ตอนที่ 743
อย่าข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า
“ความหมายของเจ้าคือว่าข้าแก่ใช่ไหม” หลียวนวางหวีลงฉับพลัน หันกายมองมู่ชิงเกอแล้วพูดเสียงเย็นเฉียบ
“เปล่า” มู่ชิงเกอยังคงอมยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งยังปฏิเสธอย่างแข็งขัน
อืม ถึงแม้ความหมายที่นางต้องการสื่อจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม
หลียวนฟังออกก็ดีที่สุดแล้ว แต่นางไม่ยอมรับเพราะจะทำให้หลียวนมีข้ออ้างมาจัดการตัวเอง
แววตาหลียวนเครียดลงค่อยๆ ลุกขึ้นเดินนวยนาดไปทางมู่ชิงเกอ
พอนางเข้ามาใกล้ กลิ่นหอมบนตัวนางก็โชยเข้าจมูก
เวลานี้กลิ่นหอมบนตัวนางเข้มข้นมากยิ่งกว่าเมื่อตอนกลางวันเสียอีก
กลิ่นหอมนี้ทำให้มู่ชิงเกอขมวดคิ้วแน่น ที่ยังไม่แน่ใจนักเมื่อครั้งก่อน เวลานี้ชัดเจนแน่นอนแล้ว นางมองไป นัยน์ตาที่ใสกระจ่างทอดมองไปบนเรือนร่างของ หลียวน
สายตาที่ไม่ได้หลบหลีกของนาง ทำให้หลียวนแค่นเสียงอย่างดูแคลนเอ่ยว่า “พวกผู้ชายล้วนไม่ใช่คนดี”
พูดจบ นางก็หันกายเดินไปอีกด้านแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวมไว้บนร่าง
มู่ชิงเกอชะงัก วิเคราะห์ความหมายจากคำพูดนี้ของนาง
หลียวนใส่เสื้อคลุมแล้วพูดว่า “บุรุษอย่างพวกเจ้า ล้วนไม่เข้าใจถึงสิ่งดีๆ ที่มีให้พวกเจ้า ทำให้สตรีต้องเจ็บชํ้า”
คำพูดนี้ของนางเต็มไปด้วยความน้อยใจ ดูเหมือนต่อว่ามู่ชิงเกอ แต่ความจริงแล้วราวกับกำลังเอ่ยระบายอะไรอยู่
นัยน์ตามู่ชิงเกอเปล่งประกาย ยิ้มน้อยๆ ว่า “ราชาเทวะต้องการพูดอะไรหรือ”
หลียวนเดินไปข้างเตียง พิงกรอบหน้าต่าง มองออกไปนอกหน้าต่างยามราตรี นางไม่ได้มองมู่ชิงเกอ เพียงแต่พูดเศร้าๆ ว่า “ข้าอยากพูดว่า เหตุใดในโลกนี้ต้องมีบุรุษด้วย ข้ามีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง นางเคยทุ่มเทจิตใจให้บุรุษ…”
ขณะที่หลียวนเริ่มเล่าเรื่อง สายตามู่ชิงเกอกลับแอบสำรวจดูรอบๆ นางแน่ใจแล้วว่าหลียวนใช้กำยานหอมอะไร ยิ่งรู้ด้วยว่ากำยานหอมนี้ใช้เพื่อประโยชน์อะไร ย่อมไม่ปล่อยโอกาสเก็บดอกเบี้ยนี้ทิ้งไปเปล่าๆ
พอสายตานางไปกระทบเข้ากับกล่องกำยานหอมข้างโต๊ะเครื่องแป้ง แววตาพลันเจิดจ้าขึ้นมาทันที พร้อมมองไปทางหลียวน
หลียวนยังคงพูดอยู่คนเดียวโดยไม่ได้สนใจมู่ชิงเกอเลยแม้แต่น้อย
มู่ชิงเกอเดินเข้าไปใกล้เข้าใกล้นางราวกับกำลังสนใจฟังเรื่องที่นางเล่าอย่างเพลิดเพลินจนลืมตัว หลียวนสังเกตเห็นมู่ชิงเกอเข้ามาใกล้ก็ยิ้มอย่างพอใจที่มุมปาก แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่า ขณะที่มู่ชิงเกอเดินผ่านโต๊ะเครื่องแป้งนั้น ในมือมีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา แทรกเข้าไปในร่องของกล่องกำยานหอมนั้น
กล่องกำยานหอมนี้ ใส่แป้งนํ้าและชาดที่หลียวนใช้ ระดับความรักสวยรักงามของหลียวนนี้คงต้องใช้ทุกวันแน่ และนี่คือผลลัพธ์ที่มู่ชิงเกอต้องการ
เมื่อจัดการทุกสิ่งแล้วเสร็จอย่างเงียบเชียบ มู่ชิงเกอก็เดินมาถึงด้านหลังหลียวน ฟังเรื่องราวของนางต่อไป
“เพื่อนรักข้าคนนั้น รักบุรุษผู้นั้นสุดแสน ยอมทำทุกสิ่งเพื่อเขา กระทั่งยอมทำเรื่องที่ทรยศต่อเผ่าตัวเอง เพียงคิดทำดีเพื่อเขา แต่นึกไม่ถึงว่า นางทำเพื่อบุรุษผู้นั้นมากขนาดนั้น สุดท้ายแล้วบุรุษผู้นั้นกลับทรยศนาง” หลียวนหันขวับไปที่มู่ชิงเกอ แววตาเหี้ยมโหดถามว่า “เจ้าว่า บุรุษเช่นนี้ สมควรฆ่าไหม สมควรตายไหม”
คำพูดของนางทำให้มู่ชิงเกอนึกถึงซือมั่วขึ้นมาทันที
นี้เป็น ‘นิทาน’ ระหว่างซือมั่วกับหลียวนหรือ มู่ชิงเกอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ถึงแม้นางจะรู้ว่าวิธีการเล่าเรื่องของอีกฝ่ายนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากความนึกคิดของหลียวนเอง แต่ก็ยังทำใหัมู่ชิงเกอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
“ราชาเทวะ ไม่อาจข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า” มู่ชิงเกอพูดเรียบๆ
“อะไรคือข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า! หากเป็นเช่นนั้นจริง เหตุใดเขาต้องเกี้ยวพานางก่อนด้วย” หลียวนคำราม ด้วยความแค้นเคือง
“เกี้ยวพาหรือ” มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว แววตานึกสนุก
“ถูกต้อง! เกี้ยวพา!” หลียวนพูดด้วยความแค้น
เมื่อครู่นางยังใช้เรื่องของเพื่อนรักมากลบเกลื่อน เวลานี้อารมณ์แท้จริงพลันเปิดเผยออกมา ทำให้รู้ว่าเพื่อนรัก ในนิทานเป็นใคร
“หากไม่ใช่เขาเกี้ยวพานาง ด้วยฐานะที่สูงส่งเช่นนาง ทั้งสูงศักดิ์บริสุทธิ์ จะบ้าคลั่งเพื่อเขา โดยไม่คำนึงถึงทุกสิ่งได้หรือ”
“เขาทำอะไรไปหรือ” มู่ชิงเกอถามเรียบๆ
นางไม่ได้สงสัยซือมั่ว เพียงแต่นางอยากรู้ว่าซือมั่วทำอะไรลงไปกันแน่จึงทำให้หลียวนเข้าใจผิดไปได้ถึงเพียงนี้
“ฮึ ทำอะไรไปรึ” หลียวนแค่นหัวเราะ นางพยายามเค้นหาความทรงจำในสมอง แต่กลับไม่สามารถหาคำตอบที่น่าพอใจออกมาได้ “ทำอะไรไป เขาทำอะไรไป…” นางใช้สองมือทาบบนใบหน้า ลีหน้าเปลี่ยนเป็นตื่นกลัว ถามตัวเองไม่หยุด “เขาทำอะไรข้า… ทำอะไร…”
มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ไม่!” ทันใดนั้น หลียวนก็คลุ้มคลั่งขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อขึ้น
พลังกดดันขั้นศักดิ์สิทธิ์ราวกับคลื่นยักษ์โถมเข้ามา มู่ชิงเกอหูไวตาไวถอยหลังอย่างรวดเร็วจึงสามารถหลบพ้นจากการปะทะอย่างจังไปได้
‘ผู้หญิงเสียสติคนนี้!’ นางคิดในใจ
เสียงอึกทึกในห้องทำให้ผู้ดูแลวังราชาเทวะนอกประตูสังเกตเห็น
พวกนางกรูกันเข้ามาแต่ถูกหลียวนตวาดใส่เสียงเหี้ยม “ไสหัวไปให้หมด!”
เหล่าผู้ดูแลวังราชาเทวะไม่กล้าขัดขืนรีบถอยออกไปทันที
ในห้องยังคงเหลือหลียวนกับมู่ชิงเกอสองคน ส่วนอารมณ์หลียวนยังคงอยู่ในความบ้าคลั่ง มู่ชิงเกอก็ลอบระแวดระวังอย่างเต็มที่
“เหตุใดเขาจึงไม่ชอบข้า ใต้ฟ้านี้เหตุใดจึงมีผู้ชายที่ไม่ชอบข้า คนที่ชอบข้ามีมากมายนัก ทั้งรักทั้งทุ่มเทจิตใจให้ข้า ต้องการตัวข้า ข้าล้วนไม่สนใจไยดี ต้องการแต่เขาเท่านั้น แต่เขากลับใจร้ายถึงเพียงนี้ ไร้รักไร้จิตผูกพัน!” หลียวนสองมือยันกรอบหน้าต่าง เดินโซซัดโซเซ สองตาของนางมองไปที่ไกลออกไป เต็มไปด้วยความแค้น
มู่ชิงเกอสั่นศีรษะนิดๆ เตรียมออกจากที่นี่
แต่เท้านางเพิ่งขยับ หลียวนก็หันมาจ้องดูนาง เมื่อถูกนางจับจ้องแล้ว มู่ชิงเกอจึงต้องหยุดเดิน
“เจ้าเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่มีใบหน้างามเทียบเคียงเขาได้เท่าที่ข้าเคยพบ” ทันใดนั้น หลียวนก็บอกกับมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอหรี่ตาสองข้าง บ่นอยู่ในใจ ‘อามั่วหรือ ไม่ ในใจข้า ใครก็เทียบเคียงเขาไม่ได้’
หลียวนพูดต่อว่า “ถึงแม้ตบะบำเพ็ญเจ้าจะสู้เขาไม่ได้ แต่เจ้าเป็นราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ย ช้าเร็วสักวันก็จะเป็นราชาเทวะ เรื่องราวของเจ้าข้ารู้มาแล้ว ช่วง สั้นๆ เพียงไม่กี่ปีนี้เจ้าสามารถสร้างเกียรติประวัติได้ใหญ่โตขนาดนี้ในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร เจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ”
“ขอบคุณที่ราชาเทวะชื่นชม” นัยน์ตามู่ชิงเกอเปล่งประกายวูบหนึ่ง เอ่ยนิ่งๆ
“ขอเพียงเจ้าตอบตกลงข้าข้อเดียว ข้าสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ สามารถช่วยให้เจ้าโด่งดังที่สุดในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ขึ้นนั่งบัลลังก์ราชาเทวะได้ในระยะเวลาที่ สั้นที่สุด เป็นหนึ่งในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร!” หลียวน บอกมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอมองนางด้วยความสงสัย
ราวกับจะสอบถามว่ามีเงื่อนไขอะไรจึงได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
หลียวนเก็บงำสีหน้าที่บ้าคลั่ง แย้มรอยยิ้มที่สูงศักดิ์ออกมาใหม่อีกครั้ง “ข้าเพียงต้องการให้เจ้ายอมรับกับทุกคนว่าเจ้าทุ่มเทจิตใจให้ข้า รักใคร่ชื่นชมข้า ต้องการแต่งงานกับข้า”
มู่ชิงเกอหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว นางมองหลียวนแล้ว พูดเรียบๆ ว่า “ราชาเทวะ ข้าเพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าอย่าข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า”