Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 941

Yi Jian Du Zun
BC

บทที่ 941 : พี่ชายข้าอยู่ไหน? (ปลาย)

C

ถึงกระนั้น สตรีก็คำนึงอยู่เสมอว่าจะประมาทเยี่ยฉวนไม่ได้เป็นอันเด็ดขาด

นางไม่อาจวางใจผู้ฝึกกระบี่ ที่สามารถสังหารยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าเพียงแค่พริบตาเดียวคนนั้นได้เลย!

อีกอย่างเยี่ยฉวนกำลังจะไปนครผู้คุมกฎ ถ้านางตรงเข้าจู่โจมสถาบันฝึกยุทธ์ บางทีเขาอาจต้องมอบสมบัติล้ำค่าให้กับชุมนุมผู้คุมกฎ!

เมื่อใดก็ตามที่ชุมนุมผู้คุมกฎได้ครอบครองสมบัติล้ำค่า การที่เผ่าถังจะช่วงชิงกลับมาจะยิ่งยากขึ้นอีก!

กล่าวอีกนัย สิ่งที่เผ่าถังอาจจะเสียไปกว่าร้อยเท่า ซึ่งเทียบไม่ได้กับสิ่งที่อยากได้มาครอบครอง!

แต่ทั้งหมดทั้งมวลชุมนุมผู้คุมกฎมีความแข็งแกร่งมากกว่าเยี่ยฉวน รวมทั้งกองกำลังอื่นๆ ในนครอานุภาพ

เยี่ยฉวนไปนครผู้คุมกฎ เรื่องนี้ทำให้แผนการของนางพังทลายลงอีกหน!

เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆ คุณหนูใหญ่ ชายชรากล่าวต่อมาว่า “ทำไมเราไม่แจ้งไปที่เผ่า เพื่อขอให้ส่งกองหนุนกับยอดฝีมือมาทางนี้……เชื่อว่าพวกเขาจะฉกสมบัติล้ำค่ามาได้อย่างแน่นอน!”

คุณหนูใหญ่ส่ายหน้า “ถ้าทำเช่นนั้น จะกลายเป็นว่าเราบีบให้เยี่ยฉวนต้องส่งมอบสมบัติล้ำค่าให้กับชุมนุมผู้คุมกฎ ถึงตอนนั้นการไปฉกชิงมาจะทำได้ยากยิ่งกว่า”

ชายชราเอ่ยถามอย่างข้องใจ “คุณหนู ถ้าสมบัติล้ำค่าชิ้นนั้นมีความสำคัญขนาดนี้ เหตุใดหัวหน้าของเราถึงไม่ลงมาจัดการด้วยตัวเอง?”

คนถูกถามส่ายหน้า “เขาออกโรงเคลื่อนไหวเองไม่ได้! เพราะถ้าเคลื่อนไหวเมื่อไร บรรดาผู้นำของชุมนุมผู้คุมกฎและเผ่าอสูร จะต้องเคลื่อนไหวด้วยอย่างแน่นอน”

ชายชราพยักหน้า

ยุทธวิธีที่จะทำให้ไขว้เขว!

ถ้าสุดยอดคนมีฝีมือของเผ่าถังออกโรงเคลื่อนไหว ทั้งชุมนุมผู้คุมกฎกับเผ่าอสูรจะไม่ยอมนั่งกระดิกเท้าอยู่เฉยเป็นแน่ ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมีสถานะโดดเด่นเหนือกว่าตน เหมือนกันกับผู้นำสูงสุดแห่งจักรวาลดวงดาวของชุมนุมผู้คุมกฎ ที่ไม่อาจลงมาช่วงชิงสมบัติล้ำค่าด้วยตัวเอง เพราะถ้าลงมือเมื่อใด ทั้งเผ่าถังกับเผ่าอสูรจะต้องพากันยับยั้งมิให้เขาทำได้สำเร็จโดยง่าย

เสียงคุณหนูใหญ่เอ่ยขึ้นทันทีว่า “ทุกคนจงฟังให้ดี จากนี้พวกเราจะไปนครผู้คุมกฎ!”

เมื่อพูดจบ สีหน้าของผู้พูดดูจะยิ่งคร่ำเคร่งกว่าเดิม แววตาวาววับสาดประกายความกระหายในการสังหารออกมาชัดเจน

ขณะที่คนเผ่าถังพากันทยอยออกไป บริเวณเหนือน่านฟ้านครอานุภาพ อู่เวิ่นและเยว่อู่เฉินหันไปมองหน้ากันด้วยท่าทีคลายความกังวลใจ

พลันเสียงอู่เวิ่นพูดขึ้นว่า “อย่าเพิ่งวางใจ! สังเกตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ข้าคิดว่าเผ่าถังกับชุมนุมผู้คุมกฎน่าจะมีแผนใหญ่เตรียมการไว้ และอีกอย่างถ้าไม่มีร่างอวตารของผู้ก่อตั้ง เท่ากับว่าพวกเราไร้สิ่งกีดขวางทั้งปวง……”

ร่างอวตารของผู้ก่อตั้งของพวกตน!

ทั้งอู่เวิ่นและเยว่อู่ฉินต่างรู้สึกขื่นขมอยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก

ร่างอวตารของผู้ก่อตั้งเหล่านั้นมีความแกร่งกล้าปานใด?

แน่นอน!

พลังนั้นสามารถสังหารยอดฝีมือขั้นไขว่คว้าเต๋าได้อย่างง่ายดาย! ยิ่งกว่านั้น ภายหลังจากที่ได้เห็นการออกปะทะของผู้ก่อตั้งในครั้งนั้น เขาเดาว่าผู้ก่อตั้งสามารถสังหารได้แม้แต่คนขั้นมหาเซียนกระบี่ชั้นยอดในชั่วพริบตาด้วยซ้ำ!

ถ้าพวกเขามีร่างอวตารของผู้ก่อตั้งอยู่ ต่อให้เผ่าถังระดมพลมาทั้งเผ่าก็ยังเอาชนะพวกตนไม่ได้

อย่างไรก็ตาม สำนักกระบี่มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับสถาบันฝึกยุทธ์มาก่อน จนต้องกระตุ้นใช้งานร่างอวตารของสองฝ่ายออกมาต่อสู้ห้ำหั่นกัน……ไม่มีใครคาดคิดว่าความสัมพันธ์ของผู้ก่อตั้งของทั้งสองฝ่ายจะไม่ธรรมดา……

โง่เขลา!

คนพวกนี้ช่างโง่เขลานัก!

สำนักกระบี่กับสถาบันฝึกยุทธ์ ต่างคนต่างทำเรื่องโง่เขลาด้วยกันทั้งสองฝ่าย

แรกเริ่มเดิมที การที่สำนักกระบี่ทำพิธีอัญเชิญผู้ก่อตั้งออกมา ด้วยความปรารถนาที่จะเข้ายึดครองสถาบันฝึกยุทธ์ และครอบงำนครอานุภาพ แต่คาดไม่ถึงหลังจากที่ร่างอวตารของผู้ก่อตั้งปรากฏ……ได้สังหารพันธมิตรของสำนักกระบี่ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก!

ไพ่ใบสำคัญของพวกเขาออกมาเพื่อจัดการพวกเดียวกัน……

เมื่อเยว่อู่เฉินนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาคราใด เขาก็ไม่เคยสบายใจเลย……

จากนั้นเขาก็เอ่ยกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อ “ข้าเกรงว่าสันติสุขที่เคยมีในจักรวาลโกลาหลจะพังพินาศ เพราะเหตุจากสมบัติล้ำค่าของเยี่ยฉวน”

เยว่อู่เฉินพยักหน้า “ข้าได้แต่หวังว่าพวกเราทั้งสองฝ่าย จะดำรงอยู่ภายใต้คลื่นลมมรสุมที่ว่านี้!”

คนตรงข้ามหันหน้ามองไปยังเส้นขอบฟ้าแสนไกลขณะรำพึงออกมา “ความจริงข้าข้องใจเรื่องคนที่หนุนหลังเยี่ยฉวน จนกระทั่งบัดนี้อีกฝ่ายยังไม่เคยปรากฏตัวออกมาสักครั้ง น่าจะยังมีความกังวลอะไรอยู่สินะ?”

พลันเยว่อู่เฉินหันมาตั้งคำถามกับอู่เวิ่น “พี่อู่ ท่านคิดว่าคนที่หนุนหลังเยี่ยฉวนจะมีพลังมากเพียงใด?”

คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้า “ข้าไม่รู้เหมือนกัน ถึงอย่างไรเขาผู้นี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา ยิ่งกว่านั้น ขนาดเยี่ยฉวนเองก็ยังไม่ธรรมดา……สำนักกระบี่เคยนำสมบัติล้ำค่ากลับไป แต่สุดท้ายมันก็หนีกลับไปหาเจ้าหนุ่มนั่น……มีความเป็นไปได้อยู่อย่างเดียว คือสมบัติล้ำค่านั่นยอมรับเยี่ยฉวนในฐานะเจ้าของของมันแล้ว!”

เมื่ออู่เวิ่นได้ฟังคำอธิบายยืดยาว สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปทันที “อ้อ……”

จากนั้น คนจึงเบนหน้าไปทางขอบฟ้าไกลลิบพลางพึมพำเสียงแผ่วเบา “ข้าเกรงว่าเมื่อเผ่าถังทำอะไรเขาไม่ได้ พวกมันจะพุ่งเป้าไปที่น้องสาว……”

เยว่อู่เฉินปรารถนาจะพูดอะไรออกมา ทว่าชะงักนิ่งพลางครุ่นคิด

อู่เวิ่นไม่ได้ถามกลับด้วยรู้อยู่แก่ใจในสิ่งที่เยว่อู่เฉินต้องการจะพูด

อย่างไรก็ตาม สถาบันฝึกยุทธ์จะไม่ยอมปล่อยอันหลานซิ่ว เยี่ยหลิงและคนอื่นไปอย่างเด็ดขาด

อันหลานซิ่วเป็นผู้สืบทอดผู้ก่อตั้งแห่งสถาบันฝึกยุทธ์แล้ว ส่วนเยี่ยหลิงนั้น ผู้ก่อตั้งแห่งสำนักกระบี่ได้เคลื่อนย้ายผนึกยันต์บนตัวนางออกไป ด้วยฝีมือที่มีการพัฒนาไปอย่างรุดหน้า เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาจะทำให้โลกต้องตื่นตะลึง!

เยว่อู่เฉินถอนใจก่อนเอ่ยเสียงขรึม “เผ่าถัง เผ่าอสูร ชุมนุมผู้คุมกฎ……พวกนั้นคงเริ่มตามหาเยี่ยฉวนแล้ว สถานการณ์ของเจ้าหนุ่มนั่น……”

อู่เวิ่นเอ่ยต่อคำพูดให้ว่า “แล้วแต่บุญวาสนาแล้วล่ะ”

ภายในท้องฟ้าอันมืดมิดแห่งจักรวาลดารา กระบี่เล่มหนึ่งเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเร็วขั้นสูงสุด มันเดินทางข้ามผ่านท้องฟ้าต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน จนในที่สุดได้มาถึงยังเกาะแห่งหนึ่ง

สตรีลึกลับนั่งอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางเกาะปริศนาแห่งนั้นเพียงลำพัง

นางกำลังเล่นหมากล้อม!

นางหยิบเม็ดหมากหินขาวขึ้นมา แล้ววางลงในตำแหน่งอื่น ขณะต่อมาเม็ดหมากล้อมหินดำถูกจับวางลงบนกระดาน

ว่าแล้ว ก็ทำให้เกิดผู้ชนะขึ้นในเกมนั้น

สตรีลึกลับเงียบนิ่ง

พลันนั้นเม็ดหมากล้อมหินบนกระดานหายได้วับไปต่อหน้าต่อตา ทว่าต่อมาก็ปรากฏตัวอักษรเรียงกันอ่านได้ความว่า ‘กฎเต๋าแห่งบารมี มีอยู่ทั้งสิ้นห้าสิบกฎเต๋า ทว่ามีเพียงสี่สิบเก้ากฎเต๋าที่กำเนิดจากสวรรค์และปฐพี ผู้คนสามารถเลือกหนึ่งในกฎเต๋าเหล่านี้ขึ้นมาใช้…’

AC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!