ตอนที่ 53 ชำแหละ
หมาป่าพระจันทร์เงินร่วงหล่นลงไปท่ามกลางอากาศ ดวงตาของมันไร้แววชีวิต ขณะที่กำลังสิ้นใจ ภาพความทรงจำก็ผุดขึ้นมาในหัวของมัน ในฐานะหมาป่าพระจันทร์เงิน ราชาแห่งหมาป่า มันเคยวาดหวังว่าจะได้เป็นจ่าฝูงมาตั้งแต่เด็ก มันทำได้ดีมาตลอด และตอนนี้ก็เหลืออีกแค่ก้าวเดียวที่มันจะได้เป็นจ่าฝูง!
อย่างไรก็ตาม…
มันถูกลอบโจมตีโดยทีมระดับเทพสงครามจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคยังดีที่มันสามารถใช้ความเร็วหลบหนีมาได้ แต่ทว่าขณะที่มันกำลังหลบหนี มันก็ได้เผชิญหน้ากับทีมระดับแม่ทัพทีมหนึ่ง ถ้ามันไม่ได้รับบาดเจ็บมา มันก็คงจะทลายทีมนั้นได้อย่างง่ายดายทีเดียว!
แต่เพราะมันบาดเจ็บหนักอยู่
และทีมแม่ทัพนั้นก็ตามไล่ล่ามันอย่างต่อเนื่อง ตามไล่อยู่ตลอด ไม่ว่ามันจะวิ่งไปทางไหน ทีมนั้นก็จะตามมันไปทุกหนทุกแห่ง
‘พวกมนุษย์น่ารำคาญสารเลว!’
‘อย่างน้อยการตายด้วยมือของนักอ่านจิตก็ยังดีเสียกว่าตายด้วยมือพวกสารเลวนั่น’
หมาป่าพระจันทร์เงินมีความฉลาดมาก มันเป็นระดับบัญชาการขั้นสูง ราชาแห่งหมาป่าซึ่งสามารถต่อกรกับสัตว์ประหลาดในระดับจ่าฝูงพวกอื่นๆ ได้ด้วยความฉลาด และสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงก็มักจะฉลาดพอๆ กับมนุษย์
ถ้าจะต้องตาย มันจะต้องตายด้วยน้ำมือของผู้ทรงพลังเท่านั้น
“ตึง!”
ร่างกายอันใหญ่โตของหมาป่าพระจันทร์เงินหล่นกระแทกกับพื้น เกิดเสียงดังสนั่นจนกำแพงที่อยู่ข้างๆ สะเทือนและพังลงมา
หลัวเฟิงตามติดมาอย่างรวดเร็ว
“แฮ่ก…แฮ่ก…ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะฆ่าหมาป่าพระจันทร์เงินได้” หลัวเฟิงลงมายืนอยู่ข้างซากของหมาป่าพระจันทร์เงินพร้อมกับถอนหายใจยาว หลังจากนั้น มีดบิน 4 เล่มที่กำลังโฉบฉวัดเฉวียนอยู่ก็บินกลับเข้ามาในกระเป๋าตรงต้นขาของหลัวเฟิงตามเดิม
“หือ? หายไปไหน 2 เล่มเนี่ย” หลัวเฟิงมองดูรอบๆ
ด้วยหางตา เขาเห็นมีดอีก 2 เล่มตกอยู่ในหลุมของพื้นคอนกรีตห่างออกไป พื้นคอนกรีตนั้นแตกออกเพราะการสั่นสะเทือน และมีด 2 เล่มนั้นไปก็ตกอยู่ในหลุมเล็กๆ นั่นพอดี!
ฉากนี้ทำให้หลัวเฟิงอดสูดหายใจเข้าลึกไม่ได้
หมาป่าพระจันทร์เงินตัวนี้มีความเร็วและพลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ
“ทีมอื่นๆ อาจจะเข้ามาเห็นได้ เราต้องชำแหละซากของมันก่อน หมาป่าพระจันทร์เงินตัวนี้มีค่ามากทีเดียว” หลัวเฟิงคิดว่าไม่ควรเสียเวลาและจะต้องรีบชำแหละซากของมันด้วยมีดปาในมือของเขา ดาบปีศาจของเขาเป็นชุด 5 สามารถใช้สู้กับระดับบัญชาการขั้นกลางเท่านั้น
ส่วนมีดปาของเขาเป็นชุด 6 สามารถใช้สู้กับพวกระดับบัญชาการขั้นสูงได้!
หลัวเฟิงเฉือนหน้าท้องของหมาป่าตัวนั้นตรงบาดแผลเดิมอย่างรุนแรงด้วยมีดปาในมือของเขา
“หือ?”
หลัวเฟิงอึ้ง ขนของมันที่แยกเปิดออกเป็นทางยาวอยู่แล้ว แต่พอเขาใช้กำลังเฉือนอย่างเต็มเหนี่ยวกลับไม่สามารถเฉือนมันต่อไปได้ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม! ต้องรู้ไว้ว่าการชำแหละสัตว์ประหลาดที่ไม่มีแผลอยู่ก่อนนั้นเป็นเรื่องยากที่สุด แต่นี่มันมีแผลใหญ่อยู่แล้ว การชำแหละก็น่าจะง่ายขึ้นมาก น่าเสียดาย…หลัวเฟิงแข็งแกร่งไม่พอที่จะชำแหละซากของสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการขั้นสูง!
“บ้าจริง ดูท่าเจ้านี่จะหนังเหนียวเกินไป” หลัวเฟิงหัวเราะ แล้วเขาก็ใช้พลังจิตควบคุมมีดปาเล่มนั้นแทน
พลังของพลังจิตนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังแขนมาก
“ฉัวะ!”
มีดทิ่มลงไป
“แควก”
เสียงแผลเก่าของมันค่อยๆ เปิดอ้าออกอย่างช้าๆ
“ใช้พลังจิตควบคุมมีดเปลืองพลังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” หลัวเฟิงประหลาดใจ ใจสั่นไหว มีดบินอั้นนั้นหาช่องเข้าเจอทันที หมาป่าพระจันทร์เงินนอนหลังงุ้มอยู่เล็กน้อย เพียงแต่เพราะขนของมันจึงไม่เห็นบาดแผลแม้แต่น้อย
หลัวเฟิงอึ้ง “นี่มันบ้าชัดๆ”
“ครั้งนี้เราโชคดีเป็นบ้า” หลัวเฟิงอ้าปากค้าง “ความเร็วของมันแทบจะเท่าความเร็วเสียง แรงโจมตีก็มีพลังมาก กระทั่งขนอันแสนแพงของมันก็เหนียวอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้ามันอยู่ในสภาพปกติ เราคงจะมีโอกาสชนะเพียง 20-30% เท่านั้น!”
ถ้าหลัวเฟิงต่อสู้กับมันในสภาพปกติ มีดบินของเขาก็คงจะโจมตีได้เพียงจุดอ่อนอย่างดวงตา หู จมูก เท่านั้น
แต่ด้วยความว่องไวของหมาป่าพระจันทร์เงิน โอกาสชนะของหลัวเฟิงย่อมต่ำมาก แค่ 20-30% ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“แควก!”
“แควก!”
หลัวเฟิงเฉือนอย่างรวดเร็ว เขาถลกหนังที่หายากและแสนแพงของมันออก แล้วก็ตัดกรงเล็บแข็งแกร่งของมันออก กรงเล็บอันนี้ถูกใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นเหล็กโครห์นเกรดสูง ดังนั้นมันจึงแพงมาก ยังมีหัวกะโหลกอันแข็งแกร่ง เขี้ยวและก็ลูกตาพิเศษของมันอีกที่แพงมากเช่นกัน
ทุกส่วนที่ราคาแพง หลัวเฟิงก็ผ่าออกแล้วเอาใส่กระเป๋าของเขา
มีสิ่งประดิษฐ์มากมายที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยวัตถุดิบจากตัวของสัตว์ประหลาด
“จัดการหมดแล้ว”
หลัวเฟิงสูดหายใจลึก มีแต่ชิ้นเนื้อจากซากของหมาป่าพระจันทร์เงินตัวนี้เท่านั้นที่ถูกเหลือทิ้งไว้ หลัวเฟิงเก็บมีดปาของเขาไว้ที่ต้นขาตามเดิมแล้วก็ถอนหายใจออกมา เขาสิ้นเปลืองพลังจิตไปมากในการต่อสู้กับหมาป่าตัวนี้ แต่เขาต้องใช้พลังจิตมากกว่านั้นเป็นสิบเท่าในการชำแหละร่างของมัน!
“ยังไงก็เถอะ ได้เยอะเลยแฮะ”
ครั้งนี้ เราได้เงินไม่น้อยเลย” หลัวเฟิงยิ้มออกมา การแบ่งเงินของทีมค้อนอัคคีขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการมีส่วนร่วมในการต่อสู้ ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่ยอมช่วยเหลือในการต่อสู้ ทีมก็จะไม่แบ่งผลประโยชน์ใดๆ ให้
แต่หลัวเฟิงฆ่าหมาป่าพระจันทร์เงินเพียงคนเดียว
ดังนั้น หลัวเฟิงจะมีสิทธิ์ในการรับเงินจำนวนมาก
“ถ้ามีคนมาพบเราอยู่ใกล้กับซากของเจ้านี่ต้องมีปัญหาแน่” หลัวเฟิงหัวเราะ “แม้แต่แม่ทัพขั้นสูงก็ไม่น่าจะทำให้หมาป่าตัวนี้บาดเจ็บสาหัสได้ ไม่แน่อาจจะเป็นพวกเทพสงครามก็เป็นได้ และมันก็มีร่องรอยบนขนของมันให้สังเกตเห็นด้วย ทางที่ดีต้องรีบไปดีกว่า”
หลัวเฟิงไม่อยากเป็นศัตรูกับนักสู้ที่สามารถสร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้หมาป่าตัวนี้ได้
ฉะนั้น วิ่ง!
หลัวเฟิงออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงกองเนื้อของมันทิ้งไว้เบื้องหลัง
……………..
ภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิด ทีมเขี้ยวพยัคฆ์กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เข้าไปในอาณาเขตของพวกสัตว์ประหลาดในเมืองนั้น
“ให้ตาย นักล่าตัวนั้นกล้าวิ่งตะลอนในเมืองนี้ เพราะว่ามันเป็นระดับบัญชาการขั้นสูง สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ เลยไม่กล้าหืออือกับมัน แต่ยังไงก็เถอะ เราเองก็สามารถเคลื่อนที่ไปช้าๆ เท่านั้น…” ชายหัวล้านร่างกำยำผู้กำลังเดินอยู่ถัดจากจางเจ๋อหู่กล่าวขึ้นอย่างหัวเสีย “หลังจากที่เราฆ่ามันแล้ว ฉันจะเอาเนื้อมันมาย่างกินซะเลย ถ้าไม่ได้กินฉันไม่หายหงุดหงิดแน่งานนี้”
จางเจ๋อหู่ยิ้มแล้วก็หัวเราะออกมา “อย่ากังวลไปเลย สัญญาณติดตามของเราะติดอยู่ที่นักล่าตัวนั้น มันวิ่งไปไหนมันก็ไม่รอดหรอก”
“ตอนนี้มันอยู่ไหน?” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ถามขึ้นเบาๆ
“หัวหน้า มันอยู่ห่างจากเราราว 13 ไมล์ครับ แต่มันไม่ได้เคลื่อนไหวเลย บางทีมันอาจจะหยุดพักแล้วก็ได้” ตงจื่อผู้ใช้อาวุธร้อนพูดยิ้มๆ ขณะที่มองดูหน้าจอเครื่องติดตาม
ในตอนนี้ สมาชิกทีมเขี้ยวพยัคฆ์ต่างก็พากันใจชื้นขึ้น
“มันไม่เคลื่อนไหว?”
“พักแล้วเหรอ? ฮ่าๆๆๆ”
สิ่งที่พวกเขากำลังกลัวอยู่ก็คือหมาป่าพระจันทร์เงินตัวนั้นจะหลบหนีไปได้…
จางเจ๋อหู่เลยหัวเราะออกมา “แสดงว่าหมาป่าตัวนั้นมันกำลังซ่อนตัวและพักฟื้นอยู่ มันไม่รู้จักเราซะแล้ว”
“ไป! เราจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้ มันอยู่ห่างออกไปแค่ 13 ไมล์เท่านั้น เราต้องรีบกันแล้ว” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ตาเป็นประกาย แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำ “ทุกคนเร่งกันหน่อย เราอาจเผด็จศึกมันได้ในคืนนี้”
ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ออกวิ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง
แม้จะมีสัตว์ประหลาดอยู่ทั่วไปรอบๆ เมือง ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ก็สามารถเคลื่อนที่ในระยะทาง 13 ไมล์ได้ภายในครึ่งชั่วโมง
ประมาณ 40 นาทีผ่านไป
“มันน่าจะพักอยู่ข้างๆ นี้ล่ะ ทุกคนระวังตัวด้วย” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์โบกมือเป็นสัญญาณ สมาชิกทั้ง 6 ก็แยกออกเป็นสองกลุ่ม และเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมายไปคนละด้าน ค่อยๆ อ้อมเข้าหาจุดที่ปรากฏอยู่บนเครื่องติดตาม ไม่มีใครกล้าปริปากแม้แต่คำเดียว
หมาป่าพระจันทร์เงินประสาทไวมาก
1 ก้าว…2 ก้าว…3 ก้าว…
ทุกคนเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังเป็นที่สุด
“ลุย! หัวหน้าทีมโบกมือเป็นสัญญาณ แล้วทั้งสองกลุ่มก็เคลื่อนที่พร้อมๆ กัน
วูบ! วูบ! วูบ!
ทั้งสองกลุ่มพุ่งเข้าไปในซอนนั้นพร้อมกันทั้งสองด้าน กลุ่มหนึ่งด้านหน้า กลุ่มหนึ่งด้านหลัง พวกเขาอยู่ห่างจากเป้าหมายราวๆ 100 เมตร สมาชิกทั้ง 6 ต่างก็จ้องเขม็งไปยังจุดที่ควรมีหมาป่าพระจันทร์เงินอยู่ แต่ทว่าพวกเขาไม่เห็นเป้าหมาย มีเพียง…กลิ่นคาวเลือดจางๆ ในอากาศ
“หือ?” สีหน้าของหัวหน้าถึงกับถอดสี
“แย่แล้ว!”
ทุกคนในทีมต่างก็กรูกันเข้าไป มีแต่กองชิ้นเนื้อ รอบๆ บริเวณก็มีเพียงเศษขนเงินของมันกระจัดกระจายอยู่นิดหน่อยเท่านั้น!
“เวรเอ๊ย” จางเจ๋อหู่สบถขณะที่หยิบเศษขนขึ้นมาดู “มีคนแย่งมันไปแล้ว!”
หลัวเฟิงรู้ว่ามีทีมนักสู้ทิ้งสัญญาณติดตามไว้กับบาดแผลของหมาป่าตัวนั้น เพราะมันบาดเจ็บหนัก จึงมีโอกาสที่จะถูกติดเครื่องติดตามได้ ดังนั้นเขาจึงใช้พลังจิตค้นหาและก็เห็นมันติดอยู่ที่ขน จากนั้นเขาก็ตัดมันออก
“สารเลว” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ขบกรามแน่นสีหน้าบอกบุญไม่รับ
“สุดท้ายก็มือเปล่า!” ชายวัยกลางคนตาเดียวด้านข้างโกรธจนสีหน้าอึมครึม
“ไป” แววตาของหัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์เปล่งประกายลุกโชนขณะที่ออกคำสั่ง “มันกล้าขโมยเหยื่อเสือ มันก็เท่ากับรนหาที่ตาย! ทีมนั้นมันจะต้องรีบกลับไปฐานเติมเสบียงแน่ๆ! เพราะงั้น…พวกเราต้องรีบรุดหน้ากลับไปที่ฐานให้เร็วที่สุด ด้วยความเร็วสูงสุด เราน่าจะไล่พวกมันทันกลางทาง”
“ครับ หัวหน้า” สมาชิกที่เหลือรับคำสั่งหนักแน่น
“ไปกัน” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์โบกมือเป็นสัญญาณ แล้วทุกคนที่กำลังแค้นก็ตามหลังเขาไป มุ่งหน้ากลับไปยังฐานเติมเสบียงในทันที