ตอนที่ 86-1
ภายนอกหลินชวน ช่องว่างที่เปลี่ยนไป
โฮก!—
เสียงขู่คำรามของเสือดาวสะท้านเมฆาดังขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้ทั้งสามคนชะงักฝีเท้า
ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้นางขมวดคิ้วแน่น
โดยปกติแล้ว ด้วยความสามารถของทั้งสามคน ไม่อาจดึงดูดความสนใจของเสือดาวสะท้านเมฆาได้มากถึงเพียงนี้
ในเสียงคำรามนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและความคั่งแค้นมหาศาล แสดงว่าเสียงนี้ไม่ได้คำรามเพื่อขู่พวกนาง
แต่ หากไม่ได้ขู่พวกนาง แล้วขู่ผู้ใดกัน?
หรือว่า จะมีคนเจอกับเสือดาวสะท้านเมฆาก่อนหน้านางไปก้าวหนึ่ง
พอความคิดเช่นนี้เกิดขึ้น นัยน์ตาของมู่ชิงเกอพลันสาดประกาย นางพลิ้วกายพุ่งตรงไปข้างหน้าในทันที ฮวาเยวี่ยและโย่วเหอรีบตามไป ในมือกำอาวุธไว้แน่น พลางคุ้มครองมู่ชิงเกอจากทั้งทางซ้ายและขวา
ทั้งสามเร่งรีบ การก้าวเท้าของทั้งสามท่ามกลางความกดดันเมื่อครู่นั้นได้แสดงผลออกมาให้เห็นแล้ว หลังจากพวกนางพุ่งเข้าไปนับร้อยจ้าง ถึงรู้สึกได้ว่าพลังกดดันบนร่างนั้นไม่มากเท่าไหร่แล้ว การหมุนเวียนพลังจิตในตัวได้เพิ่มมากขึ้นและบริสุทธิ์ขึ้น ทั้งสองรู้สึกดีใจ ยิ่งเชื่อในคำพูดของมู่ชิงเกอมากยิ่งขึ้น พวกนางเพิ่มพลังฝีเท้าให้เร็วมากขึ้น โดยใช้ทักษะก้าวซ่อนเงาในการวิ่งตามมู่ชิงเกอให้ทัน
มีคนจริงๆ ด้วย!
เสียงของอาวุธที่กระทบกัน ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกสงสัย จึงหาที่ซ่อน พลันดึงทั้งสองนางเข้าไปแอบซ่อนอยู่ในนั้น เพื่ออำพรางตัว
บริเวณไม่ไกลจากพงหญ้า ภาพที่เห็นคือ เสือดาวสะท้านเมฆาตัวที่เป็นเป้าหมายในครั้งนี้กำลัง ประจันหน้าอยู่กับคนผู้หนึ่ง
ท่าทางผ่อนคลายของคนผู้นี้ เหมือนเพียงกำลังเย้าแหย่เสือดาวสะท้านเมฆาอย่างนyhน
แต่ว่า มู่ชิงเกอกลับไม่รู้สึกถึงระดับขั้นพลังของเขาเลย ราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่รู้จักการฝึกพลังเวทและไม่มีกลิ่นไอของพลังเวทเลยแม้แต่น้อย
คนธรรมดาที่ไม่รู้จักการฝึกพลังเวทจะสามารถสู้กับเสือดาวสะท้านเมฆาได้หรือ ?
เป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาด!
หากเป็นเช่นนั้น ก็มีเพียงเหตุผลเดียว
ความสามารถของคนผู้นี้มากกว่าที่นางเคยรู้จัก คล้ายกับคุณตัวประหลาดและคล้ายพวกกู่หยา นางเองก็สัมผัสไม่ได้ถึงระดับพลังจิตบนร่างของพวกเขาและยิ่งไม่อาจรับรู้ได้ถึงระดับขั้นของพลังในตัวพวกเขาด้วย การคาดการณ์นี้ ทำให้มู่ชิงเกอหรี่ตา พลันขมวดคิ้วเป็นปมแน่น
“คนๆ นี้ไม่ใช่คนของหลินชวน” ทันใดนั้น เสียงของกู่หยาพลันดังขึ้นข้างหูมู่ชิงเกอ มู่ชิงเกอแอบมองโย่วเหอและฮวาเยวี่ย เห็นพวกนางจ้องมองการประลองตรงหน้าอย่างเคร่งขรึมโดยไม่ได้สนใจ นางก็รู้ว่ากู่หยากำลังถ่ายทอดเสียงเข้าสู่หูนางโดยตรง มีแค่นางผู้เดียวเท่านั้นที่ได้ยิน
ประสบการณ์เช่นนี้นางเคยสัมผัสจากคุณตัวประหลาด และจากท่านปู่
ไม่ใช่คนในหลินชวน แล้วเป็นคนจากที่ใดกัน?
คำถามเหมือนจะย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น—นอกอาณาเขตหลินชวน มีดินแดนอะไรอยู่กันแน่?
คำตอบนี้ ตอนนี้มู่ชิงเกอยังคงไม่ทราบ
แต่สิ่งที่นางมั่นใจคือ โลกที่อยู่ภายนอกอาณาเขตหลินชวนนั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยผู้ที่เก่งกล้าสามารถ เพียงแค่ใครคนใดคนหนึ่งมาปรากฏตัวภายในหลินชวน ก็ สามารถเหยียบเหล่ายอดฝีมือภายในหลินชวนให้จมพื้นพสุธาไปได้
แน่นอนว่า คุณตัวประหลาดเป็นข้อยกเว้น!
มู่ชิงเกอก็ไม่ แน่ใจว่าทำไมตนเองถึงได้มีความมั่นใจ เช่นนี้ แต่อย่างไรเสีย นางก็มีความรู้สึกหนึ่ง นางรู้สึกว่า ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเก่งกล้าสามารถเพียงใดก็ยังคงเทียบไม่ได้กับนิ้วมือเพียงนิ้วเดียวของใครบางคน
นอกจากคำถามนี้ที่ยังไม่มีผู้ใดตอบนางได้ในตอนนี้ ก็ยังมีอีกคำถามที่คาใจนางอยู่ นั่นก็คือ ยอดฝีมือนอกหลินชวนผู้นี้ เหตุใดถึงได้มาทำร้ายเสือดาวสะท้านเมฆาสายครามอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเช่นนี้ แต่ว่าไม่นานยอดฝีมือผู้นั้นก็ได้คลายความเคลือบแคลงในใจของนาง
“เจ้าเสือดาว ความอดทนของข้ามีจำกัด หากเจ้ายังไม่ยอมตอบคำถามของข้า ข้าก็จะสังหารเจ้าเสีย แล้วไปถามสัตว์พลังวิญญาณตัวอื่นแทน” คำพูดของคนต่าง แดนผู้นั้นดูผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ราวกับว่าสำหรับ เขาแล้วการสังหารนั้นง่ายดายประหนึ่งปอกกล้วยเข้าปาก
อายุของเขาไม่มากนัก ราว 24 ถึง 25 ปี หน้าตาไม่ถึงขั้นเรียกได้ว่างดงาม แต่ก็ดูละเอียดอ่อน เพียงแต่ในสายตาทั้งคู่ประดับไปด้วยความหยิ่งยโสจึงทำให้มองดูแล้วไม่ค่อยรื่นหูรื่นตานัก
ราวกับว่า ทุกอย่างภายในหลินชวน เป็นเพียงมดตัวน้อยอันด้อยตํ่า
ข้างเท้าของเขา มีร่างลูกเสือดาวแรกเกิดนอนตายอยู่
สภาพอันยับเยินของเลือดเนื้อ ทำให้เห็นถึงความอำมหิตในการลงมือของเขา
ถึงว่า เสียงคำรามของเสือดาวสะท้านเมฆาเมื่อสักครู่นี้ ถึงได้มีกลิ่นไอของความเคียดแค้นชิงชังอันแรงกล้ามากถึงเพียงนั้น
มู่ชิงเกอกระจ่างแล้ว
“เหอะ เจ้ามนุษย์ที่ตํ่าด้อยดั่งมด ยังจะกล้าโอ้อวดความสามารถระดับนี้ ก็คงจะอวดดีได้แค่ในหลินชวนเท่านั้นแหละ” ทันใดนั้นเสียงที่แฝงความไม่พอใจก็ดังขึ้นอีกหน มู่ชิงเกอรู้สึกตกใจ สายตาพลันแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่เป็นยอดฝีมือเช่นนี้ ยังเป็นได้เพียงมดตะนอยตัวเล็กๆ ในสายตาของกู่หยา ถ้าเช่นนั้นตัวเขาจะเก่งกาจขนาดไหนกัน!
แต่เขานั้น…
น่าแปลกมาก เงาร่างสีขาวไร้มลทินแต่เต็มเปี่ยมด้วยความลึกลับนั้นได้โผล่เข้ามาในความคิดของมู่ชิงเกอ รอยยิ้มอันเย้ายวนจนหาที่สุดไม่ได้นั้น ทำให้นางมี ความรู้สึกอยากจะซ้อมใครสักคนขึ้นมา
มู่ชิงเกอกะพริบตาถี่ นางขจัดภาพของบางคนออกจากความคิด พลันมองภาพตรงหน้าอย่างตั้งใจ
การต่อสู้เหมือนจะหยุดลงชั่วคราว
เสือดาวสะท้านเมฆาส่งเสียงคำราม จ้องเขาคนนั้นเขม็งด้วยนัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยโทสะและคั่งแค้น
ทว่าคนผู้นั้น ยังคงผ่อนคลาย
“เจ้าเสือดาว ข้าถามอีกรอบ เจ้าเคยเห็นสองคนนี้หรือไม่?” ยอดฝีมือจากต่างแดนผู้นั้นพลันยกมือขึ้นมากลางอากาศบนฝ่ามือของเขา มีร่างคนสองคนเกิดขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
“เป็นพวกเขาเองรึ!” เมื่อเงาร่างของทั้งสองปรากฏขึ้น กู่หยาก็พูดด้วยนํ้าเสียงประหลาดใจ
“เจ้ารู้จักพวกเขาหรือ?” มู่ชิงเกอแอบถามในใจ
ในขณะที่นางเกิดความสงสัย กู่หยาก็ตอบคำถามของนางในทันที “ไม่รู้จัก แต่แค่เคยเจอ พวกเขาเป็นผู้ที่ทำให้เกิดการรุกรานของสัตว์ป่าในครั้งที่แล้ว และถูกจิต ของท่านประมุขทำให้ร่างแตกสลายไป”
เขาตอบอย่างเย็นชา
แต่เขากลับไม่รู้ว่า คำตอบของเขาทำให้มู่ชิงเกอแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย
นางรู้นานแล้วว่าคนที่ปรากฏตัวขึ้นภายในสงครามครั้งที่แล้ว คนที่อุ้มนางก่อนที่นางจะหมดสติลงไม่ใช่คุณตัวประหลาดตัวจริง แต่กลับไม่คิดว่าแค่ร่างจิตที่เป็นแค่ความคิดคำนึงของร่างจริงเท่านั้นก็สามารถสั่นสะเทือนทั้งอาณาจักรสัตว์ในเทือกเขาฉินและทำให้คนที่ขับไล่พวกสัตว์ร้ายร่างแหลกสลายได้