Skip to content

พลิกปฐพี 903

ตอนที่ 903

ชิงหนังสือสมรสคืนมา

ตูม!

พลังจิตมารที่แข็งแกร่งระเบิดออกจากร่างซือมั่ว ลมปราณที่เหี้ยมโหดนั้นพัดม้วนแท่นบูชาทั้งแท่น ทุกๆ ที่ที่ผ่านไป ถ้วยโถโอชามทั้งหมดล้วนกลายเป็นเศษผงสลายหายไป แรงที่แข็งแกร่งกลุ่มนี้ พุ่งตรงไปยังคนเผ่าอี้ผู้นั้น

ทว่าเขากลับหมุนตัวขึ้นมา ลอยเข้าไปในอากาศ ระหว่างเสื้อดำที่พัดพลิ้วก็มีหมอกควันสีเขียวจำนวนไม่ น้อยออกมาจากใต้เสื้อ ตลบอบอวลไปทั่วสารทิศ

“ระวังหมอกสีเขียวนั่น!”

“ทุกคนรีบถอย!”

เมื่อครู่สิ่งที่องครักษ์เก้าชั้นฟ้าเจอยังคงติดตา

ตอนนี้ มองเห็นหมอกควันสีเขียวเปล่งประกายนั้น คนรอบด้านต่างก็หวาดผวาในใจ พากันถอยไปข้างหลัง ไม่กล้าให้หมอกควันเข้าใกล้ตัว

“ลม” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงตํ่าหนึ่งครา

ชั่วขณะ ในกลุ่มองครักษ์ของเก้าชั้นฟ้าก็มีผู้คุมลมเดินออกมาสี่คน ส่วนเผ่ามารฝั่งนั้น ในกลุ่มองครักษ์มารที่เหลือ ก็มีผู้คุมลมหลายคนเดินออกมาเช่นกัน

พวกเขาก้าวเท้าพร้อมเพรียง ยืนอยู่ข้างหลังมู่ชิงเกอ ไม่ต้องให้นางพูดลงรายละเอียด ทั้งหมดก็เข้าใจว่าตนเองควรทำอย่างไร

คนหลายคนเรียกกฎบัญญัติแห่งลมออกมา พายุที่เกิดขึ้นฉับพลัน ฉีกหมอกควันสีเขียวเหล่านั้นอย่างทำลายล้าง ม้วนมันเข้าไปกลางอากาศ ถูกพัดจนหมดเกลี้ยง

ฉากอันเป็นที่รู้กันเช่นนี้ ทำให้คนทั้งหมดสั่นสะเทือน

ที่แท้แล้ว ระหว่างเผ่าเทพมารก็รบเคียงบ่าเคียงไหล่ได้เช่นเดียวกันหรือ

เผ่าเทพและเผ่ามารที่ยืนอยู่ข้างหลังมู่ชิงเกอ เข้ากันได้ดีเช่นนั้น แต่ก็ยังไม่เข้าตา ราวกับเย้ยหยันว่าความขัดแย้งแสนปีในอดีตของพวกเขา เป็นเพียงแค่สงคราม เด็กๆ สนามหนึ่ง

หมอกควันสีเขียวถูกพัดกระจาย ลูกไม้คนเผ่าอี้ ไม่เกิดผลอีกทำให้คนรอบด้านตั้งสติได้เช่นกัน

และในตอนนี้ซือมั่วก็ปรากฎตัวอยู่หน้าคนเผ่าอี้ผู้นั้น ประมือกับเขาอย่างรวดเร็วแล้ว

“ฮ่าๆๆๆ! พวกเจ้าสองคน ต่างก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของเผ่าข้า วันนี้ฆ่าพวกเจ้าแล้ว วันหลังเผ่าข้าก็จะเป็นเจ้าของที่แห่งนี้ และพวกเจ้าจะต้องกลายเป็นอาหาร เลี้ยงสัตว์ของเผ่าข้า สมุนทั้งหลาย ฆ่าเสียเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเขาพูดจบ เผ่าเทพทั้งหมดบนเก้าชั้นฟ้า รวมถึงเผ่ามารต่างก็หน้าเปลี่ยนสี

ทันใดนั้น บนเก้าชั้นฟ้า ก็มีเสียงฆ่าดังทั่วสารทิศ

อ๊าก!

อ๊าก อ๊าก!

มู่ชิงเกอเบนสายตาอย่างรวดเร็ว มองไปทางที่มาของเสียงร้องโหยหวนเหล่านั้น

ภาพที่เห็นเป็นเพียงความวุ่นวาย และในความวุ่นวายเหล่านั้นก็มองเห็นเพียงสีเขียวอมดำที่คุ้นเคย

ตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้น

สายตามู่ชิงเกอเย็นเยียบ ชูมือขวาสูง นิ้วทั้งห้ากำอากาศ หยวนหยวนที่เบียดอยู่ในฝูงชนมองดูความครึกครื้นอยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลายร่างเป็นทวนหลิงหลง ในชั่วพริบตา ถูกมู่ชิงเกอกุมไว้ในมือ

ชุดแต่งงานสีแดงสดทั่วร่างนาง งดงามจนเด่นชัด งดงามจนทำให้คนหยุดหายใจ ตอนนี้ในมือกลับกุมทวนสีเงินแวววับหนึ่งเล่มไว้แน่น เจตนาสังหารน่าสะพรึง กลัว

“ฆ่า!” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงดัง

เสียงที่ใสก้องของนางราวกับระฆังบอกเวลา สงบความวุ่นวายบนเก้าชั้นฟ้า

คนทั้งหมดที่ตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย ถูกตัวประหลาดตัวเล็กที่จู่ๆ ก็โผล่ออกมาทำให้ตกใจขวัญหาย พากันได้สติและเริ่มตอบโต้

อยู่ดีๆ พิธีแต่งงานก็ตกอยู่ท่ามกลางการเข่นฆ่าโรมรัน

และตอนนี้ด้านล่างเก้าชั้นฟ้า บนโต๊ะเลี้ยงเกือบพันลี้ที่ล้อมรอบต่อกันนั้น แขกนับหมื่นนับแสน ต่างก็เผยสีหน้าตกใจ ท่าทางดีใจก่อนหน้านี้ในดวงตาถูกความ ตกใจและความหวาดกลัวเล็กน้อยเข้ามาแทนที่นานแล้ว

เผ่าอี้!

ปรากฎตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

เผ่าอี้เหล่านั้น คนที่เคยเห็น เห็นพวกเขากัดแทะศพเผ่ามารในสนามรบ คนที่ไม่เคยเห็นก็รู้ว่าพวกเขาเจ้าเล่ห์กลับกลอก ลูกไม้แปลกประหลาด รับมือได้ยาก

“ว่ากันว่า ข้างหน้ามีกองทัพใหญ่เผ่าอี้บุกรุก!”

มีคนหูดี ไปสืบถามข่าวคราวได้เล็กน้อย

“หรือว่าเผ่าเทพและเผ่ามารเหล่านั้นที่ลงมาจากเก้าชั้นฟ้าเมื่อครู่ จะออกไปด้วยเหตุนี้” มีคนแสดงความคิดเห็นทันที

“จะมีกองทัพใหญ่ของเผ่าอี้ได้อย่างไร ที่นี่เป็นท้องแผ่นดินเทพ นึกไม่ถึงว่ากองทัพใหญ่เผ่าอี้จะเข้ามาในเขตที่ไม่มีคน แฝงตัวมายังที่นี่แล้วไม่ถูกพบเห็นได้” คำพูดของคนผู้นี้ เผยให้เห็นความไม่เข้าใจของเขาต่อเผ่าอี้

“เช่นนั้นพิธีแต่งงานในวันนี้.

“เกรงว่าตอนนี้บนเก้าชั้นฟ้าก็วุ่นวายอยู่เช่นกัน”

“เช่นนั้นงานแต่งงานครั้งนี้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ”

“ตอนนี้เกรงว่าจะไม่ใช่เวลาไต่ถามเรื่องนี้กระมัง ไม่รู้เหมือนกันว่า บนเก้าชั้นฟ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นบ้าง อีกทั้งจุดประสงค์ในการมาของเผ่าอี้เหล่านี้คืออะไร”

ในตอนที่ทุกคนถกเถียงต่างๆ นานา แสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง บนเก้าชั้นฟ้า มีคนตกลงมาอีกหนึ่งคน นั่นก็คือซวีซิว

เมื่อเขาปรากฎตัว การถกเถียงก็หยุดโดยปริยาย

มีคนที่รู้จักฐานะของเขา พากันทำความเคารพ “ผู้เฝ้ามอง!”

ทิ้งฐานะต่ำช้าในตระกูลมู่เมื่อก่อนไป ผู้เฝ้ามองในสายตาของเทพมารใดๆ ต่างก็เป็นการแปลงร่างที่ชาญฉลาด เป็นผู้มีสติปัญญา ควรค่าแก่การเคารพ

คนที่ไม่รู้จัก ท่ามกลางการเรียกของผู้อื่น ก็รู้ฐานะของเขาแล้วเช่นเดียวกัน

ซวีซิวกระทุ้งไม้เท้า เดินไปข้างหม้า สีหม้าเคร่งขรึม เขากล่าว “ทุกท่าน คาดว่าเหตุการณ์ข้างหน้า ทุกคนก็น่าจะได้ยินกันหมดแล้ว ถูกต้อง ข้างหน้ามีข้าศึกมา โจมตี และข้าศึกที่มาโจมตีก็คือเผ่าอี้ที่พัวพันกับแผ่นดินเทพมารมากว่าแสนปี”

เป็นเผ่าอี้จริงๆ ด้วย

ฟังข่าวก็ฟังข่าว คาดเดาก็คาดเดา แต่หลังจากได้ยินกับหูจนยืนยันได้ก็ยังคงทำให้คนเหล่านี้ต่างตกใจไม่จบไม่สิ้น

“ผู้เฝ้ามอง เผ่าอี้ปรากฎตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” มีคนกล่าวถามอย่างอดไม่ได้

ดวงตาที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์ทั้งคู่ของซวีซิว เคลื่อนผ่านบนร่างคนเหล่านี้ช้าๆ “เผ่าอี้แฝงตัวเข้ามาในแผ่นดินเทพสี่สมุทรได้อย่างไร ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าในเมื่อก่อนหน้านี้พวกเขาแฝงตัวเข้ามาในแดนมารลอบสังหารเจ้าแห่งมารได้ เช่นนั้นตอนนี้แฝงตัวเข้ามาในแผ่นดินเทพได้ก็ไม่น่าแปลกใจแล้ว สำหรับจุดประสงค์…”

เขาหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวต่อ “เผ่าอี้ทะเยอทะยาน เห็นพวกเราทั้งหมดเป็นอาหาร เห็นสถานที่ที่เราเกิด ที่ที่เราเติบโตเป็นปศุสัตว์พวกเขาไม่พอใจกับศึก เล็กๆ น้อยๆ ก่อนหน้านี้แล้ว กลับคิดอยากจะยึดครองแผ่นดินเทพมารของเราทั้งหมด”

“อะไรนะ คนของเผ่าอี้กล้าเช่นนี้เลยหรือ”

“ยกโทษให้ไม่ได้จริงๆ!”

“ถุย! ตัวประหลาดผิวเขียวหนึ่งกลุ่ม คาดไม่ถึงว่ายังกล้าทำตัวเป็นเจ้าถิ่น!”

“พวกเลวทรามตํ่าช้าเหล่านั้น คู่ควรให้เข้ามาในแผ่นดินเทพมารของเราด้วยหรือ”

“ดังนั้น…” ซวีซิวกล่าวเสียงดัง “พวกเราไม่อาจนั่งรอความตาย ไม่อาจยอมจำนน”

“ใช่! พวกเราไม่อาจนั่งรอความตาย หรือยอมจำนน!” ทุกคนพากันคล้อยตาม

อารมณ์ของคนนับหมื่นนับแสน ถูกซวีซิวปลุกระดมแล้ว

เขาเผยรอยยิ้มน้อยๆ กล่าว “ดีมาก ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าต่างก็เห็นกองทัพบนเก้าชั้นฟ้า รวมถึงองครักษ์ของเผ่ามารออกไปอย่างรีบร้อนแล้วใช่หรือไม่”

บนเก้าชั้นฟ้า ศึกวุ่นวายเปิดฉาก โชคดีที่คนที่ขึ้นไปบนเก้าชั้นฟ้าได้ ตบะบำเพ็ญไม่อ่อนแอ รับมือกับตัวประหลาดตัวเล็กผิวเขียวเหล่านั้น กลับไม่นับว่าเปลือง แรง

เพียงแต่ว่า ตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านี้ฆ่ายากอย่างถึงที่สุด และยิ่งฆ่าก็ยิ่งเยอะ

“พระชายา ฆ่าต่อไปเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี ต้องหาตัวประหลาดตัวใหญ่ที่ควบคุมตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านี้ให้เจอ” หลิงจิววิ่งฆ่ามาถึงข้างกายมู่ชิงเกอ กล่าวกับนาง

มู่ชิงเกอเม้มปากขมวดคิ้ว เหตุผลนี้นางจะไม่เข้าใจได้อย่างไร

แต่ว่า…

สายตามู่ชิงเกอกวาดไปยังคนเผ่าอี้ผู้นั้นที่กำลังสู้รบกับซือมั่ว กล่าวเสียงต่ำ “เกรงว่า ผู้ที่ควบคุมตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านี้โดยตรงในเผ่าอี้ก็คือเขา!”

นางพูดยังไม่ทันขาดคำ คู่ๆ ก็เห็นแสงสีแดงหนึ่งสายโยนออกมาจากฝั่งซือมั่ว ลอยมาทางนาง

มู่ชิงเกอยกมือขึ้นรับอย่างไม่แม้แต่จะคิด หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงที่สงบนิ่งของซือมั่ว “เสี่ยวเกอเอ๋อร์ เก็บหนังสือสมรสของเราไว้ให้ดี’’

ที่แท้แล้ว ซือมั่วก็ชิงหนังสือสมรสคืนมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!