านบททดสอบที่สำนักเหิงยั่ว แรงต้านทานนั้นเหมือนกับทั้งโลกกำลังพยายามบดขยี้เขา!
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ก็คือขณะที่เขาปีนขึ้นไป ไม่เพียงแค่แรงต้านจะมาจากด้านบนเท่านั้น แต่มันมีแรงต้านที่ผลักออกมาจากด้านล่างด้วย เขาต้องแบ่งพลังออกไปเพื่อประคองให้ยืนได้ ไม่เช่นนั้นหากผ่อนแรงคงโดนพัดปลิวออกไปแน่
ภายใต้แรงต้านทานทั้งสองนี้ หวังหลินหน้าซีดและเหงื่อไหลโชกเสื้อผ้าเต็มไปหมด อย่างไรก็ตามสายตาท่าทางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาอยากไปให้ถึงยอดและดูว่าหลี่เฉียนเหมยตื่นแล้วจริงๆ!
หลังจากเห็นนางเขาก็จะจากไป แต่ก่อนที่จะได้เห็นนาง ถึงแม้ฟ้าถล่มดินทลาย จะไม่มีพลังอันใดมาหยุดยั้งเขาได้!
‘ข้าพาหลี่เฉียนเหมยมาที่นี่ ดังนั้นข้าต้องอยู่ดูจนจบ!’ หวังหลินกัดฟันแน่น รสชาติโลหิตผุดขึ้นคอ เขายกเท้าขึ้นและก้าวไปหายอดภูเขาอีกครั้ง!
แรงกดดันยิ่งเกินจะต้านทานมากขึ้นไปอีก หลังจากกระอักโลหิตหลายครั้งและเส้นโลหิตแทบระเบิด หวังหลินปีนมาได้เกือบระยะทางเก้าในสิบ
ตรงปลายยอดภูเขา ในบ้านหลังนั้น ปรมาจารย์เต๋าความฝันลืมตาขึ้นมา ควันสีดำส่วนสุดท้ายออกมาจากหลี่เฉียนเหมย จากนั้นนางก็ถูกแสงสีฟ้าล้อมรอบ ใบหน้าแห้งเหี่ยวฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว ขนตากระพือเล็กน้อยพร้อมกับค่อยๆลืมตาขึ้นมา
ประตูบ้านถูกเปิดออกและสตรีชุดชมพูเดินเข้ามาข้างใน นางกวาดสายตาผ่านหลี่เฉียนเหมยและมึนงงไปชั่วครู่ นางเอ่ยขึ้นเบาๆ “เขากำลังจะมาถึงที่นี่…เราควร…”
ปรมาจารย์เต๋าความฝันก้มศีรษะลงและมองไปที่พิณ เขาแตะมันและเอ่ยออกมา “เยว่เอ๋อร์ เจ้าไป…บอกชื่อเจ้ากับเขา…”
หลี่เฉียนเหมยพยักหน้าและค่อยๆลุกขึ้น นางเดินออกไปจากบ้านพร้อมกับอาการงุนงงเล็กน้อย นางเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น แววตายิ่งสับสนมากกว่าเดิม
ด้วยแรงต้านทานมากมายมหาศาล ท้ายที่สุดหวังหลินก็ก้าวมาถึงขั้นสุดท้ายและเหยียบลงบนยอดเขา!
ที่นี่พลังต้านทานพลันระเบิดพรั่งพรูเปลี่ยนกลายเป็นเสียงคำรามเงียบ ผลักดันเขาอย่างบ้าคลั่ง แต่ร่างกายเขานิ่งเฉยไร้การเคลื่อนไหว พอมาถึงยอดได้เขาเห็นหลี่เฉียนเหมย เขาเห็นสตรีที่กำลังจ้องมองดวงอาทิตย์ขึ้น เสื้อผ้าพลิ้วไหวในสายลมทำให้นางดูเหมือนเทพธิดายิ่งนัก
นางหันหน้ามามองหวังหลินในจังหวะเดียวกัน
สายตาทั้งคู่สบประสาน หวังหลินยิ้มออกมา หลี่เฉียนเหมยตื่นแล้ว!
“ท่านพ่อบอกให้ข้ามาเอ่ยนาม ข้าชื่อจันทราฟ้า เจ้าเป็นใคร?”
หวังหลินตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นมองดวงตาหลี่เฉียนเหมย ผ่านไปสักพักเขาจึงเผยความขมขื่นและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ข้าชื่อหวังหลิน…” เช่นนั้นเขาก็หยุดแรงต้าน จากนั้นจึงถูกโยนออกไปไกล
ระยะห่างระหว่างเขาและสตรีบนยอดภูเขากำลังถูกดึงห่างออกไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งสายตาของทั้งสองค่อยๆถูกระยะทางบดบังจนไม่สามารถมองเห็นกันและกันได้ชัดเจน
‘เราลืมกันและกันคงดีกว่า นั่นก็ดีแล้ว…นั่นก็ดีแล้ว…’ หวังหลินตกอยู่ในอารมณ์ซับซ้อนที่ไม่อาจเข้าใจ ขณะที่กำลังถูกโยนอยู่นั้นเขาหันตัวกลับและเดินเหินออกไปไกล
แววตาของจันทราฟ้ายิ่งสับสนหนักเข้าไปใหญ่ นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดในหัวใจได้อย่างเบาบางและรู้สึกหายใจไม่ออกร่วมด้วย ทุกอย่างเบื้องหน้านางคล้ายกับเป็นสายน้ำ นางอยู่ใต้น้ำและมองไปยังนกที่กำลังบินออกไปไกลแสนไกล
จันทราฟ้าไม่ได้มองกลับมาและเอ่ยกระซิบ “ท่านพ่อ ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกับเขามากราวกับคือส่วนหนึ่งในความทรงจำข้า…เป็นคนสำคัญ….”
“ระยะทางที่ไกลที่สุดในโลกไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรือหยินหยาง แต่เป็นการถูกลืม…ความสัมพันธ์ที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นผิดที่ผิดเวลา มันผิดหมดตั้งแต่เริ่มแล้ว…หากเจ้าสองคนเริ่มต้นได้อีกครั้งหลังจากลืมกันไปแล้ว เมื่อนั้นพ่อจะไม่รั้งเจ้า…ถึงแม้เขาจะถูกแดนสวรรค์โบราณเลือกไว้ พ่อก็จะขอสู้เพื่อเจ้า!” แทนที่จะตอบคำพูดของหลี่เฉียนเหมย ปรมาจารย์เต๋าความฝันหลับตาและสัมผัสพิณ
“ระยะทางที่ไกลที่สุด…คือการถูกลืม…เมิ่งเอ๋อร์ เมื่อไหร่เจ้าจะจำข้าได้…”
……………………..