Skip to content

พลิกปฐพี 881

ตอนที่ 881

เมล็ดพันธุหนึ่งเมล็ด!

มู่ชิงเกอมองซือมั่ว แต่กลับเห็นสีหน้าเขาเต็มไปด้วยความสุขุมจึงไม่ได้เปิดปากเอ่ยคำ

นางเคยแบกรับพลังกลุ่มนั้นด้วยตัวเอง ตอนนั้นนางเข้าไปไม่ได้ ตอนนี้…หากซือมั่วยังเข้าไปไม่ได้นางก็ยิ่งไม่ต้องคิด

ทันใดนั้น ซือมั่วก็ชักมือกลับมา พลังที่สกัดกั้นนั้นก็หายไปในชั่วพริบตา

“เป็นอย่างไร” มู่ชิงเกอกล่าวถาม

ซือมั่วเม้มปากกล่าว “ชั้นที่ 99 นี้น่าแปลกจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปไม่ได้”

“เช่นนั้นจะเข้าไปอย่างไร” ดวงตามู่ชิงเกอเป็นประกาย

ซือมั่วครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “ข้าคิดว่าชั้นที่ 99 นี้ ไม่ได้อาศัยตบะบำเพ็ญเข้าไป”

“ไม่อาศัยตบะบำเพ็ญ…” มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว พึมพำหนึ่งประโยค เหลือบดวงตาทั้งคู่ที่ใสสะอาดขึ้นมองเขา “ครั้งก่อน ข้าใช้ปัญญาเทวะ ก็ไม่มีทางเข้าไปได้เช่นกัน”

ตบะบำเพ็ญของซือมั่ว เรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดินเทพมาร ส่วนปัญญาเทวะของนาง ด้วยการหล่อหลอมจากเคล็ดวิชาเทวะส่วนกลางก็อยู่เหนือคนทั่วไป กระทั่งซือมั่วยังเทียบนางไม่ได้

พวกเขาสองคนต่างคนต่างแข็งแกร่งที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจเข้าไปในชั้นที่ 99 นี้ได้ หรือว่าชั้นนี้ จะเข้าไปไม่ได้จริงๆ ครั้งนี้ นางก็ยังขึ้นไปถึงยอดไม่ได้งั้นหรือ

คิ้วของมู่ชิงเกอขมวดมุ่น ในใจไม่ยินยอม

จู่ๆ นิ้วมือที่เรียวยาวนิ้วหนึ่งก็ยื่นออกไปที่หว่าง คิ้วนางลูบรอยย่นที่หว่างคิ้วนางให้คลายลงเบาๆ

หัวใจมู่ชิงเกอผ่อนคลายลง แย้มยิ้มให้ผู้ชายข้างกาย

“ไม่ต้องร้อนใจ ครั้งนี้จะต้องได้แน่นอน” ซือมั่วกล่าวปลอบ

ทั้งสองยืนอยู่บนชั้นที่ 98 อย่างไม่รีบไม่ร้อน ไตร่ตรองว่าจะทำลายสิ่งกีดขวางบนชั้นที่ 99 อย่างไรดี

ส่วนคนทั้งหมดนอกแสงแห่งวิถีกลับรอจนร้อนใจแล้ว

“เหตุใดถึงยืนนิ่งแล้วเล่า”

“ขึ้นไม่ได้แล้วหรือ”

“ถึงชั้นที่ 98 แล้ว ขึ้นไม่ได้ก็ขึ้นไม่ได้ขอเพียงแค่เปิดแสงแห่งวิถี พวกข้าก็เข้าไปได้แล้ว”

“แต่ว่า ตอนนี้พวกเขาเหมือนไม่คิดที่จะเปิดแสงแห่งวิถี!”

“หรือว่าคิดจะรุดเข้าไปบนชั้นที่ 99”

“เหลวไหล! ขอบคุณที่เจ้าพูดความจริงที่ชัดเจนเช่นนั้นออกมา”

“พวกเราใจเย็นอย่าเพิ่งรีบร้อนดีกว่า แสงแห่งวิถีจะต้องเปิดได้แน่ พวกเราอย่ารบกวนพวกเขาเลย”

ผู้คนพากันถกเถียงต่างๆ นานา

ส่วนราชาเทวะหลายคนข้างหน้าสุดก็กำลังร่วมกันถกเถียงเสียงตํ่า

พวกเขายืนอยู่ใกล้ที่สุด ย่อมเห็นการออกมือของซือมั่วเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนยื่นเข้าไปในชั้นที่ 99 ไม่นานนักก็ล้มเลิกไป

“เกิดอะไรขึ้น” ราชาเทวะเฝินไห่ผู้มีนิสัยใจร้อนเล็กน้อยกล่าวถาม

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยจ้องมองเงาร่างสองสายบนชั้นที่ 98 กล่าวช้าๆ “ครั้งก่อนที่นางกลับมา เคยบอกว่าชั้นที่ 99 คล้ายมีอาคมต้องห้ามขวางกั้นไม่ให้คนเข้าไป ครั้งนี้ เกรงว่านางคิดจะรุดเข้าไปในชั้นที่ 99”

“รุดเข้าไปในชั้นที่ 99 อีกครั้งหรือ”

“ชั้นที่ 99 มีอาคมต้องห้าม!”

ราชาเทวะจินกวงและราชาเทวะจงซานกล่าวอย่างตกใจพร้อมกัน

“เข้าชั้น 99 ไม่มีปัญหา แต่ในเมื่อมีอาคมต้องห้าม หากยังยืนกรานจะรุดเข้าไป ผลลัพธ์จะไม่เป็นดังที่หวัง สุดท้ายแล้วแม้แต่แสงแห่งวิถีก็จะถูกปิดลงหรือไม่ พวกเราก็เสียแรงเปล่า” ราชาเทวะซุ่ยซิงขมวดคิ้วกล่าว

“ไม่ได้เด็ดขาด!” ราชาเทวะเฝินไห่ได้ยินแล้วก็ร้อนรน

“อย่าร้อนใจ พวกเขาไม่ใช่คนบุ่มบ่าม ไม่อาจใจร้อนดันทุรัง” ราชาเทวะจงซานโน้มน้าว หยุดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “เพียงแต่ ไม่คิดว่าชั้นที่ 99 จะมีอาคม ต้องห้าม ดูแล้วหากรุดเข้าไป สิ่งที่มองเห็นจะต้องไม่ใช่ความลับที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้เป็นแน่”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ออกไป ชั่วขณะก็ดึงดูดความสนใจของราชาเทวะหลายคน

แต่ว่า ถึงแม้มู่ชิงเกอจะเข้าไปในชั้น 99 ได้จริงๆ ตามกฎแล้ว พวกเขาก็ไม่อาจเข้าไปได้อยู่ดี

ทันใดนั้น คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเกิดความคิดที่หวังว่ามู่ชิงเกอจะเข้าไปไม่ได้ขึ้นมา

แต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง หากไม่มีมู่ชิงเกอ ทั้งชีวิตของพวกเขาก็ไม่มีทางจะก้าวเข้ามาในที่ที่สูงเพียงนั้นได้ถึงแม้ชั้นที่ 99 จะไม่มีวาสนาต่อพวก เขา แต่หากมู่ชิงเกอมองเห็นและได้ซักถามในภายหลัง ไม่แน่ว่าพวกเขาก็อาจจะเข้าใจได้ด้วย ผ่านไปชั่วครู่ พวกเขาก็เฝ้ารอพร้อมกันอีกครั้ง

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยไม่ได้สนใจความคิดผู้อื่น ตอนนี้เขาเพียงแค่เม้มปากนิ่งเงียบ เงยหน้ามองเงาร่างที่ยืนเคียงบ่าบนยอดสูงสองสายนั้น

“ข้ารู้แล้ว!”

จู่ๆ มู่ชิงเกอก็ร้องอย่างดีใจออกมา

ซือมั่วมองนาง สบสายตาที่มองเข้ามาของนาง

นางกล่าว “บางที พวกเราอาจจะลองใช้การตระหนักรู้ของวิถี”

การตระหนักรู้ของวิถี!

ซือมั่วกระดกหางคิ้วริมฝีปากบางสีแดงเชิดขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้ม

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ของข้าเก่งกาจที่สุด” เขาชมอย่างไม่ตระหนี่เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่กลับถูกมู่ชิงเกอกลอกตาใส่ “ยังไม่เคยลอง ไม่รู้ด้วยว่าถูกหรือไม่ จะเก่งได้อย่างไรกัน”

“ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เสี่ยวเกอเอ๋อร์ก็เก่งที่สุดในใจข้า” ซือมั่วยังคงยิ้มกล่าว

มู่ชิงเกอกล่าวหยอก “เก่งกว่าเจ้าอีกหรือ”

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ย่อมเก่งที่สุด” ซือมั่วพยักหน้าอย่างตั้งใจ

มู่ชิงเกอน้อมรับความสามารถในการหลับตาพูดไปเรื่อยของซือมั่วอีกครั้ง แม้ว่า นางอยากเอาชนะซือมั่วได้ในสักวันอย่างยิ่ง แต่ว่านางกำลังพัฒนา ชายผูนี้ก็กำลัง พัฒนาเช่นกัน ถึงตอนนี้นางก็ยังห่างจากเขาอยู่อีกเล็กน้อย

“พอแล้ว ไม่ต้องใช้คารมมาล่อหลอก พวกเรามาลองดูดีกว่า” มู่ชิงเกอเก็บอารมณ์กล่าวกับซือมั่ว

ซือมั่วพยักหน้าเบาๆ

ทั้งสองสบตากันปราดหนึ่ง ส่งสัญญาณลับกันในใจ ยื่นมือออกมาพร้อมกัน หลับตาลง ยื่นไปยังชั้นที่ 99

ปัง!

มือคนทั้งสอง ปลุกเร้าฉากกำบังชั้นนั้นพร้อมกัน

แต่ว่า ครั้งนี้ทั้งสองไม่ได้ฝืนรุดเข้าไป แต่ตั้งใจนำหลักวิถีที่ตนได้ตระหนักรู้มาในปัญญาเทวะแสดงออกมาทีละส่วน…ทีละส่วน

ตามหลักวิถีที่ทั้งสองส่งออกมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ฉากกำบัง ที่เดิมโปร่งใสต่อต้าน คาดไม่ถึงว่าเริ่มกระจายแสงสว่างจางๆ ออกมา แสงทรงกลดหลากสีสัน ปกคลุมทั้งสองคนไว้ข้างใน

“พวกเจ้าดูเร็ว!”

นอกแสงแห่งวิถี มีคนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงแปลกประหลาดในนั้นได้แล้ว

ชั่วพริบตา คนทั้งหมดก็เริ่มตื่นตระหนก ไม่เว้นแม้แต่ราชาเทวะหลายคน

ในตอนนี้เอง ร่างกายของมู่ชิงเกอกับซือมั่วพลันกลายเป็นแสงเล็กๆ สองดวง พุ่งเข้าไปในชั้นที่ 99

เปรี๊ยะ!

ในตอนที่ทั้งสองหายตัวไป แสงแห่งวิถีก็เปิดออกทันที ทอดยาวต่อเนื่องไปถึงชั้นที่ 98

“เร็ว! แสงแห่งวิถีเปิดแล้ว!” เฝินไห่ตะโกนอย่างตื่นเต้น

ราชาเทวะหลายคนพุ่งเข้าไปในแสงแห่งวิถีด้วยความรวดเร็ว บนเกาะโหลวหลานเดือนพล่าน คนทั้งหมดต่างก็กรูกันเข้าไปในแสงแห่งวิถี

‘ที่นี่คือที่ไหน’ ซือมั่วมองไปรอบๆ รู้สึกว่าตนคล้ายอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวหนึ่งผืน

เพียงแต่ท้องฟ้าที่มีดวงดาวผืนนี้ ต่างจากวันปกติที่เขาเห็น ท้องฟ้าดวงดาวตรงหน้า มีกลิ่นอายโบราณกาลชนิดหนึ่งแผ่ซ่านออกมา

‘ที่นี่ ก็คือโลกในแสงแห่งวิถี ตามข้ามา!’ มู่ชิงเกอใช้ปัญญาเทวะติดต่อกับซือมั่ว ทั้งสองกุมนิ้วทั้งสิบไว้ นางพาเขามุ่งหน้าไปยังที่ลึกลงไป

ที่นี่ นางเคยมาสองครั้งแล้ว แน่นอนว่าชำนาญลู่ทางดี

ซือมั่วปล่อยให้นางนำทาง ท่องอยู่ในท้องฟ้าดวงดาว ไม่นาน ทั้งสองก็มาอยู่หน้าเสาต้นนั้นที่มู่ชิงเกอเห็นเมื่อครั้งก่อน

เพียงแต่ครั้งนี้นางไม่หยุดอีกต่อไป แต่กลับพาซือมั่ว ออกแรงวิ่งเข้าไปในเสา

มู่ชิงเกอกับซือมั่ว เข้าไปข้างในเสาโดยไม่ถูกขัดขวางเลย แม้แต่น้อย ทว่าภาพที่เห็น กลับทำให้พวกเขาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

‘เมล็ดพันธุ์หนึ่งเมล็ด!’ มู่ชิงเกอกล่าวอย่างตกใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!