บทที่ 935 : ทุกคนยอมได้แม้จะต้องสูญเสียและตาย! (ปลาย)
ชายสวมชุดเกราะซึ่งยืนประกบข้างคุณหนูใหญ่ คนที่เรียงหน้ากันอยู่ในขณะนี้……ถึงแม้สำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์จะร่วมมือกัน หนทางที่จะเอาชนะคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน!
ชนเผ่าถังกลุ่มนี้กลายเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งไปแล้วงั้นหรือ?
อู่เวิ่นวิตกกังวลอยู่ลึกๆ
แรกเริ่มเดิมทีในบรรดาจักรวาลที่ปั่นป่วนวุ่นวายมีเพียงสำนักกระบี่และสถาบันฝึกยุทธ์สองแห่ง……ที่เป็นกองกำลังอันดับต้นเท่านั้น ทว่าดูเหมือนพวกเขาทั้งหมดถูกทิ้งให้ล้าหลังเสียแล้ว!
เมื่อก่อนมีร่างอวตารของผู้ก่อตั้ง เสมือนอำนาจคอยหนุนหลังให้สำนักกระบี่และสถาบันฝึกยุทธ์ ในท้ายที่สุดด้วยพลังแข็งแกร่งอย่างน่าทึ่งของร่างอวตารของผู้ก่อตั้งทั้งสองฝ่าย……ไม่เคยมีศัตรูที่ได้เผชิญหน้ากับพวกเขาแล้วมีชีวิตรอดกลับไป!
ทว่าบัดนี้ พวกเขาต่างไร้ร่างอวตารของผู้ก่อตั้งแล้วโดยสิ้นเชิง!
สำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ต่างสูญเสียสุดยอดไม้ตายที่สำคัญที่สุดไปแล้ว!
คิดดังนั้นแล้วอู่เวิ่นได้แต่ถอนใจลึกล้ำ ถ้าวันนั้นสำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ไม่ได้ต่อสู้แต่หันมาจับมือกัน ทั้งสองฝ่ายจะยังมีร่างอวตารของผู้ก่อตั้ง ใครหน้าไหนจะกล้ามาย่ำยีนครอานุภาพเล่า?
ถึงกระนั้น……
เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายด้วยเช่นกัน!
…
เหนือน่านฟ้าสำนักกระบี่
หลังจากที่มีกลุ่มยอดฝีมือเผ่าถังปรากฏตัวออกมา ตอนนั้นบังเกิดพลังกดดันมากมหาศาลแผ่กระจายครอบงำสำนักกระบี่ทันที
เผ่าถังใช้พลังความแข็งแกร่งบีบบังคับสำนักกระบี่ให้ตัดสินใจ!
ในอากาศเบื้องบน คุณหนูใหญ่มองตรงไปที่เยว่อู่เฉิน “ครั้งนี้ข้าจะถามอีกเพียงครั้งเดียว สำนักกระบี่จะยอมแพ้หรือไม่?
ขณะที่คนที่ถูกถามขยับตัวเพื่อที่จะตอบ พลันหมู่เฟิงเฉินตั้งคำถามสวนออกไปทันที “แม่นางถัง เจ้าเชื่อว่าสุดยอดสมบัติล้ำค่าอยู่กับสำนักกระบี่จริงๆ งั้นหรือ?”
สายตาของคุณหนูใหญ่ตวัดมองกลับไปที่หมู่เฟิงเฉิน “เรื่องนั้นไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว!”
หมู่เฟิงเฉินหน้าเคร่งพูดเสียงเครียด “ไม่ ต้องสำคัญสิ! คุณหนูใหญ่ ข้าเชื่อเหลือเกินว่าถ้าวันนี้พวกเราสู้กัน……สำนักกระบี่ทุกคนจะสู้อย่างสุดความสามารถ และยอดฝีมือของฝ่ายเจ้ามีอย่างน้อยเก้าในสิบจะต้องตายอยู่ที่นี่ เมื่อนั้นจะเอาชนะเยี่ยฉวนได้อย่างไร? หรือคิดว่าเจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนธรรมดาจริงๆ งั้นหรือ? เมื่อก่อนผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาวเคยรวบรวมเหล่ายอดฝีมือจากทุกดินแดนจักรวาลดวงดาว เข้าจู่โจมดินแดนจักรวาลดาวเว่ยหยาง ทว่าผลเป็นอย่างไร? ยอดฝีมือพวกนั้นตายเรียบและแม้แต่ร่างอวตารของผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาวยังถูกทำลาย เจ้าเคยคิดดูบ้างไหมว่าทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้น?”
คุณหนูใหญ่ส่ายหน้านิดหนึ่ง “เจ้าสำนักหมู่ เวลานี้ข้าไม่ได้สนใจเรื่องของเยี่ยฉวน ตอบคำถามมาว่าสำนักกระบี่จะยอมแพ้หรือไม่?”
เมื่อได้ฟังคำพูดของฝ่ายหญิง สีหน้าของหมู่เฟิงเฉินหมองคล้ำไปทันที
ความตั้งใจเดิมที่ต้องการจะเบี่ยงเบนความสนใจของคุณหนูใหญ่ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนนางมุ่งมั่นในการทำลายสำนักกระบี่ให้ได้เพียงประการเดียว!
หากพูดกันตามตรง เผ่าถังต้องการยึดครองสำนักกระบี่นั่นเอง!
ราวกับอีกฝ่ายจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ เขาเบนหน้าขวับมองไปยังคุณหนูใหญ่ “เจ้า……เจ้าไม่ได้มีเป้าหมายแค่สุดยอดสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นแต่มีสำนักกระบี่เป็นเป้าหมายด้วย”
“เจ้าเข้าใจผิด!”
เสียงมาจากอีกด้าน เป็นเยว่อู่เฉินพูดขึ้นว่า “เดิมทีพวกเขามีเป้าหมายเป็นสมบัติล้ำค่าเท่านั้น! ถึงกระนั้นสำนักกระบี่โง่เองที่หลงต่อสู้กับสถาบันฝึกยุทธ์แล้วนำไม้ตายที่สำคัญออกมาใช้จนหมด! ดังนั้นเป้าหมายจึงไม่ใช่เพียงแค่สมบัติล้ำค่าอีกต่อไป! พวกเราต่างหากที่เปิดโอกาสให้นาง! ตอนนี้กำลังจะยึดครองทั้งสำนักกระบี่แล้วเอาสมบัติล้ำค่า ระหว่างสำนักกระบี่กับเยี่ยฉวน นางเลือกกำจัดเราก่อนเพราะสำนักกระบี่แข็งแกร่งกว่าเจ้าหนุ่มนั่น หลังจากจัดการทางนี้เสร็จแล้ว เยี่ยฉวนจะเป็นศัตรูที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ซึ่งการสังหารเขาย่อมทำได้ไม่ยาก!”
คุณหนูใหญ่เอ่ยพลางยิ้มว่า “สำนักกระบี่พลาดไปอีกอย่างที่ไม่ยอมให้เจ้าเป็นเจ้าสำนัก”
จากนั้น หญิงสาวขยับยกมือข้างขวาขึ้น และกำลังจะตวัดลงนั่นเอง ทว่าหมู่เฟิงเฉินตะโกนออกมาว่า “สำนักกระบี่จะยอมร่วมมือกับเผ่าถัง!”
พลันทุกคนมองไปยังหมู่เฟิงเฉิน แม้แต่เยว่อู่เฉินยังหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่อยากเชื่อต่อสิ่งที่ได้ยิน
อีกทั้งยอดฝีมือแห่งสำนักกระบี่มองไปที่หมู่เฟิงเฉินเป็นตาเดียวเช่นกัน
พวกเขาคิดว่าตนหูฝาดไปเสียแล้ว!
สำนักกระบี่เลือกยอมแพ้……งั้นหรือ?
หมู่เฟิงเฉินจ้องหน้าคุณหนูใหญ่ด้วยสายตาแน่วแน่ “สำนักกระบี่จะร่วมมือกับเผ่าถัง!”
คนตรงข้ามย้อนถามพลางยิ้มเยื้อน “ร่วมมืออย่างไร?”
หมู่เฟิงเฉินกำลังขยับตอบ ทันใดนั้น เยว่อู่เฉินพูดขัดจังหวะขึ้นทันที “เฟิงเฉิน เจ้ารู้ไหมว่ากำลังทำอะไร?”
ฝ่ายที่ถูกถามสีหน้าเรียบเฉยและเย็นชานัก “อู่เฉิน พวกเราอยากเห็นสำนักกระบี่หายไปจากโลกนี้จริงๆ งั้นหรือ?”
เยว่อู่เฉินได้แต่มองหมู่เฟิงเฉินโดยปราศจากการโต้ตอบ
เสียงคนตรงหน้าเขากล่าวต่อมา “สำนักกระบี่ก่อตั้งมานานนับแสนปี จะล่มสลายในมือของพวกเราไม่ได้เด็ดขาด”
เยว่อู่เฉินสั่นศีรษะ “ถ้าก้มหัวให้พวกเขาวันนี้ เกียรติและชื่อเสียงของสำนักกระบี่จะพินาศลงในมือของพวกเราอยู่ดี! อีกทั้งจะโดนดูถูกเหยียดหยาม บรรพบุรุษที่ล่วงลับผู้สร้างคุณงามความดีที่อยู่ในสุสานคงตายตาไม่หลับ! ยิ่งกว่านั้นถ้าก้มหัวให้พวกเขาวันนี้ เท่ากับยื่นกระบี่ใส่ในมืออีกฝ่ายด้วยตัวเอง ภายหลังจากที่สูญเสียอิสรภาพกับศักดิ์ศรี กระบี่นั้นจะยังเฉียบคมอยู่อีกหรือ? จะทนต่อสิ่งนั้นได้หรือ?”
หมู่เฟิงเฉินขบฟันกรอดขณะเค้นเสียงดุดัน “ถ้างั้นคงรอดูสำนักกระบี่ล่มสลายไปจากโลกนี้สินะ? ตราบใดที่ยังมีลมหายใจทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น! อย่างไรก็ตาม ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เยี่ยฉวนลอยนวล ในเมื่อมันก่อกรรมทำเข็ญกับพวกเราถึงขนาดนี้!”
เยว่อู่เฉินหายวับไปทันที
แฉ่!
คลื่นพลังคมกริบแห่งลำแสงกระบี่พุ่งทะลุศีรษะของหมู่เฟิงเฉินในฉับพลัน!
คนถูกแทงตาเหลือกถลน แววตาบอกว่าไม่เชื่อสิ่งนี้ เขาไม่คิดฝันว่าเยว่อู่เฉินจะลงมือจู่โจมทันทีเช่นนี้!
ทุกคนต่างมองไปยังเยว่อู่เฉินซึ่งลอยตัวอยู่ในอากาศ เสียงเขาพึมพำกับคนตรงข้าม “เจ้าพูดถูก ตราบใดที่ยังมีลมหายใจทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ! ถึงกระนั้นก็ตาม ถ้าต้องก้มหัวให้ใครทั้งที่ยังมีลมหายใจ พวกเราก็พร้อมยอมตาย! ผู้ฝึกกระบี่ของสำนักกระบี่ทุกคนยอมรับได้ แม้จะต้องสูญเสียและตาย ทว่าจะไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งที่ยังมีลมหายใจ!”
จากนั้น คนพูดมองลงไปเบื้องล่าง “ศิษย์สำนักกระบี่ทุกคนจงฟัง นี่เป็นคำสั่ง! ต่อให้สำนักกระบี่ไม่มีใครรอด พวกเราจะตายอยู่บนลำแข้งและศักดิ์ศรีของตัวเอง ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ฆ่าพวกมัน!
ภายในสำนักกระบี่ ผู้ฝึกกระบี่ทุกคนพร้อมใจกันส่งเสียงคำรามโห่ร้องดัง เสียงของพวกเขาดังสะท้านก้องกังวานทะลุทะลวงไปทั้งแผ่นฟ้า
สำนักกระบี่เป็นฝ่ายเริ่มต้นจู่โจม!



