ตอนที่ 678
เข่นฆ่าเพียงฝ่ายเดียว
“เขานำคนมาเท่าไรกันแน่” สีหน้าผู้เฝ้ามองเปลี่ยนไปทันที มองไปที่ราชครู
นี่เกินความคาดหมายของเขาไปมากจริงๆ
เดิมเข้าใจว่านี่คือทางตัน หลังจากทำให้มู่ชิงเกอไร้ซึ่งหนทางรอดแล้วจึงค่อยส่งคนไปช่วยเหลือเขาออกมา
หนึ่ง เขาจะได้รู้ว่าความสามารถของมู่ชิงเกอมีมากเท่าไร สอง เพื่อตักเตือนเขาให้รู้ถึงสถานะของตระกูลมู่ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร
แต่เขานึกไม่ถึงว่า มู่ชิงเกอจะทำให้เขาสะท้านใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“ข้ารู้ว่าเขามีช่องว่าง เนื่องจากข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของเจ้า แต่ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถนำคนมาได้มากมายถึงขนาดนี้” นํ้าเสียงของผู้เฝ้ามองยังไม่หายตะลึง
เขาเข้าใจว่าช่องว่างของมู่ชิงเกอคงซ่อนคนได้เพียงไม่กี่คน นำคนที่สำคัญเช่นผู้เฝ้ามองไว้ข้างกายก็น่าจะพอ
แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะซ่อนคนไว้ได้ทั้งกองทัพ
อีกทั้งกองทหารเหล่านั้น เขายังจำหน้าได้ทั้งหมด ล้วนเป็นนายทหารติดตามบรรพชนตระกูลมู่รบทัพจับศึกทั่วทุกสารทิศ เป็นชุดที่ติดตามบรรพชนตระกูลมู่สายหลักลงไปสู่แดนข้างล่าง
เขานึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาต่างกลับมาแล้ว อีกทั้งยังกลับมาด้วยวิธีการเช่นนี้
เก้าชั้นฟ้า บนก้อนหินลอยนั้น เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพหลายพันคนที่เป็นฝ่ายได้เปรียบเต็มประตู เวลานี้ต่างมึนงง
พวกเขาเห็นมู่ชิงเกอเพิ่มคนเป็นๆ ขึ้นไม่หยุดด้วยตาตัวเอง ต่างตกตะลึงจนหาที่เปรียบไม่ได้
โดยเฉพาะ เมื่อสองคนสุดท้ายปรากฎตัวขึ้นมาก็ยิ่งทำให้พวกเขาเริ่มเสียขบวน
ขั้นศักดิ์สิทธิ์!
ทั้งยังมีถึงสองคน!
“เป็นไปได้อย่างไร”
“พวกเขาออกมาจากที่ไหนกัน”
“หรือว่าเรื่องวันนี้เป็นหลุมพราง”
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาสิ้นหวังยังรออยู่หลังจากนี้ โห่วที่ยืนอยู่ข้างๆ มู่ชิงเกอ แสยะยิ้มที่มุมปากทำให้ครึ่งใบหน้าที่มีรอยสักยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้น พลังบารมีของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเพิ่มระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่นานก็เข้าสู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ขั้นศักดิ์สิทธิ์สามคน!
ลูกศิษย์ดินแดนเทพหลายพันคนสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน แววตาเริ่มหวาดหวั่นขึ้นมา
มู่ชิงเกอค่อยๆ บิดคอ ยิ้มมองดูพวกเขาว่า “เป็นอย่างไร ตื่นเต้นดีไหม”
“เจ้า!” คนที่คอยบีบคั้นมู่ชิงเกอมองมู่ชิงเกอด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป เขาพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “เจ้าต่างหากจึงจะเป็นคนของตระกูลมู่”
ไม่สนใจผิดถูกอีกแล้ว สัญชาตญาณบอกเขาเช่นนั้น
เรื่องมาจนถึงป่านนี้แล้ว มู่ชิงเกอก็ขี้เกียจเล่นลิ้นกับพวกเขาอีก นางยิ้มน้อยๆ พูดอย่างสนุกว่า “ขอแนะนำตัวเป็นทางการ ข้าชื่อมู่ชิงเกอ เป็นราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยจริงๆ และยังเป็นนายน้อยตระกูลมู่ด้วย”
อะไรกัน!
เขายอมรับแล้ว!
เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพตกใจตะลึงงัน คำตอบนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะนึกฝันได้
นายน้อยตระกูลมู่เป็นราชาเทวะน้อยหรือ
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่
“เขาก็เป็นนายน้อยตระกูลมู่” มู่ชิงเกอชี้ที่ศพมู่เทียนอิน แล้วบอกพวกเขา
ตระกูลมู่มีนายน้อยสองคน!
มู่ชิงเกอยิ้ม รอยยิ้มดูแปลกประหลาด
คำพูดของนางทำให้เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพต่างตกอยู่ในความหวาดผวา ขณะนี้เองนางก็ยกทวนหลิงหลงขึ้นสูงและออกคำสั่ง “ฆ่า…อย่าให้เหลือแม้เพียงคนเดียว”
พอนางออกคำสั่งกองทัพที่เหลือของตระกูลมู่ต่างส่งเสียงคำรามกระหึ่มขึ้นพร้อมกัน “ฆ่า…”
พวกเขาพลันพุ่งออกจากข้างกายมู่ชิงเกอราวกับเสือหิว โผไปยังเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพหลายพันคนนั้น
เดิมทีพวกเขาก็เป็นคนที่นี่อยู่แล้ว อาศัยในเก้าชั้นฟ้ามาแล้วไม่รู้นานเท่าไร หมื่นปีมานี้แม้ถูกบังคับให้เดินทางไปอยู่ต่างแดน แต่ความรู้สึกผูกพันต่อถิ่นเดิมก็ไม่เคยจางหายไป
เวลานี้ขณะที่พวกเขากลับมาเหยียบพื้นดินแผ่นดินเทพทั้งลี่สมุทรกลับยืนอยู่บนซากปรักหักพังของเก้าชั้นฟ้า แต่แรกนั้นพวกเขายังจำไม่ได้ด้วยซํ้าว่าที่นี่คือที่ไหน
จนเมื่อพวกเขาเห็นร่องรอยคุ้นเคยที่พอจะจำได้จากซากปรักหักพังเหล่านี้จึงรู้ว่าที่นี่คือเก้าชั้นฟ้าที่พวกเขาเคยภาคภูมิใจนักหนา
บ้านของตนเองถูกทำลายลงจนเป็นเช่นนี้ ความเก็บกดนับหมื่นปีจึงระเบิดออกมาในใจพวกเขา
หากไม่ใช่เพราะมู่ชิงเกอยังไม่ออกคำสั่ง พวกเขาคงพุ่งออกไปสังหารเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพเหล่านี้จนหมดสิ้นแล้ว
หมื่นปีก่อน คนที่ลงมือต่อตระกูลมู่ ต่อเก้าชั้นฟ้า ผู้นำก็คือสี่ดินแดนเทพของแผ่นดินเทพตะวันตก ดังนั้น ลูกศิษย์ของพวกเขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์
ในที่สุด พวกเขาก็ได้รับคำสั่งจากมู่ชิงเกอ
พอคำสั่งนางออกมา ทุกคนต่างปลดปล่อยความต้องการสังหารที่เก็บกดมานานนับหมื่นปีออกมาทันที
พวกเขาต่างแยกย้ายพุ่งไปยังก้อนหินลอยที่ต่างกัน เริ่มต้นสู้รบ
บนก้อนหินลอยของเก้าชั้นฟ้า ตกอยู่ในความชุลมุน หยินเฉินกับโห่วก็ร่วมสู้รบด้วย หุ่นเทพมารทั้งสองของมู่ชิงเกอ หุ่นมารได้พุ่งไปยังข้าศึกตรงหน้าตามที่มู่ชิงเกอสั่งการ
ส่วนหุ่นเทพเฝ้าระวังอยู่ข้างกายมู่ชิงเกอ มือถือคันธนูคอยยิงสังหารทุกคนที่คิดเข้าใกล้มู่ชิงเกอ
‘ลูกพี่ลูกพี่ ข้าก็อยากไปด้วย’ ในทวนหลิงหลงมีเสียงตื่นเต้นยินดีของหยวนหยวนส่งออกมา
มู่ชิงเกอมองดูเขาแล้วยิ้มนิดๆ คลายมือที่กำทวนหลิงหลงออก
ทันใดนั้น ทวนหลิงหลงก็บินขึ้นมาเอง พุ่งเข้าหาศัตรู ทะลุผ่านหน้าอกลูกศิษย์ดินแดนเทพสามคน เก็บชีวิตมาได้ในพริบตา พอทวนตกลงบนพื้นก็กลายร่างเป็นหยวนหยวนปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าหยินเฉิน โห่วและไป๋สี่
การปรากฎตัวของหยวนหยวนทำให้พวกเขายินดีนัก แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยความหลังกัน ทั้งหมดจึงเพียงแลกเปลี่ยนสายตาแล้วเข่นฆ่าศัตรูกันต่อ
มู่ชิงเกอคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ลงมือด้วย
เนื่องจากที่นี่ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้นางลงมือ
เหล่าลูกศิษย์บางคนที่เห็นท่าไม่ดีคิดจะหลบหนี แต่ยังไม่ทันออกจากบริเวณเก้าชั้นฟ้าก็ถูกไป๋สี่ดูดเข้าท้อง กินจนไม่เหลือแม้แต่เศษซากกระดูก
บนก้อนหินลอยนั้น การรบเป็นไปเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น ผู้เฝ้ามองตกใจจนตะลึงงัน สิ่งที่เขาวางไว้ออกนอกแผนที่เขากำหนดไปโดยไม่รู้ตัว เกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้
สถานการณ์เช่นนี้ นอกจากครั้งหานชุ่นที่มู่เทียนอินกลับมามือเปล่าแล้ว นี้เป็นครั้งที่สอง
อีกทั้งครั้งที่สองยังเกิดขึ้นที่เบื้องหน้าเขาเอง ยิ่งทำให้เขาสะท้านใจยิ่งนัก
คำสั่งเดียวของมู่ชิงเกอได้รับการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง และมู่เทียนอินก็ไม่สามารถเทียบได้เลย
นี่ไม่ใช่การสู้รบ
แต่เป็นการเข่นฆ่าฝ่ายเดียวเท่านั้น
ขณะที่ลูกศิษย์ดินแดนเทพคนสุดท้ายล้มลง เลือดสดๆ ก็ย้อมก้อนหินลอยจนเป็นสีแดงฉานไปหมด แต่ผู้เฝ้ามองก็ยังไม่รู้สึกตัว
“นายน้อย”
“นายน้อย”
เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ทุกคนต่างกลับมาข้างกายมู่ชิงเกอ ไป๋สี่เองก็ลงมาจากท้องฟ้าแปลงร่างเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์แววตาเย็นเฉียบเดินมาหามู่ชิงเกอ
“ชิงเกอ ทีหลังอย่าให้ข้ากินของที่น่าสะอิดสะเอียนพวกนี้ได้ไหม” ไป๋สี่ดัดเสียงบ่นไปคำหนึ่ง
มู่ชิงเกอยิ้มเล็กน้อยบอกคนตระกูลที่เหลือว่า “สถานการณ์ตระกูลมู่ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรยังไม่มั่นคง พวกเจ้ายังอยู่ในช่องว่างชั่วคราวจะดีกว่า”
“ขอรับ นายน้อย” คนในตระกูลที่เหลือไม่ได้ขัดขืนคำสั่งมู่ชิงเกอแม้เพียงนิดเดียว
เพียงแวบเดียวก็ถูกนางเก็บไว้ในช่องว่าง
“หยวนหยวน เจ้าเด็กนี่ฟื้นกลับมาจนได้สินะ” ไป๋สี่เห็นหยวนหยวนก็ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ