บทที่ 154 เขามาแล้ว! (ปลาย)
กลายเป็นว่าเวลานี้หลายคนเริ่มรู้สึกผิดหวังในพฤติกรรมของสถานศึกษาฉางมู่! เมื่อก่อน ไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งหรือมีการประลองกันระหว่างสองสถานศึกษาอย่างไรก็แล้วแต่ ล้วนเป็นเรื่องภายในแคว้นเจียง
แต่ครั้งนี้ในเมื่อสถานศึกษาฉางมู่ร้องขอความช่วยเหลือจากต่างแคว้นจึงย่อมรวมถึงแคว้นถังด้วย! แต่แม้ว่าหลายคนรู้สึกผิดหวังต่อฉางมู่ ทว่าไม่มีใครกล้าออกโรงเปิดฉากโจมตี! ด้วยไม่มีใครกล้าปะทะสถาบันยิ่ง
ใหญ่เช่นนี้!
อีกปรากฏการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นทว่าจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย คือ ณ เชิงเขาที่ตั้งของสถานศึกษาฉางหลานทุกวันจะมีผู้คนมาออกันแน่นบริเวณเชิงเขา โดยมากเป็นกลุ่มสตรีด้วยพวกนางตั้งใจรอพบใครบางคน……
ณ สถานศึกษาฉางมู่!
ภายในห้องโถง ที่โต๊ะซึ่งมีหลี่เสวียนชางนั่งเป็นประธาน ได้มีส่วนบรรดาคณาจารย์และศิษย์อาวุโสแห่ง
ฉางมู่นั่งรองลงมา ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นบุคคลสำคัญซึ่งมีพลังกล้าแกร่งของสถานศึกษาฉางมู่!
หลี่เสวียนชางพูดเสียงเยือกเย็น “ศิษย์ทั้งสามแห่งแคว้นถังล้วนเป็นขั้นทะยานสวรรค์ แต่ไม่อาจต้านแม้
เพียงหนึ่งกระบี่ของเยี่ยฉวนได้ พวกเจ้าจะว่าอย่างไร?”
ทั่วโถงไร้เสียงตอบกลับ ทุกคนล้วนสีหน้าเคร่งขรึม ทว่าได้แต่นิ่งงัน!
ใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “คนจากแคว้นถัง ฝีมือไม่ได้เหนือกว่าเฟินเจี้ยแต่ก็ใช่ว่าด้อยกว่า! ถึงอย่างนั้น
พวกมันไม่อาจต้านรับหนึ่งกระบี่ของเยี่ยฉวน!”
“ทั้งหมดตายลงในเวลารวดเร็วยิ่งนัก!”
“แต่เยี่ยฉวนมันมีพลังแค่ขั้นหลอมรวมลมปราณเท่านั้นนะขอรับ!”
“เยี่ยฉวนมิได้ประมือข้ามขั้นพลังเพียงประการเดียว แต่เขาสังหารได้แม้กระทั่งคนที่มีขั้นพลังห่างกันถึงสองขั้นทีเดียว!”
ถึงตอนนี้ทั้งห้องโถงพลันเกิดความเงียบขึ้นอีกครา ต่อมาชายชราผู้หนึ่งลุกขึ้นยืน “ตามความเห็นของข้าชายคนนี้พลังกล้าแกร่งเป็นรองเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์อันหลานซิ่ว ข้าอยากแนะนำให้ท่านส่งข่าวแก่ศิษย์อื่นว่าไม่ควรเข้าประลองกับคนผู้นี้โดยพละการ มิฉะนั้นแล้วจะพานตายกันหมดไม่เหลือ……”
“เหตุใดต้องส่งข่าว?” หลี่เสวียนชางถามเสียงเรียบ “ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาประลองนั่นล่ะ!”
ทุกคนหันมามองคนพูดสายตาส่อแววพิศวงงงงัน!
คนเป็นประธานพูดต่อว่า “ยิ่งมันฆ่าคนไปมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มศัตรูมากขึ้นเท่านั้น ทั้งแผ่นดินชิงมีสาขา
ของสถานศึกษาฉางมู่ถึง 72 แห่ง ให้มันได้ประลองกับสาขาทั้งหมดนั่นแหละ!”
อาศัยกองกำลังจากภายนอกกำจัดเยี่ยฉวน! คนในห้องโถงถึงจะนิ่งฟังเฉยทว่าพวกเขามิใช่คนโง่ บัดนี้ต่างเข้าใจในความนัยของคนพูดแล้ว!
หลี่เสวียนชางพูดจบจึงหลับตาลง นับตั้งแต่สิ้นเฟินเจี้ย ฉางมู่จึงเหลือเพียงเป่ยเฉินที่เป็นกำลังหลักของ
คนรุ่นใหม่แห่งแคว้นเจียง! แต่เป่ยเฉินคนเดียวไม่สามารถปกป้องฉางมู่ให้อยู่รอดปลอดภัยได้ตลอดหรอก!
หากไม่สามารถส่งยอดฝีมือให้กับสำนักงานใหญ่ของสถานศึกษาฉางมู่ที่ตั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจ
กลางแผ่นดินใหญ่ ที่นี่จะต้องถูกระงับความช่วยเหลือด้วยประการทั้งปวง เมื่อถึงตอนนั้นสถานศึกษาฉางมู่ที่นี่
คงถึงกาลต้องล่มสลายเป็นแน่!
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าที่นี่ได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานใหญ่ทุกปี ไม่ว่าจะเป็น คัมภีร์หรือทักษะยุทธ์ และแม้แต่ศาสตราวุธจิตวิญญาณ……แต่ของล้ำค่าเหล่านี้ต้องแลกด้วยการส่งคนที่เป็นยอดอัจฉริยะและยอดคนให้กับสำนักงานใหญ่!
ยอดฝีมือ! หรือว่าในยุคนี้ ยอดฝีมือต่างหากจึงเป็นที่ต้องการ?! นอกเหนือของล้ำค่า ยอดฝีมือ
กลายเป็นความปรารถนาอย่างยิ่งเสียแล้ว!
แน่นอนว่า สถานศึกษาฉางมู่ ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใจกลางแผ่นดินใหญ่ ต่างมีศัตรูมุ่งร้ายเช่นกัน ด้วย
เหตุนี้ที่นั่นจึงต้องสั่งสมกองกำลังด้วยการดึงคนที่เป็นยอดฝีมือจากที่ต่างๆ!
ในตอนนี้สถานะของสถานศึกษาฉางมู่แห่งแคว้นเจียงเกิดความสั่นคลอน หากเทียบกับฉางมู่สาขาอื่น ที่นี่ตกต่ำแทบอยู่รั้งท้ายไร้อันดับ จึงไม่มีเวลาจะมัวสรรหายอดอัจฉริยะคนใหม่อีกแล้ว ทางเดียวก็คือทำให้ยอดอัจฉริยะของที่อื่นลดน้อยถอยลงด้วยเช่นกัน!
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างศัตรูให้กับสถานศึกษาฉางหลานเพิ่มขึ้น แต่ทำให้ยอดอัจฉริยะของสถานศึกษา
ฉางมู่ลดลงไปในเวลาเดียวกัน หากใครก็ตามที่สามารถเด็ดหัวเยี่ยฉวนได้ ย่อมเป็นทั้งข่าวใหญ่และข่าวดีสำหรับพวกเขาที่นี่! อีกไม่นานหรอก พวกเขาจะได้เป็นผู้นั่งชมสองฝ่ายห้ำหั่นกันบ้าง!
เยี่ยฉวน!
คิดถึงชื่อคนผู้นี้ สีหน้าของหลี่เสวียนชางพลันแปรเปลี่ยนหม่นมัว ด้วยสถานศึกษาฉางมู่ต้องรันทดหดหู่
เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างยิ่งเมื่อครานั้น!
อันที่จริงเรื่องราวไม่ควรบานปลายกลายเป็นแบบนี้ ที่น่าสลดใจยิ่งกว่าอะไร เมื่อแรกทีเดียวเยี่ยฉวนต้องการเข้าเป็นศิษย์แห่งฉางมู่! ถ้าตอนนี้ฉางมู่รับเขาไว้เป็นศิษย์ สถานศึกษาฉางหลานจะไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก
เช่นที่เป็นอยู่เด็ดขาด!
ทว่าเวลานี้ อนาคตของฉางมู่พลอยดับวูบไปกับเยี่ยฉวนที่ฉางหลานเสียนี่! ถือว่าชะตากรรมไร้ปราณี
ยิ่งนัก!
หลี่เสวียนชางพลันเอ่ยขึ้น “ประกาศคำสั่งของข้าออกไป ใครก็ตามที่สามารถกำจัดเยี่ยฉวนได้ ข้าจะตบ
รางวัลอย่างงาม เป็นทักษะยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีสองวิชา คัมภีร์ฝึกยุทธ์ขั้นปฐพีสองเล่ม และสุดยอดศิลาแฝง
พลังหนึ่งล้านชิ้น ไม่เพียงเท่านั้น ข้ายังจะส่งมันผู้นั้นไปฝึกฝนพลังปราณในสถานที่แห่งความลับของแคว้นเจียงด้วย!”
ขาดคำของอาจารย์ใหญ่ ทุกคนต่างอ้าปากค้างตะลึงลาน! ทักษะยุทธ์ชั้นยอดขั้นปฐพีสองวิชา! คัมภีร์
ฝึกยุทธ์ขั้นปฐพีสองเล่ม! กับศิลาแฝงพลังหนึ่งล้านชิ้น!
รางวัลมูลค่ามหาศาล! รางวัลที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้ เท่ากับค่าหัวของคนในขั้นผสานเทพทีเดียว!
แต่เยี่ยฉวน ขั้นพลังเพียงหลอมรวมลมปราณเท่านั้น!
ชายชราในห้องโถงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ “อาจารย์ใหญ่ ท่านตั้งรางวัลไม่มากไปหรือขอรับ?”
“มากไปงั้นหรือ?” เขาปรายตามองคนถาม ก่อนตอบน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าเยี่ยฉวนมันไม่ตาย
อีกหน่อยมันจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของฉางมู่! ในเวลาเช่นนี้ ฉางมู่ทุกคนต้องร่วมใจกันหาทางกำจัดคนผู้นี้
โดยไม่ต้องลังเลใจ! หาไม่แล้ว พวกเรานี่แหละที่ต้องตายอย่างอนาถ”
ถ้าฉางมู่ไม่สามารถทำให้ยอดอัจฉริยะอยู่เคียงข้าง ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือกำจัดเสีย! อย่าว่าแต่
เยี่ยฉวน ยอดอัจริยะแห่งสถานศึกษาฉางหลานไรนั่น!
เจตนาของหลี่เสวียนชางไม่ต้องการมีศัตรูเป็นผู้ฝึกกระบี่ ซึ่งจะกลายเป็นเซียนกระบี่และจ้าวกระบี่ใน
ภายหน้า!
เซียนกระบี่! จ้าวกระบี่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ใบหน้าของอาจารย์ใหญ่หลี่เสวียนชางยิ่งหมองคล้ำลงกว่าเดิม
พลันปรากฏร่างของชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องโถงด้วยท่าทางรีบร้อน “อาจารย์ใหญ่ขอรับ เยี่ย
ฉวน……เขา เขามาแล้ว”
ได้ยินเช่นนั้นทุกคนไม่เว้นอาจารย์ใหญ่ ต่างคนมองหน้ากันสีหน้าฉงนฉงาย! “ว่าไงนะ เยี่ยฉวนมาที่นี่ยังงั้นหรือ?”
ณ ปากทางขึ้นเขาฉางซาน ร่างของบุรุษผู้หนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกระบี่ในมือ ไม่ไกลจากชายหนุ่มมีกลุ่มศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางมู่ยืนออรวมกัน แต่ละคนท่าทางตื่นเต้นตกใจ
ชายหนุ่มเหลือบมองกลุ่มศิษย์ฉางมู่ “อย่าทำหน้ามุ่ยอย่างนั้นสิ ข้าแค่จะมาฝึกคัดลายมือแถวนี้สักเดี๋ยวเท่านั้น!”
สิ้นเสียง เขาบิดหมุนข้อมือกวัดแกว่งกระบี่ยาว ในไม่ช้า บนพื้นดินเบื้องหน้าปรากฏตัวอักษรขนาด
ใหญ่ อ่านได้ความว่า ‘ถ้ากล้าจริง ก็จงเอาชนะข้า! เข้ามาเอาชนะข้า!’
— จบตอน —



