บทที่ 259 สมรภูมิเลือด! (ต้น)
ขณะเดียวกับที่เยี่ยฉวนและคนทั้งห้าทะยานเข้าหากลุ่มชายสวมชุดดำ พลันลูกธนูสีเงินนับสิบพุ่งออกมาจากทุกทิศทางดุจห่าฝน! ลูกธนูจากศาสตราวุธจิตวิญญาณ! ทหารระดมยิงไม่ยั้ง!
เยี่ยฉวนหยุดฝีเท้ากึก หันไปตะโกนบอกคนที่ตามมาทั้งห้าคน “ทุกคนหลบเข้าด้านหลังข้า!” พลันคนทั้งห้าเมื่อได้ยินเยี่ยฉวน พวกเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยกระโจนพรวดไปยืนเรียงแถวที่ด้านหลังของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว จากนั้นเยี่ยฉวนยกเท้าขวากระทืบลงบนพื้นดินหนักหน่วง
เปรี้ยง! วินาทีถัดมาพื้นที่ในบริเวณเกิดการสั่นสะเทือนทั้งไหวโยกรุนแรง ครู่ต่อมาพลังแห่งปฐพีจากพื้นดินเริ่มหลากไหลรวมเข้าสู่กายเยี่ยฉวน พลันแปรเปลี่ยนเป็นเสื้อเกราะแห่งปฐพี!
เยี่ยฉวนกระชับกระบี่ในมือ เพียงชั่วอึดใจลำแสงสว่างวาบพุ่งจากกระบี่ กระแสกล้าแกร่งแห่งลำแสงแผ่กั้นสกัดลูกธนูสีเงินยวงที่กระหน่ำเข้ามาอย่างแน่นหนา ถึงกระนั้นก็ยังมีลูกธนูบางดอกสามารถทะลุทะลวงฝ่าลำแสงกระบี่เข้ามาปะทะกับร่างกายของเขา! พลันเสื้อเกราะแห่งปฐพีเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ขวางกั้นลูกธนูที่ฝ่าเข้ามา กระนั้นก็ยังให้เกิดความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย!
จัวหวะที่กลุ่มคนชุดดำเริ่มยิงลูกธนูออกมาอีกระลอก เยี่ยฉวนกระแทกเท้าขวาลงบนพื้นดินเต็มแรงอีกครา แรงปะทะผลักส่งให้ร่างทะยานเข้าหากลุ่มคนชุดดำซึ่งตั้งท่าเงื้อสายธนู “ฆ่ามันให้หมด!” คนอีกห้าคนออกทะยานตามเยี่ยฉวนมาทันที!
เมื่อคนทะยานเข้าหาเป้าหมาย กระบี่หลิงซิ่วในมือก็สะบัดตัดทุกอย่างที่ขวางหน้า พลังปะทะแห่งกระบี่ผสานสามพลังทั้ง แรงผลักดันแห่งกระบี่ จิตวิญญาณต่อสู้และปณิธานกระบี่! ที่สำคัญพลังปะทะแห่งกระบี่ยังผนึกเข้ากับพลังปฐพีด้วย! พลังปะทะแห่งกระบี่ยามนี้จึงกล่าวได้ว่า เหนือชั้นกว่าคนในขั้นสันโดษทั้งความเร็วและพลัง!
ฉับ! กระบี่แทงทะลุเข้ากลางลำตัวของเจ้าคนชุดดำที่อยู่หน้าสุด! ฉับพลันนั้นในมือของเยี่ยฉวนปรากฏกระบี่ขนาดใหญ่อีกเล่ม! กระบี่มหากาฬ!
เขากระโดดออกไปโดยกระชับกระบี่เล่มยักษ์มุ่งเข้าหาคนชุดดำคนแรกที่ปะหน้า จากนั้นจึงตวัดกระบี่ควับลงเบื้องหน้า! พลังปะทะอันน่าเกรงขามแห่งกระบี่ รุนแรงปานจะบดขยี้พื้นดินแหลกเป็นผงธุลี ความน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านหาที่เปรียบมิได้
คนชุดดำมองเขม็งจอประสาทตาของมันหดตัวด้วยความกลัวเข้าครอบงำ พลันมันเหวี่ยงคันธนูในมือทิ้งและกระชากดาบสีดำออกจากฝัก โดยไม่รอช้าดาบสีดำปะทะกระบี่มหากาฬของเยี่ยฉวน!
ผัวะ! ในขณะนั้นทันทีที่ดาบและกระบี่สัมผัสกัน เกิดเสียงปะทะรุนแรงระเบิดขึ้น พลันดาบในมือของชายชุดดำแตกกระจายเป็นเสี่ยงในชั่วพริบตา ในเวลาเดียวกันเยี่ยฉวนสะบัดกระบี่สะบั้นร่างของอีกฝ่ายจนแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!
เยี่ยฉวนสะบัดกระบี่เพียงหนึ่งครั้ง สามารถสับศัตรูจนร่างแหลก! ความกล้าแกร่งเดิมเสริมด้วยพลังปฐพีส่งให้ยิ่งขึ้นทวีคูณ! ก่อนหน้าเยี่ยฉวนอาจสังหารคนที่มีขั้นพลังสันโดษได้ในเวลาอันรวดเร็วก็จริง ทว่าบัดนี้ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าเป็นถึงยอดยุทธ์สันโดษ ยิ่งกว่านั้นเขาสามารถพิชิตชัยสู้ด้วยเวลาอันสั้น จึงแน่ชัดแล้วว่าเยี่ยฉวนไม่คิดที่จะซ่อนเร้นและเปิดเผยทักษะพลังปฐพีนับตั้งแต่แรก!
ภายหลังจากกำจัดคนชุดดำให้พ้นทาง ชายหนุ่มเริ่มกระหน่ำกระบี่ปาดซ้ายป่ายขวาออกไปอย่างหยุดยั้ง กระแสสีทองระเบิดสว่างเจิดจ้าจากลำแสงกระบี่เป็นประกายสว่างวาบ ตู้ม! ในระยะห่างออกไปหลายจั้ง ภาพที่เกิดคือลำแสงพุ่งออกจากกระบี่สีดำปะทะคนสวมชุดดำจนกระเด็นหายไปทันที!
ในขณะเดียวกัน กระบี่หลิงซิ่วพุ่งทะยานปักเข้าที่จุดกึ่งกลางหว่างคิ้วของคนชุดดำอีกหนึ่ง……เพียงชั่วเสี้ยววินาทีกระบี่สองกระบี่ต่างเด็ดวิญญาณคนชุดดำจนหมดสิ้น!
เยี่ยฉวนเคลื่อนไหวไวว่อง เขาปรากฏกายและหายวับไปจากที่ในเวลาอันไล่เลี่ย ที่ลานกว้างจึงเกิดเป็นลำแสงกระบี่สะบัดวูบเปิดและปิดต่อเนื่องไม่มีหยุดยั้ง ทั้งหยาดโลหิตกระเซ็นกระสายสาดละอองฝอยกระจายไปทั่วบริเวณ……
ภาพที่ปรากฏยิ่งเด่นชัดว่า คนทั้งห้าในพวกเยี่ยฉวนนั้นมีความกล้าแกร่งชนิดหาตัวจับยาก เมื่อใดที่คนชุดดำเริ่มมีความได้เปรียบในเชิงต่อสู้ พวกเขาสามารถฝ่าฟันจนได้ชัยชนะเหนือศัตรูทุกครั้ง โดยเฉพาะชายผู้มีอาวุธเป็นทวนใหญ่ที่ชื่อหลิงฮั่น เขาสามารถสังหารศัตรูชุดดำได้ในจำนวนใกล้เคียงกับที่เยี่ยฉวนทำการสังหารหมู่เลยทีเดียว!
ดังนั้นไม่นานต่อมา บริเวณลานนั้นจึงเหลือศัตรูชุดดำเพียงไม่กี่คน! ถึงกระนั้น ที่ในสมรภูมิทางเบื้องหลังเยี่ยฉวนและคนทั้งห้าการต่อสู้ยังดำเนินไปอย่างดุเดือด! กลุ่มเจ็ดคนปะทะกับกองกำลังองครักษ์ดายทมิฬนับร้อย!
นับว่าเคราะห์ดีที่สมรภูมิรบครั้งนี้เกิดขึ้นในป่าทึบ ทำให้กองทหารองครักษ์ดาบทมิฬไม่สามารถตั้งค่ายกลได้ มิเช่นนั้นลู่ป้านจวงและพวกคงไม่อาจสกัดกั้นทหารเหล่านั้นได้สำเร็จ! ถึงกระนั้น เวลานี้คนทั้งเจ็ดกำลังตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายเสียแล้ว! ในขณะนั้นแม้แต่คนที่กล้าแกร่งอย่างลู่ป้านจวง ยังได้รับบาดเจ็บ!
เวลาไม่คอยท่า ทันใดนั้นเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป! ทางด้านหนึ่งการต่อสู้ยังดำเนินต่อไป ไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด เยี่ยฉวนตวัดกระบี่มหากาฬอย่างโหดเหี้ยม
ระยะทางห่างไปหลายจั้ง ตู้ม! กระบี่มหากาฬบดร่างคนชุดดำจนแหลกละเอียด! และเป็นคนชุดดำคนสุดท้ายที่เหลือ ส่วนคนอื่นได้ถูกพวกเยี่ยฉวนกำจัดจนหมดสิ้น! อย่างไรก็ตามทั้งเยี่ยฉวนทั้งคนอื่นต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า แต่นับว่าเคราะห์ดีที่ไม่มีใครถึงชีวิต!
เยี่ยฉวนตรงเข้าเก็บคันธนูและลูกธนูซึ่งเป็นศาสตราวุธจิตวิญญาณ พลันหันขวับและปรี่ไปทางสมรภูมิเดือดบริเวณถัดไปที่ยังดำเนินอยู่ “ไปช่วยพวกนั้นเร็ว!” จากนั้นเยี่ยฉวนพร้อมกับคนทั้งห้ารีบรุดตามไปติดๆ ไม่นานต่อมาทั้งหมดก็ทะยานเข้าร่วมต่อสู้ ขณะที่ลู่ป้านจวงและคนอื่นกำลังโกลาหล
ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามทำเพลง ตรงเข้าสะบัดกระบี่มหากาฬใส่เจ้าองครักษ์ดาบทมิฬที่อยู่ใกล้ที่สุด! ตู้ม! กระบี่ของเยี่ยฉวนฟาดกระหน่ำองครักษ์ดาบทมิฬจนเละเป็นโจ๊ก!
“ถอยโว้ย! ทันใดนั้นเสียงใครคนหนึ่งในหมู่กองทหารองครักษ์ดาบทมิฬตะโกนออกคำสั่งเฉียบขาด เพียงครู่เดียว บรรดาทหารองครักษ์ดาบทมิฬทะยอยถอยร่นตามกันไปเป็นระลอก! เยี่ยฉวนและคนอื่นไม่ได้คิดติดตามด้วยต่างก็รู้ว่านั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี เพียงไม่นานกองทหารองครักษ์ดาบทมิฬถอยร่นไปจนหมด ทั่วบริเวณจึงกลับสู่ความสงบอีกครั้ง!
ชายสวมหน้ากากนำหน้าจับตาดูอยู่อีกด้าน ทหารองครักษ์ดาบทมิฬนายหนึ่งเข้ามารายงานเสียงเคร่งครัด “ผู้บัญชาการเต้า คนพวกนั้นได้รับบาดเจ็บหนัก เราควรถือโอกาสนี้จัดการพวกมัน!”
คนสวมหน้ากากส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ “ป่ามีพื้นที่จำกัด ชัยภูมิไม่เหมาะจะทำการสู้รบ แม้ว่าจะฆ่าพวกมันได้ แต่ด้วยฝีมือของมันทั้งสิบคนหรือมากกว่านั้นไม่ใช่อ่อนด้อย เกรงว่าทางเราจะได้รับความสูญเสียไปด้วย!”
คนพูดทอดสายตาไปทางป่าทึบ “พวกมันหนีไปไหนไม่ได้หรอกเพราะข้างหน้ามีแต่หนองน้ำ เราล้อมที่นี่ไว้รอกำลังหนุนตามมาสมทบ!
พลันองครักษ์มีดสั้นซึ่งอยู่อีกด้านพูดขึ้นว่า “ผู้บัญชาการเต้า คน 13 คนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะและยอดคน ทหารธรรมดาจะรับมือพวกมันไม่ได้ขอรับ”
อีกฝ่ายบิดมุมปากยิ้มหยัน “พวกเจ้าวางใจได้ ตราบใดที่คนชื่อเยี่ยฉวนยังอยู่ อีกไม่นานจะมีคนมาตามล่ามันเอง ถ่ายทอดคำสั่ง จับตาดูพวกมันเอาไว้อย่าให้คลาดสายตา”
“รับทราบ!” องครักษ์ดาบทมิฬขานรับโดยพร้อมเพรียงกัน
— จบตอน —



