บทที่ 271 กองกำลังจอมโจร! (ต้น)
ผู้ที่กระโจนตามเบื้องหลังคือลู่ป้านจวง นับแต่วินาทีที่เยี่ยฉวนทะยานออกหน้า หญิงสาวออกตัวติดตามกระชั้นชิด
กลุ่มทหารไม่ถอยหนี!
เมื่อเยี่ยฉวนและพวกเดินหน้าตรงเข้าหากำแพงทหาร จนเข้าใกล้เกือบในระยะประชิดห่างออกไปไม่ถึงสามสิบจั้ง พลันชายชราผู้หนึ่งปรากฏกายออกมาเบื้องหน้าแนวปราการทหาร สายตามองตรงแน่วมายังกลุ่มคนพลางพูดว่า “ฮ่องเต้มีรับสั่งให้พวกเจ้าหลีกทาง!”
หลีกทาง! บรรดาทหารเมื่อได้ยินคนสั่งการ พวกมันถึงกับตะลึงงัน คนเป็นนายพลท่าทางหัวหน้ามองชายชรานัยน์ตากราดเกรี้ยวดุดัน “ท่านราชครู หมายความว่าอย่างไร?” คนที่ถูกเรียกว่าราชครูส่ายหน้าช้าๆ “ถอยไป อย่าสังเวยชีวิตทหารโดยเปล่าประโยชน์ คนทั้งสิบสองคนนั้นเดี๋ยวก็มีคนมาจัดการ!”
สังเวยชีวิตโดยเปล่าประโยชน์! กองทหารสองพันเพียงเท่านี้ไม่อาจสกัดเยี่ยฉวนกับคนกลุ่มนี้ได้อย่างสิ้นเชิง! ถ้ามีกำลังทหารสักห้าพันอาจดูน่าครั่นคร้ามมากพอจะข่มขู่เยี่ยฉวนได้ ทว่าคนทั้งสิบสองคนก็ถือเป็นยอดฝีมือที่แท้โดยไม่เสแสร้ง!
การส่งทหารออกปะทะจึงเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเลย!
การถอยร่นของแถวทหารได้สร้างความพิศวงงงงวยให้แก่ผู้มาเยือนไม่น้อย เยี่ยฉวนและพวกชะงักไปนิดหนึ่งสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย แต่ไม่ได้มากมายอะไรเพราะถึงอย่างไรหลีกเลี่ยงการปะทะย่อมดีกว่า!
ทันใดนั้นนายพลทหารวัยกลางคนพุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนโดยรวดเร็ว ดวงตาจ้องเขม็งตรงมาขณะร่างทะยานโดยมีจุดมุ่งหมาย พลันกระแทกทวนในมือพุ่งตรงหาลำคอของเยี่ยฉวนเต็มแรง
ขั้นสุดยอดทะยานสวรรค์! ขณะเดียวกันคนที่ตกเป็นเป้า เยี่ยฉวนไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียวเมื่อคนที่พุ่งเข้าหาอย่างมาดร้ายใกล้ถึงตัวเพียงระยะห่างอีกไม่กี่ชุ่น กระบี่เล่มยาวตวัดควับมาในอากาศ พลันแทงพรวดเข้าตรงกลางหว่างคิ้วคนที่กำลังทะยานมารวดเร็ว
ฉึก! โลหิตแดงฉานสาดกระเซ็น!
นายพลทหารชะงักกึกหยุดนิ่งประจันหน้ากับเยี่ยฉวน ขณะที่โลหิตไหลทะลักออกจากบาดแผลที่กึ่งกลางระหว่างหัวคิ้ว เพียงไม่นานต่อมาใบหน้านั้นก็อาบโลหิตแดงฉาน สายตาจ้องเขม็งริมฝีปากแสยะเปล่งเสียงพูดระคนความแค้น “คนแคว้นถังไม่มีวันยอมจำนนต่อแคว้นเจียง!”
เยี่ยฉวนตอบกลับสีหน้าเรียบนิ่งยิ่งนัก “เมื่อใดที่พวกเจ้าโจมตีแคว้นเจียงและเข่นฆ่าผู้คนอย่างทารุณ ข้าก็ไม่ยอมให้พวกเจ้าจำนนง่ายๆ เพราะว่า……” ชายหนุ่มตรงหน้าหยุดนิดหนึ่ง เหยียดมุมปากยิ้ม “เพราะข้าจะฆ่าคนที่เป็นฝ่ายรุกรานให้หมด!”
จากนั้นเขาเบนหน้าไปทางทหารสองพันนายที่ยืนห่างออกไป “ใครกล้าออกมาอีก? ข้าขอบอกไว้ก่อน ยามใดที่กระบี่เคลื่อนไหว ยามนั้นศีรษะคนต้องหลุดออกจากบ่าโดยที่มันยังไม่ทันลิ้มรสความเจ็บปวดแม้แต่น้อย!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กลับมีเสียงตวาดกราดเกรี้ยวดังมาจากท่านราชครู “ใครกล้าออกไป มันต้องรับโทษประหารทั้งตระกูล!”
ต้องโทษประหารทั้งตระกูล! สีหน้าของเหล่าทหารบิดเบี้ยวเหยเก
สายตาของชายชราราชครูจ้องเขม็งมาที่เยี่ยฉวน แววตามุ่งหมายร้ายรุนแรงอย่างไม่ซ่อนเร้น คนแคว้นถังอยากเห็นเยี่ยฉวนถูกกำจัด ทว่าในเวลานี้หากปล่อยให้เหล่าทหารสามัญพวกนี้ออกไปปะทะกับคนตรงหน้า เท่ากับส่งพวกมันไปตายเปล่า! ชาติทหารต้องตายในหน้าที่ในสนามรบมิใช่ที่นี่ จึงจะสมศักดิ์ศรีความเป็นทหาร
เมื่อเห็นว่ากองทหารไม่ออกมาสกัดแน่แล้ว เยี่ยฉวนตัดสินใจไม่นำกลุ่มคนของเขาออกปะทะเช่นกัน ดังนั้นทั้งหมดจึงมุ่งหน้าเข้าสู่เหมืองทองคำโดยไม่รีรอ
ถึงแม้ความเกรงกลัวต่อกองทหารไม่ได้มีอยู่ในห้วงความคิด แต่การสังหารทหารทั้งกองก็มิใช่เรื่องง่าย สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือทองคำ ฆ่าคนจึงเป็นภาระกิจรองที่จะกระทำก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราว
เมื่อเยี่ยฉวนนำกลุ่มคนผ่านเข้าสู่ซุ้มหลังคารูปโค้ง ทันทีที่เห็นภาพซึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจนเต็มตา ทุกคนต้องตาลุกโพลง!
เหมืองทองคำ! ภายในบริเวณเหมืองมีหีบขนาดใหญ่นับสิบหีบ แต่ละใบอัดแน่นไปด้วยทองคำก้อนสีเหลืองอร้าอร่าม แม้ว่าทองคำยังไม่ผ่านกระบวนการผลิตเป็นเงินเหรียญ แต่มูลค่าก็ไม่แตกต่างกับเงิน ด้วยปริมาณทองคำที่มีมาก ณ เวลานี้ พวกเขาสามารถทำให้เป็นเงินเหรียญได้ไม่น้อยกว่าสองหรือสามร้อยล้านเหรียญทองทีเดียว!”
เหยี่ยลี่หัวเราะร่าด้วยความดีใจ “ถ้าพวกเรารอดชีวิตกลับบ้านไปได้ ข้าใช้เงินพวกนี้ทำให้บรรลุขั้นผสานเทพซะที!
ขั้นผสานเทพ! การพัฒนาจากขั้นพลังทะยานสวรรค์สู่ผสานเทพ จำเป็นต้องใช้เงินหลายร้อยล้านเหรียญทอง เมื่อไม่มีเงินก็ยากที่ใครจะสามารถพัฒนาขั้นพลังให้สูงขึ้น แต่หากมีเงินเพียงอย่างเดียว หนทางที่จะสามารถพัฒนาขั้นพลังที่สูงขึ้นก็จะใช้เวลาน้อยลงไปอีก!
ถ้าพูดง่ายๆ กว่าจะก้าวพ้นจากขั้นทะยานสวรรค์สู่ผสานเทพ ผู้ฝึกต้องใช้เวลานับหลายสิบปี! แต่แค่มีเงิน เงินจำนวนมาก ระยะเวลาในการบรรลุจะหดสั้นเหลือเพียงปีเดียวก็ขึ้นสู่ขั้นผสานเทพ
เงินทองจึงเป็นสิ่งสำคัญ! ไม่นานต่อมาเยี่ยฉวนและบรรดาคนทั้งกลุ่ม ต่างเริ่มแยกย้ายกันเก็บกวาดทุกสิ่งอย่างที่อยู่ภายในเหมือง
การรื้อค้นกระจุยไปทั่วทุกซอกทุกมุม! ชั่วอึดใจเดียว ทองคำก้อนที่อยู่ในหีบได้ถูกคนทั้งหมดจัดการกวาดไปจนเกลี้ยง!
บอกได้เลยว่าพวกเขารวยแล้ว!
ทันทีที่ทองคำก้อนทั้งหมดถูกคนเก็บจนหมดเกลี้ยง ฉับพลันนั้นเองทวนลำยาวสองลำพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ดิ่งตรงมาทางพวกเขา ทันใดก็ปักพรวดลงที่พื้นดินเบื้องหน้าเยี่ยฉวนและคนอื่นขณะกำลังเดินออกสู่ภายนอก ขณะเดียวกันได้ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งออกกั้นทางขวางข้างหน้า
ชายผู้มาใหม่กวาดตามองเยี่ยฉวนและเลยไปทางลู่ป้านจวง พลันคนทำท่าอ้าปากทว่าเยี่ยฉวนกระโจนพรวดเขามาเสียก่อนที่ผู้นั้นจะทันเอื้อนเอ่ยวาจาใด เสริมด้วยพลังปฐพีซึ่งแผ่วาบเข้าสู่กายา ชั่วพริบตาเดียวเยี่ยฉวนฟาดกระบี่มหากาฬฉับลงตรงเป้าหมายชายคนดังกล่าว
หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา! พลังหนึ่งปะทะที่กล้าแกร่งที่สุด! เมื่อเห็นการโต้กลับอย่างปัจจุบันทันด่วน ใบหน้าของชายมาใหม่เผือดวูบ ขณะตั้งท่าออกต้านทานด้วยความหวาดหวั่นวาบขึ้นในใจ พลันสังเกตเห็นว่าทวนสองลำปักตรึงแน่นอยู่บนพื้นห่างออกไป!
โดยสัญชาตญาณเอาตัวรอด เขาถลันเข้าไปกระชากทวนทว่าก็ช้าไปเสียแล้ว……ตู้ม! กระบี่ตวัดวาบ พลันร่างกายของคนแตกเป็นชิ้น!
สัมผัสสังหาร! ชายเคราะห์ร้ายไร้ทั้งพลังสกัดกั้น ทั้งยังไร้ซึ่งโอกาสสกัดกั้น!
จากนั้นเยี่ยฉวนจัดการเก็บกระบี่มหากาฬรวมทั้งทวนยาวสองลำ ด้วยอาวุธนี้นับเป็นสุดยอดศาสตราวุธจิตวิญญาณ!
อีกด้านหนึ่งหลิงฮั่นเพ่งมองร่างแหลกเหลวข้างหน้าเยี่ยฉวน พลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนพึมพำว่า “เจ้านั่นมานี่ได้จังหวะทีเดียว! แถมมันไม่มามือเปล่า เอาศาสตราวุธจิตวิญญาณมาให้ด้วย…”
— จบตอน —



