Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 260

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 260 สมรภูมิเลือด! (ปลาย)

C

เยี่ยฉวนและกลุ่มคนทั้งสิบสองยังอยู่ในป่าทึบที่เดิม พวกเขานั่งล้อมรอบแอ่งน้ำ ซึ่งบัดนี้น้ำในแอ่งแปรเปลี่ยนเป็นสีโลหิตกว่าครึ่ง! ยามนี้แต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลฉีกขาดจากการต่อสู้! แต่คนที่ดูท่าว่าอาการหนักมากที่สุดเห็นจะเป็นชายหนุ่มที่ชื่อชางเยว่ ด้วยขาขวาของเขาถูกฟันขาดไปเสียแล้ว!

เยี่ยฉวนควักเอายาเม็ดโอสถเทพประสานถือเดินไปหยุดตรงหน้าชางเยว่ จากนั้นจึงยื่นยาเม็ดในมือส่งให้ ทว่าคนเจ็บกลับสั่นศีรษะ “ไม่จำเป็น เสียยาเปล่า!” แต่ในที่สุดเยี่ยฉวนก็จับคนตรงหน้ากรอกยาลงคอไปจนได้ ชางเยว่มองหน้าเยี่ยฉวนตาขวางหากมิได้พูดอะไร

เยี่ยฉวนหันไปกวาดตามองคนอื่น ถึงแม้จะมองทะลุผ่านทางแววตาเขาก็สามารถเล็งเห็นสิ่งที่อยู่ภายในใจของทุกคน ในเวลานี้ทุกคนล้วนเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจากการต่อสู้ ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียพลังไปมาก! ทั้งบาดเจ็บและอ่อนกำลัง สถานการณ์เลวร้ายยิ่งนัก!

บรรยากาศตึงเขม็ง! ชายหนุ่มฝืนยิ้มพลางถามขึ้นว่า “พวกเจ้ารู้สึกกลัวไหม?” พลันทุกสายตาจับจ้องมองมาที่คนพูดเป็นตาเดียว ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ พลางกล่าวว่า “พวกเราไม่อาจย้อนกลับไปทางเดิม อย่างมากก็แค่ตายแต่ถึงจะตายก็ไม่สำคัญ พวกเจ้าเห็นด้วยไหม?” คนพูดพูดจบเรียกเสียงหัวเราะครืนอย่างขบขัน! “เขาพูดถูก อย่างมากพวกเราก็แค่ตาย แต่มันไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่!”

พลันสีหน้าของเยี่ยฉวนเคร่งขึ้น พูดอย่างมีอารมณ์รุนแรง “ข้ากำลังคิดว่ากองทหารที่อยู่ด้านนอกคงจะคอยกำลังหนุนมาช่วยเหลือ พวกเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกที่กำลังมานั้นเป็นใคร ข้าให้คนออกไปสำรวจเส้นทางข้างหน้าแล้ว ไม่ไกลจากที่นี่เป็นแอ่งกระทะใหญ่ทั้งยังมีน้ำท่วมขัง เป็นไปไม่ได้ที่เราหลบออกทางนั้น เพราะฉะนั้นมีทางเดียวคือตีฝ่าวงล้อมทหาร แต่ก็ไม่ใช่ง่ายเพราะศัตรูเป็นกองร้อยทหารที่ชำนาญการต่อสู้ ตอนนี้คนของเราต่างบาดเจ็บกันไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรเราไม่มีทางเลือก” ทุกคนนิ่งฟังเงียบงัน

ชายหนุ่มหันไปทางลู่ป้านจวง “เจ้าจะว่าอย่างไร?” หญิงสาวสั่นศีรษะแววตาหม่นหมองเล็กน้อย “พวกเราตีฝ่าไม่รอดหรอก! ทหารพวกนั้นต้องสู้ชนิดยอมตายถวายชีวิต พวกมันไม่ยอมถอยแน่ และตอนนี้พวกเราทุกคนล้วนบาดเจ็บหนัก ถ้าขืนตีฝ่าวงล้อม อาจมีสักคนหรือสองคนเท่านั้นที่รอดไปได้ แต่คนที่เหลือจะต้องตายหมด!”

นางหันมามองเยี่ยฉวนสายตาฉายแววลึกล้ำ “เจ้าคงเข้าใจความหมายที่ข้าพูด?” ขณะคนฟังนิ่งคิด มิได้ตอบถ้อยวาจา เขาย่อมเข้าใจความนัยของคำพูดนั้นแต่เขาไม่ได้ถือเอาเป็นคำตอบสุดท้าย ด้วยบัดนี้ตัวของชายหนุ่มเองยังสู้ไหว และถ้าลู่ป้านจวงให้ความร่วมมือ สองคนสอดประสานย่อมจะดียิ่งกว่า ดังนั้นการตีฝ่าวงล้อมสำหรับคนทั้งสองจึงไม่ใช่เรื่องยาก!

แต่หลิงฮั่นและคนอื่นเล่า?” ถึงแม้ว่าหลิงฮั่นและคนที่เหลือล้วนมีความกล้าแกร่ง แต่บัดนี้ความแกร่งที่เคยมีได้ถูกลดทอนลงด้วยการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าห้าถึงหกส่วน ยิ่งกว่านั้นคู่ต่อสู้เป็นกองทหารที่ทั้งกล้าหาญและทานทน ไม่รู้จักคำว่ากลัวตาย ไม่ต้องคิดถึงพวกหลิงฮั่น แม้ลู่ป้านจวงและเยี่ยฉวนก็อาจได้รับอันตรายหากพยายามฝ่าวงล้อมของทหารเหล่านั้น!

แต่ถ้าไม่ลองดูสักตั้ง อย่างไรเสียเมื่อกองกำลังหนุนแห่งแคว้นถังตามมาสมทบ เขาและคนอื่นก็คงไม่รอดอยู่ดี! นับว่าเป็นสถานการณ์ที่ตัดสินใจลำบากยากยิ่ง!

ตอนนั้นเองปรากฏชายชราผู้หนึ่งที่ไม่ห่างไปเท่าใดนัก ด้วยสัญชาตญาณอันฉับไวลู่ป้านจวงตั้งท่าจะออกปะทะ ทว่าเยี่ยฉวนยับยั้งไว้ทันท่วงที เครื่องแต่งการของชายชราสวมผ้าคลุมสีดำ ช่างคุ้นตาเยี่ยฉวนนัก เครื่องแต่งกายประจำสำนักอัปสรเมรัย!

ชายชราตรงรี่มาทางชายหนุ่ม พลางค้อมตัวแสดงคารวะทักทายอย่างเร่งร้อน “คุณชายเยี่ย!” เยี่ยฉวนขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีอะไรหรือ?” อีกฝ่ายรีบพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ข้าได้รับคำสั่งจากจ้าวหอชั้นห้า ให้รีบมาช่วยเหลือท่านโดยด่วน!”

“จ้าวหอชั้นห้า!” ชายหนุ่มได้ยินชื่อนั้นให้สะดุ้งในใจเล็กน้อย ทันใดนั้นความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นในหัว “ท่านจ้าวหอชั้นเก้าแห่งสำนักอัปสรเมรัยในแคว้นเจียง ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นจ้าวหอชั้นห้า!” เขาจึงหันมาทางคนที่เพิ่งเข้ามา “ช่วยอย่างไรขอรับ?”

ชายชราตอบทันที “ห่างจากที่นี่ไปอีกราวสามร้อยลี้ มีเมืองชื่อว่ากุ้ยหนาน คุณชายเยี่ย เจ้ากับคนของเจ้ารีบไปหลบที่หอสำนักอัปสรเมรัยในเมือง ด้วยเวลานี้กองทหารแห่งแคว้นถังเข้าล้อมที่นี่ไว้หมดทุกด้าน พวกเจ้าไม่มีทางหนีอื่น” เยี่ยฉวนถามรวดเร็ว “แล้วจะทำอย่างไรขอรับ!”

คนชราชี้มือไปทางป่าไม้ไผ่แน่นทึบพลางกล่าวว่า “อีกไม่นานคนของสำนักอัปสรเมรัยจะออกมาต่อสู้กับกองทหาร เจ้าอาศัยจังหวะหลบออกไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองกุ้ยหนานทันที ข้าสั่งคนให้คอยรับพวกเจ้าอยู่ที่นั่นแล้ว!”

ชายหนุ่มพยักหน้า “เข้าใจแล้วขอรับ!” อีกฝ่ายมองหน้าเยี่ยฉวน จากนั้นหันไปพูดกับคนอื่นที่รายล้อม “เอาละทุกคน พร้อมหรือยัง?” เยี่ยฉวนหันไปทางลู่ป้านจวงซึ่งยังนิ่งคงเงียบอยู่ พลันนางพยักหน้า “ไปกันเถอะ!”

จากนั้นจึงหันไปสบตาชางเยว่ผู้เสียขาที่นั่งอยู่ไม่ห่างเท่าใด อีกฝ่ายเหยียดยิ้ม “จะเป็นไรไป! ข้าไปได้อยู่แล้ว!” หญิงสาวหันไปสั่งเหยี่ยลี่อีกด้านหนึ่ง “ช่วยดูแลเขาด้วย!” ฝ่ายที่รับคำสั่งตอบรับทันที “ขอรับ!”

ลู่ป้านจวงหันไปมองหน้าเยี่ยฉวน ขณะเดียวกันอีกฝ่ายหันไปพยักหน้ากับชายชรา ทันใดนั้นเสียงต่อสู้ปะทะกันไม่มีหยุดหย่อนผ่อนปรนดังมาจากแนวป่าด้านนอก! เยี่ยฉวนร้องเร่งทันที “ไปเร็ว!” จากนั้นคนทั้งกลุ่มกระโดดพรวดขึ้นขี่หลังสุนัขป่าสีดำ และในไม่ช้าทั้ง 13 ชีวิตก็มุ่งหน้าเข้าป่าทึบ

ทันทีที่คนทั้งกลุ่มออกมาถึงชายป่าด้านนอก สายตาทุกคู่พลันได้เห็นภาพกลุ่มคนสวมผ้าคลุมดำกำลังต่อสู้กับองครักษ์ดาบทมิฬ และคนทั้งกลุ่มกว่ายี่สิบล้วนเป็นยอดยุทธ์ผสานเทพ!

เยี่ยฉวนนั่งบนหลังสุนัขป่าควบนำหน้า ขณะเดียวกันกระบี่หลิงซิ่วเคลื่อนที่ฉวัดเฉวียนไปมาอย่างรวดเร็วนำอยู่เบื้องหน้า ทุกคราที่กระบี่เคลื่อนไหวตวัดวาบ จะปรากฏโลหิตกระเซ็นสาดออกไปในอากาศ

พลันชายสวมหน้ากากจะสังเกตเห็นกลุ่มคนที่ออกมาจากป่าทึบ เสียงตะโกนสั่งการตวาดลั่น “สกัดพวกมัน!” ทันใดนั้นทหารองครักษ์ดาบทมิฬกลุ่มใหญ่ผละแยกออกจากที่ ตรงเข้ามาทางกลุ่มและต้อนเยี่ยฉวนและพวกเข้าไว้ในวงล้อม ฉับพลันนั้นยอดยุทธ์ผสานเทพแห่งสำนักอัปสรเมรัยจำนวนหนึ่งเข้าสกัดองครักษ์ดาบทมิฬไว้แทน

ทำให้เยี่ยฉวนและกลุ่มคนสามารถฝ่าวงล้อมของกลุ่มองครักษ์ดาบทมิฬออกมาได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตามพลันสีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนเคร่งเครียดทันทีที่ภาพเบื้องหน้าปรากฏชัดเจน

ที่เบื้องหน้าเยี่ยฉวนและกลุ่มห่างออกไปไม่เกินร้อยจั้ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งยืนจังก้า ในมือถือดาบโค้งรูปจันทร์เสี้ยว ใบหน้าอ่อนเยาว์บ่งบอกวัยคนไม่เกินยี่สิบขวบปี เส้นผมดำมันปล่อยยาวจนแตะถึงบริเวณหน้าอก สีหน้ายิ้มเยื้อนทว่าแสดงให้เห็นเค้าลางโหดเหี้ยมฉายชัด

ไม่เพียงเท่านั้นด้านหลังของชายถือดาบโค้ง เป็นกลุ่มคนราวยี่สิบ ทุกคนสวมเกราะเหล็กและถืออาวุธประจำกายดาบยาวมีคมวาววับ พลันชายคนนำหน้าแผดเสียงกราดเกรี้ยว “ฆ่ามัน!”

ขณะที่เสียงคนเลือนหาย ตัวคนทะยานมุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนและกลุ่ม พลางตวัดดาบโค้งอันเป็นผลให้พื้นดินในบริเวณแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย ทั้งยังบังเกิดแสงสว่างออกจากดาบกระจายวาบทุกทิศทาง พื้นดินใต้ฝ่าเท้าคนปริแยกแตกร้าวทีละน้อย พลันรังสีสองสว่างจากตัวคนขณะเร่งความเร็วถึงขีดสุด……

ขั้นผสานเทพ! เขาเป็นปรมาจารย์ดาบ!

— จบตอน —

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!