ตอนที่ 142
การปรากฏตัวของพี่ชายผู้คลั่งรักน้องสาว!
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” นํ้าเสียงของเจียงหลีอ่อนลง
จิ่งเยี่ยเป็นคนของสำนักหลิงอู๋ คนที่มาฆ่านางก็เป็นคนของสำนักหลิงอู๋ แล้วทำไมเขาถึงยื่นมือมาช่วยตัวเอง
แต่จิ่งเยี่ยไม่ได้ตอบอะไรนาง กลับยื่นมือออกมา แล้วเดินเข้าไปหานาง ราวกับว่าอยากเอามือไปลูบหน้าของนาง
ท่าทีของเขาทำให้เจียงหลีรู้สึกตกใจ จิตใต้สำนึกได้สั่งให้นางหลบมือที่ยื่นเข้ามา
แต่ทว่าท่าทีของเจียงหลีนั้นกลับทำให้แววตาของจิ่งเยี่ยเผยความเจ็บปวดออกมา เขา ได้เรียกชื่อที่ท่าให้เจียงหวาดกลัวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อาหลี ”
สีหน้าของเจียงหลีได้เปลี่ยนไป ในความทรงจำเดิม ตั้งแต่เล็กจนโตมีคนๆ เดียวที่เรียกนางว่าอาหลี นั้นก็คือพี่ชายนาง เจียงเฮ่า
แต่ว่านี้ไม่ใช่ใบหน้าของเจียงเฮ่าแน่ๆ
ใบหน้าของเจียงเฮ่าไม่ได้ดูแข็งแรง สง่าและสดใสขนาดนี้ แล้วเขาก็ไม่เคยเย็นชากับใคร ในความทรงจำเดิม พี่เจียงเฮ่าเป็นคนที่อบอุ่นมากคนหนึ่ง
พูดได้ว่า ถ้าหากเจียงหลีอยากได้พระจันทร์ เจียงเฮ่าก็จะเอาลงมาให้
ตอนนั้นที่เจียงหลีอายุห้าขวบ ช่วงเวลาอันแสนอบอุ่น เจียงหลีจะเล่นว่าว เจียงเฮ่ากลัวเจียงหลีเอาว่าวขึ้นเหนื่อย เขาจึงได้เอาเจียงหลีขี่คอแล้ววิ่งไป คนที่อยู่ตรงหน้านี้ ใช่ เจียงเฮ่าจริงๆ หรือ
หน้าหนาวปีนั้น เขากลัวว่าเท้านางจะหนาว เพียงแคเขาอยู่ เขาจะเป็นพี่ชายที่จะเอาเท้าของนางมาซุกที่อกให้อุ่น นี้เป็นจิ่งเยี่ยจริง ๆ หรือ
“เจ้าเป็นใครกันแน่” หรือว่าได้รับผลกระทบจากความทรงจำและความรู้สึกเดิม ในขณะที่ เจียงหลีได้ถามอีกครั้ง น้ำเสียงของนางมีความสั่นเครือ
จิ่งเยี่ยไม่ได้เข้าไปใกล้นางอีก ราวกับว่าเกรงว่านางจะกลัว
แววตาคู่นั้นของเขาที่โดนความเจ็บปวดปกคลุมอยู่ เจ็บปวดใจไปหมด ความเจ็บปวดนี้มาจากนาง “อาหลี อาหลีคนดีของพี่ พี่คือพี่เจียงเฮ่า”
ตู้ม!
ในหัวของเจียงหลีว่างเปล่า
นางอึ้งอยู่กับที่ จ้องใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยนั้น ก็เห็นเจียงเฮ่ายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้า ของตัวเอง
รอตอนที่เขาเอามือออก ใบหน้าของจิ่งเยี่ยก็หายไป กลายเป็นใบหน้าที่แสนอบอุ่นในความทรงจำวัยเด็กของเจียงหลีคนนั้นเข้ามาแทน
“ท่านพี่…” เจียงหลีมองเขาด้วยความตะลึง เรียกชื่อที่ไม่ได้เรียกมาแสนนานเบาๆ
แต่กลับไม่คิดว่าในตอนที่เจียงเฮ่าได้ยินคำว่า ‘ท่านพี่’ น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เขาเดินไปตรงหน้าของเจียงหลี มือทั้งสองข้างจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของนางไว้แน่น ขอร้องทั้งที่ร้องไห้และยิ้ม “อาหลี เรียกข้าอีกที เรียกข้าว่าท่านพี่อีกที”
เสียงของเจียงเฮ่า ดังอยู่ข้างหู ความทรงจำเดิมส่งผลกระทบต่อเจียงหลีในตอนนี้ นางมองชายผู้ที่ทั้งมีความสุขและความเศร้าโศก ในใจเผยให้เห็นทั้งความน้อยใจ ความเสียใจ ความดีใจ อารมณที่สับสน ปนกันไปหมด
นางรู้สึกได้ว่าตัวเองน้ำตาคลอ นํ้าเสียงสะอึกสะอื้น
“ท่านพี่…ท่านพี่ ” นางทำตามที่เขาขออย่างไม่รู้ตัว เรียกชื่อที่เป็นสายเลือด
เดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า
“อาหลีผู้แสนดี! น้องสาวที่แสนดีของพี่!” เจียงเฮ่าโอบกอดเจียงหลีอย่างแน่น เหมือนกับได้ของที่มีค่าที่เสียไปกลับมา ทั้งระมัดระวัง ทั้งกลัวจะเสียนางไปอีก
…………………………………..
จิ่งเยี่ย ก็คือเจียงเฮ่า?
เขาไม่ได้เข้าสถาบันไป๋หยวนตามที่ฝัน แต่กลับเข้าสำนักหลิงอู๋ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชวงศ์หรือ
และการตายของเจียงหลินเฝีง แม้กระทั้งตระกูลเจียงประสบเคราะห์ร้าย ราชวงศ์ล้วนแต่ มีส่วนเกี่ยวข้อง
“ท่านพี่ ท่านจะทำอะไร” หลังจากที่อารมณ์สงบลง เจียงหลีก็ได้สติคืนมา เพียงแต่เรียกว่าท่านพี่กลับเรียกง่ายกว่า
การได้อยู่ข้างๆ เจียงเฮ่า นางรู้สึกว่าโลกนี้มีที่พักพิง
ความรู้สึกที่นางได้จากเจียงเฮ่า ไม่เหมือนกับลู่เจี้ย สายเลือดเดียวกันแบบนั้น ทำให้นาง รู้สึกว่าตัวเองและโลกใบนี้มีความเกี่ยวพันกันเป็นครั้งแรก
ก็เหมือนในตอนแรกที่ตระกูลเย่ว์ขู่ว่าจะขุดศพของกู๋หล่านเย่ว์แม่ของนางขึ้นมา นางโกรธเป็นอย่างมาก
“แก้แค้น!” เจียงเฮ่าหน้าเคร่งขรึม เก็บซ่อนความอบอุ่นที่ตนเองมีไว้ภายใต้ความเคร่งขรึม
สองพี่น้องนั่งไหล่ติดกันอยู่ท่ามกลางป่าลึกลับที่ไม่มีใครรบกวน ต่างเล่าเรื่องที่ตนเองเจอมาให้กันฟัง
หลังจากที่เจียงหลีเล่าเรื่องเคราะห์ร้ายที่เจอ เรื่องการตายของแม่ แล้วยังมีเรื่องตระกูลเย่ว์ เรื่องเจียงอวี๋สองแม่ลูกให้เจียงเฮ่าฟัง เดิมคิดว่าเจียงเฮ่าจะต่อว่าตนเองที่ฆ่าอาสะใภ้และน้องของพ่อ แตกลับแค่ลูบหัวนางอย่างทะนุถนอม “อาหลีทำได้ดี! ทุกคนที่รังแกเจ้า ไม่ว่าใครก็สมควรตาย!”
!
เจียงหลียิ้มมุมปาก นางเกือบลืมไปแล้วว่าความรักน้องสาวของเจียงเฮ่านั้นก็ไม่มีขอบเขตมานานแล้ว
“ท่านพี่ เจ้าจะล้างแคน ต้องรับมือกับราชวงศ์?” เจียงหลีคาดเดา
เจียงเฮ่าพยักหน้าช้าๆ “เข้าสำนักหลิงอู๋ได้ ขอเพียงแค่แสดงความโดดเด่น ก็มีโอกาสได้ เป็นราชองครักษ์ ได้เข้าใกล้ฮ่องเต้แก่ผู้ไร้คุณธรรมคนนั้น ถึงตอนนั้นข้าก็มีโอกาสสังหาร เขาแล้ว!”
“…” เจียงหลีเงียบกริบ
นางคิดไม่ถึงว่าเจียงเฮ่าจะซ่อนตัวอยู่ที่ซั่งตูมาตลอด แล้วยังมีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
“เหอะ ตาแก่ไร้คุณธรรมคนนั้นสมควรตาย เพียงแต่ท่านพี่ไม่ประหลาดใจกับการตายของ ท่านแม่เลยสักนิดหรือ แล้วยังเรื่องที่ข้าได้ฝึกพลัง?” เจียงหลีถามหน้าตาเฉย
ผิดปกติ! เจียงเฮ่าเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัว
ว่ากันตามเหตุผล การตายของท่านแม่ที่มีอะไรแปลกๆ น้องสาวที่ไม่สามารถฝึกฝนวิทยา ยุทธ์ได้กลับเป็นผู้มีพรสวรรค์ เรื่องเหล่านี้ควรทำให้เขาสงสัย
แม้แต่คนนอกอย่างลู่เจี้ยก็มองออกว่านางไม่เหมือนคนเดิม เจียงเฮ่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ไม่มีเหตุที่จะไม่สงสัยเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่ได้เลียนแบบเจียงหลีในอดีต
ความสงสัยนี้ นานเข้าเจียงหลีถึงรู้ นางที่ไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าเจียงเฮ่าไม่รู้ เพียงแต่ว่า ความรักน้องสาวนั้นเกินว่าอะไรทั้งหมด ทำให้เขาไม่สงสัยอะไรในตัวน้องสาวคนนี้เลย สักนิด ต่อให้น้องสาวที่เก่งกาจขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นเคยก็ตาม
“อาหลี มีบางเรื่องที่เดิมทีไม่อยากให้เจ้ารู้ กลัวว่าหลังจากเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ก็จะใช้ชีวิตอย่างไม่สงบสุข แต่เจ้าในตอนนี้สามารถฝึกฝนพลังได้แล้ว เรื่องเหล่านี้ก็ปิดบังเจ้าไม่ได้แล้ว” เจียงเฮ่ามองสาวน้อยข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
‘ตระกูลเจียงมีความลับจริงๆ ด้วย!’ เจียงหลีตะลึง
“อาหลี ที่จริงแล้วท่านแม่ของพวกเราไม่ใช่คนหนานฮวง นางมาจากที่อื่น แล้วก็เกิดใน ตระกูลใหญ่ ในตระกูลใหญ่นั้น เกือบทุกคนล้วนแต่มีร่างกายที่พิเศษ ท่านแม่ของพวกเราก็เช่นกัน ข้าไม่รู้ว่าทำไมตอนเด็กๆ เนตรญาณของเจ้าถึงเบิกไม่ได้ แต่ว่าข้ากลับรู้ว่าข้าและเจ้ามาจากสายเลือดตระกูลของท่านแม่ มีร่างกายที่พิเศษ”
คำพูดของเจียงเฮ่าที่ค่อยๆ พูดออกมา ทำให้เจียงหลีตกใจอ้าปากค้าง
ตอนที่นางค้นพบว่าสุสานของกู๋หล่านเย่ว์ไม่มีอะไร ก็เดาได้ถึงความลึกลับของกู๋หล่านเย่ว์
“เล่ากันว่าท่านแม่ของพวกเราเป็นผู้มีพรสวรรค์ของตระกูลนั้น ตอนที่นางเกิดมาก็มีความ พิเศษอย่างยิ่งและร่างกายที่แข็งแรงมาก นางมาถึงหนานฮวงได้อย่างไร แล้วทำไมถึงไม่มีอะไรที่ต่างไปเลยสักนิด ข้าไม่ค่อยเข้าใจ ข้ารู้เพียงว่าร่างกายของข้ามีชื่อว่าเทียนมิ่งหลิงหวง ฟ้าลิขิตแล้วให้เป็นราชาแห่งวิญญาณ ภายใต้ขั้นพลังหลิงหวง การฝึกฝนธรรมดาของข้าไม่มีทางถึงขั้นสูงสุด พูดง่ายๆ ก็คือการฝึกฝนสำเร็จขั้นต่ำที่สุดของข้า คือหลิงหวง”
เจียงหลีตกตะลึง ใจเต้นเร็วอย่างห้ามไม่ได้
ลู่เจี้ยเคยพูดกับนาง ทั้งแคว้นโฮ่วจิ้นไม่มีหลิงหวงแม้แต่คนเดียว!
“แต่ร่างกายของเจ้า ” เจียงเฮ่ามองมาที่นาง