Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 402

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 402 มังกรกลืนจันทร์ (ต้น)

C

……

อาการข้างเคียง!……

……

หลังจากฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ……

..

ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าของเหลียนว่านลี่แสดงถึงความงุนงงต่อบรรยากาศภายในห้องโถงที่เปลี่ยนแปรฉับพลัน เมื่อนางกลับเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง จึงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างพยายามสอดแทรกเข้าไปในที่ลับบนร่างกาย ทั้งขรุขระและหยาบกระด้าง……

เพียงแวบหนึ่ง

เปรี้ยง!

เสียงปะทะดังสนั่นพร้อมกับร่างของเยี่ยฉวนลอยละลิ่วออกจากวังหลวงไปไกลนับหลายสิบจั้ง เมื่อร่างของเขาหล่นกระแทกพื้นบริเวณนั้นพลันบังเกิดรอยแตกร้าวทันที รอยแตกเพราะผลที่ร่างนั้นตกกระทบนั่นเอง!

ครู่ต่อมา ร่างกายของเยี่ยฉวนเกิดเป็นบาดแผลแตกร้าวรานไปจนทั่ว จากนั้นโลหิตค่อยๆ ไหลซึมออกจากบาดแผลทั้งร่างกาย กระทั่งทั้งเนื้อตัวคนเคลือบไปด้วยสีแดงฉานของโลหิตอย่างรวดเร็ว

เหลียนว่านลี่เดินออกมาจากบริเวณที่เป็นวังหลวง ขณะนั้นนางห่มผ้าคลุมสีแดงเข้มเส้นผมดำสยายยาว ประกายตาแฝงแววเย็นชาและดาบยาวโค้งกระชับในอุ้งมือบนคมดาบสลักรูปมังกรกลืนจันทรา

เหลียนว่านลี่ถือดาบยาวโค้งย่างสามขุมตรงเข้ามาหาเยี่ยฉวน ตลอดทางที่นางเดิน ปลายดาบลากครูดเป็นทางยาวและทุกพื้นที่ดาบสัมผัสพลันปรากฏรอยปริร้าวแยกแตกออก

ทันใดนั้นทั่วปาเซียวเหยาปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าเยี่ยฉวน และคว้าเอาตัวชายหนุ่มลากวิ่งออกไปจากสถานที่

เหลียนว่านลี่ขมวดคิ้วเขม้นมอง เมื่อนางกำลังจะออกไล่ตามนั้น แพทย์สตรีเหลิ่งซึ่งรีบตามมาข้างหลังร้องทักท้วง “ฝ่าบาท เยี่ยฉวนทำให้ทรงโกรธหรือเพคะ?”

เหลียนว่านลี่หันขวับมาทางหมอหลวงเหลิ่ง “ทำไมพฤติกรรมของเขาจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้?” น้ำเสียงเดือดดาลสุดขีด

เมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้าโกรธเคืองจริงจัง หมอเหลิ่งมองดูด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่งก่อนจะค้อมศีรษะลงต่ำ “ฝ่าบาท เขาถูกเปลี่ยนอัณฑะเป็นของมังกรแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งสัตว์ชนิดนี้มีอุปนิสัยทะลึ่งลามกและอัณฑะของมันมีสารกระตุ้นกามารมณ์อย่างเข้มข้น ถ้าได้ใกล้ชิดสตรีเพศ สารชนิดนี้จะถูกสูบฉีดเข้าสู่กระแสโลหิตทั่วร่างกายอย่างฉับพลัน ถึงตอนนั้นเขาก็จะ……”

อีกฝ่ายหน้านิ่วคิ้วขมวดหนักขึ้น “ทำไมเจ้าจึงเปลี่ยนเอาของอุบาทว์อย่างนั้นใส่ให้เขา?”

แพทย์เหลิ่งเงยหน้ามองตรงเหลียนว่านลี่พลางตอบเสียงเบา “ฝ่าบาท ท่านบอกข้าเองว่าให้ใส่อะไรก็ได้ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียง ทำให้เขากระวนกระวายทุรนทุราย……”

ในตอนท้ายประโยคหางเสียงของคนเริ่มค่อยลงๆ กระทั่งกลายเป็นพึมพำแผ่วเบา

ทว่าคนฟัง เหลียนว่านลี่ได้ยินถนัดชัดสองหู

หลังจากได้ยินคำอธิบายของแพทย์หลวงเหลิ่ง หญิงสาวไม่กล่าวอะไรอีกเลย จึงหันหลังกลับไปพร้อมด้วยดาบยาวโค้งในมือ

หมอเหลิ่งมองตามคนที่เพิ่งคล้อยหลังพลางถอนใจอย่างโล่งอก เป็นครั้งแรกที่เห็นเหลียนว่านลี่โมโหโกรธาหนัก ซึ่งนางเองยังคิดไม่ตกว่าเยี่ยฉวนทำอะไรให้สตรีผู้นั้น……

ด้านทั่วปาเซียวเหยาช่วยหอบร่างเยี่ยฉวนหนีออกมาจากวังหลวง หากด้วยเหลียนว่านลี่สั่งห้ามมิให้ผู้ใดขัดขวางเด็กสาว ดังนั้นคนทั้งสองจึงหลบหนีได้อย่างสะดวก

หลังจากที่หนีรอดออกมาจากวังหลวงได้แล้ว ทั่วปาเซียวเหยาได้พาเยี่ยฉวนมาถึงยังกระท่อมร้างสภาพโกโรโกโสหลังหนึ่ง เด็กสาวค่อยวางชายหนุ่มให้นอนราบลงกับพื้นก่อนจะล้วงเอาขวดขนาดเล็กสีม่วงออกมาถือไว้ ก่อนจะเทสมุนไพรตันเถียนสีม่วงออกมาจากขวดเม็ดหนึ่งและป้อนใส่ปากเยี่ยฉวน

หลังจากได้กลืนยาเม็ดตันเถียนแล้ว กลุ่มควันสีม่วงลอยแผ่ปกคลุมทั่วร่างของเยี่ยฉวน พลันนั้นเองแผลแตกซึ่งปราฏตามร่างกายของเขาค่อยสมานเข้าหากันอย่างรวดเร็ว

คนที่คอยเฝ้าสังเกตเห็นเช่นนั้น ทั่วปาเซียวเหยาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นจึงเบนหน้าไปทางทิศที่ตั้งของวังหลวงพลางบ่นออกมาเบาๆ “แม่นางเหลียนช่างร้ายกาจจริง!”

จากนั้นจึงก้มลงมองคนที่นอนแบบอยู่กับพื้น “ผู้ฝึกกระบี่ เจ้าทำเรื่องไม่ดีล่ะซี?”

เยี่ยฉวนไม่ตอบในทันที ทว่ายังมีอาการมึนเล็กน้อย

เมื่อตอนที่เขาถูกพลังปะทะกระเด็นออกไปนอกวังหลวงจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด! ถ้าร่างกายไม่แข็งแกร่งจริงแล้วละก็ เยี่ยฉวนคงสิ้นชื่อไปแล้ว!

ในขณะนั้นเหลียนว่านลี่หมายต่อชีวิตเขาจริงๆ!

แต่จะว่าไปที่จริงเขาก็ผิดเองด้วย!

เวลานั้นเขารู้สึกถึงโลหิตในกายสูบฉีดพลุ่งพล่าน และเป็นช่วงที่เขากำลังอ่อนแอที่สุด กระทั่งไม่อาจระงับยับยั้งความร้อนที่กำลังครุกรุ่น ฉะนั้นการกระทำที่เกิดขึ้นจึงอยู่เหนือการควบคุมของเขานั่นเอง

แต่ที่ยังไม่แน่ชัดคือเขาทำลงไปหรือไม่……

เยี่ยฉวนเหมือนจะนึกถึงอะไรบางอย่างจึงทะลึ่งลุกขึ้นนั่งทันที ใช้ดวงตากระบี่สำรวจยังพื้นที่ส่วนตัวต่ำกว่าเอว จากนั้นเพียงชั่วครู่เขาจึงผ่อนลมหายใจและเอนตัวลงนอนราบบนพื้นดังเดิม

ตอนนั้นทั่วปาเซียวเหยาชี้ไปยังบริเวณพื้นที่ส่วนตัวของเยี่ยฉวนพลางว่า “นี่ผู้ฝึกกระบี่ เจ้าเจ็บตรงนั้นหรือ? เจ้าจะ……”

เยี่ยฉวนรีบฉวยเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาและสวมใส่โดยเร็ว เฮ้อ ตายละวา! แม่สาวน้อยนี่ไม่รู้กระทั่งความแตกต่างระหว่างของสงวนส่วนตัวบุรุษและสตรีเลย!

เด็กสาวเหลือบมองอีกฝ่ายหน้าง้ำ “คนใจแคบ! ขอดูแค่นี้ไม่ตายสักหน่อย!”

เยี่ยฉวนพูดอะไรไม่ออก เด็กสาวโตขึ้นจะเป็นเช่นไร? นางคงเป็นคนไร้หัวใจแน่แท้!

ชายหนุ่มเลิกคิดเรื่องของคนตรงหน้าอีกต่อไปและหันมาเยียวยาบาดแผลตามร่างกาย ขณะนั้นตนเองรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยด้วยบาดแผลที่เกิดขึ้นทั่วไปหายไปจนเกือบหมดแล้ว!

เขารีบหันมาถามสาวน้อยตรงหน้าทันที “สมุนไพรที่เจ้าให้ข้ากินคือยาอะไร?”

ทั่วปาเซียวเหยาตอบทันทีด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ยานี้ชื่อว่าสมุนไพรตันเถียนไพลินน้ำ มีราคาแพงมากเลยนะ เม็ดหนึ่งมีราคาเท่ากับสุดยอดศิลาจิตวิญญาณสองล้านชิ้น และถึงจะแพงขนาดนี้ใช่ว่าจะหาซื้อได้เสมอไป บิดาข้าแบ่งให้เดือนละห้าเม็ดและตอนนี้เหลือแค่สี่เม็ดเท่านั้น!”

สุดยอดศิลาจิตวิญญาณสองล้าน!

เยี่ยฉวนถึงกับตกตะลึงนิ่งอึ้ง แพงหูฉี่! แต่ได้ผลดีเยี่ยม!

สาวน้อยเงียบไปเป็นครู่ จึงตอบกลับมาว่า “ถึงข้าไม่บอกเจ้าก็น่าจะรู้ใช่ไหม?”

ชายหนุ่มเหล่มองอย่างเคืองๆ เกือบอดใจไม่ไหวอยากจับนางมาตีสักเผียะนัก!

แค่ยอมรับว่าตนเองไม่รู้ ทำไมจึงต้องทำเป็นพูดว่า ‘ถ้าข้าไม่บอก เจ้าน่าจะรู้?’ น่าขำอะไรอย่างนี้?!

พลันสาวน้อยทรุดกายลงบนพื้นข้างๆ ชายหนุ่มและดึงเข่าขึ้นมากอดไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง สีหน้าไม่ค่อยสดชื่นนัก “บอกก่อนนะว่าข้าจะไม่กลับไป!”

“เพราะอะไร?” เยี่ยฉวนถามด้วยความสงสัย

คนตอบปั้นปึ่งเย็นชา “พ่อหาว่าข้าเป็นแกะดำ เขาบอกว่าข้าเป็นแกะดำอันดับหนึ่งของตระกูลเลย!”

ชายหนุ่มถามมาอีก “เจ้าไปทำอะไรเข้าเล่า?”

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!