Skip to content

พลิกปฐพี 645

ตอนที่ 645

บุกเขาวงกตยามราตรี

“ข้ายังนึกว่าราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยจะนำของที่วิเศษวิโสอะไรมา ที่แท้ข้าก็คิดมากไปเองแท้ๆ”

“ข้าก็เหมือนกัน ไม่ใช่เจ้าคนเดียวหรอก”

“ที่แท้ก็เป็นของที่ซื้อหาได้ง่ายในเมืองอู๋หวา ช่างมีใจจริงๆ นะ”

“พูดเช่นนี้ไม่ได้ จริงๆ แล้ว ราชาเทวะน้อยฮ่วนเยวี่ยเพียงท่องเที่ยวมาถึงที่นี่เท่านั้นไม่ได้ถูกเชิญมา”

คนที่คิดจะพบปะพูดคุยกับมู่ชิงเกอเพื่อตีสนิทแต่ถูกชูเนี่ยนกีดกัน ทั้งยังอึดอัดใจตอนอยู่ต่อหน้าราชาเทวะอู๋หวาเวลานี้ต่างถือโอกาสระบายความอึดอัดใส่มู่ชิงเกอ

พวกเขาไม่กล้าบ่นว่าราชาเทวะอู๋หวา แต่ราชาเทวะน้อยมู่ชิงเกอพวกเขาไม่ได้หวั่นเกรงมากนัก

อีกทั้งราชาเทวะน้อยคนนี้ก็เป็นดินแดนฮ่วนเยวี่ย แห่งแผ่นดินเทพตะวันออก ไม่ใช่ดินแดนอู๋หวา

เสียงประหลาดเหล่านี้แม้จะเบามาก แต่คนในตำหนักใหญ่ มีใครบ้างที่ตบะตํ่ากว่าขั้นถํ้าวิญญาณชั้นหนึ่ง ต่อให้เสียงเบากว่านี้ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน

เสียงเยาะเย้ยนี้ทำให้ชูเนี่ยนขมวดคิ้วนิดๆ แววตาผุดความไม่พอใจขึ้นมา

นางค่อยๆ หันหน้าไป ตาหงส์ส่งสายตาตักเตือน กวาดมองไปทางคนที่เยาะเย้ยถากถางมู่ชิงเกอ

ถึงแม้ชูเนี่ยนเป็นผู้หญิงแต่ฐานะของนางไม่เพียงแค่เป็นบุตรสาวราชาเทวะอู๋หวา แต่ยังเป็นราชาเทวะน้อยของดินแดนอู๋หวา อีกทั้งอายุของนางเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ในที่นั้นก็ยังมากกว่า

ดังนั้น เมื่อถูกนางมองมาผู้คนที่เยาะเย้ยถากถางต่างปิดปาก หลบสายตา

ตำหนักใหญ่ค่อยๆ เงียบสงบลง

ภาพนี้มู่เทียนอินที่อยู่นอกตำหนักเห็นแล้วมีสีหน้ามืดคลํ้าน่ากลัว ความโกรธที่บอกไม่ถูกราวกับพร้อมที่จะปะทุออกมา

เขายินดีที่ได้เห็นมู่ชิงเกอเสียหน้า ทั้งยังหวังให้เขาเสียหน้ายิบเยินจนไม่มีหน้าอยู่ต่อไปอีก แต่เขาไม่ชอบและยิ่งไม่อยากเห็นชูเนี่ยนยื่นมือเพื่อช่วยมู่ชิงเกอ

ถือดีอะไร

เจ้าคนตํ่าช้าด้อยค่าจึงได้รับความสนใจจากชูเนี่ยน

จนตำหนักใหญ่เงียบสงบลงแล้ว มู่ชิงเกอจึงยิ้มแล้วพูดว่า “ราชาเทวะ ของขวัญวันเกิดเหล่านี้ซื้อในเมืองอู๋หวาจริงๆ”

นํ้าเสียงนางนิ่งมาก ไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ขลาดกลัว ราวกับว่าเสียงเยาะเย้ยเมื่อครู่นี้ไม่เคยปรากฎมาก่อน แต่พอผู้คนได้ยินนางยอมรับโดยดุษณีก็กลับส่งเสียงอื้ออึงออกมาอีกครั้ง

แม้แต่สองตาของราชาเทวะอู๋หวายังหรี่ลง เดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

ชูเนี่ยนมองมู่ชิงเกออย่างร้อนใจ เกรงว่าเขาจะหาทางลงไม่ได้ แต่ในส่วนลึกของหัวใจก็มีเสียงดังขึ้นว่า ‘เชื่อมู่ชิงเกอ เขาสามารถจัดการได้’

“ซื้อในเมืองอู๋หวาจริงๆ หรือ”

“ไม่เห็นราชาเทวะอู๋หวาอยู่ในสายตาหรือ”

“เหอะเหอะ แค่เก็บของง่ายๆ ในเมืองอู๋หวาแล้วก็มาหลอกกินหลอกใช้ของในวังอู๋หวา หน้าหนาจริงๆ”

“น่าหัวเราะที่สุด ยอมรับอย่างหาญกล้าเลย” เสียงถากถางดังขึ้นเรื่อยๆ

ราวกับว่าเมื่อมู่ชิงเกอยอมรับว่าของเหล่านี้มาจากเมืองอู๋หวาแล้ว พวกเขาก็ยิ่งจะเยาะเย้ยได้อย่างไม่ต้องกริ่งเกรงอะไร

เสียงบาดหูเหล่านี้ทำให้ใบหน้างามของชูเนี่ยนเหมือนเคลือบด้วยนํ้าแข็ง

หยินเฉินก็ส่งสายตาเย็นเฉียบมองไปที่คนเหล่านั้น

แต่การเตือนเช่นนี้ราวกับไม่ได้ผล เสียงเหล่านั้นไม่ได้ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้น

เมื่อเห็นมู่ชิงเกอกลายเป็นคนที่ถูกคนในตำหนักเยาะเย้ย อารมณ์ของมู่เทียนอินก็ดีขึ้นมาก เวลานั้นเขารู้สึกโชคดี โชคดีที่คนที่ยืนในตำหนักไม่ใช่ตัวเอง

เนื่องจากของขวัญที่เขาเตรียมนั้นก็ซื้อในเมืองอู๋หวาเหมือนกัน

มุมปากมู่เทียนอินยิ้มเยาะ สายตาเต็มไปด้วยความสมน้ำหน้าที่มู่ชิงเกอถูกเยาะเย้ย เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางชูเนี่ยน เห็นนางมีสีหน้าเย็นเฉียบก็คิดในใจว่า ‘ค่อยๆ ดูไป คนแบบนี้เหมาะสมกับเจ้าหรือ คนตํ่าช้าย่อมเป็นคนตํ่าช้า ต่อให้เป็นราชาเทวะน้อยก็ยังดิ้นไม่หลุดจากความต่ำช้าที่ติดตัวมา’

ใจเขาเริ่มค่อยๆผุดความคิดขึ้นมา

ราวกับว่าอยากให้มู่ชิงเกอขายหน้าต่อหน้าชูเนี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้ชูเนี่ยนนึกถึงความดีตัวเอง

“ราชาเทวะน้อยฮ่วนเยวี่ยคนนี้ทำอะไรแบบขอไปที โอหังเกินไปหน่อยแล้ว”

“ใช่แล้ว ในเมื่อมาอวยพรวันเกิด ย่อมต้องตั้งใจหน่อย ไม่ว่าของจะดีจะเลวอย่างน้อยต้องมีใจให้ราชาเทวะอู๋หวาได้เห็น”

ข้างกายมู่เทียนอินก็มีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นเหมือนกัน ใจความที่วิจารณ์ทำให้จิตใจเขามีความสุขยิ่งนัก

ในตำหนัก ชูเนี่ยนอดไม่ได้มองไปทางบิดาตัวเอง ขณะที่ราชาเทวะอู๋หวาเห็นแววตาที่บุตรสาวส่งมาเพื่อขอความช่วยเหลือก็กำลังจะออกปากแก้ต่างให้มู่ชิงเกอ แต่มู่ชิงเกอกลับเปิดปากพูดขึ้นเสียก่อน

จริงๆ แล้ว ราชาเทวะอู๋หวาออกจะผิดหวังต่อของขวัญที่มู่ชิงเกอเตรียมมาให้

เพียงแต่ ติดที่หน้าบุตรสาวตัวเองทำให้เขาต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกทั้งยังมีหน้าของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยอีกด้วย

ใครจะรู้ว่า มู่ชิงเกอกลับพูดตรงๆ กับเขาว่า “ราชาเทวะอู๋หวา ขณะที่ข้ามาถึงได้แจ้งแล้วว่า ข้าท่องเที่ยวอยู่บริเวณนี้รู้ว่าราชาเทวะจัดงานวันเกิดจึงเกิดความคิด อยากมาอวยพร ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงไม่ได้เตรียมของที่เหมาะสมไว้ก่อน ขออภัยด้วยจริงๆ”

คำพูดของมู่ชิงเกอจริงใจ ไม่มีการเสแสร้งแม้แต่นิด ไม่ได้มีความคิดเอาตัวรอด ทำให้อารมณ์ของราชาเทวะอู๋หวา ผ่อนคลายลงบอกเขาว่า “ไม่มีปัญหา การที่ราชาเทวะน้อยมาได้ย่อมสำคัญกว่าของขวัญทุกชนิด”

ราชาเทวะอู๋หวาถึงขนาดพูดเช่นนี้

คำพูดนี้ทำเอาทุกคนต่างตกตะลึง

ราวกับว่าคำพูดพวกเขาเมื่อครู่นี้เป็นการเสแสร้ง

การออกตัวปกป้องของราชาเทวะอู๋หวาทำให้มู่เทียนอินเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมาอีก

สีหน้าเขาเหี้ยมโหดมากขึ้น ความแค้นในแววตาไหวระริกไม่ได้หยุด

ขณะที่ทุกคนคิดว่ามู่ชิงเกอคงจะมีทางลงได้แล้ว มู่ชิงเกอก็กลับเปิดปากอีก “ขอบคุณราชาเทวะอู๋หวาที่ให้ความเมตตา แต่ในเมื่อมางานเลี้ยงวันเกิด หากไม่มีของขวัญวันเกิดเลยก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ของเหล่านี้เป็นเพียงของประจำถิ่นเมืองอู๋หวา นับไม่ได้ว่าเป็นของขวัญวันเกิด ของขวัญวันเกิดที่ข้าจะมอบให้ราชาเทวะ ความจริงอยู่ที่นี่”

พูดแล้ว นางก็พลิกฝ่ามือ ในมือปรากฎขวดกระเบื้องขวดหนึ่งขึ้น

ขวดนั้นดูเรียบๆ แต่กลับเปล่งแสงรัศมี พอปรากฎขึ้นก็ดึงดูดสายตาของคนทั้งตำหนักไว้

แม้แต่ราชาเทวะอู๋หวายังนั่งตัวตรง มองขวดในมือมู่ชิงเกอด้วยความสงสัย

ชูเนี่ยนเองก็เช่นเดียวกัน เมื่อนางเห็นมู่ชิงเกอหยิบขวดกระเบื้องออกมา สายตาก็เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร

ทั้งตำหนักคงมีเพียงหยินเฉินกับมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้ว่าในขวดกระเบื้องนั้นใส่อะไรไว้

มู่ชิงเกอเปิดฝาขวด ทันใดนั้นกลิ่นหอมโอสถก็ทะลักออกมา แผ่กระจายทั่วไปในตำหนักใหญ่จนทุกคนต่างได้กลิ่น

“หอมโอสถมากจริงๆ”

“ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่งจังเลย”

“เอ๊ะ แค่ได้กลิ่นโอสถก็ทำให้ร่างกายโล่งสบาย ราวกับโรคภายในหายไปหมด” “ใช่ใช่ ข้าก็รู้สึกเหมือนก้น”

“พวกเจ้าก็เป็นหรือ ข้ายังนึกว่าข้าคิดไปเอง”

คนในตำหนักใหญ่ต่างอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจแรงๆ อยากสูดดมความหอมของโอสถให้มากขึ้น

ชูเนี่ยนเองก็สูดดมเข้าไปด้วย นางรู้สึกอบอุ่นไปทั้งร่างกายทันที สุขสบายอย่างมาก

ความหอมของโอสถบางส่วนโชยออกไปนอกตำหนักจากประตูที่เปิดเอาไว้ทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างนอกก็ได้กลิ่นนั้นด้วย

“หอมจริงๆ เลย”

“หอมจริงๆ ได้กลิ่นแล้วสดชื่นแจ่มใส ความเหนื่อยล้าวันนี้หายไปหมดเลย”

นอกประตูตำหนักเริ่มวิจารณ์กันขึ้นมาแล้ว

นี่ทำให้สีหน้ามู่เทียนอินน่าเกลียดขึ้นไปอีก เขาเองก็ได้กลิ่นหอมของโอสถ ย่อมรู้สึกถึงความไม่ธรรมดา ดังนั้น มู่ชิงเกอที่สามารถนำโอสถขนาดนี้ออกมาได้จึงยิ่งทำให้เขาอิจฉาริษยา

ราชาเทวะอู๋หวารู้สึกว่ากลิ่นหอมโอสถที่เข้มข้นวนเวียนอยู่ตรงปลายจมูก ทำให้เขาอดไม่ได้ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในทันที เขาพลันรู้ลึกว่าอาการบาดเจ็บเรื้อรังแต่ก่อนของตนเหมือนจะดีขึ้น

ทันใดนั้น ดวงตาก็เปล่งประกายร้อนแรง ถามขึ้นมาว่า “เป็นโอสถอะไรหรือ”

“นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ข้าเตรียมไว้ให้ราชาเทวะอู๋หวา โอสถบำรุงเก้าหมุนวนขั้นสมบูรณ์ระดับมหาเทพ” มู่ชิงเกอยิ้ม เมื่อพูดจบแล้วก็ปิดฝาขวดกระเบื้องในมือลง

“เจ้าว่าอะไรนะ! โอสถขั้นสมบูรณ์ระดับมหาเทพรึ” ราชาเทวะอู๋หวาแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา

แม้แต่ชูเนี่ยนก็ยังมองมู่ชิงเกอด้วยความตกใจ

พวกเขาสองคนยังเป็นเช่นนี้ไม่ต้องพูดถึงพวกที่อยู่ในตำหนักเลย

พวกที่เคยเยาะเย้ยมู่ชิงเกอต่างงุนงงอยู่กับที่ราวกับถูกสกัดจุด ไม่อาจระดุกกระดิกได้

เขาพูดอะไรนะ

ระดับมหาเทพ…โอสถขั้นสมบูรณ์ โอสถจะให้ผลอย่างไรนั้นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสนใจ สิ่งที่พวกเขาสนใจก็คือ มู่ชิงเกอสามารถมอบโอสถระดับนี้ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย

“ใช่ ของขวัญวันเกิดเล็กน้อย ราชาเทวะโปรดอย่าได้รังเกียจ” มู่ชิงเกอพูดจบพลังเทพในมือก็ค่อยๆยกขวดกระเบื้องลอยไปทางราชาเทวะอู๋หวา

ราชาเทวะอู๋หวาตื่นเต้นจนรีบคว้าไว้และเปิดฝาขวดทันที เมื่อเขาพิจารณาอย่างละเอียดแล้วประกายในดวงตาก็แวววับ พูดด้วยความยินดีว่า “โอสถขั้นมหาเทพจริงๆ”

ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกมาตลอดทั้งคืนมีรอยยิ้มออกมาจนได้

ดูออกว่า เขาพอใจมากต่อของขวัญวันเกิดของมู่ชิงเกอ

‘โอสถระดับมหาเทพ ถึงขนาดเป็นโอสถระดับมหาเทพ’

มู่เทียนอินที่อยู่นอกตำหนักแทบจะบีบกระดูกมือตัวเองจนแตก สาดความแค้นในสายตาออกไป

“นายน้อย”

เวลานี้เอง มู่หลินกับมู่ซานก็กลับมายืนอยู่ด้านข้างมู่เทียนอินอีกครั้ง

พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตำหนัก เพียงบอกข้อมูลที่สืบมาได้

“เขาวงกตเป็นเขตหวงห้าม นอกจากราชาเทวะอู๋หวาแล้ว ใครก็เข้าไปไม่ได้ แม้แต่องค์หญิงชูเนี่ยนก็ไม่ได้”

มู่เทียนอินเบิกตา พึมพำในใจว่า ‘เขาวงกตหรือ’

ในตำหนัก ภายใต้สายตาตกตะลึงของคนอื่นและสายตาพึงใจของราชาเทวะอู๋หวา มู่ชิงเกอก็กลับเข้าประจำที่

รับของขวัญวันเกิดมู่ชิงเกอแล้ว ราชาเทวะอู๋หวาก็ประกาศเริ่มงานเลี้ยง

มู่เทียนอินเองก็ได้ตามกลุ่มคนเข้าอวยพรวันเกิดราชาเทวะอู๋หวาในวังราชาเทวะด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าราชาเทวะอู๋หวาไม่ได้สนใจเขา ชูเนี่ยนเองก็ไม่ได้สนใจเขา

งานเลี้ยงจัดยาวต่อเนื่องจนถึงเที่ยงคืน ทุกคนต่างดื่มกันไปไม่น้อย

มู่ชิงเกออ้างเหตุว่าเมาสุราออกจากงานเลี้ยงก่อน คืนนั้นภายใต้สายตาทุกคนมู่ชิงเกอดื่มสุราไปมากจริงๆ ดื่มจนชูเนี่ยนยังรู้สึกปวดใจแทน

แต่ในขณะที่ถูกหยินเฉินพยุงออกจากวังราชาเทวะในมุมเปลี่ยวแห่งหนึ่งตัวนางก็วาบหายไปในทันที ส่วนคนที่ปรากฎขึ้นมาแทนหยินเฉินพยุงกลับตำหนักข้างไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!