Skip to content

พลิกปฐพี 884

ตอนที่ 884

เยือนลั่วซิงเฉิงอีกครั้ง

เวลา ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ชั่วพริบตาก็ผ่านไปหลายสิบปี ตอนที่มู่ชิงเกอมาเหยียบแผ่นดินผืนนี้อีกครั้ง มองทัศนียภาพที่ไม่แปลกตา ในใจก็มีความรู้สึกมากเหลือคณานับผุดขึ้นมา

หลังกลับจากเกาะโหลวหลาน นางไม่ได้กลับเก้าชั้นฟ้า แต่ฉีกช่องว่างกลับไปที่โลกแห่งยุคกลางโดยตรง

สำหรับเสียงขอบคุณในบุญคุณของนาง นางเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น

เหมือนดังคำพูดของราชาเทวะจงซาน นางขอให้พาบุคคลชั้นยอดเผ่าเทพมารเข้าแสงแห่งวิถีพร้อมกัน นอกจากอยากจะยกระดับกำลังทั้งหมดแล้วก็เพราะต้อง การซื้อใจคน

นางต้องการบารมี เพียงแค่มีบารมีมากพอ นางจึงจะสามารถควบคุมคนทั้งหมดได้

เพียงแต่ บารมีนี้ของนาง ไม่ใช่เพราะต้องการแผ่ขยายอำนาจ แต่เพราะว่า เรื่องที่นางมีลางสังหรณ์ถึงอนาคตนั้นไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ราชาเทวะเหล่านั้นคิด

บนท้องฟ้า เกล็ดหิมะจำนวนไม่น้อยโปรยปรา ลงมามากมาย ปกคลุมภูเขาสายนํ้าแผ่นดินใหญ่จนเป็นสีขาว

มู่ชิงเกออยู่บนพื้นหิมะ ยื่นมือไปรองหิมะ ปากกล่าวพึมพำ “ไม่คิดว่า ตอนนี้จะเป็นฤดูหนาวของโลกแห่งยุคกลาง”

ร่างกายของนาง ไม่กลัวความหนาวมานานแล้ว ทิวทัศน์หิมะเหล่านี้ นอกจากจะทำให้นางรู้สึกถึงความงดงามแล้วก็ไม่มีสิ่งใดอีก

เกล็ดหิมะที่ร่วงลงมาผลิบานอยู่ในฝ่ามือมู่ชิงเกอ เปลี่ยนเป็นนํ้าแวววับโปร่งแสง

มู่ชิงเกอยกมุมปากยิ้ม ทอดถอนใจเล็กน้อย

โลกแห่งยุคกลางกับแผ่นดินเทพมาร เดิมก็มีเส้นแบ่งเขตที่ไม่อาจก้าวข้าม ตามการพัฒนาของตบะบำเพ็ญของนาง ตอนนี้นางสามารถไปมาได้อย่างอิสระแล้ว

หลายสิบปีไม่ได้พบหน้าญาติพี่น้อง ไม่รู้ว่าพวกเขายังสบายดีอยู่หรือไม่

ชั่วขณะนั้น มู่ชิงเกอดีใจอย่างยิ่ง

ดีใจที่ญาติของนางต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียร มีอายุขัยยาวนาน มิเช่นนั้น หากเป็นคนธรรมดาผ่านไปสิบกว่าปีเมื่อนางกลับมา เกรงว่าคงทำได้เพียงเห็นแต่กระดูกแห้งกรังหนึ่งกอง

มู่ชิงเกอเก็บมือกลับ เดินเหยียบไปบนหิมะ มุ่งหน้าไปยังลั่วซิงเฉิง

ความเร็วของนางรวดเร็วอย่างถึงที่สุด เพียงแค่ชั่วพริบตาก็ก้าวข้ามพันลี้ ไม่กี่วินาทีต่อมาก็มองเห็นเค้าโครงลั่วซิงเฉิงได้รางๆ แล้ว

ในลั่วซิงเฉิง จิงไห่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง ดูการฝึกซ้อมของกองทัพในสนามฝึก ช่วงเวลาสิบกว่าปี ทำให้เขาลอกคราบจากเด็กน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ นิสัยเด็กๆ ก็เปลี่ยนเป็นความสงบมั่นคง

“ใต้เท้า นี่คือรายงานการเก็บภาษีเพิ่มที่เพิ่งจะส่งมาขอรับ”พ่อบ้านนายหนึ่ง กอบเอกสารราชการ ยื่นไปตรงหน้าจิงไห่

จิงไห่ไม่ได้รับมา เพียงออกคำสั่ง “ส่งไปที่ห้องหนังสือของข้า อีกประเดียวข้าจะไปจัดการ”

พ่อบ้านถอยออกไปตามคำสั่ง

จิงไห่เดินลงไปข้างล่างกำแพงเมือง คนทั้งหมดที่นี่ต่างก็เรียกเขาว่าใต้เท้า ส่วนคนของตระกูลจิงแห่งภาคกลางก็เรียกเขาว่าประมุขน้อย

ในใจเขา ในใจของประชาชนลั่วซิงเฉิงทั้งหมด เจ้าเมืองของลั่วซิงเฉิงมีเพียงมู่ชิงเกอผู้เดียว

เกล็ดหิมะร่วงโรย ตกลงทุกๆ ซอกมุมในลั่วซิงเฉิง

จิงไห่เดินไปยังรูปปั้นขนาดใหญ่มหึมาในเมือง ทุกๆ ที่ที่ผ่านไป ผู้คนต่างก็พยักหน้ายิ้มให้เขาด้วยความเคารพ ส่วนเขาก็ยิ้มน้อยๆ กลับไปเช่นกัน

รูปปั้นขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางลั่วซิงเฉิงคือรูปปั้นของมู่ชิงเกอ

หลังจากที่นางจากไป ผู้คนในลั่วซิงเฉิงก็ร่วมแรงร่วมใจกันแกะสลักขึ้นมาตามความทรงจำ รูปปั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่ แฝงนัยว่านางคือเทพปกปักรักษาลั่วซิงเฉิง

ด้านล่างรูปปั้น มีเด็กไม่น้อยกำลังเล่นสนุกสนาน ในมือพวกเขาถือดอกไม้จำนวนหนึ่งที่เด็ดมาจากสถานที่อบอุ่นที่ไหนสักแห่ง หลังจากเล่นสนุกแล้วก็วางดอกไม้ไว้ใต้เท้ารูปปั้นอย่างเป็นระเบียบ

จิงไห่ยืนอยู่ห่างจากรูปปั้นหนึ่งจั้ง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่เสมือนจริงดวงนั้น บ่นเสียงตํ่าในใจ ครูฝึก เมื่อไรท่านจะกลับมาเยี่ยมเยียนบ้าง ท่านลืมลั่วซิงเฉิง ลืมเสี่ยวไห่ไปแล้วหรือ

เขาไม่ได้สังเกตว่าตอนที่เขาคิดถึงมู่ชิงเกอในใจนั้น รอบด้านก็พลันนิ่งเงียบลง

ประชาชนในเมืองที่ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็ตาม ตอนนี้ต่างก็เหมือนถูกหยุด รักษาท่าทางก่อนหน้านี้ ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว กระทั่งเด็กที่เล่นสนุกหลายคนนั้นก็ หยุดนิ่งเช่นกัน

สายลมหนึ่งหอบพัดผ่านม้วนกลีบดอกไม้เหล่านั้นขึ้นปลิวกระจัดกระจายอยู่บนพื้นหิมะ

เสียงฝีเท้าดังเข้ามาจากด้านหลังจิงไห่ หลังเขาได้ยินก็หมุนตัวทันที ยังไม่ทันมองเห็นผู้มาเยือนชัด ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นอย่างเรียบเฉย “เสีย ทรัพย์กำลังคนไปตั้งมากมายเพื่อสร้างรูปปั้นนี้หรือ”

“ครูฝึก!” เงาร่างสีแดงเปี่ยมเสน่ห์นั้นสะท้อนอยู่ในดวงตาของจิงไห่ ในดวงตาของเขาผุดความตื่นเต้นและดีใจออกมา

มู่ชิงเกอยกมุมปากยิ้ม มองเด็กหนุ่มตรงหน้า “เด็กน้อย วันนี้กลายเป็นชายหนุ่มแล้ว”

“แต่ว่าครูฝึกไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว ยังคงงดงามเช่นเดิม” จิงไห่จ้องมองมู่ชิงเกอ ไม่ยอมละลายตา

มู่ชิงเกอยิ้มกล่าว “รู้จักพูดจาเช่นนี้ โตเป็นผูใหญ่แล้วจริงๆ”

“ครูฝึก ที่ข้าพูดคือความจริง” จิงไห่กล่าวอย่างแน่วแน่

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ ไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเขา ห้ยืดเยื้อ นางกล่าวว่า “เจ้าดูแลลั่วซิงเฉิงได้ไม่เลวเลย”

ตอนที่มา นางซ่อนตัวในความมืด สังเกตการณ์อยู่สักพักแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะปรากฎตัว

จิงไห่ที่ถูกมู่ชิงเกอชื่นชมก็แสดงท่าทางขวยเขิน เหนียมอายของเด็กหนุ่มออกมา ราวกับว่า เมื่ออยู่ต่อหน้ามู่ชิงเกอ เขาก็ยังคงเป็นเด็กหนุ่มหมู่บ้านชาวประมง ที่ใสซื่อบริสุทธิ์ผู้นั้นตลอดกาล

“ครูฝึก พวกเขา…” ตอนนี้จิงไห่เพิ่งจะสังเกตเห็นความผิดปกติรอบด้าน

“ไม่ต้องกังวล เมื่อข้าจากไป พวกเขาจะกลับสู่สภาพเดิม” มู่ชิงเกอกล่าว

ในดวงตาดิงไห่ปรากฎความสับสน “ครูฝึกจะไปแล้วหรือ”

มู่ชิงเกอพยักหน้า “ข้ามาเยี่ยมดูว่าเจ้าดูแลลั่วซิงเฉิงเป็นอย่างไร ยังต้องไปที่อื่นอีก”

“ครูฝึกรีบไปรีบมาเช่นนี้เลยหรือ” จิงไห่กล่าวอย่างผิดหวัง

มู่ชิงเกอมองเขา จู่ๆ ก็ยกมือ ทวนหลิงหลงปรากฎอยู่ในฝ่ามือนาง ตอนที่จิงไห่กำลังประหลาดใจนั้นทวนหลิงหลงก็กลายเป็นร่างหยวนหยวน

“เจ้าเด็กเสี่ยวไห่! ยังจำข้าได้หรือไม่” เมื่อหยวนหยวนปรากฎตัวก็กล่าวอย่างกระตือรือร้น

จิงไห่มองหยวนหยวนอย่างตกใจ ความผิดหวังในดวงตาถูกความดีใจกลบลง “อาจารย์อาเล็ก! เป็นท่านจริงๆ หรือ ครูฝึกช่วยชีวิตท่านได้แล้ว!”

“เจ้าเด็กเสี่ยวไห่ ฟังว่าตอนที่ข้าไม่อยู่ เจ้าคิดถึงข้ายิ่งนัก!” หยวนหยวนเดินเข้าไปโอบไหล่จิงไห่เข้ามา พลางยิ้มแย้มกล่าว

จิงไห่นํ้าตารื่น พยักหน้าอย่างหนักหน่วง

ตอนนี้ มู่ชิงเกอหมุนตัว เดินไปข้างหลัง เดินไปพลางกล่าวไปพลาง “หยวนหยวนจะอยู่ที่นี่ ใช้วันเวลาร่วมกับเจ้า เมื่อข้าจากไป เขาจะจากไปเอง”

การจากไป ที่นางหมายถึง แน่นอนว่าเป็นตอนที่นางกลับแผ่นดินเทพมาร

หยวนหยวนกับจิงไห่หมุนตัวมองแผ่นหลังที่ไพล่มือจากไปของมู่ชิงเกอ เกล็ดหิมะที่ร่วงลงมาทำให้ภาพในดวงตาพร่าเลือน

จิงไห่กล่าวพึมพำ “ครูฝึกยังคงงานยุ่งเช่นนั้น”

หยวนหยวนก็ถอนหายใจพยักหน้า “นั้นน่ะสิ! ลูก พีแบกภาระหนักอึ้งเกินไป นางไม่กล้าพักผ่อน ซํ้ายังไม่ยอมพักผ่อนด้วย”

หลังจากที่มู่ชิงเกอจากไป ทุกอย่างในลั่วซิงเฉิงก็กลับสู่ภาวะปกติ

ส่วนจิงไห่ก็ไม่ได้ป่าวประกาศเรื่องที่มู่ชิงเกอกลับมา เพราะเขารู้ว่า หากมู่ชิงเกอหวังให้การกลับมาของนางถูกคนรับรู้ก็คงจะไม่หยุดคนในเมืองไว้

มู่ชิงเกอน่ะหรือ

นางยังต้องไปตระกูลซางและสำนักวิถีโอสถเที่ยวหนึ่ง พบคนที่ควรพบแล้ว พูดสิ่งที่ควรพูดแล้ว นางก็ยังต้องไปหลินชวนอีกเที่ยวหนึ่ง

เพียงแต่ว่า ในกลุ่มเพื่อนเก่าที่โลกแห่งยุคกลาง คนบางคน นางคิดว่าไม่พบยังดีกว่าพบ แต่ว่าคนผู้นั้นกลับมาปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้านางแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!