ตอนที่ 60
ผิดพลาดและพัฒนา
ภายในหม้อหลอมโอสถ เสมือนเป็นโลกอีกใบหนึ่ง
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย รอบๆ หม้อหลอมถูกเผาไหม้ไปด้วยเพลิงสีแดงอันเร่าร้อนรุนแรง
ภายในหม้อ เต็มไปด้วยไอร้อน และภายใต้การควบคุมของมือโปร่งแสงคู่นั้นผงสมุนไพรก็ค่อยๆ กลายเป็นกลุ่มก้อน แล้วเริ่มหลอมรวมกัน
“ปัง!…!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นออกมาจากหม้อ
มู่ชิงเกอลืมตาขึ้น มองหม้อหลอมที่เต็มไปด้วยควันสีดำ
ไม่สำเร็จ
ยาสมุนไพรที่ถูกบดเป็นผง ในเวลานี้ได้กลายเป็นควันสีดำและหลอมรวมกันอยู่ในหม้อหลอม
มู่ชิงเกอเม้มปาก และไม่ได้เริ่มใหม่ในทันที แต่รวบรวมประสบการณ์ที่ผิดพลาดครั้งแรก เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว ฉะนั้นนางจึงเตรียมยาเอาไว้สิบชุด
นั่นหมายความว่า นางสามารถทดลองสิบครั้งติดต่อกันได้หากไม่สำเร็จ นางจะต้องคัดเลือกยา แบ่งยาเป็นส่วนๆ และทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้
ในความเป็นจริงแล้ว ขั้นตอนก่อนหน้าพวกนี้สามารถ ใช้ลูกน้องทำก็ได้
แต่มู่ชิงเกอรู้สึกว่า ตนเองได้รับการถ่ายทอดจากเทพโอสถ ก็ถือว่าในขั้นตอนของการฝึกปรุงยาและหลอมโอสถนั้นนางได้เปรียบกว่าผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกันก็เสีย โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดสัมผัสกับยาสมุนไพรพวกนี้ เพราะฉะนั้นนางจึงต้องการทำทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้นด้วยตนเอง เพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจในตัวยา
พักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา แล้วมู่ชิงเกอก็เริ่มปรุงยาอีกครั้ง
ปัง!
ปังปัง!
ปังปังปัง!
ไม่สำเร็จ ไม่สำเร็จอีกแล้ว!
ใบหน้าอันงดงามของมู่ชิงเกอกลายเป็นสีดำเพราะควันเขม่าจากหม้อหลอม
ยาสมุนไพรบนโต๊ะหมดแล้ว แต่นางกลับยังหลอมโอสถไม่สำเร็จเลยแม้แต่หม้อเดียว
มู่ชิงเกอปัดฝุ่นบนเสื้อ แล้วลุกขึ้นยืน เดินกลับไปคัดเลือกยาจากตู้ยาใหม่
“การหลอมโอสถนั้น ยากกว่าที่ข้าคิดไว้” มู่ชิงเกอพึมพำ นํ้าเสียงของนางนิ่งเรียบมาก ไม่ได้หมดกำลังใจหรือเสียใจที่ผิดพลาดมาโดยตลอด
ราวกับว่า นางไม่สงสัยในความสามารถด้านการปรุงยาหลอมโอสถของตนเองเลย
อืม นางเชื่อแบบนี้ เพราะในเมื่อตำรายานี้สืบทอดมาให้กับนาง แสดงว่านางต้องมีความสามารถในด้านนี้ มิเช่นนั้น ตำรายาอันยิ่งใหญ่นั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะตกทอดมายังผู้ที่ไร้ความสามารถด้านการปรุงยาเลยแม้แต่น้อย เพราะมีความเชื่อแบบนี้มู่ชิงเกอจึงเตรียมยามาอีก 15 ชุด
มู่ชิงเกออยู่ในห้องปรุงยามาทั้งวันทั้งคืนแล้ว นางวางยาที่เตรียมเอาไว้ และไม่ได้เริ่มปรุงในทันที แต่กำลังฝึกฝนพลังจิต
การใช้พลังจิตติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน ทำให้นางเริ่มมีอาการวิงเวียน
นางจึงต้องการพักสมองเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นบ้าง
ในตอนนี้ การฝึกพลังจิตของตนเอง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
พลังเวทสายเหลืองขั้นสูงสุด สำหรับคนอื่นๆ แล้ว ถือว่าเก่งกาจแล้ว แต่สำหรับนาง ยังถือว่าอ่อนมาก
หลังจากตื่นจากการฝึก ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งคืน
มู่ชิงเกอรับประทานอาหารและเริ่มฝึกปรุงยา ตั้งแต่ต้นจนจบ มู่ชิงเกออยู่ในห้องเป็นเวลา 5 วัน 6 คืน พอวันที่ 6 มู่ชิงเกอจมอยู่ในการฝึกฝนพลังไม่ได้ตื่นขึ้นมาเหมือนยามปกติ แต่ว่าขมวดคิ้ว พลังในร่างกาย เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น ร่างกายของนางก็มีแสงสีเหลืองดั่งทองคำอันเข้มข้นสาดประกายไปทั่วห้อง
หากไม่ใช่เพราะในห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ไม่แน่ว่าแสงสีเหลืองนั้นอาจจะส่องออกไป ทำให้คนข้างนอกเข้าใจผิดว่า ในห้องมีพระอาทิตย์อีกดวง
แสงสีเหลืองส่องประกายไม่นาน ก็เริ่มค่อยๆ จางลง แต่สีก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป
แสงที่เคยเป็นสีเหลืองค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว…
หลังจากนั้นแสงสีเหลืองบนตัวของมู่ชิงเกอก็หายไป สิ่งที่มาแทนคือแสงสีเขียวอ่อนๆ ที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวนาง ราวกับนางเป็นมนุษย์หยกก็ไม่ปาน
สักพัก แสงสีเขียวก็แทรกเข้าสู่ร่างกายของมู่ชิงเกอและหายไป ในห้องไม่มีแสงสีเหลืองหรือแสงสีเขียวอยู่อีกเลย
มู่ชิงเกอค่อยๆ ลืมตาขึ้นริมฝีปากที่ปิดสนิทค่อยคลายออก “สายเขียวขั้นต้น”
นางไม่คิดว่า หลังจากที่ตั้งใจฝึกปรุงยามาหลายวัน ความสามารถในการปรุงยาไม่ได้เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้พลังเวทของตนเองมากขึ้นแทน จากสาย เหลืองขั้นสูงสุดเข้าสู่สายเขียว
มู่ชิงเกอเก็บความรู้สึกในใจเอาไว้ แล้วก็เริ่มฝึกปรุงยาอีกครั้ง
สำหรับนางแล้วการเลื่อนขั้นพลังเวทไม่ใช่อะไรที่น่าดีใจขนาดนั้น นอกจากว่า ตื่นมานางได้กลายเป็นสายม่วงในตำนาน
หลังจากที่ผ่านการฝึกมาหลายวัน การคัดยาของมู่ชิงเกอคล่องแคล่วมากขึ้น
ตอนนี้ นางไม่จำเป็นต้องใช้ตราชั่ง ชั่งยาอีกต่อไป แค่ใช้มือจับก็สามารถชั่งยาได้อย่างแม่นยำ ขนาดการแบ่งยาก็ไม่ต้องละเอียดอ่อนมาก แค่ใช้มือปัด พวกสมุนไพรที่ไม่มีคุณภาพก็จะถูกทิ้งออกไปโดยไม่คลาดเคลื่อน
มู่ชิงเกอเอาตัวยาที่เตรียมเอาไว้ใส่ลงในหม้อหลอม…
มือคู่เล็กๆ ที่โปร่งแสง บดยานานาชนิดในหม้อให้กลายเป็นผง และค่อยๆ หลอมรวมมันเข้าด้วยกัน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในครั้งก่อนๆ มู่ชิงเกอเหมือนจะจับจุดการหลอมรวมได้ ขนาดของยานั้นไม่ผิดพลาด แต่ต้องหาจุดเชื่อมและหลอมเหลวยา
ในขั้นตอนของการหลอมรวมนี้ มู่ชิงเกอทำช้ามาก
นางไม่กลัวว่าจะพลาดอีกครั้ง แต่ต้องดูทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
การปรุงยาชิงชินซ่าน ต้องใช้ตัวยาทั้งหมด 15 ชนิด การหลอมรวมแบบนี้เป็นการหลอมรวมยาทั้ง 15 ชนิดที่ไม่ง่ายเลย เพราะต้องใช้การหลอมรวมเป็นเท่าตัว
การหลอมรวมยิ่งใกล้ถึงตอนท้าย ก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย
การหลอมรวมในขั้นตอนแรกๆ มู่ชิงเกอผ่านมาได้อย่างง่ายดาย
เพราะการหลอมรวมขั้นกลางๆ มู่ชิงเกออิงจากประสบการณ์ความผิดพลาดในครั้งก่อนๆ จึงผ่านมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่นาน การหลอมรวมครั้งสุดท้ายก็มาถึง
หากการใช้พลังจิตครั้งนี้สำเร็จ นางก็จะหลอมยาหม้อแรกสำเร็จ
หน้าผากของมู่ชิงเกอเริ่มมีเหงื่อไหลออกมา นางส่งพลังจิตเข้าไปในหม้อหลอมมากกว่าเดิม เพื่อคุ้มกันผงยาที่ไม่ค่อยคงที่
ภายในหม้อ มือคู่เล็กๆ ที่โปร่งแสงเอาผงยาชุดสุดท้ายลงในหม้อ
ทันใดนั้น ผงยาพวกนั้นหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันและสั่นอย่างรุนแรง
มือเล็กๆ ที่โปร่งแสงล้อมรอบผงยา เหมือนผงยาที่กำลังสั่นอย่างรุนแรงนั้นเป็นรูบิตก็ไม่ปาน
ในที่สุด ผงยาพวกนั้นก็นิ่งลง
กลิ่นหอมของยาสมุนไพรลอยออกมาจากหม้อหลอม ทำให้มู่ชิงเกอรีบลืมตาขึ้น ตาคู่ที่สว่างและสดใสเป็น ประกายขึ้นมา : สำเร็จแล้ว!