Skip to content

พลิกปฐพี 201-4

ตอนที่ 201-4

มานี่ อยากกินลูกกวาดก็เรียกท่านพ่อ!

ทั้งสองเลือกสถานที่ซึ่งทิวทัศน์งดงามเดินเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็นึกถึงเรื่องที่หวงฝู่ฮ่วนและเฉินปี้เฉิงขึ้นตำหนักหลีกงมาก่อนหน้านี้

“ใช่แล้ว หวงฝู่ฮ่วนและเฉินปี้เฉิงเคยมาครั้งหนึ่ง พวกเขาหวังว่าเจ้าจะรับพวกเขาเป็นศิษย์” มู่ชิงเกอเอ่ยบอกซือมั่ว

ไม่ได้เกินความคาดหมายของซือมั่ว ราวกับว่าคุ้นชินมาตั้งนานแล้ว “พวกเขาทั้งสองเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เลว คนหนึ่งสามารถเก่งบุ๋น คนหนึ่งเก่งบู๊”

มู่ชิงเกอมองเขาด้วยสายตาแปลกใจระคนสงสัย “เจ้าสนใจแล้วหรือ?”

เดิมทีนางคิดว่าซือมั่วจะไม่สนใจไยดีสองคนนี้เสียอีก

คำพูดของนางทำให้ซือมั่วเลิกคิ้ว ยื่นแขนยาวออกมารวบเอวนางตวัดเข้ามาในอ้อมอก ก้มหน้าเอ่ยว่า “ข้าสนใจแค่เจ้าเพียงผู้เดียว”

เอ่อ…

มู่ชิงเกอรู้ตัวว่าพูดผิด ได้แต่อธิบายว่า “ข้าหมายความว่าเจ้าสนใจคิดจะรับพวกเขาเป็นศิษย์หรือ?”

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์หวังให้ข้ารับพวกเขาเป็นศิษย์หรือ?” ซือมั่วย้อนถาม

มาประโยคนี้อีกแล้ว! มู่ชิงเกอบริภาษอยู่ในใจ “เจ้าคิดจะรับศิษย์หรือบอกว่าไม่รับใครเป็นศิษย์ข้าไม่ไปก้าวก่าย และก็ไม่มีความเห็นส่วนตัวใดๆ”

ซือมั่วหัวเราะ พยักหน้าพลางเอ่ยว่า “เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง”

มู่ชิงเกอเอ่ยอย่างไม่สนใจ “ถึงอย่างไรสิ่งที่ข้าควรพูดก็พูดแล้ว ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรข้าไม่ได้รับประกันใดๆ”

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์เมื่อไรจะพาข้ากลับไปแคว้นฉินสักรอบดี?” จู่ๆ ซือมั่วก็เอ่ยขึ้น

“กลับแคว้นฉิน?” เสียงของมู่ชิงเกอสูงขึ้นเล็กน้อย

ซือมั่วพยักหน้า จ้องหน้านางแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเรื่องของพวกเราสองคนกำหนดตกลงใจกันแล้ว อย่างไรข้าก็ต้องไปเจรจาบอกกล่าวกับท่านปู่ของเจ้าเสียหน่อย”

มู่ชิงเกอตกใจอ้าปากค้าง เอ่ยตะกุกตะกัก “เจ้า…ความหมายของเจ้า…คือ…คือ…”

“ถูกต้อง! สู่ขอ” ซือมั่วพยักหน้า เอ่ยคำพูดที่มู่ชิงเกอพูดไม่ออก

สู่! ขอ!

สองพยางค์นี้ทำเอามู่ชิงเกอเบิกตากว้างทันที สูดลมหายใจเย็นอย่างรวดเร็ว!

“แค่ก แค่ก พัฒนาเร็วไปหรือไม่?” มู่ชิงเกอยิ้มแหยๆ เอ่ยขึ้น

ดวงตาสีอำพันของซือมั่วหรี่ลงฉายแววอันตราย “หรือว่า ในใจของเสี่ยวเกอเอ่อร์ ยังมีตัวเลือกอื่นให้พิจารณาอีก?”

ท่าทางนั้นราวกับว่ายังไม่ได้เตรียมตัวก็จะไปสังหารคนผู้นั้นเสียแล้ว!

“ไม่มี! ไม่มีแน่นอน! ข้าไม่ใช่คนใจโลเล ในเมื่อเลือกเจ้าแล้ว ก็ไม่ได้เปลี่ยนใจ” มู่ชิงเกอเอ่ยรับรองฉับพลัน

“แบบนี้สิเด็กดี” ซือมั่วเก็บไอสังหารที่แผ่ออกมาจากร่าง เปลี่ยนเป็นสดชื่นรื่นรมย์

มู่ชิงเกอเหล่ตามองเขาแวบหนึ่ง ราวกับกำลังถามว่า ‘แล้วเจ้าล่ะ?’

ซือมั่วเข้าใจในทันที เอ่ยด้วยความตั้งใจ “ข้ามีใจให้กับเจ้าเพียงผู้เดียว แต่ก่อนเป็นเช่นนี้ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ ต่อไปก็ยังคงเป็นเช่นนี้”

คำพูดที่มู่ชิงเกอเคยคิดว่าเลี่ยนบัดนี้มาได้ฟัง กลับทำให้ใจของนางรู้สึกอบอวลด้วยความหอมหวาน

ทันใดนั้น นางก็ค้นพบว่าการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ สามารถสัมผัสได้ถึงมุมมองที่ต่างกันจริงๆ ทั้งสองสบสายตากันเงียบๆ ใจสื่อถึงกัน

ในเวลาที่ความหวานอบอวล ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในความคิดของมู่ชิงเกอโดยไม่ทันตั้งตัว ‘ลูกพี่ท่านแม่ ปล่อยข้าออกไป หยวนหยวนจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์!’

มู่ชิงเกอถูกเสียงนี้ทำเอาได้สติ แกะแขนซือมั่วที่โอวเอวตนเองออก ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

ซือมั่วไม่ได้ขัดขวางการกระทำของนาง เพียงแค่ยกคิ้วขึ้น

มู่ชิงเกอยิ้มอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยกับหยวนหยวนว่า ‘เหตุใดจู่ๆ ถึงอยากจะออกมา?’

หยวนหยวนแค่นเสียงด้วยความทะนงตน ‘นายน้อยเช่นข้าไม่อยากอยู่ร่วมกับเจ้าตัวจ้อย ข้าจะออกไป!’

มู่ชิงเกอได้ฟังก็เดาได้ว่าทั้งสองต้องทะเลาะกันอีกแล้วแน่นอน

‘ลูกพี่ท่านแม่ ขอร้องท่านให้ข้าออกไปเถอะ! อสรพิษสาวแสวนสวยก็ถูกท่านปล่อยออกไปแล้ว!’ หยวนหยวนไม่หยุดที่จะวอนขอด้วยท่าทีน่าสงสาร มู่ชิงเกอถูกเขาก่อกวนจนไม่มีทางเลือก คิดว่าตอนนี้ช่องว่างแห่งการทดสอบนอกจากนางก็มีซือมั่ว ไม่มีคนอื่นอีก

ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะอะลุ่มอล่วย ‘เอาเถอะ ข้าจะปล่อยเจ้าออกมา เจ้าอย่าได้ก่อความวุ่นวายล่ะ’ มู่ชิงเกอเอ่ยเตือนหยวนหยวนรอบหนึ่ง เผื่อเจ้าตัวน้อยนี่อารมณ์ขึ้นขึ้นมา เผาช่องว่างแห่งการทดสอบนี่ แล้วนางจะไปหาที่ไหนมาชดใช้ให้ซือมั่ว?

เมื่อได้ยินว่าจะได้ออกมา หยวนหยวนก็พยักหน้ารับประกันทันที “อืม อืม! วางใจเถอะ หยวนหยวนไม่ก่อเรื่องยุ่งให้ลูกพี่ท่านแม่!”

การรับรองของหยวนหยวน มู่ชิงเกอยังคงไว้ใจ

พอสะบัดมือ เด็กผู้ชายผิวขาวอายุราวเด็กอายุสามสี่ขวบ ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าซือมั่ว

ดวงตาสีอำพันเป็นประกายชั่วครู่ เขาเผยรอยยิ้ม “พญาเพลิงระดับเทพฮุ้นหยวน”

ได้ยินคนจำฐานะที่ ท้จริงของตนได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น หยวนหยวนก็มองหน้าซือมั่วทันที เดิมทีคิดจะวางมาด แต่ว่าพอเห็นซือมั่วแล้วเขาก็เปลี่ยนสีหน้าท่าทีทันควัน หลบไปอยู่ด้านหลังมู่ชิงเกอกอดขาของนางไว้โผล่หัวออกมาเอ่ยถามอย่างร้อนรน “ลูกพี่ท่านแม่ เขาเป็นใคร? พลังยิ่งใหญ่มาก! หยวนหยวนเอาชนะเขาไม่ได้!”

มู่ชิงเกอส่งเสียง ‘หึหึ’ ในใจ “เจ้าช่างซื่อตรงจริงๆ” การแสดงออกของหยวนหยวนทำให้นางรู้สึกเกินความคาดหมายอยู่บ้าง หยวนหยวนผู้ซึ่งเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าตลอดมา คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่เห็นซือมั่วครั้งแรกก็ยอมแพ้?

ดูท่าเจ้าตัวเล็กนี้ช่างฉลาดเสียจริง

“เขาไม่ทำร้ายเจ้า” มู่ชิงเกองัดหยวนหยวนที่อยู่ด้านหลังออกมาก

หยวนหยวนดึงรั้งอาภรณ์ของมู่ชิงเกอสุดพลัง แต่ก็ยังถูกทิ้งให้อยู่ตรงหน้าซือมั่ว ก้นน้อยๆ นั่งลงบนพื้นหญ้า

ซือมั่วกวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าถึงแม้ว่ากำลังยิ้มแต่กลับทำให้หยวนหยวนรู้สึกหนาวสันหลัง

‘ยิ่งใหญ่เกินไป! น่ากลัวเกินไป! เหตุใดลูกพี่ท่านแม่ถึงได้ไปรู้จักกับคนเก่งกาจเช่นนี้? ฮือฮือฮือ ข้าเสียใจแล้ว ข้าจะกลับไปในช่องว่าง!’ หยวนหยวนร้องไห้ครํ่าครวญในใจ

หากรู้ว่าข้างนอกมีบุคคลร้ายกาจเช่นนี้มาก่อน เขาก็คงจะไม่ออกมาด้วยความโมโห ยินยอมถูกเจ้าตัวจ้อยเหมิงเหมิงหัวเราะเยาะในความไม่เอาไหนของตนเอง

“เอ้ เจ้ากล้าๆ หน่อยได้ไหม ก็บอกแล้วไงว่าเขาไม่ทำร้ายเจ้า” ท่าทีหวาดกลัวของหยวนหยวนทำเอามู่ชิงเกอโกรธจนควันออกหู

มองดูกู่หยาคูเย่ที่อยู่ข้างกายซือมั่ว แล้วกลับมามองดูเจ้าก้อนเนื้อตรงหน้าตนเอง

หน้าตาพอเทียบได้อยู่ แต่ว่าพลังอ่อนแอเกินไป!

ขายขี้หน้ามากรู้หรือไม่?

หยวนหยวนร้องไห้นํ้าตานองหน้า หันหน้ากลับไปมองมู่ชิงเกอเอ่ยขอร้องว่า “ลูกพี่ท่านแม่ หยวนหยวนอยากกลับเข้าไปแล้ว ท่านให้ข้ากลับเข้าไปดีหรือไม่?” อืออือฮือ เขาไม่ต้องการเป็นของเล่นของคนน่าเกรงกลัวเช่นนี้!

“เจ้าเรียกนางว่าอะไรนะ?” ทันใดนั้นซือมั่วก็เอ่ยปากถามขึ้นมา

หยวนหยวนสูดลมหายใจด้วยความเกร็ง เม้มปากมองหน้าซือมั่ว ในใจของเขาปฏิเสธแต่ร่างกายกลับตอบเขาไปตามความจริง “ลูกพี่ท่านแม่”

“ท่านแม่…” ซือมั่วหันไปมองมู่ชิงเกอด้วยสายตายั่วเย้า มู่ชิงเกอถูกเขามองก็รู้สึกอิหลักอิเหลื่อ ทำเป็นกระแอมกระไออธิบายว่า “ข้าให้เขาเรียกข้าว่าลูกพี่ แต่เขาแก้ไม่ได้แล้ว”

ซือมั่วกลับยิ้มเจ้าเล่ห์เอ่ยพึมพำ “แก้ไม่ได้ก็ดี”

“เจ้าว่าอะไรนะ?” มู่ชิงเกอได้ยินไม่ชัด เอ่ยถามขึ้นอีกรอบ

แต่ซือมั่วกลับไม่ได้พูดอีก แต่นั่งยองๆ ขยับเข้าไปใกล้หยวนหยวน

การขยับตัวนี้ทำให้หยวนหยวนตกใจจนหดคอ ใบหน้าขาวสว่างกระจ่างใสแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาว

ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

ซือมั่วมองเขา จ้องมองอยู่สักระยะ ทันใดนั้นก็แบมือออก บนฝ่ามือที่ไร้สิ่งใดของเขา จู่ๆ ก็ปรากฎสิ่งหนึ่งซึ่งถูกเปลวเพลิงห่อหุ้มอยู่หลายเม็ด มู่ชิงเกอเอ่ยถามด้วยความสงสัย “นี่คืออะไร?”

หลังจากที่หยวนหยวนเห็นชัดๆ แล้วก็ตะโกนร้องเสียงหลง “เม็ดบัวอัคคี!”

“บัวอัคคีคือสิ่งใด?” มู่ชิงเกอยังคงไม่เข้าใจ ทำได้เพียงดูอารมณ์ของหยวนหยวน ของสิ่งนี้ล่อใจเขาอย่างมาก

หยวนหยวนกลืนนํ้าลายลงคอ มองเม็ดบัวอัคคีบนฝ่ามือของซือมั่วด้วยใบหน้าหลงใหล

‘เจ้านายโง่ เม็ดบัวอัคคีสำหรับพญาเพลิงแล้วเป็นโอสถบำรุงชั้นยอด! กินเม็ดเดียวก็สามารถฝึกฝนตนเองได้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น อีกอย่างยังสามารถเพิ่มพลังให้แข็งแรง!’ เสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้นในหัวของนาง อธิบายความสงสัยของนาง

‘ร้ายกาจถึงเพียงนี้!’ มู่ชิงเกอเองก็ตกใจ

ซือมั่วมองดูหยวนหยวนยิ้มๆ ใช้เสียงที่เติมไปด้วยเสน่ห์ เอ่ยกับเขาว่า “มาสิ เรียกว่าท่านพ่อสักคำ แล้วจะให้ลูกกวาดเจ้าเม็ดหนึ่ง”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!