ตอนที่ 872
พระชายาคือราชาเทวะ!
ในดินแดนมารรกร้าง เป็นครั้งแรกที่ซือมั่วรู้สึกนั่งไม่ติด
“รายงาน!”
นอกตำหนัก องครักษ์มารรีบวิ่งเข้ามา คุกเข่าลงข้างหนึ่งประสานกำปั้นรายงานต่อซือมั่ว “องค์ราชา ขบวนสู่ขอของพระชายา ออกจากเก้าชั้นฟ้าแล้วพะย่ะค่ะ”
ซือมั่วโบกมือ องครักษ์มารลุกขึ้นยืนแล้วถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“องค์ราชา”
“องค์ราชา”
กู่หยาและกู่เย่ปรากฎตัวอยู่ในพระตำหนักใหญ่ พวกเขาเงยหน้ามองราชาของตนเอง ในใจก็ปีติยินดีเช่นกัน
นายท่านรอมานานแล้ว คาดหวังมานานแล้ว ไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้มากไปกว่าพวกเขาทั้งสอง
ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายท่านมอบให้คุณชายก็มีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้เป็นอย่างดี
“ยินดีกับองค์ราชา”
“ยินดีกับองค์ราชา”
กู่หยาและกู่เย่ประสานกำปั้นคำนับ
สายตาของซือมั่วตกลงบนร่างคนทั้งสอง เขากล่าว “วันนี้จิตใจข้ายากจะสงบ พวกเจ้าสองคนไปคุ้มกัน อย่าให้ใครหน้าไหนมาทำลายงานมงคลในวันนี้เป็น อันขาด”
กู่หยาและกู่เย่ลอบส่งสายตาหากัน แววตาผุดรอยยิ้มเจื่อน
ใครจะกล้ามาก่อเรื่อง
ตอนนี้นายท่านกังวลจนว้าวุ่น
“ขอรับ”
“ขอรับ”
กู่หยาและกู่เย่รับคำสั่งออกไป เดินออกไปหลังตำหนักจื่อเฉินแล้ว กู่หยาจึงกล่าวกับกู่เย่ “องค์ราชารอวันนี้มาเนิ่นนาน เป็นกังวลเกินไปแล้ว กลับจะทำให้จิตใจไม่นิ่ง ด้วยฐานะองค์ราชาของพวกเรารวมถึงฐานะที่เผ่าเทพของคุณชายในตอนนี้ใครจะกล้าก่อเรื่องได้”
กู่เย่ยิ้มกล่าว “ในเมื่อเจ้าเข้าใจ พวกเราทำตามที่บอกก็พอแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้องค์ราชาสบายใจได้”
“คุณชายมาสู่ขอด้วยตัวเอง ยังไม่เคยปรากฎในประวัติศาสตร์มาก่อนจริงๆ” กู่หยาถอนหายใจ
ทั้งสองยิ้มรีบไปยังสิ่งกีดขวางระหว่างเทพมาร
หากขบวนสู่ขอจะเข้าสู่แดนมารจะต้องคํ้ายันฉากที่กั้นขวางเอาไว้ในเวลาที่กำหนด การประคับประคองนั้นซือมั่วเตรียมการไว้ก่อนแล้ว แต่ก็ยังไม่วางใจจึงให้กู่หยาและกู่เย่ตามไปดูด้วยตัวเอง
จากเก้าชั้นฟ้าไปแดนมาร แม้ว่าจะเป็นกำลังเท้าของมู่ชิงเกอและคนอื่นๆ ก็ยังต้องใช้เวลาช่วงหนึ่ง
ขบวนสู่ขอโอ่อ่าอลังการ เดินทางฝ่าอากาศ ทำให้ผู้คนบนพื้นดินพากันหยุดเท้าแหงนหน้ามองมังกรสินเดิมที่ทอดยาวเป็นแถวไม่ขาดสายตัวนั้น
“คุณชาย ปีนั้นที่หลินชวน ท่านมั่วสู่ขอท่านยังต้องใช้หลินชวนทั้งดินแดนมาสู่ขอ วันนี้มาถึงแผ่นดินเทพมารแห่งนี้กลับเป็นท่านที่ไปสู่ขอเสียแล้ว” โย่วเห
อปิดริมฝีปากหัวเราะเบาๆ อยู่ข้างมู่ชิงเกอ
ได้เห็นว่าในที่สุดนายท่านของตนก็ตริตรองเรื่องใหญ่ในชีวิตของตน ในฐานะสาวใช้อาวุโสคนสนิท ภายในใจนางก็ปีติยินดีอย่างถึงที่สุด
มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ “ตอนนั้น ข้าก็เคยพูดแล้วว่า ข้าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มีความสามารถมากพอที่จะเข้าไปในโลกของเขา จับมือกันแก่เฒ่าไปพร้อมกับเขา ตอนนี้ ข้าเพียงแค่ทำให้คำสัญญาในตอนนั้นเป็นจริง”
พูดแล้วต้องทำตามสัญญา
ดวงตามู่ชิงเกอมีประกายวาบผ่าน คำพูดที่นางเอ่ยออกไปจะต้องทำให้ได้ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าจะมีขวากหนามใดๆ ก็ตาม
“คุณชาย ตอนเข้าพิธีสมรสจะให้รับนายท่านผู้เฒ่าและคนอื่นๆ ขึ้นมาด้วยหรือไม่” ฮวาเยวี่ยกล่าวถามต่อ
มู่ชิงเกอพยักหน้า
เมื่อเอ่ยถึงญาติในตระกูล ดวงตาที่ใสสะอาดของนางก็จะปรากฎความอ่อนโยน “เมื่อจัดการเรื่องตรงนี้เสร็จ ข้าจะกลับโลกแห่งยุคกลางและหลินชวนรอบหนึ่ง”
นางหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นก็กำชับหญิงทั้งสอง “ระดับการบำเพ็ญของท่านปู่และคนอื่นๆ ตํ่าเกินไป พวกเจ้าต้องเตรียมการที่เก้าชั้นฟ้าให้เรียบร้อย อย่าทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบาย”
“เจ้าค่ะ คุณชาย”
หญิงทั้งสองขานรับ
การสู่ขอของมู่ชิงเกอทำให้แผ่นดินเทพสี่สมุทรตกตะลึง แต่ทั่วทั้งแผ่นดินเทพสี่สมุทรกลับนิ่งเงียบผิดปกติ
คนอื่นไม่แน่ใจ แต่ราชาเทวะเหล่านั้นต่างก็รู้อยู่แก่ใจอย่างไรเสียวันนั้นในวังราชาเทวะเก้าชั้นฟ้า มู่ชิงเกอก็ดี ซือมั่วก็ดี ได้พูดออกมาด้วยความชัดเจนอย่างยิ่ง แล้ว
ดินแดนมารรกร้าง ในวังไท่ฮวง ซือมั่วนั่งอยู่บนบัลลังก์ในตำหนักฮวงเตี้ยน มองคนทั้งหมดในตำหนัก
ตอนนี้เจ้าเมืองย่อยทุกคนในดินแดนมารต่างก็ถูกเขาเรียกมารวมตัวรออยู่ในตำหนัก
ในวังไท่ฮวง ทุกๆ ที่ประดับประดาด้วยสีแดง บรรยากาศชื่นมื่น ความรู้สึกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าเมืองย่อยเหล่านี้ย่อมรู้ดีแน่นอน
เพียงแต่…
“ไม่นึกว่า พระชายาของพวกเราจะเป็นคนจากเผ่าเทพจริงๆ” จี่ฝูกล่าวเสียงเบากับหลิงจิวข้างกาย
หลิงจิวแสยะมุมปาก วิจารณ์อยู่ในใจ ตอนที่องค์ราชาถูกลอบสังหาร ในใจพวกข้าก็คาดเดาเช่นนี้แล้ว เขาถอนหายใจกล่าว “คาดไม่ถึงว่าพระชายาจะเป็นคนจากเผ่าเทพ คาดไม่ถึงว่าเผ่าเทพจะมีพระชายาผู้เป็นสตรีวิเศษเช่นนี้”
เขามองชิงเจ๋อกับชิงเหยียน กล่าวถาม “คิดคำนวณดูแล้ว แท้ที่จริงองค์ราชาของเราขาดทุนหรือได้กำไรกันแน่”
“ขาดทุนหรือได้กำไรอะไร” ชิงเหยียนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
ชิงเจ๋อยิ้มและอธิบาย “ความหมายของเขาก็คือ ราชาแดนมารของพวกเรา ในที่สุดก็ถูกสตรีเผ่าเทพจับเป็นเชลยหัวใจแล้ว ใช่แสดงให้เห็นว่าเสน่ห์ของเผ่าเทพอยู่เหนือเผ่ามารหรือไม่ แต่ว่า สตรีเช่นพระชายา ก็ถือเป็นการมีอยู่ที่สูงที่สุดของเผ่าเทพ การมีอยู่เช่นนี้ อยู่ในหมู่บุรุษบนแผ่นดินเทพสี่สมุทรกลับไม่เลือก ดันมา ชอบราชาของพวกเรา ก็เป็นการยืนยันเสน่ห์องค์ราชาของเราได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงพูดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วได้กำไรหรือว่าขาดทุน”
หลิงจิวออกแรงพยักหน้า ส่งสายตาที่สื่อความได้ว่า ‘ไม่มีใครรู้ใจข้าดีกว่าเจ้าแล้ว’ ไปให้ชิงเจ๋อ
อีกฝั่งหนึ่ง เซ่อฉินและคนอื่นๆ ก็กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่
เรื่องที่พวกเขาถกเถียง แน่นอนว่าเป็นที่มาของมู่ชิงเกอ ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยคิดมาก่อน ตอนนี้เมื่อมีหลักฐานแล้ว พวกเขากลับไม่กล้าเชื่อแม้แต่น้อย
โชคดีที่ดินแดนมารไม่ใช่แผ่นดินเทพ ที่แดนมาร พวกเขาฟังเพียงคำพูดของซือมั่วผู้เดียว เลื่อมใสต่อมู่ชิงเกอมากเช่นเดียวกัน เห็นด้วยจากเบื้องลึกของหัวใจ ดังนั้น สำหรับการแต่งงานเรื่องนี้ พวกเขาไม่คัดค้าน กลับมีความรู้สึกสุขสำราญพอใจชนิดหนึ่ง
“มาครบกันหมดแล้ว” ซือมั่วเอ่ยปากช้าๆ
เมื่อเขาพูด ในตำหนักฮวงเตี้ยนก็เงียบสงบลงทันที ไม่มีใครกล้าเอ่ยวาจาอีก
มาครบหรือไม่ มองปราดเดียวก็รู้
ดวงตาสีอำพันของซือมั่วกวาดผ่านกลุ่มคนอย่างเรียบเฉย เอ่ยปากกล่าว “วันนี้ เป็นวันมงคลของข้า ข้าไม่หวังให้แดนมารเกิดความวุ่นวายใดๆ ยิ่งไม่อนุญาตให้ใครมาทำลาย พวกเจ้าแต่ละคนควบคุมลูกน้องตัวเองให้ดี หากมีใครกล้ายั่วยุแขกที่มาจากเก้าชั้นฟ้า ข้าจะไม่คิดบัญชีกับเขา แต่จะมาคิดบัญชีกับพวกเจ้า”
ในใจเจ้าเมืองย่อยทุกคนหวาดกลัว ต่างก็กลั้นหายใจ คำพูดของซือมั่วไม่ใช่คำพูดส่งเดช เขาเคยสั่งสอนคนในลานมาหมดแล้ว
“น้อมรับโองการองค์ราชา”
“น้อมรับโองการองค์ราชา”
เจ้าเมืองย่อยทั้งหมดพากันคุกเข่า รับปากกับซือมั่ว
ซือมั่วกล่าวต่อ “สำหรับที่มาของพระชายา ในหมู่พวกเจ้าก็น่าจะรู้อยู่คร่าวๆ ในใจแล้ว วันนี้ข้าจะบอกพวกเจ้า ในตำหนักฮวงเตี้ยนแห่งนี้ ถูกต้องภรรยาของข้า พระชายาของพวกเจ้า นายหญิงของแดนมารรกร้างก็คือ ประมุขตระกูลมู่แห่งเก้าชั้นฟ้า บนแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร ราชาเทวะเพียงหนึ่งเดียวของแผ่นดินเทพตะวันตก มู่ชิงเกอ!”
เจ้าเมืองย่อยในตำหนักต่างก็นิ่งเงียบเม้มปาก
คำพูดของซือมั่ว ต่อให้พวกเขาจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังคงสั่นสะเทือนไม่น้อย
“ต่อจากนี้ใครบังอาจไม่เคารพพระชายาก็เท่ากับว่าไม่เคารพข้า” ซือมั่วกล่าวอีก
“องค์ราชาโปรดวางพระทัย พวกเราเคารพพระชายาจากใจจริง ยอมรับพระชายาว่าเป็นนายหญิงแดนมารของเรามานานแล้ว ไม่ว่านางจะมีฐานะอะไร” ชิงเจ๋อลุกขึ้นยืนกล่าว
เมื่อเขาเอ่ยปาก คนทั้งหมดในตำหนักต่างก็พากันแสดงท่าที แสดงจิตใจที่ซื่อสัตย์ของตนต่อซือมั่ว