ตอนที่ 681
นายน้อยตระกูลข้า!
ซี้ด!
อินผิงสูดลมหายใจเย็นวาบอดไม่ได้จับจ้องไปที่มู่ชิงเกอ
ท่ามกลางความเยือกเย็นของมู่ชิงเกอ เขาคารวะมู่ชิงเกอ “ยินดีกับราชาเทวะน้อยมู่ ท่านได้ทำความชอบครั้งยิ่งใหญ่แล้ว!”
ท่าทางเกินจริงของเขาทำให้มู่ชิงเกอยิ้มเยาะในใจ
แต่นางไม่ได้แสดงออกแม้เพียงนิด เพียงพูดว่า “ความชอบใหญ่หรือ ข้ารู้เพียงว่าเก้าชั้นฟ้ามีคนตายมากมาย อีกทั้งล้วนเป็นลูกศิษย์สี่ดินแดนเทพแผ่นดินเทพตะวันตกด้วย”
อะไรนะ!
“ราชาเทวะน้อยว่าอะไรนะขอรับ” คำพูดมู่ชิงเกอทำให้อินผิงรู้สึกถึงความผิดปกติรีบเอ่ยถามขึ้นทันที
เพียงแต่ครั้งนี้คนที่ตอบไม่ใช่มู่ชิงเกอ แต่เป็นหยินเฉิน
“หูเจ้ามีปัญหาหรือ ราชาเทวะน้อยของข้าพูดชัดเจนแล้ว เก้าชั้นฟ้าเกิดเรื่องใหญ่ พวกเจ้านี่ไม่ได้เรื่อง กลับไม่ตรวจสอบแม้แต่นิด ไม่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที” หยินเฉินพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“ท่านว่าเก้าชั้นฟ้าเกิดเรื่องอะไรหรือ” หลังจากหยินเฉินพูดจบ คนที่รับผิดชอบเฝ้าระวังของดินแดนจื่อกวงก็รีบวิ่งเข้ามา ข้างหลังมีลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงตามมาอีกไม่น้อย
มู่ชิงเกอมองเขา ไม่ได้เอ่ยคำ
ท่าทีหยิ่งยโสเช่นนั้น ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่ามีอะไรผิดสังเกต ราวกับว่านี่เป็นท่าทางที่ราชาเทวะน้อยพึงมีอยู่แล้ว
“ข้าถามเจ้าหน่อย ไม่นานนี้ มีลูกศิษย์ดินแดนเทพหลายพันคนเข้าไปเก้าชั้นฟ้าใช่ไหม’’ หยินเฉินถาม
หัวหน้าคนนั้นผงกศีรษะทันที “มีลูกศิษย์ไม่น้อยเข้าไปในเก้าชั้นฟ้าขอรับ นำโดยลูกศิษย์ตำหนักหน้า”
“ขณะที่ราชาเทวะน้อยของพวกเรากำลังฝึกซ้อมหาประสบการณ์ที่เก้าชั้นฟ้าก็ได้ยินเสียงต่อสู้เข้า พอไปถึงก็เห็นลูกศิษย์ดินแดนเทพไม่น้อยกำลังต่อสู้กับคนกลุ่ม หนึ่ง คนเหล่านั้นตามที่ได้ยินเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเทพเรียกขานเหมือนจะเป็นพวกตระกูลมู่เหลือเดน เดิมพวกเราคิดจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่คนผู้นี้กลับโดดออกมาขัดขวาง” หยินเฉินยกมือขึ้นจนเห็นศีรษะของมู่เทียนอินได้ชัดเจน
อยู่ดีๆ ก็มีศีรษะคนโผล่ออกมา เหล่าลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงที่ตั้งใจฟังเขาพูดอยู่พากันสะดุ้งตกใจ ถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที
“คนผู้นี้เป็นใครกัน” หัวหน้าคนนั้นชี้ใบหน้าที่เละเทะของมู่เทียนอินแล้วเอ่ยถาม
อินผิงได้โอกาสรีบตอบทันที “ดูเหมือนจะเป็นนายน้อยตระกูลมู่”
“นายน้อยตระกูลมู่!” หัวหน้าเองก็ตกใจด้วย
หยินเฉินพูดอีก “คนผู้นี้มีฐานะเป็นอะไรพวกเราไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินพวกตระกูลมู่เรียกเขาว่านายน้อยเท่านั้น ประจบเหมาะกับที่เมื่อไม่นานนี้ ขณะที่ราชาเทวะน้อยพวกเราไปร่วมอวยพรวันเกิดราชาเทวะอู๋หวาที่ดินแดนอู๋หวาแผ่นดินเทพใต้ ขณะนั้นวังอู๋หวาเกิดเรื่องขึ้นมา นายน้อยพวกเราร่วมกับองค์หญิงชูเนี่ยนตามจับคนร้ายเคยพบคนผู้นี้จึงคุ้นหน้าอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม พอพวกเราตั้งใจจะไปช่วยกลับถูกคนผู้นี้นำยอดฝีมือหลายคนเข้าขัดขวาง แต่สุดท้ายแล้วคนผู้นี้ก็ตายลงในมือราชาเทวะน้อยของเรา หากพอเราไปถึงลูกศิษย์ดินแดนเทพก็…”
พูดจบ เขาก็แสร้งทำเป็นสั่นศีรษะด้วยท่าทีเสียดาย
“ก็อะไร” หัวหน้าถามอย่างร้อนรน นํ้าเสียงหยินเฉิน ทั้งคำที่พูดนั้นทำให้เขารู้สึกว่าท่าจะไม่ดีแล้ว จริงดังนั้น…
คำพูดต่อมาของหยินเฉินทำให้เขาแทบสิ้นสติไปในทันที
“รอจนเราทำลายสิ่งกีดขวางไปถึงที่นั้น ลูกศิษย์ดินแดนเทพหลายพันคน ยอดฝีมือเหล่าเทพหลายพันต่างถูกฆ่าตายไม่มีเหลือแล้ว”หยินเฉินพูดแล้วก็ถอนหายใจ
ปัง!
คำพูดนี้ราวกับฟ้าผ่าท่ามกลางแดดเปรี้ยง ระเบิดจนจิตใจลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงเกิดฝุ่นฟุ้งขาวเต็มไปหมด ระหว่างที่พวกเขาอยู่ในผลัดคอยรักษาความสงบกลับ เกิดเรื่องใหญ่ เช่นนี้ขึ้นเสียได้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเขาก็คงหนีความรับผิดชอบไม่พ้น
“เร็ว!รีบตามข้าไป!” หัวหน้าตะโกนออกคำสั่งอย่างเร่งรีบ ราวกับว่าเขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อลบล้างความผิดจึงจะสามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้บ้าง
ลูกศิษย์ดินแดนจื่อกวงตามเขาไปอย่างรีบร้อน แม้แต่มู่ชิงเกอยังหยุดเอาไว้ไม่ทัน
อินผิงยืนอยู่ที่เดิมกลอกนัยน์ตาไปมาแล้วบอกมู่ชิงเกอว่า “ราชาเทวะน้อยเพิ่งผ่านการต่อสู้รุนแรงมาควรจะพักผ่อนก่อน ไม่สู้ให้ข้านำท่านกลับไปยังที่พักชั่วคราว เพื่อพักผ่อนก่อนจะดีกว่าไหมขอรับ”
มู่ชิงเกอมองไปที่เขา แย้มรอยยิ้มคลุมเครือออกมาแล้ว พยักหน้า
อินผิงคนนี้ยังฉลาดเฉลียวพอสมควร
รู้ว่ารีบไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อาจมีการดักซุ่มและทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายก็เป็นได้ ดังนั้นจึงตั้งใจอยู่ที่นี่ ทั้งยังให้นางอยู่ด้วย คนอื่นจะได้ไม่รู้สึกว่าเขารักตัวกลัวตาย แต่กลับรู้สึกว่าเขาได้ทำความชอบอีก เนื่องจากเขาทำให้มู่ชิงเกอซึ่งเป็นพยานรู้เห็นเพียงคนเดียวอยู่ต่อได้
อินผิงเห็นมู่ชิงเกอให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีก็รู้สึกซาบซึ้ง ยิ่งเอาอกเอาใจมากขึ้น
จัดที่ทางให้พวกเขาเสร็จแล้ว เขาก็ยังคงไม่จากไป คอยอยู่ข้างๆ ราวกับเป็นผู้รับใช้ รอฟังคำสั่งของมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจแต่อย่างไร ไม่ว่าเขาต้องการเอาใจจริงๆ หรือเพื่อที่จะเฝ้าดูนางก็ตาม
มู่ชิงเกอเริ่มปรับลมปราณ เพื่อฟื้นฟูส่วนที่เสียไปจากการใช้ต่อสู้กับมู่เทียนอิน
ขณะที่พวกเขามาถึงก็เป็นเวลาคํ่าแล้ว รอจนเช้าวันรุ่งขึ้น คนดินแดนจื่อกวงเหล่านั้นจึงพากันกลับมา ทุกคนที่กลับมาล้วนมีใบหน้าหนักใจ ทั้งยังดูน่าเกลียดมากด้วย
อินผิงคิดจะสอบถาม แต่หัวหน้าดินแดนจื่อกวงกลับรีบร้อนพุ่งไปข้างหน้ามู่ชิงเกอ “ราชาเทวะน้อย เหตุใดในเก้าชั้นฟ้า ไม่มีศพตระกูลมู่เหลือเดนแม้แต่ศพเดียวเล่า”
มู่ชิงเกอลืมตา มองเขาอย่างเรียบเฉยแล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “ไม่มีศพพวกตระกูลมู่เลยหรือ”
พูดแล้ว นางก็ทำเป็นนิ่งคิดแล้วพูดว่า “อาจถูกพวกตระกูลมู่ที่ยังมีชีวิต นำไปแล้วคงเกรงว่าจะเหลือเบาะแสอะไรกระมัง”
คำพูดของนางสมเหตุสมผล คนผู้นั้นก็ฟังจนผงกศีรษะติดๆ กันพูดอย่างเห็นด้วยว่า “ราชาเทวะน้อยวิเคราะห์ได้ถูกต้อง ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ”
พูดแล้ว เขาก็กำหมัดทุบโต๊ะอย่างแรง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “ไม่น่าเลย! ปล่อยให้พวกตระกูลมู่เหลือเดนหนีไปได้ง่ายๆ!”
และพลันถามต่อว่า “ราชาเทวะน้อยเห็นชัดเจนหรือไม่ว่าตระกูลมู่มากันกี่คน”
มู่ชิงเกอตอบว่า “ไม่รู้แน่ชัด น่าจะราวๆ พันคนได้ แต่พวกเขาดูเหมือนมีการใช้คาถาอาคม ทำให้คนหนีออกไปไม่ได้ คนช่วยก็เข้าไปไม่ได้ ที่ข้ายังปลอดภัยอยู่ได้ คงเพราะนายน้อยตระกูลมู่คนนั้นไม่ได้อยู่ในคาถาอาคม กำลังซุ่มดูผลของการต่อสู้ แต่บังเอิญถูกข้าพบเข้าเสียก่อน”
“น่าเลียดาย พวกที่ไปฝึกซ้อมหาประสบการณ์ก็ล้วนกลับมากันก่อน บอกว่ามีการต่อสู้พวกเขาไม่อยากถูกลูกหลง แต่ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว แววตาของมู่ชิงเกอสั่นไหวเล็กน้อย พูดสบายๆ ว่า “เสียงต่อสู้หรือ ข้าเองก็ได้ยิน แต่ห่างไกลมากเลยไม่ได้สนใจ”
คนผู้นั้นก็ไม่ซักไซ้ต่อ เพียงแต่แววตาเคร่งขรึมลง สีหน้าเขาน่าเกลียดขณะบอกมู่ชิงเกอว่า “เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ราชาเทวะน้อยเป็นพยานรู้เห็นเพียงคนเดียว คง ต้องเชิญราชาเทวะน้อยตามพวกเรากลับดินแดนจื่อกวงสักเที่ยวแล้ว”
“ได้” มู่ชิงเกอตอบโดยไม่ต้องคิด
วันนี้ มู่ชิงเกอพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์อยู่ในดินแดนจื่อกวง การที่ต้องไปพบกันราชาเทวะของดินแดนจื่อกวงนั้นเป็นสิ่งที่นางคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่คิดว่า พอตกกลางคืน ผู้เฝ้ามองจะพาคนสองคนมาปรากฎตัวขึ้นที่ตรงหน้านาง
พอสองคนนั้นปรากฎตัวก็ชันเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นและ พูดกับมู่ชิงเกอว่า “คารวะนายน้อยตระกูลข้า!”