Skip to content

พลิกปฐพี 203-3

ตอนที่ 203-3

เก็บสมบัติจนแขนชา!

รอจนนางได้รับความรู้สึกกลับคืนแล้ว ก็รู้สึกว่าตนเองอยู่ในที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง เย็นสบาย ไม่เหมือนกันกับทะเลทรายท่องวิญญาณที่แห้งแล้งแผดเผาเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย มู่ชิงเกอลุกขึ้นมาจากพื้น มองไปรอบๆ

พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ—–

เสียงดังขึ้นมาข้างหูของนาง ความมืดสว่างขึ้นมาในทันใด ลักษณะของสถานที่ตรงหน้าปรากฏขึ้นสู่สายตาของนาง

“ที่นี่คือที่ไหน?” ด้านหลังมู่ชิงเกอ มีเสียงของเจียงหลีดังเข้ามา

นางหันกลับไปมอง คนที่เข้ามาหกสิบสี่คนล้วนอยู่กันหมดครบถ้วน

ทุกคนทยอยพากันลุกขึ้นจากพื้น รวมตัวกัน มองไปรอบด้านพิจารณาอย่างระมัดระวัง

ที่นี่ดูเหมือนเป็นถํ้าขนาดใหญ่ ทั้งยังดูเหมือนเป็นลานขนาดใหญ่

บนพื้นปูด้วยแผ่นหิน สะท้อนแสงภายในความมืดที่ดำเหมือนนํ้าหมึก แผ่นหินที่เรืองแสงเหล่านี้เหมือนกับดวงดาวที่แขวนอยู่บนฟ้า

พวกเขาหกสิบสี่คนยืนอยู่ที่นี่ กลับเปลี่ยนเป็นดูเล็กไปถนัดตา จินตนาการได้เลยว่าลานนี้ใหญ่แค่ไหน

“ทางนั้นดูเหมือนว่าจะมีทางเข้า” จ้าวหนานซิงมองเห็นข้างหน้ามีประตูขนาดยักษ์อยู่ จึงเอ่ยกับมู่ชิงเกอ

ประตูยักษ์นั้นไม่ได้ปิด จากช่องว่างสามารถมองเห็นว่า ด้านในมีภาพรางๆ ของอาคาร

“หรือว่าที่นั่นคือทางเข้าของเศษซากโบราณ?” มู่ชิงเกอคาดเดาออกมา

ในตอนนี้ มีคนรีบร้อนเอ่ยว่า “ในเมื่อมีประตูแล้วยังจะรออะไร?” เขาพูดแล้วก็พุ่งไปทางประตู

แต่ว่า ในตอนที่เขาเพิ่งจะเดินไปไม่กี่ก้าว กลางอากาศก็มีเสียงดัง ‘แครก’ ดังขึ้นมา

เสียงนี้สะท้อนไปมากลางอากาศ เพิ่มความแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น

“ทุกคนระวัง!” หวงฝู่ฮ่วนอยู่ๆ ก็ร้องตะโกนออกมา

คนที่พุ่งเข้าไปคนนั้นก็ไม่กล้าขยับอีก

ทุกคนล้วนแต่มองรอบด้านอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้น เสียง ‘ซ่า ซ่า’ ก็ดังมา สะท้อนข้างหูของทุกคน เสียงเสียงนั้นดูเหมือนกับเสียงเม็ดทรายกระทบกัน

“เสียงอะไร?” เจียงหลีหันมากระซิบถามมู่ชิงเกอ

คำพูดของนางเพิ่งจะหลุดออกไป ทุกคนก็มองเห็นเม็ดทรายสีทองนับไม่ถ้วน พุ่งขึ้นมาจากช่องว่างของพื้นหิน ดุจดังมีชีวิต ก่อร่างเป็นตัวขึ้นมา

ฉากที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจ หยิบยุทธภัณฑ์ของตนเองออกมา

สามารถเข้ามาได้นั้นทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ พลังฝึกปรือของพวกเขากับอาวุธก็เป็นของชั้นดี เพียงแต่ว่า ภาพตรงหน้าแปลกเกินไป ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ

หวงฝู่ฮ่วนมองมาทางมู่ชิงเกอ เอ่ยถามว่า “คุณชายมู่ นี่คือสถานการณ์อะไร? มหาปราชญได้บอกท่านหรือไม่?”

เขาพูดออกมาทำให้ทุกคนล้วนแต่หันมามองมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอมุมปากกระตุก ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนกำลังสอบขุนนาง พวกเขาแน่ใจขนาดนั้นเลยหรือว่าซือมั่วจะบอกคำตอบแก่นาง?

น่าเสียดาย พวกเขาต้องผิดหวังแล้ว ที่แห่งนี้ซือมั่วไม่เคยเข้ามา ดังนั้นก็เลยไม่สามารถแนะนำอะไรได้

“ไม่ได้บอก” มู่ชิงเกอเอ่ยตอบสั้นๆ

นางไม่ได้ไปสนใจท่าทางที่ดูผิดหวังในส่ายตาของคนส่วนมาก เพียงแต่หันมองเม็ดทรายสีทองที่พุ่งออกมาไม่หยุดหย่อน

“ไม่อาจจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้พวกเรารีบไปทางประตูกันก่อน” จิ่งเทียนขมวดคิ้วตะโกนขึ้นมา นำคนของตระกูลจิ่ง พุ่งไปทางประตูยักษ์ การเคลื่อนไหวของเขา ทำให้คนอื่นๆ ก็เคลื่อนไหวตาม พุ่งไปยังประตูยักษ์

คนของตระกูลเฉิน คิดจะตามไปแต่กลับถูกเฉินปี้เฉิง ห้ามเอาไว้

ในขณะนั้น สายตาของเขามองไปทางมู่ชิงเกอ

พวกจิ่งเทียนพุ่งไปไม่กี่ก้าว เม็ดทรายสีทองที่เดิมอยู่บนพื้น ก็พลันก่อตัวเป็นคลื่นขึ้นมาในทันใด พัดไปทางพวกเขา

แน่นอน การโจมตีที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นนี้ก็โจมตีโดนพวกเขา พัดเหล่าคนที่พุ่งไปทางประตูยักษ์กลับคืนมาอย่างรุนแรง

“สิ่งสิ่งนี้เหมือนกับมีความคิด” นัยน์ตาของเจียงหลีหดตัวลงเอ่ยเสียงเข้ม

“ทุกคนระวังตัว” แววตาของมู่ชิงเกอฉายแวววาววาบ เอ่ยเตือน

จิ่งเทียนและคนอื่นๆ ถูดพัดตกจนร้องเสียงครวญครางขึ้นมา

แต่ก็ยังรีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นระมัดระวังมากขึ้น

เม็ดทรายสีทองเหล่านั้น เปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นคนตัวใหญ่ ปรากฏอยู่ตรงหน้าของทุกคน

“นี่คืออะไร! เปลี่ยนเป็นคนแล้วหรือ?” จ้าวหนานซิงร้องเสียงหลง

เหล่าคนที่ถูกสร้างขึ้นจากเม็ดทรายสีทอง ดุจดังมีชีวิต ลักษณะดูชัดเจน หลับตาสนิท ร่างกายสวมเกราะสีทอง ในมือก็มีหอกยาวอันแหลมคม

พวกเขาดูเหมือนกับเป็นทหารที่สู้รบมานานในทะเลทราย ทั้งยังดูเหมือนองครักษ์ของที่นี่!

ทหารสีทองปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ เต็มไปทั้งลานกว้างอย่างรวดเร็ว ล้อมกรอบพวกมู่ชิงเกอทั้งหกสิบสี่คนไว้ตรงกลาง ทหารสีทองที่หนาแน่นนั้นดุจดั่งทหารนับหมื่น ที่กักขังพวกเขาเอาไว้ภายใน

ทันใดนั้น ทหารเหล่านี้ก็เบิกตากว้าง เผยแววตาเย็นชา หอกยาวในมือแทงมาหาพวกเขา!

“เตรียมรบ!” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงดัง

นี่คือสั่งการองครักษ์เขี้ยวมังกรของนาง และก็กลายเป็นสั่งการคนทั้งหกสิบกว่าคนไปด้วย

การต่อสู้ดูสับสนวุ่นวาย คนหกสิบสี่คนต่อสู้กับทหารที่ถูกเปลี่ยนมาจากเม็ดทรายเหล่านั้น

อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็พบว่า ทหารทรายเหล่านี้ไม่ได้เก่งกาจอะไร ง่ายที่จะเอาชนะ เพียงแต่ว่าพอชนะพวกเขาก็จะฟื้นขี้นมาใหม่ ดูเหมือนว่าไร้ที่สิ้นสุดก็ไม่ปาน

“ต่อสู้อย่างนี้ต่อไปไม่ใช่วิธีที่ดี จะทำให้พลังจิตของพวกเราหมดเอาได้” เจียงหลีเข้าไปใกล้กับมู่ชิงเกอ ทั้งต่อต้นการโจมตีของทหารทรายไปด้วย ทั้งพูดกับนางไปด้วย

มู่ชิงเกอครุ่นคิด นิ่งไปชั่วครู่

นางก็โจมตีกับทหารทรายไปพลางเอ่ยกับเจียงหลีไปพลาง “ข้าคิดว่า นี่เป็นบททดสอบของการเข้าไปสู่เศษซากโบราณ”

“ปัญหาคือจะผ่านได้อย่างไร” เจียงหลีเอ่ยถาม

มู่ชิงเกอลอบพิจารณาครู่หนึ่ง เอ่ยเสียงเข้มว่า “คิดจะผ่านไป เกรงว่าคงต้องวัดความรวดเร็วแล้ว!”

นางพูดจบ นัยน์ตาก็ฉายแววเยียบเย็น เอาพลังจิตมารวมไว้ในสองมือ กวาดออกไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนตัวของนางเอง ก็พุ่งเข้าไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

ทหารทรายเหล่านี้ ต่อต้านการโจมตีของนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย สลายไปอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะรวมตัวขึ้นมาใหม่

แต่ว่า หลังจากที่พวกเขาฟื้นคืนเสร็จแล้ว มู่ชิงเกอก็ได้พุ่งไปถึงแท่นด้านหน้าประตูใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เพียงอยู่บนแท่น เหล่าทหารทรายสีทองนั่นก็เหมือน ได้รับการลบหลู่อย่างรุนแรง คำรามขึ้น ทหารทรายร้อยกว่าตนรวมตัวกันกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดูดุร้าย มีปากกว้างน่ากลัว พุ่งไปทางมู่ชิงเกอ

ดวงตาของมู่ชิงเกอหดตัวลง ร่างสลายหายไปในทันใด ผ่านเข้าไปในประตูยักษ์อย่างรวดเร็ว

ในตอนที่เงาร่างของนางหายไปแล้วนั้น สัตว์ประหลาดที่ดูดุร้ายก็เหมือนว่าสูญเสียเป้าหมายในการต่อสู้ คำรามออกมาด้วยความโกรธ เปลี่ยนเป็นเม็ดทรายละเอียดแตกลง แล้วก็กลับกลายเป็นทหารทรายร้อยกว่าตนดังเดิม พุ่งเข้าโจมตีคนที่เหลือ

เจียงหลีพอมองเห็นฉากภาพนั้น แววตาก็พลันเปล่งประกาย ร้องตะโกนขึ้นว่า “แผนการนี้ใช้ได้ผล!” พูดแล้ว นางก็เลียนแบบตามวิธีของมู่ชิงเกอ พุ่งไปทางประตูยักษ์

เมื่อนางเคลื่อนไหว เหล่าขุนนางหญิงแห่งแคว้นกู่วู่ก็ตามไปด้วย

มั่วหยางก็นำองครักษ์เขี้ยวมังกรพุ่งไปทางประตูยักษ์

จ้าวหนานซิงกับฟ่งอวี๋เฟยก็ทำเช่นเดียวกัน เฉินปี้เฉิงกับหวงฝู่ฮ่วนก็เช่นกัน คนหกสิบสี่คน ทุกๆ คนทำตามวิธีของมู่ชิงเกอ อาศัยพลังจิตเปิดทาง ใช้ความเร็วพุ่งไปทางประตูยักษ์ ผ่านช่องทางเข้า เข้าไป ทหารทรายนับหมื่นถูกการเคลื่อนไหวของพวกเขากระตุ้นให้โมโห รวมตัวกันกลายเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์

ตนหนึ่ง กวาดแขนพุ่งกวาดไปทางประตูยักษ์

ในตอนที่แขนยาวตกลงมานั้น คนสุดท้ายก็ได้ผ่านเข้าไปภายในช่องประตูเรียบร้อยแล้ว

แขนยักษ์พอตกลงบนประตู ก็พลันแตกกระจายกลายเป็นเม็ดทราย

สัตว์ประหลาดยักษ์คำรามอย่างโมโหเสียงหนึ่ง จากนั้นก็กลายเป็นทราย หายไปตามช่องของแผ่นหิน

นี่เป็นการแข่งความเร็วจริงๆ!

คนที่เข้ามาในประตูยักษ์ในใจล้วนแต่หวาดกลัว โดยเฉพาะคนที่เข้ามาเป็นคนสุดท้าย ในตอนที่แขนยักษ์ของสัตว์ประหลาดยักษ์ใกล้เขาเพียงแค่ช่วงเดียวนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงเส้นขอบแห่งความตายแล้ว

คนที่เข้ามาล้วนแต่ทยอยสงบจิตใจ จากนั้นพวกเขาล้วนแต่ใช้สายตามองหาคนที่เข้ามาก่อนใครอย่างมู่ชิงเกอ

นางสวมชุดสีแดง ดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก ตอนนี้ กำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ข้างหน้า

อยู่ด้านหน้าของนางนั้นเป็นตำหนักหลังหนึ่ง ภายในตำหนักว่างเปล่าไร้สิ่งของ มีประตูแปลกประหลาดแปดบาน

บนประตูทั้งแปดบาน สลักคำไว้แปดคำ

แยกเป็น ‘เป็น-ตาย-เป็น-ตาย-เป็น-ตาย-เป็น-ตาย!’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!