Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 369

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 369 ฆ่าคนจนมือชาไร้ความรู้สึก! (ปลาย)

C

……

ท่ามกลางขุนเขาทอดยาวประหนึ่งไม่มีที่สิ้นสุด เยี่ยฉวนควบม้าเพลิงโลกันตร์ตะบึงไปข้างหน้าอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย……

……

อันที่จริงม้าเพลิงโลกันตร์มีความพิเศษในการเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว จึงเป็นธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถใช้สัตว์ชนิดนี้เป็นพาหนะ เพราะความรวดเร็วจนน่าขนพองสยองเกล้านั่นเอง……

..

เยี่ยฉวนยังควบเจ้าม้าด้วยท่าทางปกติ สีหน้าเรียบเฉยไม่อาจคาดเดาความรู้สึก ข้างหลังสะพายหีบยาวบรรจุกระบี่ทั้งเจ็ดเล่มไว้ภายใน!

ราวหนึ่งก้านธูปต่อมา ชายหนุ่มเริ่มเข้าสู่เขตเมืองเก่า

เมืองผิงหยาง

สภาพภูมิประเทศของเขตแดนต้าอวิ๋นนั้น มีความแตกต่างจากแคว้นเจียงอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่เนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล ถ้าเยี่ยฉวนจะเดินทางไปรอบๆ ดินแดนแถบนี้อย่างว่าแต่เวลาเพียงครึ่งเดือน ต่อให้สองเดือนเขาก็คงยังไปไม่ถึงเมืองหลวงของอาณาจักรต้าอวิ๋นอยู่ดี!

เมื่อเข้าเขตเมืองผิงหยาง เยี่ยฉวนไม่คิดแวะพักแต่ตั้งใจมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหลวง ถึงกระนั้นเมื่อมาถึงประตูเมืองเขากลับพบว่าบานประตูปิดสนิทแน่นหนา

บนขอบกำแพงปรากฏกลุ่มคนสวมชุดดำกว่าห้าสิบคน ในมือถือเกาทัณฑ์ยาวและทุกคนกำลังขึ้นสายธนูอยู่ในท่าเตรียมยิง นอกจากนั้น ทางด้านหลังปรากฏกลุ่มยามรักษาการณ์นับพันพร้อมด้วยเกาทัณฑ์กระจายวงโอบล้อมเยี่ยฉวนไว้

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ซุ่มรอเตรียมพร้อมอยู่แล้ว

ด้านหน้ากำแพง ทันใดนั้นปรากฏชายชราผู้หนึ่ง จ้องเขม็งมายังชายหนุ่ม “เยี่ยฉวน ที่นี่ไม่ใช่แคว้นเจียง ไม่ใช่ที่ที่เจ้าคิดจะไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ และ.”

ทันใดนั้น หีบกระบี่ที่เยี่ยฉวนสะพายไว้ด้านหลังพลันเกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นทีละน้อย ชั่วครู่เดียวกระบี่ทั้งเจ็ดก็ทะยานวาบขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยพร้อมกันทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้นสีหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นเผือดวูบ “ยิงเกาทัณฑ์!”

สิ้นเสียงแผดสนั่นทหารยามทั้งห้าสิบนายบนกำแพงพร้อมกันปล่อยลูกศรซึ่งง้างไว้ในมือออกทันที พลันศีรษะของพวกเขากระเด็นออกจากลำคอของเจ้าตัวทีละคนๆ

เพียงชั่วไม่เกินสองอึดใจต่อมา ศีรษะและลำตัวของทั้งห้าสิบคนบนกำแพงกระจัดกระจายแตกแยกไปคนละทิศละทาง!

เหตุการณ์ที่เชิงกำแพง กระบี่หลิงซิ่วของเยี่ยฉวนทำการสกัดลูกศรจำนวนห้าสิบดอกที่กำลังพุ่งเข้าหาเป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ ด้วยลูกศรเหล่านั้นเคลื่อนที่ช้าลงทันทีที่ปะทะกับกระบี่ของเยี่ยฉวน จะว่าไปพลังของลูกศรเหล่านั้นมีหรือจะเทียบเคียงพลังกระบี่ของเยี่ยฉวนได้!!

ชั่วระยะไม่นานต่อมากระบี่ทั้งเจ็ดเล่มทะยอยกลับสู่หีบกระบี่ทางด้านหลังจนหมดสิ้น กลุ่มทหารที่คุมเชิงทางด้านหลังเยี่ยฉวนพากันสะดุ้งตกใจ ยามนี้ไม่มีใครกล้าแม้จะกระดิกตัว

เยี่ยฉวนยกกระบี่หลิงซิ่วชี้ไปที่หน้าของชายชราคนที่ยืนขวางทางเข้าประตูเมือง “ยังจะขวางข้าอีกไหม?”

เมื่อพูดจบม้าเพลิงโลกันตร์ที่เขาขี่อยู่พลันพุ่งทะยานออกไปและตรงไปยังประตูเมืองทันที ขณะนั้นกระบี่ตวัดฟาดถูกบานประตูอย่างแรง

ตู้ม!

พลันบานประตูเมืองที่ปิดแน่นทลายลงสิ้นเชิง และเยี่ยฉวนพุ่งผ่านเข้าไป!

ผ่านเข้าเมืองไปได้ไม่เท่าไรเขาจำต้องชะงักหยุด ด้วยเบื้องหน้ามีกองทัพม้าราวหนึ่งพันยืนม้าขวางปิดเส้นทาง

กองทัพม้าจากดินแดนต้าอวิ๋น!

คนที่อยู่ข้างหน้าสุด ทหารม้าผู้นำส่งเสียงคำรามออกคำสั่งดังสนั้น “ฆ่ามัน!”

ขาดคำของหัวหน้า ทหารนับพันไม่รอช้าไสม้าวิ่งตรงเข้าหาเยี่ยฉวน

อันทหารม้าหนึ่งพันนั้นไม่นับว่ามาก หากการร่วมใจกันทำให้พวกมันแข็งแกร่งยิ่งนัก เมื่อทหารม้าหนึ่งพันพุ่งเข้าหาเยี่ยฉวนพร้อมๆ กัน จึงเสมือนการข่มขวัญสั่นประสาทฝ่ายตรงข้ามอยู่ไม่น้อย

สีหน้าของเยี่ยฉวนสงบนิ่ง เขาใช้มือตบลงที่ข้างลำตัวม้าเพลิงโลกันตร์เพียงเบาๆ จากนั้นก็ดีดตัวลอยขึ้นจากหลังม้าและทะยานลงไปยืนบนพื้นดิน ขณะที่เท้าแตะลงบนพื้น เขาพลันกระทืบฝ่าเท้าข้างขวากับพื้น ส่งร่างคนทะยานขึ้นสู่อากาศอีกครั้ง ในขณะเดียวกันกระบี่ทั้งเจ็ดเล่มสะบัดออกจากหีบที่สะพายหลังพุ่งวาบอย่างรวดเร็ว

ฉับ! ฉับ! ฉับ! ฉับ! ฉับ!

ห่างออกไปราวสามสิบจั้ง ในเวลาแทบจะไล่เลี่ยกันร่างของทหารม้ากว่าสามสิบนายร่วงหล่นจากหลังม้าลงไปที่พื้นทันที! พลันทหารม้าอีกกลุ่มได้ตรงเข้าปิดล้อมเยี่ยฉวนไว้ทุกด้านอย่างรวดเร็ว

ความเงียบงันบังเกิดชั่วขณะหนึ่ง

เสียงกระบี่กรีดดังขึ้นท่ามกลางกองทหารม้านั้น ต่อจากนั้นแสงกระบี่เจ็ดแสงพุ่งวาบออกจากกลุ่มทหารนั้น ลำแสงพุ่งผ่านทหารม้าจากอาณาจักรต้าอวิ๋นและทันทีนั้นร่างของพวกเขาถูดตัดครึ่งท่อนที่ระดับเอว……

คนที่อยู่หน้าประตูเมือง ชายชราคนก่อนหน้ามองเห็นเหตุการณ์ สายตาแน่แน่วจ้องจับไปยังเยี่ยฉวนซึ่งตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของทหารม้า มือสั่นระริก!

“เยี่ยฉวน!”

เขาเคยได้ยินแต่ชื่อของคนผู้นี้ ทว่าปราศจากความเข้าใจอย่างชัดแจ้ง บัดนี้ชายชราได้ประจักษ์แก่ตาตนเองถึงพลังอำนาจของคนที่ชื่อเยี่ยฉวนเป็นเช่นนี้เอง

เยี่ยฉวนสำเร็จขั้นจ้าวกระบี่!

สำเร็จขั้นจ้าวกระบี่ทั้งที่อายุไม่เต็มยี่สิบขวบปีแต่พลังอำนาจกลับน่ากลัวนัก!

ในตอนนี้ที่ไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่ ร่างไร้วิญญาณของทหารม้าราวสามร้อยเกลื่อนกลาดทั่วไปหมด อีกทั้งดูเหมือนจะมีทหารล้มตายเพิ่มขึ้นทุกขณะ……

ไม่มีผู้ใดจะสามารถต้านทานกระบี่ของเยี่ยฉวน!

จากนั้นเพียงครึ่งก้านธูปให้หลัง ทั้งลานมีร่างของทหารม้านอนตายไม่ต่ำกว่าห้าร้อยร่าง ไม่มีกองกำลังม้าออกหน้าปะทะอีกแล้ว ทั้งพลังและความแข็งแกร่งที่เคยมีของทหารม้าบัดนี้ลดทอนลงอย่างสิ้นเชิง

พวกเขาถูกสังหารหมู่!

เยี่ยฉวนกระทำการสังหารหมู่อย่างเหี้ยมโหด!

ครึ่งชั่วยามต่อมาในลานเหลือกองกำลังม้าเพียงไม่ถึงหนึ่งร้อย และพวกมันหยุดอยู่ในที่ไกลออกไปจากเยี่ยฉวน

ที่พื้นดินรอบตัวของชายหนุ่ม ตอนนี้มีแต่ร่างไร้วิญญาณกระจายอยู่ทั่วไป!

โดยมีเยี่ยฉวนยืนผงาดท่ามกลางกองซากศพทั้งหลาย ในมือข้างหนึ่งกำกระบี่หลิงซิ่ว และทั้งกระบี่หยาดโลหิตแดงฉานไหลอาบตลอดเล่ม

ขณะนั้น ชายหนุ่มก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังกองทหารม้าทั้งหนึ่งร้อยที่เหลือ สายตาของพวกเขาจ้อมเขม็งมาที่เยี่ยฉวนซึ่งกำลังเดินเข้าใกล้ สีหน้าท่าทางเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงด้วยความหวาดกลัวพุ่งวาบ!

พวกเขาตกอยู่ในความหวาดกลัวสุดขีด!

เมื่อเริ่มแรกพวกเขามากันหนึ่งพัน ต่างไร้ซึ่งความหวาดกลัว

หากหนึ่งพันเผชิญหน้ากับคนเพียงคนเดียว ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย

ทว่าเดี๋ยวนี้ เพียงชั่วกระพริบตาเหลือทหารม้าที่ยังมีชีวิตรอดเพียงหนึ่งร้อยจากหนึ่งพันในตอนแรก!

ขณะนั้นเอง เยี่ยฉวนเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น หากภาพเบื้องหน้า ทหารม้าหนึ่งร้อยที่เห็นอยู่พากันกลับหลังหันวิ่งหนีออกไปจากที่อย่างรวดเร็ว ทว่าสิ่งที่ปรากฏชัดว่าเยี่ยฉวนมีเจตนาที่จะไม่ปล่อยใครให้รอดชีวิต พลันกระบี่เจ็ดเล่มพุ่งวาบออกจากหีบซึ่งเหน็บข้างหลัง ครู่ต่อมาศีรษะของทหารหลายสิบคนปลิดปลิวกระจายไป

ถึงกระนั้นก็ยังมีทหารม้าหลายคนสามารถเล็ดรอดหนีไปได้เพราะทุกคนแยกย้ายกันหนีทางใครทางมัน

ในตอนนั้นเยี่ยฉวนยืนเผชิญหน้ากับทหารม้าคนหนึ่งซึ่งขณะนั้นกำลังสั่นกระตุกไปทั้งร่าง มันจ้องมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัวสุดขีด อันที่จริงมันเองก็อยากหนีแต่ทำไม่ได้ ด้วยเวลานี้ขาถูกกระบี่ของเยี่ยฉวนสะบั้นจนขาดทั้งสองข้างแล้ว

ชายหนุ่มก้มลงคล้ายสำรวจมือข้างขวาของตน ชั่วขณะหนึ่งเยี่ยฉวนพบว่าข้างนั้นชาจนไร้ความรู้สึกเสียแล้ว

มือชาจนไร้รู้สึก!

มือของเยี่ยฉวนชาอันเกิดจากฆ่าฟันติดต่อกันเป็นเวลานาน!

ทันใดนั้น ไกลออกไปหลายจั้งจากเยี่ยฉวน ชายวัยกลางคนปรากฏกายทางเบื้องหน้า

เขาคือมู่ซ่วนชิง

มู่ซ่วนชิงจับตามองเยี่ยฉวนแล้ว ปากแสยะยิ้มเย้ยหยัน “เจ้าเป็นนักฆ่าได้ไม่เลว! แต่โชคร้ายเพราะนี่เป็นแค่เริ่มต้น ในแผ่นดินชิงยังมีคนของฉางมู่อยู่อีกนับพันพันคน ไหนจะคนของดินแดนอันธการและกลุ่มตระกูลมหาอำนาจทั้งหลาย เยี่ยฉวน เจ้าจะฆ่าคนเหล่านี้ทั้งหมดหรือยังไง?”

ขณะนั้น สีหน้าแสยะยิ้มพลันแปรเปลี่ยนเหี้ยมเกรียม “เจ้าต้องเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจนได้ ต่อให้คนอย่างเจ้าสามารถฆ่าคนได้เยอะแยะแค่ไหนก็ตาม!”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!