Skip to content

พลิกปฐพี 901

ตอนที่ 901

ข้ามามอบของขวัญชิ้นใหญ่

พิธีแต่งงานถูกขัด หนังสือสมรสถูกชิง

บรรยากาศบนเก้าชั้นฟ้าตึงเครียดขึ้นในชั่วพริบตา

‘ไป๋สี่ พาญาติข้าออกไป’ มู่ชิงเกอกล่าวกับไป๋สี่ในใจ

ไป๋สี่ที่ยืนอยู่ในฝูงชน ตอบสนองขึ้นมาทันที นางเดินเข้าไปหามู่ซง ซางซุนหวาง มู่เหลียนเฉิง ซางหลันรั่วและคนอื่นเงียบๆ

ส่วนมู่อี้เฉินและมู่เสวี่ยอู่ในกลุ่มคนรวมถึงพวกจีเหยาฮั่วสามคนที่เพิ่งออกมาจากเสี่ยวเทียนอี้ได้ไม่นานก็ถูกชูเนี่ยนพาไปอย่างเงียบๆ แล้วเช่นกัน

ตบะบำเพ็ญของพวกเขาตํ่าเกินไป หากต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ ก็ง่ายต่อการถูกทำให้บาดเจ็บอย่างยิ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น หากฝ่ายตรงข้ามรู้ว่านี่คือมิตรสหายของมู่ชิงเกอ ไม่แน่ว่าอาจจะขู่เข็ญใช้พวกเขาเป็นจุดอ่อนบีบบังคับมู่ชิงเกอด้วยเหตุนี้

หลักการนี้มู่ซงและคนอื่นๆ ย่อมเข้าใจดี

ดังนั้น ตอนที่ไป๋สี่กับชูเนี่ยนพาพวกเขาออกไปยังส่วนในของวังราชาเทวะ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นห่วงมู่ชิงเกอ แต่กลับไม่ได้ทำให้ล่าช้า

ตอนนี้ ปกป้องตัวเองให้ดีก็คือการช่วย หลือมู่ชิงเกอที่ดีที่สุด

เพียงแต่…

“ผู้ใดกัน เหตุใดถึงบุกเข้ามาทำลายพิธีได้” คนที่คลุมชุดดำผู้นั้นมองดูก็รู้ว่ามาด้วยเจตนาร้าย หลังเข้าไปในวังราชาเทวะแล้ว มู่เหลียนเฉิงก็กล่าวถามไป๋สี่

ไป๋สี่ขมวดคิ้วกล่าว “พิธีสมรสวันนี้ อาคมควบคุมการเข้าออกบนเก้าชั้นฟ้าล้วนเปิดออกทั้งหมด คาดว่าคนผู้นั้นคงฉวยโอกาสแฝงตัวเข้ามา แท้จริงแล้วเป็นใคร ข้าเองก็ไม่ทราบ”

ชูเนี่ยนเองก็เอ่ยปากปลอบขวัญ “พวกท่านอย่า ได้เป็นกังวล พวกชิงเกอจะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยได้แน่”

เหล่าสหายของมู่ชิงเกอมองตากันปราดหนึ่ง ทั้งหมดถอนหายใจเงียบๆ ด้วยความไม่ยินยอม พวกเขาไม่อาจลงสนามรบกับมู่ชิงเกอกลับต้องยอมรับการคุ้มกัน นี่ทำให้พวกเขาอึดอัดในใจ

นอกวังราชาเทวะ มู่ชิงเกอสวมชุดแต่งงาน สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับซือมั่วที่สวมชุดพิธีมงคล มองแขกผู้ไม่ได้รับเชิญที่ยืนอยู่ข้างกระถางไฟด้วยสีหน้าเย็นชา

ในมือเขา ยังถือหนังสือสมรสที่เตรียมจะบูชาดิน ฉบับนั้นไว้แน่น

พิธีแต่งงานถูกทำลาย ในดวงตาสีอำพันของซือมั่วแฝงความโกรธและความอาฆาต

เผชิญหน้ากับการโอบล้อมที่หนาแน่น คนผู้นั้นไม่เผยท่าทางกังวลใจเลยแม้แต่นิดเดียว กลับส่งเสียงหัวเราะ ‘วะฮะฮ่า’ ที่ชั่วร้ายออกมา

“เจ้าเป็นใครกันแน่” ราชครูตำหนิด้วยความโกรธ

“ข้าคือผู้มามอบของขวัญ” ภายใต้ชุดดำ มีเสียงน่าสะพรึงกลัวเยือกเย็นดังออกมา

มอบของขวัญหรือ

มีคนมอบของขวัญเช่นนี้ด้วยหรือ

คนรอบด้านต่างก็พากันขมวดคิ้ว ผู้ที่มามีเจตนาร้ายอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ เกรงว่างานแต่งงานในวันนี้ไม่อาจดำเนินต่อไปได้แล้ว การเชื่อมความสัมพันธ์เทพมาร จะต้องผ่านความทุกข์ยากลำบากจริงๆ หรือ

“นั่นใครกันแน่ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าเพียงนี้ในพิธีแต่งงานเช่นนี้ยังกล้าหาเรื่อง ไม่กลัวตายจริงๆ” ราชาเทวะเฝินไห่กดเสียงตํ่ากล่าวกับราชาเทวะจินกวงข้างกาย

ราชาเทวะหัวเราะเยาะหนึ่งครา “ใครจะรู้เล่า”

นํ้าเสียงของคนทั้งสองต่างก็เผยความสะใจในหายนะของคนอื่นออกมาเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว

เดิมที ภายในใจพวกเขาก็ไม่หวังให้มู่ชิงเกอแต่งงานกับเจ้าแห่งมารอยู่แล้ว

“เงียบเสียให้หมด วันนี้ในแผ่นดินเทพมารยังมีใครกล้าก่อเรื่องอีก ข้าว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา” ราชาเทวะซุยชิงกล่าวเสียงเรียบหนึ่งประโยค

ทั้งสองละสายตามองเขา มองเห็นเพียงความเคร่งขรึมตรงกลางหน้าผากเขา

การเตือนสตินี้ ก็ทำให้พวกเขาตระหนักขึ้นมาได้เช่นกัน

ใช่แล้ว ดูจากแผ่นดินเทพมารทั้งหมดจะมีใครกล้าก่อเรื่องวันนี้กัน

ชั่วพริบตา สีหน้าของพวกเขาก็มีความเคร่งขรึม ขึ้นมาหลายส่วนเช่นกัน

“เหอะ นี่คือท่าทางมามอบของขวัญของเจ้าหรือ หากเป็นเขกที่ได้รับเชิญก็ต้องวางท่าทางของแขก ยืนดูอยู่ข้างๆ จึงจะถูก เจ้ารุกลํ้าแท่นบูชา แย่งหนังสือสมรส เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการทำลายพิธีแต่งงาน ยังกล้าพูดว่าตนมามอบของขวัญอีกหรือ” ราชครูตะโกนเสียงเข้ม

บนเก้าชั้นฟ้า บรรยากาศเฉลิมฉลองถูกกวาดจนหายเกลี้ยง แทนที่ด้วยความรู้สึกกดดันที่ตึงเครียดชนิดหนึ่ง

ตั้งแต่ที่คนผู้นี้ปรากฎตัวจนถึงตอนนี้ มู่ชิงเกอกับซือมั่วก็ยังไม่พูดเลยแม้แต่คำเดียว เพียงแค่แสดงท่าทีเย็นชามองเขา

นี่ทำให้บรรยากาศแปลกประหลาดยิ่งขึ้น

“วะฮะฮ่า…แน่นอนว่าข้ามามอบของขวัญ ข้าขัดขวางพิธีแต่งงานก็เพื่อเลี่ยงไม่ให้ราชาเทวะของพวกเจ้ากลายเป็นแม่หม้าย นี่ยังไม่เรียกว่ามอบของขวัญชิ้นใหญ่อีกหรือ” คนชุดดำกล่าวอย่างอวดดี

“ช่างกล้านัก!”

คำพูดนี้ดังออกไป คนทั้งหมดในเผ่ามารก็โมโห

คาดไม่ถึงว่ากล้าสาปแช่งให้เจ้าแห่งมารของพวกเขาตายต่อหน้าทุกคน

ดวงตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอหรี่ลงอย่างรวดเร็ว สายตาที่ดุดันสาดออกไป นางเพิ่งจะยกมือ แต่กลับถูกซือมั่วออกแรงจับไว้

‘อย่าถูกยั่วโมโห’ ซือมั่วถ่ายทอดเสียงกล่าวกับมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึก สะกดกลั้นความโกรธในใจเอาไว้ คลายพลังเทพที่รวมรวมในมือออก

“งานสมรสราชาเทวะของข้าในวันนี้ เจ้ากลับเอ่ยวาจาสาปแช่งเป็นลางร้ายเช่นนี้ออกมา ดูท่าแล้ว เจ้าคงไม่อยากจากไปแบบมีชีวิต!” คิ้วทั้งคู่ของราชครูตั้งขึ้น ตะโกนกล่าวเสียงดัง

“ทหาร! จับคนชั่วผู้นี้ไว้!” ราชครูออกคำสั่ง

แม้ว่าเขาจะถูกคนชุดดำยั่วโมโห แต่กลับยังประคองสติ ไม่อยากฆ่าคนในพิธีแต่งงาน เพิ่มลางร้ายโดยไม่จำเป็น เดิมเขาคิดว่า จับคนไว้แล้ว พิธีแต่งงานจะ สามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ว่า…

“โอ๊ย!”

องครักษ์เก้าชั้นฟ้าที่รับคำสั่งวิ่งพุ่งเข้าไป เมื่อเข้าไปใกล้บนร่างคนชุดดำผู้นั้นก็ปรากฎหมอกควันสีเขียวจางๆ หนึ่งชั้นออกมา หมอกควันนั้น เมื่อโดนตัวองครักษ์ที่วิ่งเข้าไป พวกเขาก็ส่งเสียงร้องที่เจ็บปวดและดิ้นพล่านอยู่บนพื้น

ฉากฉากนี้ทำให้คนไม่น้อยตกใจกลัว ทหารไม่น้อยทยอยกันถอยออกไป หน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน

แต่ในตอนนี้เอง มู่ชิงเกอกลับยกมือโบก ผงยาสีขาวหนึ่งกำมือถูกนางโปรยออกไป ผงยาเหล่านั้นตกลงบนร่างองครักษ์ที่ล้มลงด้วยความเจ็บปวดเหล่านั้น ทำให้พวกเขาสงบนิ่งลงในชั่วพริบตา หมอกสีเขียวเหล่านั้นก็ถูกผงยาสีขาวไล่ออกไป ท้ายที่สุดก็สลายตัว

“วะฮะฮ่า เป็นวิธีที่ดีจริงๆ!” คนชุดดำผู้นั้นกลับไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่นิดเดียว กลับเหมือนคาดเดาเอาไว้แล้ว

บนพื้นดิน มีคนก้าวขึ้นมาทันที ลากองครักษ์ที่บาดเจ็บเหล่านั้นลงไป การปะทะกันครั้งนี้ทำให้บรรยากาศบนเก้าชั้นฟ้ายิ่งตึงเครียดและตื่นตระหนกมากขึ้น

“ท่านปิดบังรูปลักษณ์ไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าแท้จริง ไม่กล้าหรือว่าอัปลักษณ์เกินไปกันแน่” มู่ชิงเกอยิ้มเยาะเหยียดหยาม

พิธีแต่งงานของนาง คาดไม่ถึงว่าจะวิ่งมาก่อกวน เห็นนางเป็นก้อนโคลนไปแล้วจริงๆ หรือไร

“วะฮะฮ่า ข้าหล่อเหลากว่าสามีผู้นั้นของเจ้ามาก หรือว่า เจ้าจะลองพิจารณาดู ไม่ต้องแต่งงานกับเขา แต่แต่งงานกับข้าดีหรือไม่ ฐานะข้าไม่ต่ำไปกว่าเขา แต่งงานกับข้า เจ้าเองก็มีอำนาจสูงส่งเหนือผู้ใดเช่นกัน” คนชุดดำกล่าวด้วยนํ้าเสียงยั่วยุเล็กน้อย

“ข้าว่าเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!” บอกให้มู่ชิงเกอแต่งงานใหม่ ซือมั่วทนไม่ไหวแล้ว

เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว บังหน้ามู่ชิงเกอไว้ ซ่อนเงาร่างของนางไว้อย่างมิดชิด ในเสียงไม่แฝงความรู้สึกใดๆ กล่าว “เหตุใดเล่า ร่างแยกถูกทำลายเร็วเพียงนี้ก็ทนไม่ได้กระโดดมารนหาที่ตายแล้วหรือ”

เมื่อประโยคนี้ดังออกไป ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ร่างแยกอะไร

อะไรถูกทำลาย

แขกไม่ได้รับเชิญผู้นี้คือใคร เจ้าแห่งมารดูออกนานแล้วหรือ หรือว่าจะเป็นศัตรูเก่า

เมื่อมองดูสีหน้าของมู่ชิงเกอ หลังจากคำพูดนี้ของเจ้าแห่งมาร คาดไม่ถึงว่าไม่มีความตกใจแม้แต่นิดเดียว ท่าทางเช่นนั้น ชัดเจนว่ารู้ฐานะของคนชุดดำผู้นี้แล้วเช่นกัน

“วะฮะฮ่า ดูท่าแล้ว พวกเจ้าจะจำข้าได้ไม่ลืมจริงๆ!” คนชุดดำผู้นั้นยืนตัวตรงช้าๆ ทุกคนเพิ่งจะสังเกตเห็น รูปร่างของเขาไม่ได้หลังค่อมกลับสูงใหญ่ทรงพลัง

เพียงแต่ แม้ว่าเขาจะยืดตัวตรง แต่กลับยังคงมองเห็นรูปร่างลักษณะไม่ชัดเจนเช่นเคย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!